คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter : 2
รถหรูคันสีดำสนิทมาจอดที่นัดหมายกับมินซอกไว้ พอเปิดประตูลงมาก็โดนร่างเตี้ยๆ อวบๆ เข้ามาผลักทันที ...พี่มินซอกนี่เอง เลย์มองหารแต่งตัวของแกอย่างงๆ ชุดสีทึบ พร้อมด้วยหมวกและแว่นตาถ้าหูเลย์ไม่ได้ฝาด เลย์ได้ยินเสียงแกฮัมเพลง ‘มิชชั่น อิมพอสสิเบิ้ล’ หรือขบวนการอะไรซักอย่างในลำคอ
เลย์หน้าตื่นทันที ร้องถาม เมื่อได้ยินเสียง(พยายาม)เข้มของมินซอก
“ไม่ใช่! ฉันไม่อยากให้ใครเห็น เอาล่ะ! เดี๋ยวพอถึงยูเทิร์นหน้าให้กลับรถ เห็นซอยนั่นมั้ยครับ? พอกลับรถแล้วเราจะเข้าไปที่นั่นกัน”
คนขับรถพยักหน้า ทำตามพี่มินซอกว่าทุกอย่าง ลัดเลาะซอกซอนไปในซอยไกลลิบๆ แล้วมินซอกก็สั่งจอดลงใกล้ๆหอพัก เปิดประตูขนของขนสัมภาระลงอย่างรวดเร็ว
“ห๊ะ!!?? แล้วพี่จะเปลี่ยนทำไม?”
พี่มินซอกส่งสายตาดุพิฆาตมาเป็นคำตอบ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียง(พยายาม)ห้าว
“แกอาจจะถูกตามก็ได้ และเพื่อความปลอดภัยของพยาน เราต้องเปลี่ยนรถ เพราะตอนออกจากบ้านมีคนเห็นรถคันนี้แล้ว”
ว่าแล้วพี่แกก็รีบขนของออกจากรถ คุณคริสมีแค่กระเป๋าใบใหญ่มาสองใบ และกระเป๋ายาในถังเก็บความเย็น ส่วนของเลย์ก็มีมาแค่ใบเดียวไม่ใหญ่โตนัก กับขนมอีกกล่องใหญ่
“คุณต้องจ่ายค่าจ้างเต็มวันนะครับ”
“ได้ไงวะ? ผมมีเงินซะที่ไหนล่ะพี่!!”
คุณคริสยื่นซองสีน้ำตาลส่งให้ ภายในมีธนบัตรนับไม่ถ้วนเรียงอยู่อัดแน่นเป็นปึกๆ พี่มินซอกรับไปแล้วหยิบเงินจำนวนหนึ่งให้คนขับไป แล้วทำเป็นเข้ม
“ไม่ต้องทอน! แต่คุณต้องจำไว้ ว่าคุณไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น...”
“มีอะไร” พี่มินซอกยังทำเสียง(พยายาม)เข้มอีก
แกหยิบเงินอีกจำนวนหนึ่งให้คนขับรถไป แล้วย้ำประโยคเดิม คบขับรถก็พยักหน้ายิ้มแป้นเออออไปกับพี่แกด้วย แล้วก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เลย์ก้มลงมองสัมภาระที่วางกองเป็นกระจุกก็หน้ามุ่ยหันไปถามคนต้นคิดเสียงขุ่น
“แล้วจะขนของออกไปไงอ่ะ! หน้าปากซอยมันไกลนะพี่!”
พี่มินซกปรบมือสองครั้ง แท็กซี่รถไวที่ซุ่มจอดอยู่ที่ใดซักที่ไม่ไกลก็ปราดเข้ามาจอดตรงหน้าทันที เลย์อ้าปากค้าง มองร่างเล็กของมินซอกขนของอย่างคล่องแคล่ว แล้วพยุงร่างสูงของพยาธิ เอ๊ย! พยานขึ้นรถ และแล่นไปคนละทางที่เข้ามาทันที
จนออกสู่ถนนใหญ่นั่นแหละ เลย์ถึงจะบรรเทาอาการ ‘ อ้าปากค้าง’ คนขับรถท่าทางน่ากลัว ดูโหด โฉด และบึกบึน ใบหน้าเหี้ยมๆมีไรหนวดขึ้นเต็มไปหมด ปากหนายกยิ้ม ไม่ใช่หรอก มันเรียกว่าแสยะยิ้มซะมากกว่า ทำเอาเลย์ไม่กล้ามองเลยทีเดียว TT’
“เดี๋ยวจอดตรงใต้ต้นไม้นั่นแหละนะ”
“โห่ย! ไอ้เลย์แกแหกตาดูบ้างว่ามันจะเก้าโมงเช้าแล้ว แกยังไม่ได้หยอดตาคุณคริสเลยนะเฮ้ย! ไอ้นายพยา....บานนนนนนน”
เออ...ลืมเลยว่ะ! หน้าที่ของเลย์ก็คือหยอดตาให้คริสทุกๆหกชั่วโมง เมื่อคืนม่ะมี๊ก็มานั่งซักซ้อมวิธีการหยอดตลอดทั้งคืน ไม่น่าลืม...ไหวป่าววะ??
รถจอดลงข้างทาง คุณคริสถูกพ่ตัวมานั่งด้สนหน้า เอนเบาะลงให้ได้องศาหยอดตาและหลับลงพักนิ่งๆ ไม่อยากจิเอ่ยตอนหยอดตาเลย์ใจเต้นถี่ ไม่ใช่กลัวหยอดไม่ลง แต่เพราะไม่เคยมีผู้ชาย(โคตร)หล่อมาจ้องมองตรงๆแบบนี้มาก่อนเลย (ผู้ชายไม่หล่อ หรือผู้หญิงสวยไม่สวยก็ยังไม่มี - -* )
แถมยังเป็นผู้ชายที่ตามีสเน่ห์ขนาดนี้แล้วด้วย...
คริสมีดวงตาที่ดูดุดันมีสเน่ห์น่าค้นหา แต่ก็ดูอบอุ่นอ่อนโยนไปในคราเดียวกัน แม้ไม่ได้จับจ้องและเลื่อนลอย หากเลย์ไม่เห็นแววตาหงุดหงิดเลยในนั้นเลยแม้ซักนิด มันใสแจ๋วเป็นสีน้ำตาล อยู่ในกรอบแพรขนตางอนยาว ...สวยยิ่งกว่าตาผู้หญิงที่เคยเห็นบางคนซะอีก
...นี่กูเขินผู้ชายด้วยกันเหรอเนี่ย -///-
จนพักพอแล้ว ทั้งหมดเตรียมเคลื่อนขบวน หากแต่คริสพูดออกมาเสียก่อน
“เดี๋ยวครับ ผมยังไม่รู้จักพวกคุณเลย”
หมินซอกอ้าปากหวอ หน้าตาเหลอหลา มึน งง เต็มที่กับชีวิตจริง - -’’
“อ้าว...คุณไม่รู้จักเลย์หรอกเหรอ??”
“ไม่รู้จักครับ คุณจางบอกว่าลูกชายเธอชื่ออี้ชิง ไม่ใช่เลย์...อะไรนี่...”
พี่มินซอกยิ้มชั่วร้าย วิญญาณผีอำเริ่มเข้าสิง หุหุ =.,=
“มัน...เอ่อ...เลย์ก็คนเดียวกับอี้ชิงนั่นแหละ แต่...นี่เป็นการป้องกันพยานเราจึงต้องใช้รหัสลับ ชื่อของอี้งชิงคือ ...เลย์...เลย์007 ส่วนผม ร้อยตำรวจเอก...เอ้ย! มินซอกห้าร้อย”
ทีนี้เป็นคริสที่หัวเราะเสียงดังเสียเอง ดีนะ ..ที่เลย์กลั้นหัวเราะไว้สุดชีวิต
ใครเชื่อแมร่งโง่! 555555555555
“นี่ผมเข้าโครงการป้องกันพยานจริงๆเหรอเนี่ย”
“ใช่แล้วครับ เราคือหน่อยพิเศษประจำกรม มีนามแฝงว่า แอล ไอ เอ็น อี ทีม (LINE TEAM)”
ทีนี้เลย์ไม่ไหวแล้ว กลั้นหัวเราะต่อไปไม่ไหวแล้ว ร่างเล็กวิ่งอุดปากไปหลังรถแล้วปล่อยกร๊ากออกมา ใครเชื่อก็บ้าแล้ว 55555555
“ดีเหมือนกันครับ ผมจะพยายามเชื่อ แต่ผมจะเรียกคุณว่าอะไรดี”
“อืม...ผมมีรหัสสั้นๆว่า ‘เปา’ ครับ ส่วนอี้ชิงมีรหัสว่าเลย์ และผู้ที่พาคุณไปคือ มิสเตอร์ดี”
คริสพยักหน้า คงขี้เกียจเถียงกับพี่แกเลยปล่อยให้เลย์ประคองขึ้นรถ แต่จะว่าไปความบ้าบอๆของพี่มินซอกทำให้บรรยากาศภายในรถดีขึ้น เริ่มมีเสียงคุยกันเบาๆ ขนมและน้ำถูกนำมาแจกจ่ายแก่กัน รถค่อยๆมุ่งหน้าไปสนามบิน อย่างไม่รีบร้อน
ไม่นานทั้งหมดก็พากันขึ้นเครื่องไป ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย... และเช้ารถขับต่อ...
“งั้นมิสเตอร์ดี จอดร้านข้างหน้านั่น... เฮ้ยๆๆ ไม่ดีๆๆ แปลี่ยนร้านๆๆ”
พี่มินซอกร้องซะเสียงหลง เล่นเอาเลย์หันไปมองข้างหลัง นึกว่าใครตามมา แต่ไม่ใช่
“ไปร้านโน้นดีกว่า มีป้าบรับประกันความอร่อย สะอาดด้วย -.- ”
... =_____= ไอ้เราก็นึกว่าอะไร โถ่ว! ไอ้เรื่องกินนี่ยกให้พี่แกเลยยยยยย
ว่าแล้วมิสเตอร์ดีอะไรนั่นก็จอดรถตามที่พี่มินซอกบอกไว้ เลย์พยุงคริสออกมาจากรถ จากนั้นมิสเตอร์ดีก็เอารถไปจอดซุ่มไว้ที่ไหนซักที่
ทั้งพี่มินซอก ทั้งลุงมิสเตอร์ดีก็เล่นทำท่าเหมือนตำรวจกันจริงจัง จนทำให้เลย์ ‘เริ่มอิน’ ไปด้วย พอกลับมารวมกัน มหกรรมการสรรหากินก็เริ่มขึ้น
ทุกคนสั่งหมดแล้วยกเว้นพยานที่ยังไม่ได้สั่ง เพราะไม่รู้เมนูของอาหาร
“...ผมยังไม่รู้เมนูอาหารเลย..”
“อ้อ...” พี่มินซอกสาธยายเมนูอาหารทั้งหมดของร้าน
“ผมขอ...ไก่ตุ๋นโสมแล้วกันครับ”
พี่มินซอกจัดแจงหันไปสั่ง แล้วหันกลับมาเบิ๊ดกะโหลกเลย์เต็มแรง
“มึง เอ๊ย! แกเป็นคนดูแลคุณคริสนะก็ต้องมีหน้าที่ดูแลสิ มีอะไรกินแกก็ต้องบอก ต้องอธิบายให้คุณคริสฟังสิ!”
เลย์ทำหน้าม่อย เถียงอยู่ในใจฉอดๆๆ ...ก็คนไม่เคยนี่หว่า ไม่ได้จบพยาบาลมาด้วย แน่จริงก็มาดูแลเองเด้ โด่วๆๆๆ
เหมือนพี่แกจะได้ยินหันมาซ้ำอีกที ทำเอาเลย์หน้าหุบเลยทันที พี่มินซอกหันไปสนใจอาหารที่เพิ่งเอามาเสิร์ฟแทน จัดแจงเตรียมให้คริสอย่างดี เลย์ทำได้แค่ทำหน้าเซ็งพยักหน้าหงึกๆๆๆ
“จำไว้ด้วยไม่ใช่พยักหน้าอย่างเดียว” หันมาแว๊ดใส่เลย์แล้วหันไปคนป่วย “คุณคริสขาดเหลืออะไรบอกนะครับ”
เลย์คิดอยู่ในใจ มองพี่มินซอกป้อนอาหารให้คริสจนหมด สลับกับของพี่แกด้วย พี่แกทำได้ไงวะ? ป้อนไปด้วยกินของตัวเองแถมเบิ้ลสามด้วย ...เมพฝุดๆ!
แล้วคริสยังต่อด้วยขนมหวานอีกด้วย แต่คราวนี้พี่มินซอกหันมาจิกสายตา บีบคอให้เลย์หัดป้อน พอทำๆไปก็ง่ายดีเหมือนกัน คุณคริสก็กินอะไรง่ายๆ ไม่เรื่องมาก ดูๆ ก็ไม่มีปัญหา
...แต่ปัญหามันอยู่ที่นายพยาบาลที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะนี่สิ เกิดมาก็ไม่เคยต้องมาป้อนอะไรใครขนาดนี้เลย ถ้าเป็นขว้างใส่น่ะบ่อยเลย...
...ผู้ชายอะไร ตัวหอมจัง -/////-
ออกจากร้านอาหารได้ไม่นานก็ขับลัดเลาะ ระหว่างทาง ‘นายพยาบาท’ ทำท่าจะหลับ แต่มินซอกก็หันมาเบิ๊ดอีกที แล้วแว๊ดใส่
“เอ๊า! ทำไมอ่ะ??” เลย์ทำหน้าเมื่อย การดูแลคนป่วยมันไม่สนุกเลย ให้ตาย!!
“แกต้องบอกคุณคริสด้วยว่าถึงไหนแล้ว ไม่ใช่นั่งสัปหงก อย่างน้อยๆก็บรรยายสภาพแวดล้อมหรือเส้นทางให้คุณคริสฟังบ้าง”
“แกลองคิดดูบ้างว่า ถ้าต้องมานั่งในรถที่มืดตลอดเวลา มีใครคอยบอกว่ามีอะไรๆ ผ่านไปบ้าง ระรู้สึกดีขนาดไหน”
เลย์พยักหน้าช้าๆ หันมองไปนอกรถเริ่มบรรยายบรรยากาศข้างทางช้าๆ...
“เอ่อ...อา....ข้างหน้ามีต้นไม้ ...เลยไปอีกก็ต้นไม้อีก ...มีรถสวนมา ...มีคน ...มีหมา ...แล้วก็มีต้นไม้อีก ...คน”
คริสอมยิ้มน้อยๆกับการบรรยายที่ดูทื่อๆนั่น แต่มินซอกไม่! ทำหน้าเหมือนซาลาเปาแตกตัว พร้อมที่จะระเบิดใส่หน้าเลย์ได้ในทันที
“เวรกรรมแท้ๆ ...ไอ้เลย์ ไปบอกว่าอยากเป็นนักประพันธ์ บรรยายได้โคตรจะห่วยแตก! ทื่อสุดๆ บรรยายอย่างแกให้บรรยายถังขยะเปียกยังยากเลยว่ะ!”
“โด่ว! ไม่ยากๆ ...คุณคริสครับตอนนี้เรากำลังเดินไปที่พักเกาะเชจูค่ะ ข้างทางรายล้อมไปด้วยธรรมชาติค่ะ ฝั่งทางขวามีร้านขายขนมด้วยนะคะ น่าจะเป็นเบเกอรี่เหมือนบ้านเลย์ เลยถนนสายนี้ไปก็จะมองเห็นทะเลไกลๆ มีโขดหินเรียงรายอยู่เต็มไปหมด...”
บลาๆๆๆ พี่มินซอกตั้งใจอธิบายให้คนมองไม่เห็นฟัง เลย์พอฟังไปด้วยก็คล้อยตามมินซอกไปอีกคน และยังจอดซื้อขนม ข้าวของ เครื่องใช้ และผลไม้เต็มไปหมด
ตลอดทางพี่มินซอกยังคงบรรยายบรรยากาศข้างทางให้คนป่วยฟัง โดยมีมิสเตอร์ดีแทรกเป็นระยะๆ ...สรุป ไอ้เลย์ไม่ได้เรื่องอะไรเลยนอกจากนั่งกินขนม
จนรถมาจอดที่บังกะโลหลังขนาดย่อม ปลูกเป็นแนวมากกว่าสิบหลัง พี่มินซอกลงไปเจรจากับเจ้าของอย่างจริงจัง ซักพักพี่แกก็ชี้ไปบังกะโลริมสุด มิสเตอร์ดีก็ขับรถไป
“ต่อรองราคาเรียบร้อยแล้ว ...แกอยู่ที่นี่ไปก่อนหนึ่งอาทิตย์ ถ้าท่าทางไม่ดีค่อยขยับขยาย ส่วนอาหาร เจ้าของเค้าจะจัดนำมาส่ง ให้ให้ไอ้เลย์จัดการ คุณคริสผอมตายแน่ๆ”
พอหันไปมองคนตัวสูงเก้งๆ กังก็ตกใจ ร้องเสียงหลง
“คุณคริส ...อ้าว! ...ไม่ได้นั่งเหรอครับ?”
พี่มินซอกหันมาบีบคอเลย์ที่ทำหน้าตาเด๋อด๋า แถมประเคนมะเหงกเขกหัวไปอีกหนึ่งที
“ไอ้เลย์! ทำไมไม่พาคุณคริสไปนั่งห๊า!!? หนอย! ตัวเองนั่งสบายเชียวนะ!”
เลย์หน้ายุ่ง ไม่กล้าพูดด้วยว่าให้คริสคลำทางขึ้นมาเอง ดีนะบังกะโลบังมีบันเตี้ยๆ ห้าขั้น เลยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่งั้นคงโดนหนัก เพราะหน้าตาพี่แกบ่งบอกว่าโรธจริงๆ
พี่มินซอกเดินจูงคนป่วยมานั่งลงเก้าอี้ที่ดูสบายที่สุด บังกะโลนี้แม้จะเก่าไปนิดนึง แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน น่าอยู่ มีระเบียงกว้างพร้อมเก้าอี้นอน ส่วนด้านในแบ่งเป็นสามห้อง มีห้องนอนและห้องน้ำในตัวสองห้อง กับห้องนั่งเล่น มีโต๊ะอาหาร เก้าอี้ยางข้างหน้าต่าง พร้อมตู้เย็นและทีวี
มินซอกอธิบายให้คริสไปพลาง ก็ส่งสายตา ‘ด่า’ นายพยาบาลไปพลาง
เลย์ไม่สนใจสายตาพิฆาต หันไปเปิดทีวีทันที มินซอกเดินสำรวจห้องนอนและเลือกให้ห้องซ้ายมือเป็นของคริส แกกับมิสเตอร์ดีช่วยกันขนของเข้าห้องจัดออกจากกระเป๋าให้ผู้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ทิ้งในนายพยาบาลอยู่กับคนป่วยตามลำพัง ...เลย์มองหน้าหล่อตาเขียวออกแววไม่พอใจนิดนึง ความจริงก็ไม่นิดนะ คริสถอดแว่นกับหมวกใบใหญ่ออกเผยให้เห็นหน้าหล่อเหลาชัดเจน แต่ ณ เวลานั้นเลย์ไม่มีอารมณ์มานั่งเคลิ้มกับหน้าหล่อๆหรอกนะ!
ในห้องเหลือสองคน คนหนึ่งคือคนที่ถูกด่า อีกคนคือต้นเหตุทำให้โดนด่า...
จะว่าอะไรมั้ย? ถ้าเลย์จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเค้านิดๆ...
บางทีมันก็ไม่นิดนะ ...น่าหมั่นไส้ด้วย!!
TBC.
มาลงตอนที่สองเพิ่มแล้ว อี้กับเฮียคริสยังไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย
แต่พี่หมินจัดเต็มอ่ะ อยากจะบอกว่าพี่หมินมีสามีแล้วเด้อ
สามีพี่หมินคงรู้นะว่าใคร ?? อิอิ
เค้าดีใจอ่ะแก มีคอมเม้นเพิ่มมาแล้ว กรี๊ดๆ
:) Shalunla
ความคิดเห็น