บ่วงวิวาห์ซาตาน (ebook )
เธอเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าที่บิดาของเขารับอุปการะเอาไว้ เขาจึงตั้งแง่รังเกียจและไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเลยสักครั้ง จนกระทั่งบิดาเสียชีวิตและสั่งเสียให้เขาต้องแต่งงานกับเธอถ้าเขาปฏิเสธก็จะไม่ได้รับมรดกของท่านแม้แต่บาทเดียว
ผู้เข้าชมรวม
13,462
ผู้เข้าชมเดือนนี้
55
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมในงานศพดังออกมาจนถึงด้านหน้าศาลาสวดศพซึ่งเป็นศาลาไม้เล็ก ๆ ตรงหน้าโลงศพมีเด็กหญิงอายุราวสิบขวบนั่งร่ำไห้ปานจะขาดใจตามผู้เป็นมารดาไปด้วย ภาพที่เห็นทำเอาแขกที่มาร่วมงานจิตใจห่อเหี่ยวหม่นหมองไปตาม ๆ กัน
“ สงสารไอ้หน่อยมันนะ เมื่อปีกลายพ่อก็ถูกรถชนตาย มาปีนี้แม่ก็มาป่วยตายไปอีก ” หญิงสูงวัยรำพึงขึ้น
“ นั้นนะซิป้าแล้วนี้ไอ้หน่อยมันจะทำยังไง ญาติพี่น้องก็ไม่มียังเด็กอยู่แท้ ” หญิงที่ดูอายุน้อยกว่าพูดเสริม
“ ไม่แคล้วคงต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เวรกรรมของมันจริง ๆ ”
การสวดพระอภิธรรมจบลงในช่วงสองทุ่ม แขกที่มาในงานก็เริ่มทยอยพากันกลับบ้าน เหลือเพียงแต่เด็กสาวที่ยังคงร้องไห้อยู่หน้าหีบศพของมารดาด้วยไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินเข้ามาในศาลาแต่เด็กหญิงไม่รู้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวใด ๆ รอบตัว เธอเหม่อมองแต่รูปภาพมารดาที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ โลงศพเท่านั้น
ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองสีดำเดินเข้ามาในศาลาแล้วทรุดกายลงนั่งข้าง ๆ เด็กหญิง
“ ฉันเสียใจด้วยนะ ” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยขึ้น
ใบหน้าหม่นเศร้าที่ดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาค่อย ๆ หันไปมองชายแปลกหน้าอย่างเลื่อนลอย
“ ฉันเป็นเพื่อนของพ่อกับแม่หนู ” กฤตวิทย์มองหน้าเด็กหญิงด้วยแววตาอบอุ่นเอ็นดู มือใหญ่ลูบที่ศีรษะของเด็กหญิงอย่างปลอบโยน
“ งานศพของแม่หนูฉันจะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่างจนกว่างานจะเสร็จนะ ” กฤตวิทย์หันหน้าไปมองรูปถ่ายของชลดาวเพื่อนรักของเขาน้ำตาก็ไหลซึมออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เขาจึงยกมือขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาออกแล้วหันกลับมายิ้มอ่อนโยนให้เด็กหญิง
“ ขะ.... ขอบคุณค่ะ ” เสียงใสปนสะอื้นดังขึ้นเบา ๆ
“ แล้วคืนนี้หนูนอนที่ไหน ” กฤตวิทย์ถามต่อ
“ หนูจะนอนกับแม่ที่นี่ ” ดรุณีตอบแล้วเงยหน้าขึ้นมองรูปของมารดา
“ ไม่ได้ เอาอย่างนี้หนูไปกับฉัน ” กฤตวิทย์ลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงแล้วดึงแขนเด็กหญิงขึ้นเบา ๆ
“ คุณลุงจะพาหน่อยไปไหนคะ? ” ดรุณีถามมองหน้าคุณลุงแปลกหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
“ ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ฉันไม่มีทางทำร้ายลูกสาวของเพื่อนรักเด็ดขาด ” กฤตวิทย์ยิ้มอบอุ่นแล้วจูงมือดรุณีเดินออกไปจากศาลาสวดพระอภิธรรมศพ
งานศพของชลดาวเสร็จสิ้นลงโดยมีกฤตวิทย์เป็นคนจัดการทุกอย่างให้อย่างที่เขารับปากกับเด็กหญิงเอาไว้ อัฐิของชลดาวถูกนำไปบรรจุในช่องเก็บอัฐิช่องเดียวกันกับบิดาของเธอ
ดรุณีคุกเข่าลงวางพวงมาลัยลงที่บนกระถางธูปหน้าช่องเก็บอัฐิ ร่างเล็กสั่นไหวด้วยเธอกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจอยู่ตรงนี้ กฤตวิทย์จึงดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้เพื่อปลอบโยน
“ พ่อกับแม่เขาไปสบายแล้ว ทั้งสองคนคงจะได้เจอกันแล้วบนสวรรค์นั่น หน่อยก็อย่าเสียใจอีกเลยนะต่อจากนี้ไปลุงจะเป็นคนดูแลหน่อยเอง ” มือใหญ่กระชับมือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงเอาไว้แน่นเพื่อให้เธอมั่นใจว่าเขาจะไม่มีวันทิ้งให้เธอต้องโดดเดียว
บ้านบำรุงกิจเจริญ
ดวงนภานายหญิงของบ้านบำรุงกิจเจริญเดินกลับไปกลับมาอยู่ภายในห้องนอนของเธอด้วยความกังวลใจ เหตุเพราะสามีของเธอกำลังจะพาลูกสาวของคนรักเก่ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้และแน่นอนว่าเธอตั้งแง่รังเกียจเด็กหญิงผู้ไร้เดียงสาคนนั้นตั้งแต่ยังไม่ได้พบหน้า
“ คุณผู้หญิงขา คุณผู้หญิงเดินวนไปวนมาจนพริ้งเวียนหัวไปหมดแล้วนะคะ คุณผู้หญิงนั่งลงเถอะค่ะต่อให้คุณผู้หญิงเดินจนหมดแรงเป็นลมเป็นแล้งไป คุณผู้ชายก็พาเด็กคนนั้นกลับมาอยู่ดีแหละคะ ” พริ้งสาวใช้คนสนิทของดวงนภาพูดขึ้น
“ คุณวิทย์ คุณทำร้ายจิตใจฉันมากไปแล้วนะ นางชลดาวมันทิ้งคุณไปคุณก็ยังเอาแต่คิดถึงมัน พอมันตายคุณยังจะเอาลูกของมันมาอุปการะอีก ” ดวงหน้างดงามของดวงนภาในเวลานี้มีแต่ริ้วรอยของความคับแค้นใจ ดวงตาคู่สวยของเธอมีหยาดน้ำตาคลอ
“ คุณผู้หญิงหมายถึงคนรักเก่าของคุณผู้ชายหรือคะ”พริ้งถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ ไม่ใช่เรื่องของแก! ” ดวงนภาตะคอกใส่สาวใช้ของเธอดังลั่นด้วยความโกรธ จนพริ้งต้องก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาผู้เป็นนายที่ในเวลานี้ดวงหน้าถมึงทึงดวงตาลุกโชนจนดูน่าหวาดกลัว
ก๊อก! ก๊อก!
“ คุณแม่ครับผมขอเข้าไปได้ไหมครับ ” ปฏิภาณบุตรชายเพียงคนเดียวของดวงนภาและกฤตวิทย์กำลังยืนรอให้มารดาอนุญาตให้เขาเข้าไปในห้อง
“ เข้ามาสิลูกแม่ไม่ได้ล็อกประตู ” ดวงนภาสูดลมหายใจเข้าออก แล้วยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา
“ คุณแม่ครับ คุณพ่อจะกลับมาวันไหนครับ ” ลูกชายของเธอเอ่ยถาม
“ วันนี้ลูก คุณพ่อจะกลับมาวันนี้ ” ดวงนภายิ้มให้ลูกชายแต่แววตาของเธอไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย
“ คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าคุณแม่ดูไม่ดีเลย ”
“ แม่ไม่ได้เป็นอะไรลูก วันนี้เบสไม่ไปเล่นบอลกับเพื่อน ๆ เหรอลูกไหนบอกแม่ว่าใกล้จะแข่งแล้วไม่ใช่เหรอ ”
“ วันนี้คงไม่ได้ไปแล้วล่ะครับพอดีโค้ชท้องเสียเลยงดซ้อม ”
“ ถ้าอย่างนั้นเราลงไปรอคุณพ่อที่ห้องนั่งเล่นกันดีไหม คุณพ่อน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ” สองคนแม่ลูกจึงเดินออกจากห้องไปที่ห้องนั่งเล่นซึ่งอยู่ชั้นล่าง
เสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดที่หน้าตึกใหญ่ของบ้านบำรุงกิจเจริญ ป้าวิมลหัวหน้าแม่บ้านและอ่อนหลานสาวของแกจึงรีบเดินออกมาต้อนรับนายใหญ่ของบ้าน
กฤตวิทย์ลงมาจากรถพร้อมด้วยเด็กหญิงอายุสิบปีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
“ นี่นะหรือคะลูกสาวของคุณชลดาว สวยเหมือนแม่ไม่มีผิด ” ป้าวิมลมองหน้าดรุณีด้วยความเอ็นดู
“ ใช่ป้า นี่ดรุณีลูกสาวของดาว ” กฤตวิทย์วางมือลงบนไหล่ของดรุณี
“ ขอป้าดูใกล้ ๆ สิคะ ” ป้าวิมลพินิจดวงหน้าสวยของเด็กหญิงใกล้ ๆ เธอมีโครงหน้าสวย ดวงตาโตหวานดูมีพลัง จมูกโด่งเป็นสันปลายเชิดเล็กน้อย ริมฝีปากปากอวบอิ่ม คิ้วเข้มโก่งสวยได้รูป ขนตาเป็นแพหนายาวงอน ผิวขาวอมชมพูผุดผาดไร้ตำหนิ
“ มากันแล้วเหรอคะ ” เสียงใสกังวานแต่น้ำเสียงแฝงด้วยความไม่พอใจดังขึ้น ดวงนภาเดินออกมาพร้อมกับปฏิภาณบุตรชายของเธอ
“ คุณดวง นี่ดรุณีลูกสาวของชลดาว ” กฤตวิทย์แนะนำเด็กหญิงให้ภรรยาของเขา
“ หน่อยนี่ดวงนภาภรรยาของลุงและก็ลูกชายของลุงเรียกคุณป้ากับพี่เบสก็ได้นะลูก ” เขาแนะนำให้ดรุณีรู้จักกับภรรยาและลูกชายของเขา ดรุณียกมือไหว้คนทั้งสองแต่กลับได้รับเพียงสายตาดูถูกกลับมาจนเธอหน้าเจื่อน
“ คุณหน่อยคะ ไปค่ะป้าจะพาไปที่ห้องนะคะ ” ป้าวิมลรีบพาดรุณีไปที่ห้องพักของเธอที่แกเตรียมเอาไว้ให้ เพื่อที่ดรุณีจะได้พักผ่อนและไม่ต้องอยู่ขวางหูขวางตาดวงนภาและปฏิภาณ เพราะแกอ่านสายตาของเจ้านายทั้งสองได้ว่าไม่พอใจการมาอาศัยของดรุณีเป็นอย่างยิ่ง
“ ป้าจะพาหน่อยไปไหนกัน ฉันบอกให้จัดห้องพักให้หน่อยบนตึกใหญ่ไม่ใช่เหรอ ”
“ คือว่า.... ”
“ ฉันเป็นคนให้ป้าวิมลจัดห้องพักให้เด็กคนนี้ที่ตึกเล็กเองค่ะ เพราะตึกนั้นไม่มีคนอยู่ปล่อยเอาไว้ก็จะเก่าเสียเปล่า ๆ เด็กนั้นก็จะได้อยู่เป็นสัดส่วนไม่ต้องขึ้นมาวุ่นวายที่นี่ด้วย ” ดวงวิภาตอบน้ำเสียงเรียบๆ แต่ดวงตาขุ่นเคือง
“ คุณนี่มัน.... ” กฤตวิทย์ได้แต่ถอนหายใจเพราะเขาเองก็ไม่ต้องการทะเลาะกับภรรยาด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
“ ไปกันค่ะคุณหน่อย ” ป้าวิมลจึงจูงมือดรุณีเดินออกไปที่ตึกเล็กด้านหลัง
ปฏิภาณเห็นสายตาเอื้อเอ็นดูของบิดาที่มองเด็กผู้หญิงที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของเขาแล้วก็นึกอิจฉาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะผู้เป็นพ่อไม่เคยใส่ใจหรือมองเขาด้วยแววตาที่อบอุ่นแบบนั้นมาก่อน
นิยายเรื่องนี้ถูกคุ้มครองโดย
พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ หรือคักลอกเอาไว้เป็นฐานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์
ผลงานอื่นๆ ของ รัตนสรวง/พู่กันมังกร/พลอยณพัชร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รัตนสรวง/พู่กันมังกร/พลอยณพัชร
ความคิดเห็น