คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Still (krisho)
[SF] : Still
Author : DR.WUY1
Rate : PG – 15
Paring : Kris x Suho
Music : Christmas Day – EXO
hangul : music daum
eng trans : pop!gasa
thai trans : sfangxz
설렘에 부풀어 눈을 뜨는 아침
ซอลเรมเม บูพุลรอ นุนนึล ตือนึน อาชิม
ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความตื่นเต้น
선물의 리본끈을 풀어보는 느낌
ซอนมุลเร รีบนกึนนึล พุลรอโบนึน อาจิก
เช่นเดียวกันกับเวลาที่กำลังแกะกล่องของขวัญ
너를 알아가는 날이면 날마다
นอรึล อัลรากานึน นัลรีมยอน นัลมาดา
ทุกวันเช่นเดียวกับการรู้เรื่องราวของเธอ
กริ๊งงงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นอย่างต่อเนื่องสร้างความรำคาญให้กับร่างเล็กที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงยิ่งนัก มือเรียวพยายามควานหาต้นเสียงโดยที่ยังไม่ลืมตา ทันใดนั้นมือก็ปัดไปโดนกรอบรูปภาพอันหนึ่ง
เพล้ง!
“หือ” ทันทีที่ได้ยินเสียงของบางสิ่งตกแตก ร่างเล็กก็รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วก้มมองที่ข้างเตียง ทันใดนั้นก็พบกับกรอบรูปที่แตกหักออกเป็นเสี่ยงๆบนพื้น เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วน้ำตาก็หลั่งรินออกมาในทันที
น้ำตาของเขาหยดลงบนรูปภาพที่แตกหักออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็ยังสามารถมองเห็นรูปนี้ได้อย่างชัดเจน ร่างเล็กใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆลงบนภาพของเขากับคนรัก เขาจำได้ว่าภาพนี้คือตอนที่พวกเขาไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกโดยที่เขาเป็นคนถ่ายด้วยตนเอง
“ฮยอง! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมได้ยินเสียงของตกแตก” เซฮุนรีบวิ่งเข้ามาถามไถ่และสมาชิกในวงต่างก็เข้ามารุมพี่ใหญ่ของพวกเขาทันที หลังจากเด็กดำบอกทุกคนว่าเขาได้ยินเสียงบางอย่างตกแตก
“ฮยองร้องไห้ทำไม?” ดีโอถามพี่ชายของเขาหลังจากเห็นใบหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“เห้ยทุกคนระวังเศษแก้วนะ” ไครีบพูดเตือนทุกคนหลังจากที่เขาเกือบเหยียบเศษแก้วจากกรอบรูปที่ตกอยู่ข้างเตียงของซูโฮ
“ฮยองงงงงงง” เสียงตะโกนที่ดังมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะมาถึงวิ่งเข้ามาแต่ด้วยความที่รีบและไม่ทันมองทางที่พื้นทำให้เท้าเล็กนั้นเหยียบเข้ากับเศษกระจก
“โอ้ย” แบคฮยอนส่งเสียงร้องแล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นในทันที ชานยอลที่เห็นดังนั้นก็รีบรุดเข้าไปหาหมาน้อยของเขา
ชานยอลขมวดคิ้วเป็นปมด้วยความไม่พอใจและเอ็ดออกมาทันที “จะมีครั้งไหนไหมที่นายไม่ซุ่มซ่าม?” เขาจับเท้าของแบคฮยอนพลิกด้านฝ่าเท้าขึ้นเพื่อดูอาการ เลือดไหลซิบออกมาหลายหยด ซ้ำยังมีเศษแก้วติดอยู่ที่บาดแผลเล็กน้อย
“มานี่เลยตัวยุ่ง” ชานยอลช้อนตัวแบคฮยอนขึ้นแล้วพาเดินออกนอกห้องไปจัดการปฐมพยาบาลทันที
“ฮืออ ผมขอโทษนะครับพี่ซูโฮ แต่อย่าคิดมากนะครับ T_T” แบคฮยอนตะโกนไล่หลัง หลังจากที่ถูกชานยอลอุ้มขึ้นออกนอกห้อง
“ตกลงพี่เป็นอะไรครับเนี่ย? แล้วเศษแก้วกระจกนี้มันคืออะไร” ดีโอเริ่มซักถามคำตอบจากซูโฮ
ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากของซูโฮนอกจากเสียงสะอื้นที่มีผลมาจากการร้องไห้
“พวกเราเป็นห่วงพี่นะครับ บอกพวกเราได้ไหมครับว่าเป็นอะไร?” น้องเล็กพูดขึ้นอย่างจริงจัง ซึ่งนานๆครั้งจะเกิดขึ้นที เพราะทุกครั้งที่สมาชิกในวงร้องไห้เขาจะไม่ค่อยพูดอะไรแต่จะคอยให้กำลังใจอยู่ด้านหลังเสียมากกว่า
“ไม่... ฉันไม่เป็นอะไร” เสียงแหบพร่าเปร่งออกมาจากลำคอของพี่ใหญ่ที่ยังคงร้องไห้อยู่ไม่ขาดสาย
“พี่โกหกตัวเองได้แต่โกหกพวกเราไม่ได้นะครับ” ไคพูดออกมาด้วยท่าทีเป็นห่วงแล้วใช้ฝ่ามือของตนเองรูปหลังซูโฮอย่างเบามือ
“งั้นพวกเราจะไม่บังคับให้พี่ตอบหรอกนะครับ แต่ผมอยากให้พี่รู้ไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็ยังมีพวกเรา” ดีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ขอบใจพวกนายมากนะ แต่ตอนนี้ฉันของอยู่คนเดียวได้ไหม” ซูโฮหยุดร้องไห้ในทันทีที่ได้ยินที่ดีโอพูด เขายิ้มทั้งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจที่อย่างน้อยก็มีน้องๆที่ยังคงเป็นห่วงเขาอยู่อย่างนี้
“โอเคครับงั้นพวกเราไม่กวนพี่แล้วนะครับ” เซฮุนลุกขึ้นแล้วตบเข้าที่บ่าของซูโฮสองสามทีก่อนะเรียกให้พี่ๆทั้งสองของพวกเขาเดินตามออกไป
ทันทีที่ทั้งห้องว่างเปล่าเหลือแต่เขาเพียงคนเดียว ความเงียบเหงาก็เข้าครอบงำ ทำให้อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ซ้ำยังหนักขึ้นกว่าเดิม
“ทำไมกันคริส.... ทำไมนายถึงทิ้งฉันไปโดย” ซูโฮร้องไห้ฟูมฟายและพร่ำพูดอยู่คนเดียวจนผลอยหลับไปอีกครั้ง
.
.
.
.
6 เดือนก่อนหน้า
거리를 장식한 반짝이는 불빛
คอรีรึล จัลชิกฮัน บันจักกีนึน บุลบิท
แสงไฟส่องสว่างที่ถูกตกแต่งตามถนน
그 중에 단연 네 눈에 뜨는 별빛
คือ จุลเล ทันยอน เน นุนเน ตือนึน บยอลบิท
เธอเหมือนกับดวงดาวที่แสนโดดเด่นท่ามกลางแสงเหล่านั้น
“เป็นไงคริสได้กลับมาบ้านเกิด” ร่างเล็กถามคนข้างกายที่ขณะนี้กำลังเดินจับมือไปเรื่อยๆตามถนนในยามดึก
“ก็ดีนะ ได้มาเจอแม่ด้วย อยู่เกาหลีนาน พอได้กลับมาก็รู้สึกคิดถึง” ร่างสูงตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง สายตาของเขามองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“ตอนที่นายอยู่เกาหลีนายคงเหงามากใช่ไหม” ซูโฮหยุดเดินแล้วเงยหน้าขึ้นตามคริส ทันทีที่ร่างสูงได้ยินคำถามที่ออกมาจากปากของร่างเล็กเขาก็อมยิ้มเล็กน้อยแล้วหันกลับมาตอบคำถาม
“ใช่ ช่วงแรกๆก็เหงาอยู่หรอก เพราะห่วงจากบ้านมาไกลพอควร” คริสยกมือขึ้นลูบหัวซูโฮเบาๆอย่างอ่อนโยนแล้วพูดต่อ “แต่พอฉันมีนายแล้ว ฉันก็ไม่เหงาอีกต่อไปแล้วนะ”
ทันทีที่ร่างเล็กได้ยินคำพูดหวานหูที่ออกมาจากปากของร่างสูง เขาก็ยิ้มแก้มปริด้วยความเขินอาย
“ฉันก็เหมือนกันแหล่ะ เพราะงั้นนายอย่าทิ้งฉันไปไหนนะ” ซูโฮเข้ากอดคริสอย่างแรง สองร่างโอบกอดกันด้วยความรัก ท่ามกลางแสงไฟที่ประดับประดาอย่างสวยงามตามท้องถนน
내 품 안에 녹을 듯이 너는 안겨와
แน พุม อันเน นกกึล ดึชชี นอนึน อันคยอวา
ขณะที่เธอเข้ามากอดฉันและหลอมละลายอยู่ในอ้อมแขนนั้น
คริสลูบหลังของซูโฮอย่างเบามือ เขากอดร่างเล็กอย่างแนบแน่นราวกับว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้ทำเช่นนี้
“หือ?” ซูโฮรู้สึกถึงความเปียกชื้นจากน้ำที่หยดลงมาบนหัว เขายื่นมือออกมาเพื่อทดสอบว่าครู่เมื่อกี้เขารู้สึกไปเองหรือเป็นเม็ดน้ำค้างที่หยดลงมา สักพักเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นที่ออกมาจากร่างสูง…
“คริส นายร้องไห้ทำไม?” ซูโฮผละออกมาจากอ้อมกอดของคริส ทันใดนั้นก็เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
“ขอโทษนะ มันกลั้นไว้ไม่อยู่น่ะ” คริสใช้มือปาดอย่างลวกๆ แล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย แต่ซูโฮที่เห็นดังนั้นกลับขำด้วยไม่ออก
“นายบอกฉันสิว่านายเป็นอะไร อยู่ๆร้องไห้ทำไม เป็นมังกรต้องเข้มแข็งนะ ห้ามร้องไห้!!” ซูโฮดุ
“สัญญากับฉันได้ไหมว่าถ้าฉันไม่อยู่แล้วนายต้องดูแลตัวเองได้ อย่าให้น้องๆมารังแกนายได้อีกนะ ไม่มีฉันนายต้องอย่าร้องไห้เวลาห่างกันนะรู้ไหม เข้มแข็งได้แล้วรู้ไหมจุนมยอน” คริสรวบตัวซูโฮเข้ามากอดอีกครั้งด้วยความห่วงใย
길고도 차가운 계절 속에 오직
กิลโกโด ชากาอุน กเยจอล ซกเก โอจิก
ในฤดูหนาวที่แสนยาวนานนั้น
너만이 코트 속에 남아있는 온기
นอมันนี โคทือ ซกเก นัมมาอิทนึน อนกี
มีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็นความอบอุ่นที่ยังคงอยู่ในเสื้อโค้ทของฉัน
“ไม่เอา คริสไม่พูดแบบนี้ ฉันรู้สึกใจไม่ดีเลยนะ” ร่างเล็กสายหน้ารัวๆให้กับร่างสูงที่พูดอะไรไม่ดีออกมา
“ขอโทษนะ ฉันก็พูดเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นแหล่ะ อย่าคิดมากเลยนะ” คริสยิ้มออกมาเพื่อให้ร่างเล็กรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
“นายต้องสัญญากับฉันนะว่านายจะไม่ไปไหน นายจะอยู่กับฉันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ” ร่างเล็กกอดร่างสูงอย่างแนบแน่นมากขึ้น
คริสชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ซูโฮพูดแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป
“สัญญากับฉันสิคริส” ร่างเล็กเร่งเร้าจะเอาคำตอบจากปากของร่างสูงให้จงได้
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องพูดออกไป “โอเคๆ ฉันสัญญาว่าจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างๆนายแบบนี้ต่อไป”
“เย้! ฉันรักนายที่สุดเลย!!!” ทันทีที่พูดจบ เขาก็หอมแก้มคริสไปฟอดใหญ่
“หึหึ อย่าหวังว่าคืนนี้จะรอด” คริสแสยะยิ้มออกมาเบาๆ
“ไอ้บ้า คิดแต่เรื่องแบบนี้ใช่ไหม!!!” ซูโฮบรรจงฟาดฝ่ามือไปที่ลาดไหล่ของคริสเมื่อได้ยินคำพูดหื่นกามออกมา
“555ล้อเล่นหรอกน่า รีบกลับโรงแรมกันเถอะนี่มันดึกมากแล้วเดี๋ยวทุกคนจะเป็นห่วง” พูดจบคริสก็จับมือซูโฮแล้วพาเดินกลับโรงแรม
따뜻한 기억들 만으로 채워지고 (너무나도 따뜻한)
ตาตึทฮัน กีออกดึล มันนือโร แชวอจีโก (นอมูนาโด ตาตึทฮัน)
ฉันถูกเติมเต็มด้วยความอบอุ่นเหล่านั้น (มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน)
.
.
.
ปัจจุบัน
ร่างเล็กตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า ที่เป็นผลมาจากการร้องไห้อย่างหนักมาตลอดทั้งวัน เขาขยี้ตาสองสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วมองไปที่นาฬิกาข้างหัวเตียง
“หลับไปนานเหมือนกันนะเนี่ย” ร่างเล็กพึมพำกับตนเองก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
혹시 내 잠결에
ฮกชี แน ชัมคยอลเร
ถ้าหากว่าเธอมาหาฉัน
다가와있진 않을까
ทากาวาอิทจิน อันนึลกา
ในขณะที่ฉันยังคงหลับอยู่ล่ะ
“เดี๋ยวพี่ออกไปข้างนอกนะ กลับดึกๆเลย ดีโอดูแลน้องๆด้วยนะ อย่าให้พวกนี้มันเผาหอล่ะ” ซูโฮพูดติดตลกกับสมาชิกในวงขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ฮยองจะไปไหนอ่ะ?” แบคฮยอนพูดขึ้นขณะที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาโดยที่มีผ้าพันแผลอยู่ที่ฝ่าเท้า
“แถวนี้แหล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องในทันที
“อ่า.. หิมะตกซะแล้ว” ร่างเล็กเดินออกมาจากหอได้สักพัก หิมะก็ตกโปรยปรายลงมาอย่างสวยงาม แต่ด้วยความหนาวเย็นทำให้เขาต้องกอดแขนตัวเอง
메마른 하늘에서 내린 하얀 기적
เมมารึน ฮานึลเอซอ แนริน ฮายัน กีออก
ความมหัศจรรย์สีขาวที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า
이뤄지긴 너무 힘들 것만 같던
อีรวอจีกิน นอมู ฮิมดึล กอทมัน กัทตอน
มันเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง
“ย่าห์! ทำไมมันหนาวอย่างงี้นะ!!”
“มานี่เร็ว เดี๋ยวฉันกอดนายเองจะได้หายหนาว”
.
.
.
เมื่อนึกย้อนความคิดเก่าๆก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ร่างเล็กปาดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนจะเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ที่ต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ต้นหนึ่ง ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า ตกแต่งด้วยหลอดไฟสีต่างๆอย่างสวยงาม
Just like the Christmas day 손꼽아 기다리던
Just like the Chrismas day ซนกบบา คีดารีดอน
เธอเป็นเหมือนวันคริสต์มาสที่ฉันรอคอยมาตลอด
Just like the Christmas day oh! 널 생각하면
Just like the Christmas day oh! นอล แซงกักฮามยอน
เธอเป็นเหมือนกับวันคริสต์มาส เมื่อฉันนึกถึงเธอ
“อย่างให้นายอยู่ตรงนี้กับฉันจังเลยคริส มันสวยมากเลยนะ ถ้าได้มาดูด้วยกันก็คงจะดี.....” ร่างเล็กบ่นพึมพำกับตนเองก่อนสายตาจะเหลือบไปมองเห็นป้ายกระดานแผ่นหนึ่ง
เขียนสิ่งที่อธิษฐานแล้วแปะลงบนนี้สิ! แล้วมันจะเป็นจริง :-)
ทันทีที่เห็นดังนั้น ซูโฮก็รีบหยิบกระดาษและปากกาที่วางตั้งอยู่ บรรจงเขียนข้อความตามที่อธิษฐานลงไปแล้วแปะไปที่กระดานนั้น
꿈 속에도 간절했었던 그 기도~ 음~ Yeah
กุม ซกเกโด กันจอลแฮซซอทตอน คือ กีโด~ อืม~ Yeah
คำอธิษฐานของฉันดูเหมือนจะหมดหวัง แม้จะเป็นเพียงแค่ในฝันก็ตาม
“ขอให้มันเป็นความจริงทีเถอะ...” ร่างเล็กพูดขึ้นเบาๆก่อนจะออกไปจากที่แห่งนั้นแล้วเดินไปเรื่อยๆตามถนนที่ทอดยาว
แม้ว่าเข้าจะรู้ดีว่าสิ่งที่เขียนไปนั้นอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นจริง แต่อย่างน้อยเขาก็ได้เขียนความรู้สึกของเขาลงไปเพื่อให้ต้นคริสต์มาสได้รับรู้ความในใจของเขา เผื่อว่าความคิดถึงจะถูกส่งผ่านทางความหนาวเย็นไปยังคนๆนั้นได้รับรู้
.
.
.
23.45
บุคคลหนึ่งเดินก้าวยาวเดินก้าวยาวตามท้องถนนมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดยังป้ายกระดานที่แปะคำอธิษฐานต่างๆนานา เขาหยุดอ่านแผ่นกระดาษของใครหลายๆคน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปมองเห็นลายมือคุ้นตา ซึ่งเขาจำเจ้าของลายมือนี้ได้ดีว่าใครที่เป็นคนเขียนขึ้น...
กลับมาหาฉันได้ไหม?
คจม.
เขาดึงแผ่นกระดาษนั้นออกมาด้วยความรู้สึกปวดร้าวข้างในจิตใจ ก่อนที่จะเก็บเข้าใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทของตนเอง แล้วเดินออกไปยังสถานที่แห่งนั้น
เขาไม่สามารถกลั้นความรู้สึกๆแย่เหล่านี้ไว้ได้ หยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาเป็นสายด้วยความคิดถึงบุคคลที่เขียนแผ่นกระดาษนี้ขึ้นมา สิ่งที่เขาต้องยอมรับคือการที่เขาไม่สามารถโอบกอดอีกคนได้อีกต่อไป เขาไม่สามารถติดต่อกับคนๆนี้ได้อีกแล้ว สิ่งที่เข้าย่อมรู้ดี และต้องยอมรับมัน...
.
.
.
“เมอร์รี่คริสต์มาสนะครับ จุนมยอน”
END.
:) Shalunla
ความคิดเห็น