คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter : 3
Chapter : 3
เวลาพักกลางวันแบบนี้ ปกติผมสิงสถิตอยู่กับเพื่อนรักทั้งสองคนนะ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เลย ผมกลายเป็นคนเอนตี้สังคมอย่างที่อิแบคมันบอกจริงๆใช่มั้ยเนี่ย!
อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้เอนตี้สังคมอย่างที่อิแบคว่า เพียงแค่ผมหนีจากสายตาของคนทั้งโรงเรียนต่างหาก! เพราะเหตุการณ์เมื่อวานที่ผมกับไอ้แพนด้า ...เอ่อ...จูบกัน -////- ทำให้กลายเป็นหัวข้อ ท็อค ออฟ เดอะ ทาวน์ เลยจ้ะ =_=! แล้วด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยี ข่าวนี้จะแพร่กระจายไวไปไหน
เป็นเหตุทำให้ผมต้องหนีเลี่ยงมาอยู่ในมุมอับ(?) ผู้คนเยี่ยงนี้!
ผมยิ่งหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ นิ้วของผมเลื่อนทัชสกรีนโทรศัพท์หรูไปยังเว็บของโรงเรียน ข่าวของผมไปไวจริง อะไรจริง เรื่องปิ้งย่าง(?) ภาพนิ่งไม่เท่าไหร่ มันยังมีภาพเคลื่อนไหวมาโชว์หราหน้าเว็ป ไม่เงิบเท่ากับคลิปหรอก T_T ผมไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงได้ซวยซ้ำ ซวยซ้อน ขนาดนี้ T^T
ยิ่งอ่านหัวข้อข่าว แต่ละข่าว ยิ่งเงิบ!
‘ฮวางจื่อเทา เด็กนักเรียนใหม่ของโรงเรียน โชว์จูบกลางโรงอาหารกับ โอเซฮุน เด็กเนิร์ดเพื่อยร่วมห้อง ทำฟินทั้งโรงอาหาร’
‘เด็กใหม่มาแรง! โชว์จูบสวีทกลางโรงอาหาร!’
‘เอ๊ะ! ยังไง? เด็กใหม่จากแผ่นดินใหญ่ โชว์ฉากจูบกลางโรงอาหารกับเพื่อนร่วมห้อง มีเงื่อนงำว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน!!’
‘หนุ่มจากแผ่นดินใหญ่ ปะทะกันหลังจากเด็กใหม่จูบเพื่อนร่วมห้องกลางโรงอาหาร’
‘งานนี้มีมวย! หนุ่มชาวจีนแลกหมัดกันแย่ง โอเซฮุน หลังจาก ฮวางจื่อเทา เด็กใหม่ โชว์จูบกันต่อหน้าคนทั้งโรงอาหาร จน ลู่หาน ทนไม่ไหวท้าแลกหมัดอย่างดุเดือด!!’
เป็นส่วนหนึ่งที่ผมอ่าน ผมอยากจะร้องไห้จริงๆ ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผมด้วย T^T เพราะมันคนเดียว! ไอ้แพนด้า เพราะมานนนนน T_____T
แต่ข่าวพวกนี้มันไวยิ่งจรวจติดเทอร์โบไฮท์สปีด เพราะยังมีเหตุการณ์เมื่อเช้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลาเพียงไม่กี่นาที จากการเข้าแถว ก็ยังมีเรื่องให้เขียนกันสนุก!
‘รู้ผล! เด็กใหม่ ฮวางจื่อเทา คุม โอเซฮุน แจ’ พร้อมรูปภาพ ยืนยัน
‘ฮวางจื่อเทา มาแรง คุม โอเซฮุน ไม่ห่าง งานนี้ ลู่หาน มีหงอย!’ พร้อมรูปภาพลู่หานแอบมอง ทั้งคู่อยู่
โอ๊ย!!! ข่าวดีๆ วิ่งเป็นเต่าคลาน แต่ข่าวชาวบ้านวิ่งเร็ว 4G !!!
ผมล่ะเบื่อคนพวกนี้จริงๆ ให้ตาย!
“เทาอ่า.. รอจุนด้วยสิ”
หืม?? เทา?? จุน?? ไอ้ชื่อเทานี่ มันไม่น่าจะมีซ้ำได้นะ!
ไม่รอให้สงสัยนาน ผมเก็บโทรศัพท์หรูเข้ากระเป๋า คลานไปหาแหล่งกำเนิดเสียง ...หืม? ฟังเหมือนอะไรซักอย่าง ช่างเหอะ! เอาเป็นว่าผมคลานไปตรงที่มีเสียงคนพูดนั่นแหละ
ว่าผมเสือกผมก็ยอมนะ! ภาพตรงหน้าที่ผมเห็นก็คือเด็กชายตัวข๊าวขาว อย่างกับไปตกถังโอโม่พลัสมาอย่างนั้นแหละ เดินตามไอ้แพนด้าคลุกฝุ่นจนตัวดำ(?) เอ๊ะๆๆ หน้าตาหวานๆ แบบนี้ ตัวเตี้ยๆ แบบนี้ ขาวๆ แบบนี้ มีคนเดียวเท่านั้นแหละ!
คิม จุนมยอน!!
คิม จุนมยอน หรือ ซูโฮ หมอนี่เป็นเคะสุดฮ็อตรองจากคบองซู และแบคฮยอนเลยก็ว่าได้ แถมเจ้าตัวก็ยัง คุณนู๋ คุณหนู! ในห้องใครๆ ก็พากันหลง และปลื้มกับจุนมยอน คนน่ารักเหลือเกิน แต่... ทำไมถึงมาเดินตามไอ้แพนด้านี่ได้ล่ะ?
“เทาอ่า! บอกให้รอจุนด้วย อ๊ะ!”
ร่างสูงสมส่วนหยุดกะทันหัน ทำให้ร่างเล็กที่เดินตามแจประทะเข้ากับแผ่นหลังกว้าง
“จะตามอีกนานมั้ย?”
ร่างสูงเว้นระยะห่างออกเล็กน้อย ก่อนหมุนตัวกลับมาถามอีกคน ห๊ะ!? จุนมยอนตามไอ้หมอนี่จริงๆ เหรอเนี่ย โอ้ โอเอ็มจี อะเมสซิ่งมาก!
“ก็เทาเดินหนีจุนอ่ะ”
เอ่อ... แบ๊วไปไหน ดูหน้าไอ้แพนด้าบ้าง มันจะงับหัวหนูจุนอยู่แล้วนะ ไปพูดดีกับมันทำม๊วยยยย
“มึงชื่ออะไรนะ?”
เค้าพูดกับมึงเพราะ มึงพูดให้มันดีๆ ไม่ได้รึไงไอ้เทา!
อ้าว! โทษทีๆ อินไปนิด ><’
“จุนมยอน คิมจุนมยอน เทาจะเรียกว่าซูโฮ หรือ จุนก็ได้นะ”
“แค่ถามเฉยๆ จะอธิบายยาวทำไม?”
โหยยยยย... ไอ้ไม่มีมารยาท! เค้าพูดดีๆ มึงมันมารยาทแย่จริงๆ! สมกับหน้าตาเถื่อนๆ ของมึงมาก!
แล้วที่แอบฟัง แอบดูเค้าเรียกว่ามีมารยาทเหรอ??
ช่างเหอะๆ ดูต่อดีกว่า
ใบหน้าขาวของจุนมยอนแดงเป็นสีระเรื่อขึ้นเล็กน้อย เจ้าตัวปรี่เข้าไปเกาะแขนของไอ้แพนด้า หืม??? มันแปลกๆ นะ คนอย่างจุนมยอนมาตามตื้อไอ้บ้านี่เหรอ? ไม่จริงน่า!
“ก็จุนชอบเทา”
ห๊ะ!! ห๊ะๆๆๆๆ!! เมื่อกี้ จุนมยอนบอกว่าชอบเทา! ไอ้แพนด้า? เห้ย! ไม่ได้นะๆ! มันนิสัยไม่ดีไม่ต้องไปคบกับมันหรอก เชื่อ โอเซฮุน เถอะ เคยผ่านการกระทำอันโหดร้ายต่างๆ นาๆ จากหมอนี่มาแล้ว
ผมได้แต่ภาวนาในใจให้จุนมยอนพูดเล่น อย่าได้มาหลงไอ้แพนด้าตนนี้เลย มันนิสัยไม่ดีเหมือนหน้าตาหลอก อ๊ะ! แต่ไม่แน่นะ ถ้ามันมีแฟน มันอาจจะเลิกแกล้งผมไปเลยก็ได้ งั้นเปลี่ยนใหม่ๆ ขอให้มันหลงเสน่ห์จุนมยอน เพี้ยงๆ -/\-
“แต่กูไม่ได้ชอบมึง”
“...เทาอ่า...”
ถือว่ากล้ามากครับท่าน! ปฏิเสธดอกไม้ของห้องเลยนะเมิงงงง เด็ดชิบหายครับ! จัดว่าเด็ด เรื่องนี้จัดว่าโคตรเด็ด ต้องติดแท็กด้วยรึเปล่านะ
‘เทาปฏิเสธจุนมยอนดอกไม้ของห้อง #จัดว่าเด็ด’ ถถถถถถถ
ดูต่อดีกว่านะ =___=
“ทำไมไม่ชอบจุนอ่ะ?” จุนมยอนยังถามด้วยท่าทางใสซื่อ น่ารักมาก โมเอ้สุดๆ
“...กูมีคนที่รักอยู่แล้ว”
หืม??? คนอย่างนี้รักใครเป็นด้วยเหรอ? ใครวะ? ผมได้แต่เกาหัวอย่างงงๆ แต่ก็ยังสังเกตุการณ์ต่อ
“...งั้นเรื่องที่เทาเป็นแฟนกับเซฮุนก็เป็นเรื่องจริงสิ!?”
“...”
อ๋อ ไอ้แพนด้านี่เป็นแฟนกับผมนี่เอง ... เฮ้ย!! เดี๋ยวนะ?! เมื่อกี้จุนมยอนว่าไงนะ? ใครเป็นแฟนกับมันนะ? ใครเป็นแฟนกับไอ้หมาแพนดี้? เหมือนผมได้ยินชื่อผมนะ เซฮุน... เออก็ชื่อผมนี่หว่า... เฮ้ย!! เทาเป็นแฟนผม? !!! ไม่ใช่อย่างนั้นโว้ยยยยยยย!!!! O[]O!!!!!!
ผมชักอยากจะเข้าไปกระโดดเตะปากดอกไม้ของห้องแล้วครับ! ใครปล่อยข่าวลือนี้วะ? (ทั้งโรงเรียนจ้ะ =___= ) ไอ้แพนด้า มึงอย่ายิ้ม ปฏิเสธเซ่! บอกไปเซ่! ว่ากูกับมึงไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นคนรู้จักสมัยก่อนอะไรก็ได้! บอกเซ่!!
“แล้วมึงคิดว่าไงล่ะ?”
โอ๊ย!!! จะมาท่าเยอะ เก๊กอะไรตอนนี้ กูบอกให้มึงปฏิเสธ!!
“ก็ข่าวมันออกมายังงี้นี่”
“เชื่อข่าวรึเปล่าล่ะ?” จื่อเทาเดินเข้าไปใกล้จุนมยอนทำให้ใบหน้าขาวมะสีระเรื่อแต่งแต้มใบหน้า
“กะ...ก็เทาบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว...ใช่เซฮุนรึเปล่าล่ะ?” จุนมยอนเงยหน้าตามตามความคิดตัวเอง
“หึ!” จื่อเทาเดินถอยหลังไปสองก้าว
ผมอยยากจะดิ้นกับประโยคสนทนาของคนทั้งคู่ ผมรับไม่ได้จริงๆ ทำไมชีวิตผมถึงได้โชคร้ายอะไรขนาดนี้ ผมสัมผัสได้เลยว่าชีวิตผมหลังจากนั้มันคงไม่มีอะไรซวยไปมากกว่านี้อีกแล้วล่ะ ธูธธธธธธธ
ไอ้ ‘หึ!’ แล้วรอยยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่าไง? ตอบที! คือมันค้างอ่ะ มันค้าง! ช่วยตอบคำตอบที่มันน่าฟังกว่านี้ได้มั้ยวะ?
เห้ย!! O.O! จู่ๆ ไอ้แพนด้าก็โน้มตัวลงไปกระซิบที่หูของจุนมยอน พอผละออก จุนมยอนก็ยิ้มหวานแล้วเดินจากไปเลย เห้ย! มันพูดอะไร?? คือจะกระซิบทำไม กูอยากรู้!
สุดท้ายผมก็ไม่ได้ยินอะไรเลย เห็นแค่จุนมยอนเดินกลับไป ส่วนไอ้แพนด้า ผมเผลอแปปเดียวมันก็เดินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เป็นนักมายากลรึไง ไวดีแท้ แต่อย่างนี้คงต้องเป็นลิง =_=!
ช่างเหอะ! ผมไม่อยากรู้เรื่องชาวบ้านขนาดนั้นหรอก (แค่ฟังจนจบแค่นั้นเอง)
ผมคลานถอยหลังพาตัวเองมานอนเล่นอยู่ที่เดิม หยิบไดอารี่ที่พกมาด้วยขึ้นดู... ผมหยิบรูปภาพที่เมื่อก่อนมันเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของผมเลยก็ว่าได้ รูปจงอินที่กำลังยิ้ม... ยิ้มที่ตอนนี้ไม่ใช่ของผมแล้ว ตอนนี้ผมไม่มีสิทธิ์คิดกับจงอินอย่างนั้นแล้วด้วยซ้ำ เพราะเค้าเป็นแฟนกับเพื่อนผมอยู่ แต่ผมก็ยังแคร์นะ... ผมแคร์ว่าเค้าคิดยังไงกับเรื่องของผมกันเทา
ไม่อยากให้เข้าใจผิดเลย...
‘สวบ!!’
“เฮ้ย!!!”
ผมลุกพรวดอย่างตกใจ จะไม่ให้ตกใจได้ไง จู่ๆ ก็มีหมีควาย(?) ตัวเบอเร่อ พุ่งพรวดเข้ามาในฐานทัพ(?)ของผม หมีตัวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก มันคือหมีควายตัวโต ฮวัง จื่อเทา!!
ผมรีบลุกพรวดขึ้นนั่ง เก็บรูปเข้าไดอารี่ไว้เหมือนเดิม แล้วเอามาไว้ข้างหลัง ผมไม่ให้มันเห็นสมุดไดอารี่ของผมหรอก ภาพเมื่อสองปีที่แล้วยังหลอกหลอนผมอยู่เลย เรื่องไดอารี่ กับ ฮวัง จื่อเทา มันไว้ใจไม่ได้!
“มึง! มาได้ไง!?”
“เหาะมา - - ”
ไอ้นี่กวนตีน - -*
“มึงมาทำไม!?”
“มาหามึง”
มาหาผม? งั้นมันก็รู้สิว่าผมอยู่ตรงนี้มาตลอด!!
“มึงเห็นเหรอ O.O !!!?”
“หืมม??”
“กะ..กูหมายถึง มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ตรงนี้”
“ก็กลิ่นโรคจิตแอบดูมันออกน่ะสิ กูก็เลยรู้”
จื่อเทายักคิ้วให้ผมข้างหนึ่งเก๋ๆ ย่อตัวนั่งยองๆ ข้างหนาผม แต่สายตาของมันกลับดูไปที่มือของผมที่ซุกซ่อนไดอารี่ไว้ ...จะมองทำไมคร้าบบ TT’ ผมทำเป็นเฉยไม่สนใจ แต่... มันบอกว่าโรคจิตแอบมอง? งั้นมันก็ว่าผมเป็นโรคจิตแอบมองมันน่ะสิ!
“ย่าส์!! มึงว่ากูเป็นโรคจิตแอบดูมึงเหรอ?!!”
“เอ่ยชื่อมึงไง?” มันยังกวนตีนได้อีก -*-
“อะ...ถึงมึงไม่ได้เอ่ยชื่อแต่กูก็รู้ว่ามึงหมายถึงกู!” ผมเผลอขึ้นเสียงใส่ แต่พอเจอสายตาดุๆ ผมเลยก้มหน้าลงกับพื้นเลย ผมไม่ได้กลัวมันนะ แต่ผมกลัวสายตามัน (ต่างกันมาก -____- )
“แล้ว....” มันทำท่าครุ่นคิด ตาคมเหลือบมองขึ้นไปบนอากาศที่เย็นร่มรื่น ก่อนจะกลับมามองหน้าผมแล้วพูดต่อ “มึงแอบดูรึเปล่าล่ะ? มึงถึงร้อนตัว”
“ปะ..เปล่าซักหน่อย!”
“งั้นก็อย่าร้อนตัวสิ ไอ้เด็กบ๊อง” ว่าพรางเอามือมาลูบผมของผม
“อย่ามาจับ!” ผมปัดมือหนาออก จื่อเทาก็มองยิ้มๆ ไม่ได้โกรธเหมือนที่ผมกลัว จนใจจะเต้นระบำอยู่แล้ว
“มึงออกไปเลย” ผมพูดไล่
“ไม่ไป” เอ๊า! หน้ามึนดีแท้ล่ะ!!
“ที่นี่กูเจอก่อนนะ”
ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ พูดดีๆ เผื่อมันมีจิตสำนึกบ้าง อะไรบ้าง
“แล้วไง? ”
กรี๊ซซซซซซซซซ!!! อยากพ่นไฟ =[]=
“กูเจอก่อนมึงออกไปให้ไกลเลย แค่นี้กูก็ซวยเพราะมึงมามากแล้ว!”
ผมพูดเรื่องจริง ตั้งแต่เจอกันมาผมยังหาความสงบสุขของชีวิตไม่ได้เลย ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอกันอีก ทำไมพระเจ้าช่างใจร้ายอย่างนี้ ;____;
ไอ้แพนด้าชี้ไปหาตัวเอง เชิงว่าเพราะมันเหรอชีวิตผมถึงได้ซวย ผมก็พยักหน้า แล้วสะบัดหน้าให้มัน รู้ตัวก็ดีแล้ว ไอ้แพนด้ายักษ์!
“เกี่ยวอะไรกับกูอ่ะ?”
“ก็มึง..... -////- ” ใครจะกล้าพูดเรื่องแบบนั้น ไอ้บ้า !!
“รึเพราะกูจูบมึง?”
“... -///- ” เออ! หยุดทำสายตาแบบนั้นเลยนะมึง! กูเกลียดเมิงงงงงงง T///////T
“อย่าไปซีเรียสน่า! กูเป็นคนจูบกูยังไม่ซีเรียสเลย”
เทาเอื้อมมือมาลูบหัวของผมอีกครั้ง ผมเบี่ยงหัวหลบ แล้วปัดมือนั้นออก มองใบหน้าหล่อเถื่อนตาขวาง ฮึดฮัดอยู่ในอก! มันกล้าพูดได้ไงว่าอย่าซีเรียส มันเป็นคนจูบนี่! มึงจูบมึงจะมาซีเรียสอะไรเล่า!
“มึงไม่เป็นกูมึงไม่เข้าใจหรอก!”
ผมพูดจบ ผมก็หันหน้าหนีสายตาคมนั่น บางทีผมก็อยากตอกอะไรกลับไปแรงๆ นะ แต่สายตาของคนๆ นี้ มันทำให้ผมรู้สึกกลัว ไม่สิ ผมแค่เกรงกับสายตานี่เฉยๆ คงเป็นเพราะเรื่องราวในอดีตแหงๆ
ชิ!
“เฮ้อ!” จื่อเทาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วทิ้งตัวนอนข้างๆ ผม
“อย่ามานอนตรงนี้นะ!!”
ผมเอ่ยขึ้น แล้วดันร่างหนาให้ลุก แต่เปล่าเลย ร่างหนายังไม่มีท่าทีสะดุ้งสะเทือน หนำซ้ำยังแกล้งหลับตาพริ้ม เหมือนมีความสุขกับการนอนมากมาย ในเมื่อไล่ดีๆ ไม่ไปใช่มั้ย! ได้!! ผมขยับตัวออกห่าง กะระยะให้พอดี แล้วใช้สองตีนคู่ อุ้ย! หยาบคาย เอาใหม่ๆ ใช้เท้าคู่ ยันเข้าไปที่สีข้าง จนร่างหนาสะดุ้งโหยง ร่างกายเลื่อนไปเล็กน้อยตามแรงถีบ
“ย่าส์!! กล้าถีบกูเหรอ ห๊ะ!!”
ย๊ากกกกก!! อย่าเข้ามานะ!! งือออ T^T
ผมกระเถิบตัวหนีไอ้แพนด้า เมื่อเจ้าตัวลุกขึ้นมาทำท่าจะเอาเรื่องผม แงๆๆ แม่จ๋า ไอ้แพนด้ามันจะฆ่านู๋ววววววววววว (บิวัติเพื่อเสียง)
“อะ...อะไรเล่า! กะ..ก็มึงไม่ลุกเองอ่ะ!”
“หึ!”
ไอ้ หึ ไอ้ท่าทีแบบนี้มันหมายความว่าไงอ่า อย่าเข้ามานะเว่ย!
จื่อเทาคลานท่าแมวเข้ามาหาผม ขณะที่ผมกระเถิบตัวหนี มันทำหน้าได้จิตมากอ่ะ! งือออ บอกว่าอย่าเข้ามาไง ไม่รู้เรื่องรึไงฮะ!! T^T
มันก็แค่เสียงบ่นในใจของผม ทำทำได้แค่เขยิบตัวหนีมันเฉยๆ ผมกระเถิบไปจนติดกับต้นไม้ ห๊ะ! เท่ากับผมไม่มีทางหนีแล้วใช่มั้ย งือออ แล้วจะตามเข้ามาอะไรนักหนาเล่า! ยิ้มทำไม มึงยิ้มทำม๊ายยยย T^T
“โอ เซฮุน! มามอบซะดีๆ”
“ยะ อย่านะเว่ย! กะ..กูสู้นะ!”
ผมกำหมัดชูขึ้น ผมบอกแล้วว่าผมสู้จริงๆนะ ทำไมต้องทำหน้ายิ้มๆ? มันไม่ตลกนะเว่ย!
“มึงยิ้มอะไร! อย่ามาทำหน้ายังงี้นะ!”
“กูทำหน้ายังไง? หืมมมม??”
ยังงี้นี่แหละไอ่ฟายยยยย
ใบหน้าหล่อจ้องผมราวกับจะกินอย่างไงอย่างงั้น สายตาคมจ้องมองผม จนผมไม่รู้จะเอาสายตาไปหยุดไว้ที่ไหนดี ปากรูปกระจับที่แสยะยกยิ้มร้ายกาจที่เจ้าตัวชอบทำ เหมือนกับว่าจะบอกให้รู้ว่าใครเหนือกว่า และอย่าคิดหือกับมัน ยังไม่รวมท่าทางคุกคามนั่นอีกนะ ถ้าผมไม่อกุศลเกินไป ผมกำลังคิดว่าหมอนี่กำลังข่มขืนผมทางสายตา T^T
“หืม??”
หืมอะไร?
ขณะที่ผมกำลังก้มหน้า ก้มตา หลับตาปี๋หลบสายตานั่น ผมก็ได้ยินเสียงแปลกใจของอีกคน แล้วก็เงียบไปซักพัก มันแปลก! พอผมลืมตาขึ้ก็เห็นมันนั่งขัดสมาธิอ่านสมุดอะไรซักอย่าง เอ๊ะ! คุ้นๆ นะ?
“มึงนี่ถ้าแต่งนิยาย ท่าทางจะรุ่งนะ” ว่าแล้วพลิกหน้าต่อไป
...เหยดดดดดดดดดดดดด!!!!
ไดอารี่กูวววววววววววววววว T[]T
“เอามา!”
ผมเบิกตาหว้างขึ้น เมื่อเห็นไดอารี่ของผมที่มีสมบัติล้ำค่าอยู่ในนั้น ไม่รอช้าผมรีบกระโจนเข้าหา เพื่อแย่งชิงไดอารี่ที่รัก แต่มันเบี่ยงตัวหนี หงายลงไปกับพื้นมีข้อศอกยันพื้นไว้ กลับกลายเป็นว่าผมไปนอนจุ้มปุ๊กลำตัวพาดบนขาแข็ง(?)แรงของจื่อเทา ...เหตุการณ์แบบนี้...แมร่ง! คุ้น!!
“เห้ย! มึงจะปล้ำกูเหรอ ตุ๊ด!”
ผมลุกออกจากขาของมัน แต่ความจุกมันไม่เคยปราณีใคร น้ำตาแทบซึมแน่ะ อย่าร้องลูกอย่าร้อง อึ๊บไว้ๆ เราไม่ใช่เด็กขี้แยนะ ฮืออออ T_____T
“โอยยย! เอามาเลย!”
“เห้ย! ร้องไห้เหรอ? ไหนว่าจะไม่ร้องแล้วไง” เทายื่นไดอารี่คืนให้ผม ผมรีบหยิบมันมาอย่างว่องไว เดี๋ยวมันเล่นตุกติก
“กูไม่ได้ร้อง! มันไหลออกมาเอง!”
“แล้วมันต่างกันรึไง ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย!”
อีกแล้ว มันเอามือของมันมายีหัวผมอีกแล้ว ฮือออ กูไม่ได้อยากร้อง แต่มันเป็นฟีลลิ่ง T^T ลองเอาท้องของมึงมากระแทกเข่ากูมั้ยล่ะ?! โอยยย จุก! T^T
“ไม่ปัดออกแล้วเหรอ?”
เออ เบื่อที่จะปัดแล้ว! ผมไม่สนใจ เก็บไดอารี่ใส่กระเป๋าอย่างดี กลัวว่ามันจะไปอยู่กับอีกคน
“นี่... หยุดร้องได้แล้ว”
จื่อเทาเช็ดน้ำตาให้ผม
ผมรู้สึกเหมือนโดนสะกดเลย มือหนาเลื่อนจากหัว มาสัมผัสที่ใบหน้า... อะ..อะไรกัน อยู่ๆ ก็มาทำดีแบบนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังแกล้งกันอยู่เลย แล้วทำไมต้องหน้าร้อน ใจเต้นผิดจังหวะ ง๊ากกกก! หัวใจมันตีกลองได้อ่ะ ผมเป็นอะไรไป! ทำไมรู้สึกหวั่นไหวกับหมอนี่เฉยเลย T////T
“ปะ ปล่อย กูเลิกร้องแล้วน่า!”
มือหนาผละออกจากใบหน้าของผม อืม... ว่าง่ายจังแฮะ
ในเมื่อไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็อยู่มันด้วยกันก็ได้ มันคงไม่แกล้งผมหรอกมั้ง?
ผมชันเข่าขึ้น ซบหน้าลงไปอยางเบื่อหน่าย เหม่อมองพื้นหญ้าเขียวสดที่เท้า ลมไหวอ่อนๆ รู้สึกเย็นสบาย เพราะร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ ที่นี่สงบมาก ผมน่าจะใช้ที่นี่เป็นฐานทัพไว้หลบภัยได้นะ แต่โชคร้ายที่เจอหมอนี่ซะอย่างนั้นแหละ
“มึงชอบจงอินขนาดนั้นเลย?”
จู่ๆ ถามอะไรของมึง - -* เออ อ่านไดอารี่กูไปแล้ว มึงก็คงรู้แล้วสิ ว่ากูแอบชอบไอ้ดำ...
“ถึงขนาดต้องแอบถ่ายเลย? มึงนี่โรคจิตกว่าที่กูคิดอีกนะ”
ห๊ะ!!? แอบถ่าย? มันรู้ได้ไง!!?
ผมหันหน้าขวับจนคอแทบเคล็ด มองไอ้คนพูด ใช่! ในมือของมันมีรูปภาพสุดล้ำค่าของผมอยู่!! เอาไปตอนไหนวะ!! ไอ้เห้!!!!!!!!!!!! =[]=!!!!!
“เอาคืนมานะ!” ผมคว้ามือไปแย่ง แต่มันไม่ปล่อย ปล่อยเซ่!!
“ทิ้งไปซะ! จงอินเป็นแฟนกับเพื่อนมึง”
เออ! กูรู้!! มึงจะย้ำทำหอยอะไร!! กูพยายามแล้ว! กูทำใจยังไม่ค่อยได้!! โอ เค๊!!!!
ผมเม้มปากแน่น เมื่อโดนจี้จุด ผมเข้าใจว่าคยองซูเพื่อนของผมเป็นแฟนกับจงอินคนที่ผมแอบรักมาเกือบสองปี แต่คนมันเคยชอบอ่ะ จะให้ตัดใจไวปานสายฟ้าผ่าหัวก็คงไหว มันเร็วไป ผมเลยปล่อยมือออกจากรูปนั้น เอ่ยเสียงเรียบ
“กูรู้... แต่มันคือจงอินเดียวที่กูมี”
“...”
‘แคว่ก!!’
!!!
เห้ย!!! นั่นๆๆ! มันฉีกรูปของผม!!
“มึงทำอะไร!!” ผมกระโจนเข้าไปหามัน กระชากคือเสื้อมันอย่างเอาเรื่อง แต่มันไม่สะทกสะท้านอะไรกับการกระทำนั่นซักนิด
“กูฉีกรูปแฟนเพื่อนมึง”
“ไอ้เทา!!” ผมเขย่าเสื้อมัน อยากจะชกหน้ามันซักเปรี้ยง ถ้าไม่กลัวโดนสวนกลับ ถึงผมจะโมโห และเสียใจมากแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าจะทำอะไรหมอนี่หรอก
...ดีซะอีก
...ไม่ต้องมาฉีกรูปนั้นด้วยมือของตัวเอง...
ผมปล่อยมือออก แล้วหันกลับมาสนใจรูปที่ขาดออกจากกันสองท่อนที่พื้น บางที...
...........
“...ขอบใจ...”
“...”
“ฮึก... ฮึก..ฮืออออ”
ผมหันโผเข้ากอดร่างสูงตรงหน้าของผม ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องกอดมัน แต่สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้ ไม่มีใครที่จะเข้าใจผมได้เท่ามันอีกแล้ว
อย่างน้อยก็กัดกันมาก่อนล่ะวะ T____T
มือหนาเอื้อมแตะที่แผ่นหลังบาง ขยับตัวนั่งให้ถนัดกอดปลอบโยนร่างบาง เหมือนตอนนี้ร่างบางนั่งเกยร่างหนาอยู่ แรงสะอื้นเบาๆ และหยาดน้ำใสๆ ที่เปียกเสื้อ จื่อเทามองรูปภาพของจงอินที่ปลิวไปตามลดที่พัดผ่านมาให้ความเย็น รูปทั้งสองแยกไปคนละทิศทาง มือหนาโอบเอวบางตบเบาๆ
[Zi Tao Prat]
อะไรกัน... ไม่ว่ากี่ปี ไอ้เด็กนี่ก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมเลย ยังขี้แย และอ่อนไหวง่ายเหมือนเดิม
แอบเจ็บใจนะ ที่อุตส่าห์ขอป๊า ม๊า มาเรียนที่นี่ จะได้เรียนที่เดียวกับไอ้เด็กขี้แย แต่เจ้าตัวดันทำท่าเกลียดผมซะงั้น ตอนนั้นยังเด็ก อืม... สิบหกก็ไม่เด็กแล้วนะ ฮ่าๆๆ ก็ตอนนั้นเจ้าเด็กนี่ยังไม่โตเท่าไหร่เลย น่าแกล้งจะตายไป ^____^
โอ๋เอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เด็กน้อย ฮ่าๆๆๆๆๆ ^[++++++]^
อย่าบอกเค้านะครับ ว่าผมแอบโอ๋เค้าในใจ
“ฮือออออ ฟรืดดดดดด!!!”
อห.!!!! อื้อออหืออออออออออ!!!! มึงสกปรกมากครับไอ้ตุ๊ดอินดี้!
“มึงสั่งขี้มูกใส่เสื้อกูเหรอไอ้ตุ๊ด!” ผมแกล้งถามเสียงเข้ม อย่างที่มันกลัวบ่อยๆ
“ฟืดดดดด มึงทำกูร้องไห้ กูเอาคืน”
เออ ครับ แหม่! มึงซกมก มึงก็บอกกูมาเถอะ =___= มุกเอาคืนนี่ไม่ฮาเลยนะ เฮ้อ! เด็กขี้แย ก็ต้องทำใจ
“นี่...เลิกรักมันได้มั้ย” ผมพูดเบาๆ เหมือนพูดกับสายลม แต่แน่ใจว่าร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดต้องได้ยินอย่างแน่นอน
“...มันบังคับได้ด้วยรึไง”
เซฮุนผละออกจากตัวของผม แล้วเช็ดน้ำตา และน้ำมูกลวกๆ สูดน้ำมูกแรงๆ ผมทำหน้าเหยเกกับภาพตรงหน้า เลยได้ค้อนกลับมาหนึ่งวง ก่อนจะกระโจนเข้ามากอดคอ แล้วสั่งขี้มูกใส่เนื้อผ้าเสื้อส่วนไหล่ที่มีคราบเก่าอยู่แล้ว “ฟรืดดดดดดด!” จะกอดนานกว่านี่ก็ไม่มีใครว่านะ ไอ้เด็กขี้แย
“สกปรกชิบหายเลย”
“สมน้ำหน้า -3- ”
แล้วทำไมต้องทำปากยื่นด้วย...
ผมแอบมองเสี้ยวหน้าหวานแดงเล็กน้อย จมูกแดงก่ำ คงเป็นเพราะสั่งน้ำมูกแรงไป แล้วยังจมูกมาถูกับเสื้อของผมอีก มันก็สมควรจะแดงแล้วแหละ
เซฮุนโตขึ้นมากเลย สูงขึ้นจนน่าตกใจ เมื่อก่อนเซฮุนเลยไหล่ผมมานิดเดียวเอง ตอนนี้เกือบจะเสมอผมแล้ว แต่รูปร่างก็ยังคงผอมบางอยู่ แต่ความนุ่มนิ่มยังเหมือนเดิม อาจจะมากกว่าเดิมซะด้วยสิ จากเมื่อกี้ที่กอดปลอบไม่อยากจะอกุศลว่ามันุ่มนิ่มมาก อยากจะกอด ฟัดแรงๆ ให้หายคิดถึง มันก็เป็นแค่การแสดงความคิดถึงในแบบฉบับของผมเท่านั้นแหละ
“..โดดเรียนมะ?” ผมชวนคนขี้แย
“เอ๋??”
ยัง... ยังไม่ตอบอีก...
“กูชวนมึงโดดเรียน ไปมั้ย?”
“...ไปดิ!”
[End Part]
[Sehun Part]
อ่า... ผมหลวมตัวมากับมันได้ยังไง -*- ตอนนี้ผมมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้? ตอนนี้ผมควรจะนั่งเรียนอยู่ในห้อง แอบมองจงอินและคยองซูจากด้านหลัง โดยมีแบคฮยอนชวนคุยตลอดเวลา ...แต่นี่ ผมกลับมาร้องเพลงอยู่ที่คาราโอเกะในห้างดังใกล้ๆ โรงเรียน
Baby Don’t Cry Tonight
ตาง เฮ เย่อ จ้าย ชี่ เลี่ยง ฉี่ หลาย
Baby Don’t Cry Tonight
จิ้ว ต้าง จั้ว เหมย ฟา เชิง กว้อ อี ย่าง
หนี่ หยง หย่วน โตว ปู้ ฮุ่ย ฮั่ว เฉิง เซี่ยง เพ่า โหม่ อี ย่าง
หนาน เต้า หนี่ ปู้ จี เต้า มา
So Baby Don’t Cry, Cry
หว่อ เตอ อ้าย โฉ่ว ฮู่ หนี่ ปู้ เฟิน ไค...
ผมนั่งเท้าคางฟังเทาร้องเพลง Baby Don’t Cry ของ ศิลปินบอยแปรนด์หน้าใหม่ ที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ ชื่อวง EXO เป็นเวอร์ชั่นจีน ผมนั่งฟังเสียงขึ้นจมูกนั่นร้องจนจบเพลง
ผมเคยบอกรึเปล่า? ว่าผมฟังภาษาจีนออกน่ะ ...ร้องเพลงนี้ แล้วมองหน้าผมแบบนี้ มันแปลกๆ นะ เหอะ! จะมาแกล้งอะไรอีกล่ะ
“เซฮุน มาร้องเพลงกัน” มันยื่นไมค์มาให้ผม
“ไม่เอาอ่ะ มึงร้องไปคนเดียวเหอะ” ผมดันไมค์ออก บอกอย่างเซ็งๆ
“มาร้องกับกูเดี๋ยวนี้!”
มันนั่งลงข้างๆ ผม ใช้วงแขนแข็งแรงของมันล็อคคอผมไว้ข้างหนึ่ง เอาไมค์จ่อปากให้ผมร้องเพลง ผมพยายามบ่ายเบี่ยง และหลบ
‘ปั่ก!’
“โอ๊ย!!!”
“เห้ย! ขอโทษ!”
ในขณะที่ผมหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย มันก็พยายามเอาไมค์จ่อปากแทบเป็น แทบตาย สุดท้ายผมก็ซวย โดนไมค์กระแทกเข้าที่ปาก ไม่พอมันยังปล่อยไฟฟ้ามาดูดอีกต่างหาก!!
งืออออ ปากผม T___T
ผมจับปากตัวเอง ภายในปากรู้สึกเค็มปร่า กลิ่นคราวคละคลุ้งไปทั่ง งื้ออออ ปากแตก T^T
“ปากแตกเลย” ผมหันไปมองต้นเหตุตาขวาง
“ไหนดูซิ”
มันจับคางของผม นิ้วเรียวเชยคางผมขึ้น แปลก ผมกลับไม่ขัดขืน หรือหลบเลี่ยงเลย ผมมองอีกคนที่สนใจกับปากของผม นิ้วเรียวยาวจับเบาๆ ผมก็เบ้หน้าเพราะความแสบ
ผมมองหน้าหล่อเหลาเต็มๆ ตา อีกครั้ง ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้มองอยางนี้หรอก เพราะปกติผมหลบหน้าหมอนี่มาตลอดเลย เคยมองอยู่คั้งหนึ่งตอนไปอยู่จีน ตอนนี้หมอนี่หล่อขึ้นมากเลย ...แต่สายตายังเจ้าเล่ห์ไม่เปลี่ยน จมูกโด่งเป็นสันดูดื้อรั้นสมกับเป็นจื่อเทา ริมฝีปากบางรูปกระจับ หยักลึก เวลาแสละลิ้มที มันทำให้ผมกลัวมาก เมื่อตอนอายุสิบหก
“...”
ผมคิดไปเองรึเปล่า ว่าใบหน้าของมันขยับเข้ามาใกล้...
ผมละสายตาจากปากสวยของมัน เหลือบตาขึ้น สายตาบังเอิญผสานเข้ากับสายตาคมที่จ้องมองมา ผมไม่สามารถละจากสายตาเจ้าเล่ห์นั่นได้เลย ผมรู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาอย่างดื้อๆ อยากจะหลบสายตาแพรวพราว แต่คอมันแข็งเกินกว่าที่จะหันหนี
ลมหายใจอุ่นๆ รดรินกระทบใบหน้า ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ จนปลายจมูกชนกัน ผมเผลอไผลไปกับสายตา และจูกโด่งที่กดเข้าที่จมูกของผม ไล้ผ่านพวงแก้มแผ่วเบา ผมหลุบตาต่ำลง อยู่ๆ หัวใจมันก็เต้นผิดจังหวะมาซะดื้อๆ
“...”
ผมช้อนตาขึ้นมองตาเจ้าเล่ห์อีกครั้ง ผมเบิกตาโพรงอย่างตกใจกับการกระทำอุกอาจของมัน ริมฝีปากอุ่นชื้น กดลงปากเย็นชืดของผม แม่จ๋า.. เซฮุนถูกไอ้แพนด้านี่ขโมยจูบอีกแล้ว T^T
ผมอ้าปากจะทักท้วง แต่ก็ถูกริมฝีปากของเทาดูดกลืนคำพูดของผมจนหมดสิ้น ผมเอียงคอไปตามการควบคุมของมือหนาที่รั้งท้ายทอยเอาไว้ ริมฝีปากนุ่มบดเบียดกับปากของผม เคล้าคลึงอ่อนโยน จุมพิศที่อ่อนหวานถูกมอบให้โดยไม่ทันตั้งตัว ผมเผลอไผลไปกับรสจูบของหมอนี่ ผมบ้าไปแล้ว! ผมกำลังกอดคอหมอนี่อยู่!
...งืออออ ขอระเบิดตัวตายแปป T////////T
- TBC.
ได้ฤกษ์มาอัพ ;___;
ไม่รู้จะคุยอะไรอ่ะ 5555555555555
ติดแท็ก #Why_TH
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :')
- BONUS -
#Why_TH
:) Shalunla
ความคิดเห็น