ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : PART 8 .COINTREAU. 100%
PART 8 .COINTREAU.
แบคฮยอนก้มหน้าแขนเล็กยกขึ้นดันอีกคนออกไป แต่คนตัวสูงก็มีแรงมากกว่า ทำให้การดันไม่เป็นผล...
"อื้อ.. ขึ้นแล้วๆ.." เปล่งเสียงออกมาทั้งๆที่หน้าก็ยังก้มอยู่.. คนมันอายนิ!
"ยอมตั้งแต่แรกก็จบ" พูดเสร็จก็ปล่อยอีกคนออก ร่างบางไม่รอช้ารีบพาตัวเองเข้าไปในรถ พร้อมกับกอดอกไว้ จนร่างสูงต้องยกยิ้มให้ความน่ารักของอีกคน.. ปิดประตูให้คนขี้งอนแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วขึ้นรถไป
ร่างสูงขึ้นรถมาก็กะจะมาง้อคนขี้งอนให้หายก่อนแต่พอขึ้นรถมาไม่ถึงนาทีเสียงโทรศัพท์ มองดูหน้าจอก็กดปิดไปทันที คนที่โทรมาก็ตัวการที่ทำให้ผมกับเขาทะเลาะกันไงละ!.. 'เอมมี่' เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องผมเองหละ เขาบอกว่าเขาอยากเห็นตัวการที่ทำให้ผมไปทำงานที่ผับทุกวัน ผมก็ให้รูปเขาดูแล้วแต่เขาอยากมาดูด้วยตาตัวเองแล้วก็สร้างแผนให้นาบีหึง ถ้าหึงแสดงว่ามีใจหน่อยๆใช่ป่ะละ..
แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะไปยั่วพนักงานชายคนนั้นกัน
"ไม่รับโทรศัพท์หรอ.."
"....." ชานยอลเงียบและเสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่
"รับก็ได้นะ" เสียงติดเหวี่ยงนิดๆ ใบหน้าหวานมองออกไปนอกหน้าต่าง แทบไม่ต้องคิดถึงสถานการณ์ข้างหน้าว่าถ้ารับแล้วสภาพของปาร์คชานยอลจะเป็นเช่นไร..
"ทำไมต้องรับ"
"เผื่อเขาอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้.."
"ไม่รับ.."
"รับไปเหอะน่า! ฉันรำคาญเสียงโทรศัพท์นายแล้วนะ!"
"ฮัลโหล"
[เป็นไงบ้าง?] เสียงลูกพี่ลูกน้องตัวแสบดังลอดออกมานิดหน่อยทำให้ชานยอลต้องเหลือบตามองคนข้างกาย
"ก็..ไม่ค่อยดี"
[ฮิฮิ ง้อให้ได้นะ ตู๊ดดดด] วางสายไปเฉยๆเสียอย่างนั้น ร่างสูงหันกลับมามองคนข้างกายอีกครั้ง
"คุยเสร็จแล้วรึไง?" ใบหน้าหวานหันมาปะทะสายตากับอีกคน
"อืม.."
"..."
"นี่..โกรธรึไง?"
"อะไร? เปล่า!"
"เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง" พูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับได้สายตาขุ่นขวางจากอีกคน
"ไม่ได้ถามสักหน่อย!" เมินหน้าหนีอายๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงอ่อนๆอย่างน่ารัก..และน่าฟัด
มือหยาบเอื้อมขึ้นไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มสีแดงที่ย้วยออกมาด้วยความหมั่นเขี้ยว คนอะไรน่ารักน่าฝัดขนาดนี้..
"งื้อออ อย่าหยิก.." บอกด้วยน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยังน่ารักในสายตาปาร์ค ชานยอลอยู่ดี
"พูดดีๆแล้วจะหยุด.." พูดด้วยเสียงที่ดูจะดุอยู่ไม่น้อยแต่จริงๆในใจยิ้มอยู่ มือยังคงหยิบแก้มนุ่มนิ่มนั่นอยู่แต่ก็ยังคงความถนอมเอาไว้..
แบคฮยอนกำลังชั่งใจว่า..
เขาจะพูดหรือไม่พูดดี..
สุดท้าย..
"งื้อ.. ชานปล่อยเค้านะ.." ตอบกลับด้วยเสียงที่โคตรน่าฟัด พร้อมกับคำแทนตัวเองที่น่ารักมากๆ ทำเอาปาร์ค ชานยอลแทบหายใจไม่ทัน
"...." คนที่สั่งให้พูดหวานๆชะงักไปสักพักมือยังคงค้างอยู่ที่แก้มอีกคน
"ชะ.."
ยังพูดไม่ทันจบประโยคริมฝีปากของร่างสูงก็ประทับริมฝีปากลงรอยเดิมที่ติดอยู่ในใจ ริมฝีปากร้อนดูดดึงริมปากเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว ลิ้นหยาบถูกส่งเข้าไปภายในโพร่งปากเล็กที่ไม่ว่าจะจูบกันกี่ที่มันก็ยังคงหวานเสมอ..
"อื้ออออ"
เสียงหวานร้องท้วงอีกคนในลำคอเนื่องจากอากาศเริ่มจะหมด อีกคนจึงถอนริมฝีปากออกแล้วหันไปขับรถออกจากร้านอาหารพร้อมกับพูดเบาๆ แต่กลับทำให้คนตัวเล็กกลับมาหน้าแดงอีกครั้ง
"ทำไมชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย.."
รถปอร์เซ่สีขาวถูกขับมาจนถึงคอนโดแบคฮยอน ร่างสูงบอกขอโทษที่ไม่สามารถขึ้นไปส่งร่างบางข้างบนเพราะมีเรื่องต้องไปเคลียร์กับครอบครัวสักหน่อยซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ขับรถมาส่งก็มากพอแล้วละสำหรับเขา
หลังจากที่แยกกับชานยอล แบคฮยอนก็กดลิฟขึ้นไปยังชั้นของตัวเองไขกุญแจเข้าไปในห้องก็พบกับบุคคลที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ.. บุคคลที่หายไปเกือบสิบปี
"อะ ..โอเซ..ฮุน" เสียงหวานเอ่ยชื่ออีกคนออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับเสียงลม.. ร่างสูงตรงหน้านี้โอเซฮุนจริงๆหรอ?..
หายไปแล้วก็หายไปเลยสิ กลับมาทำไมกัน..
คนถูกเรียกก็ยกยิ้มมุมปากถ้าเป็นเมื่อก่อนแบคฮยอนคงคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้แล้วเดินไปตบหัวอีกคนเป็นว่าเล่น แต่สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว.. ทำไมนะหรอ?
ก็โอเซฮุน..เคยเป็นเพื่อนสนิทกับแบคฮยอนสมัยตอนอยู่ม.ปลาย สนิทกันมากไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนความรู้สึกต่างๆของทั้งสองเริ่มแปรเปลี่ยน.. ไม่แน่ใจว่าเป็นความรักได้รึเปล่า.. หรือแค่ความผูกพันธ์.. แต่แบคฮยอนคิดว่าเซฮุนคงไม่หักหลังกัน.. จริงๆก็ไม่รู้สิ่ว่าจะเรียกว่าหักหลังได้รึเปล่า แต่เขาว่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกเจ็บปวดสุดๆเลยละ..
เพราะ..อยู่ดีๆผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนก็หายจากชีวิตของแบคฮยอน.. ไม่มีการติดต่อมาหากันสักอย่างทั้งโทรศัพท์หรืออีเมลหรืออะไรต่างๆ ไม่มีเลย.. แบคฮยอนพยายามทุกๆทางแต่ไร้วี่แววว่าจะได้พบกับโอเซฮุน จนกาลเวลาเริ่มทุกให้เขายุ่งจนไม่มีเวลาได้ใส่ใจและลืมเรื่องนี้ไปในที่สุด.. มีเพียงรูปภาพ หนังสือรุ่นและความทรงจำเกี่ยวกับคนๆนี้เท่านั้น
"นาย..กลับมาทำไม?"
"ไปปาร์ตี้แฟนซีมาหรอ.." ร่างสูงกลับตอบไม่ตรงคำถามและส่งยิ้มอ่อนๆมาให้
"แฟนซีมากเลยล่ะ.." พึมพำเสียงเบาก่อนจะเดินผ่านร่างสูงเข้าไปในห้องนอนแต่กลับมีวงแขนหนาโผเข้ากอดจากด้านหลัง..
..ทำเอาแบคฮยอนแทบหยุดหายใจ..
"คิดถึง..." สองคำง่ายๆที่โอเซฮุนอยากพูดมากที่สุดให้คนนี้..
"...."
"ขอโทษ.." สองคำสั้นๆที่เขาต้องการบอกให้คนเดิมฟัง..
"ปล่อย.." ร่างเล็กกัดฟันพูดด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างถาโถมเข้ามาในสมอง ขอบตาเรียวสวยเริ่มร้อนผ่าว..
"ฮุนขอโทษ.."
"...."
"แบคจะทุบจะตีฮุนก็ได้.."
"..."
"ฮุนขอแค่แบคกลับมา.."
"ทำไมเพิ่งโผล่มาเอาป่านนี้.."
ทำไมถึงกลับมาทั้งๆที่เราลืมนายไปแล้วแท้ๆ..
"..."
"มันสายเกินไปแล้ว.."
"...."
"ฮึก.. สายเกินไปสำหรับเราสองคน.." แบคฮยอนกำลังกลั้นเสียงน้ำตาที่กำลังไหลรินผ่านพวงแก้มใส..
"ฮุนขอแค่โอกาศ.."
"..กลับไปก่อนเถอะ.."
"แต่บะ.."
"ฮุนจะให้เราทำใจได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงหรอ..
จะใจร้ายเกินไปแล้วนะ.."
"..."
"กลับไปเถอะฮุน.."
เสียงวิงวอนของร่างบางส่งผลให้มือที่กอดอยู่ค่อยๆคลายออกจนแบคฮยอนสามารถหลุดออกจากอ้อมกอดนั้นมาได้.. เมื่อร่างสูงยอมที่จะปล่อยให้ใครอีกคนเป็นอิสระคนตัวเล็กก็วิ่งหนีเข้าไปภายในห้องของตัวเองทันที..
สิ่งที่เสียไปหรือสิ่งที่เราเลือกที่จะจากมา ไม่มีสิ่งไหนจะหวนกลับคืนมาได้ง่ายๆ.. กาลเวลาทำให้จิตใจคนเราเข้มแข็งก็จริงแต่กว่าจะสามารถก่อตัวขึ้นมาได้มันไม่ใช่ภายในพริบตาและมันก็พร้อมจะพังทลายลงมาได้ไม่ยาก บางครั้งเราคิดว่ากำลังที่เราสร้างไว้สูงพอ แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานกับพายุที่โหมกระหน่ำได้
..สุดท้าย เรากลับคิดผิด..
กาลเวลาสอนให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเราเองแต่ ..ไม่ได้สอนว่าเราควรจะรับมือกับความเจ็บปวดเช่นไร..
ร่างสูงที่กำลังยืนเป็นเพื่อนสนิทกับความเว้งว้างอยู่หน้าห้องนอนของคนตัวเล็กด้วยความเจ็บปวดที่กำลังเคลื่อนตัวกัดกินหัวใจของเขาทีละนิด.. ทีละนิด..
มีเพียงคนเดียวที่ทำให้โอเซฮุนป็นแบบนี้ ทำใหเขาเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้... ทั้งๆที่เป็นคนที่ไม่เคยสนใจใคร แต่กับคนๆนี้เขาแคร์มากกว่าทุกคน.. เพียงคนเดียวจริงๆ.. 'บยอน แบคฮยอน'..
TALK
เย้!! คิดถึงฟิคดื่มกันมั๊ยเอ๋ยยยยย ... ขอโทษที่หายไปนานมากก ToT ในที่สุดตอนนี้ก็เต็ม 100!!
ถ้าชอบติดแท็คกันด้วยนะเออ #ฟิคดื่ม
ขอบคุณที่ติดตามฟิคเรื่องนี้นะค้าาา -////-
:) Shalunla
เหตุผลของการทะเลาะก็มีไม่ มากหรอกครับ
หึง..
หวง..
ห่วง..
อยู่ที่ว่าเขาจะแสดงออกยั งไงมากกว่า.. แต่ตอนนี้บยอนแบคฮยอนกำลังรู้สึ กอยากจะลุกขึ้นไปตบผู้หญิ งตรงหน้าจริงๆ ถ้าไม่คิดว่าอยากจะเป็นกุลสตรี แล้วก็ยังมีหัวอกลูกผู้ชายอยู่ นะ สาดน้ำใส่หน้าที่โป๊ะแป้งมาเป็ นชั้นจนวอกไปแล้วละ!เอาให้เป็ นละครหลังข่าวไปเลยดีมั๊ย?
เรื่องมันมียังไงนะหรอ.. ผู้หญิงหน้าวอกนี่มานั่งตรงข้ ามผมได้ยังไง? แล้วตอนที่อยู่บนรถผมเสียตั วในรถมั๊ย? ผมจะค่อยๆตอบนะครับ ..
บอกเลยว่าในรถไม่ได้มีอะไรเกิ นเลยไปมากกว่าจูบ ซึ่งบางทีผมก็เผลอไปเหมือนกัน บางทีผมก็มีอารมณ์นะแต่ผมต้ องหยุดมันไว้เพราะที่ผมทำอยู่มั นคืองาน.. จบงานนี้ไปผมกับเขาก็ไม่ได้ เจอกันแล้วเพราะเมื่อผมได้เงิ นค่าจ้างมารวมกับเงินที่ ผมสะสมมามันเพียงพอที่ทำให้ ผมทำอะไรได้หลายๆอย่าง ซึ่งผมกะจะไปเรียนด้านดีไซด์ที่ เมืองนอกสักสองสามปี ... หลายคนคงสงสัยว่าทำไมไม่ขอเงิ นพ่อแม่เอา? คำตอบเลยคือ ทำไมผมต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ทั้ งๆที่ผมก็มีมือมีเท้ าทำงานเองได้แล้ว มีวุฒิภาวะพอที่จะทำงาน ผมไม่อยากให้พวกท่านต้องคอยเหนื ่อยกายเหนื่อยใจไปมากกว่านี้.. ผมเป็นเด็กดีใช่มั๊ยครับ~
มาเรื่องเจ๊หน้าวอกที่ทำตัวเป็ นปลิงเกาะชานยอลอยู่ เมื่อผมกับชานยอลมาถึงร้ านอาหารหรูสไตล์อิตาลี ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่าชานยอลเขาใช้ เส้นมาเพื่อให้ได้โต๊ะในคืนนี้ จริงๆผมกินอาหารข้างทางก็ยังได้ แต่เขาอยากเลี้ยงผมก็ไม่ขัดอะไร ตอนแรกที่โต๊ะอาหารมีเพียงแค่ เก้าอีสองตัวคือของผมกับชานยอล เราสั่งอาหารกันอยู่ดีๆก็มีเจ๊ หน้าวอกปากแดงเดินตรงเข้ามาทั กชานยอล ซึ่งผมคิดว่าเขาจะคุยด้วยแล้ วเขาจะกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง..
แต่เปล่าเลย.. เขาลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้ างๆชานยอล..
..อึ้งเลยสิ่ครับ..
เพื่อนของเขาก็มาเรียกให้ไปที่ โต๊ะหลายรอบแล้วก็ไม่ไป.. ชานยอลก็ไม่ยอมปฏิเสธยัยนั้นสั กที ทุกที่ไม่เห็นจะเกรงใจใครเลยนิ่ ! แล้วพอมาผู้หญิงคนนี้ ไปเกรงใจเขาทำไม?
แล้วแบบนี้...ผมควรทำไงดีละ? ยั่วบริกรชายสักคนเบาๆแก้เบื่ อก็น่าจะดีเหมือนกันนะ..
"ชานยอลคะ พาเอมมี่ไปห้องน้ำหน่อย"
ยัยปลิงนามว่าเอมมี่! พูดเสร็จก็เอามือเกี่ ยวแขนชานยอล พร้อมกับนมที่ถูไปมาราวกับจะยั่ ว เสียงที่เหมือนจะเมา .. แต่ขอโทษครับ..
ร้านนี้ไม่ขายเหล้า.. มาผิดที่รึเปล่าครับน้อง..
"ทำไมเอมมี่ไม่ไปเองละครับ"
ทำเสียงแบบนั้นให้ท่าเขาชั ดๆเลยนะ! หึย จากที่จะยั่วพนักงานชานเบาๆ ขอจัดหนักเลยได้ไหม? ไม่รู้สกีลในการยั่ วของบยอนสะแล้ว..
"เอมมี่ไปไม่ไห.."
"น้องคะ..! พี่ขอสั่งอาหารหน่อยค่ะ"
ขอขัดจังหวะหน่อยนะตัวเอง.. ผมเรียกพนักงานที่หน้าตาหล่ อใบหน้าคมคาย สีผมสีดำ ออกแนวค่อนไปทางลูกครึ่งนิดหน่ อย..
"กินอีกแล้วหรอ.. เดี๋ยวก็อ้วนหรอก"
"คุณผู้หญิงรับอะไรดีครับ.."
ปาร์ค ชานยอลยุ่งอะไรด้วยเล่า! ท้องก็ท้องผม! ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเขาแต่ หันไปหาพนักงานหน้าหล่อที่ยิ้ มให้ผมอยู่..
"ขอเมนูหน่อยคะ.."
"อ่า.. คะ ..ครับ"
พูดเสร็จผมก็ส่งรอยยิ้มที่ หวานสุดๆให้เขาเคลิมเบาๆ.. ผมใช้หางตามองชานยอลแค่เสี้ ยววินาที แววตาเขาออกแนวโมโหเล็กๆแล้วละ. . แต่มันก็ยังไม่มากพอให้เขาปฎิ เสธผู้หญิงข้างๆ!
เล่นแบบนี้ใช่มั๊ยปาร์ค ชานยอล..
พนักงานชายคนเดินกลับมาพร้ อมเมนูเล่มสีน้ำตาลแดง เขายื่นเมนูให้ผม ผมรับมันมา.. มีเราโดนกันนิดนึง เชื่อผมสิ่ผมไม่ได้ตั้ งใจหรอกนะ.. แค่บังเอิญจริงๆ...
พนักงานคนนั้นสีหน้่เขาดู ตกใจอยู่ไม่น้อยเลยละ ผมยิ้มหวานใส่เขาเพื่อจะบอกว่ าไม่เป็นไร.. ผมสั่งสปาเก็ตตี้คาโบนาร่ าไปจานหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าผมจะกินไหว แต่ค่อยห่อกลับบ้านก็ได้นี่ เมื่อพนักงานรับออร์เดอร์ จากผมเสร็จก็ทวนรายการอาหารให้ ฟังอีกครั้ง..
"เอ่อ.. คาโบนาร่าแอมเบคอนที่หนึ่งนะครั บ.."
"ค่ะ.. เอ่อ น้องคะ.."
"คะ .. ครับ?"
"ห้องน้ำไปทางไหนหรอคะ.." ..ถามเสร็จตบด้วยรอยยิ้มหวานอี กที..
"อะ เอ่อ.... ทางนั้นครับ..."
"ตรงไหนอ่า..ช่วยพาไปหน่อยได้มั ้ยคะ"
กัดปากตัวเองเพื่อยั่วอีกฝ่ ายเบาๆก่อนจะหันไปมองร่างสูงฝั่ งตรงข้ามที่กำลังจ้องมาตาเขม็ง หึ รู้ฤทธิ์ของ บยอนแบคฮยอนน้อยไปรึเปล่า?
"ดะ..ได้ครับ"
พนักงานหน้าหล่อคนนั้นเดิ นนำทางไป ผมเลยรีบเดินตาม เอ..ต่อไปยังไงดีนะ สะดุดรองเท้าล้มอะไรแบบนี้..
ฟึ่บ!
แหม..มันล้มเองนะ บังเอิญมากๆ ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ..
"คุณ!..เป็นอะไรมั้ยครับ!?" พนักงานคนนั้นรีบคว้ าเอวผมมากอดไว้ก่อนจะถามด้วยสี หน้าตกใจปนเป็นห่วง
หืม.. คว้าเอวมากอดหรอ?
มันก็..เกินความคาดหมายไปนิด จะบอกว่าเขินมั้ยมันก็นิดหน่อย แต่มันมีเรื่องน่าตกใจมากกว่ าตรงที่ปาร์คชานยอลหันมามองพอดี นี่สิ.. แล้วก็กำลังลุกมาหาผมด้วยสินะ เหอะ เห็นยัยผู้หญิงหน้าเหวอไปเลยล่ะ
"เกิดอะไรขึ้น.."
"สะดุดล้มนิดหนะ..อ้ะ!"
ย๊า! ชานยอลบ้าไปแล้ว นี่เขาดึงผมออกจากพนักงานคนนั้ นก่อนจะอุ้มผมในท่าเจ้าสาวพาเดิ นออกนอกร้าน!
ถามว่าอายมั้ย? นี่โคตรอายอ่ะ! ถามความสมัครใจผมก่อนดีมั๊ย! เขาอุ้มผมออกมาแล้ววางผมลงบนพื้ นบริเวณที่รถปอร์เซ่สีขาวจอดอยู ่.. เขาเปิดประตูให้ผมเข้าไป แต่ผมไม่เข้า ผมยืนกอดอกอยู่หน้าประตูรถ
"ขึ้นรถ.." เขากดเสียงลงราวกับกำลังข่ มความโมโหไว้
เดี๋ยวนะ! ผมควรจะโมโหเขาสิ่!..
"ไม่ขึ้น!"
"จะขึ้นดีๆหรือ.."
เขาพูดโดยเว้นช่วงไว้เหมื อนการต่อคำปริศนา แต่.. ตัวเขาดันขยับมาจนหลังผมไปชนกั บประตูรถที่ถูกเปิดไว้.. ผมแอบเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ ในดวงตาเขา ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
"..."
"หรือ... ต้องให้ฉันจูบจนหมดแรงแล้ วคลานขึ้นรถ"
{ .COINTREAU. }
ใบหน้าคมคายของร่างสูงเลื่อนลงมาเรื่อยๆ นัยน์ตาโตจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวสวยราวกับสะกดทุกอย่างให้คนตรงหน้าหยุดมองแค่คนๆเดียว.. ปลายจมูกทั้งสองชนกันไม่มีเสียงท้วงห้ามให้หยุดของร่างบาง ..ก็ไม่มีการหยุดการกระทำ.. ริมฝีปากสมบูรณ์ราวกลีบกุหลาบประทับลงบนริมฝีปากเล็กสีชมพูดูนุ่มนวลชวนลิ้มลอง บดเบียดจูบลงไปเพิ่มความร้อนแรงด้วยการส่งลิ้นหยาบเข้าไปเชยชิมความหอมหวานจากโพรงปากเล็กแลกความหอมหวานกันไปมา เขาปราถนาที่จะเป็นเพียงชายคนเดียวที่ได้ครอบครองของล้ำค่าที่อยู่ตรงหน้า มือหยาบเกี่ยวรั้งท้ายทอยอีกคนปรับองศาการจูบให้พอดีหรือเป็นการย้ำใจว่าไม่อยากให้จากไปไหนดูดดึงริมฝีปากเล็กจนน้ำสีใสเลอะที่มุมปาก ร่างสูงถอนจูบอย่างช้าๆใช้ริมฝีปากตัวเองเช็ดน้ำสีใสออก..
แบคฮยอนก้มหน้าแขนเล็กยกขึ้นดันอีกคนออกไป แต่คนตัวสูงก็มีแรงมากกว่า ทำให้การดันไม่เป็นผล...
"อื้อ.. ขึ้นแล้วๆ.." เปล่งเสียงออกมาทั้งๆที่หน้าก็ยังก้มอยู่.. คนมันอายนิ!
"ยอมตั้งแต่แรกก็จบ" พูดเสร็จก็ปล่อยอีกคนออก ร่างบางไม่รอช้ารีบพาตัวเองเข้าไปในรถ พร้อมกับกอดอกไว้ จนร่างสูงต้องยกยิ้มให้ความน่ารักของอีกคน.. ปิดประตูให้คนขี้งอนแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วขึ้นรถไป
ร่างสูงขึ้นรถมาก็กะจะมาง้อคนขี้งอนให้หายก่อนแต่พอขึ้นรถมาไม่ถึงนาทีเสียงโทรศัพท์ มองดูหน้าจอก็กดปิดไปทันที คนที่โทรมาก็ตัวการที่ทำให้ผมกับเขาทะเลาะกันไงละ!.. 'เอมมี่' เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องผมเองหละ เขาบอกว่าเขาอยากเห็นตัวการที่ทำให้ผมไปทำงานที่ผับทุกวัน ผมก็ให้รูปเขาดูแล้วแต่เขาอยากมาดูด้วยตาตัวเองแล้วก็สร้างแผนให้นาบีหึง ถ้าหึงแสดงว่ามีใจหน่อยๆใช่ป่ะละ..
แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะไปยั่วพนักงานชายคนนั้นกัน
"ไม่รับโทรศัพท์หรอ.."
"....." ชานยอลเงียบและเสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่
"รับก็ได้นะ" เสียงติดเหวี่ยงนิดๆ ใบหน้าหวานมองออกไปนอกหน้าต่าง แทบไม่ต้องคิดถึงสถานการณ์ข้างหน้าว่าถ้ารับแล้วสภาพของปาร์คชานยอลจะเป็นเช่นไร..
"ทำไมต้องรับ"
"เผื่อเขาอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้.."
"ไม่รับ.."
"รับไปเหอะน่า! ฉันรำคาญเสียงโทรศัพท์นายแล้วนะ!"
"ฮัลโหล"
[เป็นไงบ้าง?] เสียงลูกพี่ลูกน้องตัวแสบดังลอดออกมานิดหน่อยทำให้ชานยอลต้องเหลือบตามองคนข้างกาย
"ก็..ไม่ค่อยดี"
[ฮิฮิ ง้อให้ได้นะ ตู๊ดดดด] วางสายไปเฉยๆเสียอย่างนั้น ร่างสูงหันกลับมามองคนข้างกายอีกครั้ง
"คุยเสร็จแล้วรึไง?" ใบหน้าหวานหันมาปะทะสายตากับอีกคน
"อืม.."
"..."
"นี่..โกรธรึไง?"
"อะไร? เปล่า!"
"เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง" พูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับได้สายตาขุ่นขวางจากอีกคน
"ไม่ได้ถามสักหน่อย!" เมินหน้าหนีอายๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงอ่อนๆอย่างน่ารัก..และน่าฟัด
มือหยาบเอื้อมขึ้นไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มสีแดงที่ย้วยออกมาด้วยความหมั่นเขี้ยว คนอะไรน่ารักน่าฝัดขนาดนี้..
"งื้อออ อย่าหยิก.." บอกด้วยน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยังน่ารักในสายตาปาร์ค ชานยอลอยู่ดี
"พูดดีๆแล้วจะหยุด.." พูดด้วยเสียงที่ดูจะดุอยู่ไม่น้อยแต่จริงๆในใจยิ้มอยู่ มือยังคงหยิบแก้มนุ่มนิ่มนั่นอยู่แต่ก็ยังคงความถนอมเอาไว้..
แบคฮยอนกำลังชั่งใจว่า..
เขาจะพูดหรือไม่พูดดี..
สุดท้าย..
"งื้อ.. ชานปล่อยเค้านะ.." ตอบกลับด้วยเสียงที่โคตรน่าฟัด พร้อมกับคำแทนตัวเองที่น่ารักมากๆ ทำเอาปาร์ค ชานยอลแทบหายใจไม่ทัน
"...." คนที่สั่งให้พูดหวานๆชะงักไปสักพักมือยังคงค้างอยู่ที่แก้มอีกคน
"ชะ.."
ยังพูดไม่ทันจบประโยคริมฝีปากของร่างสูงก็ประทับริมฝีปากลงรอยเดิมที่ติดอยู่ในใจ ริมฝีปากร้อนดูดดึงริมปากเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว ลิ้นหยาบถูกส่งเข้าไปภายในโพร่งปากเล็กที่ไม่ว่าจะจูบกันกี่ที่มันก็ยังคงหวานเสมอ..
"อื้ออออ"
เสียงหวานร้องท้วงอีกคนในลำคอเนื่องจากอากาศเริ่มจะหมด อีกคนจึงถอนริมฝีปากออกแล้วหันไปขับรถออกจากร้านอาหารพร้อมกับพูดเบาๆ แต่กลับทำให้คนตัวเล็กกลับมาหน้าแดงอีกครั้ง
"ทำไมชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย.."
รถปอร์เซ่สีขาวถูกขับมาจนถึงคอนโดแบคฮยอน ร่างสูงบอกขอโทษที่ไม่สามารถขึ้นไปส่งร่างบางข้างบนเพราะมีเรื่องต้องไปเคลียร์กับครอบครัวสักหน่อยซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ขับรถมาส่งก็มากพอแล้วละสำหรับเขา
หลังจากที่แยกกับชานยอล แบคฮยอนก็กดลิฟขึ้นไปยังชั้นของตัวเองไขกุญแจเข้าไปในห้องก็พบกับบุคคลที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ.. บุคคลที่หายไปเกือบสิบปี
"อะ ..โอเซ..ฮุน" เสียงหวานเอ่ยชื่ออีกคนออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับเสียงลม.. ร่างสูงตรงหน้านี้โอเซฮุนจริงๆหรอ?..
หายไปแล้วก็หายไปเลยสิ กลับมาทำไมกัน..
คนถูกเรียกก็ยกยิ้มมุมปากถ้าเป็นเมื่อก่อนแบคฮยอนคงคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้แล้วเดินไปตบหัวอีกคนเป็นว่าเล่น แต่สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว.. ทำไมนะหรอ?
ก็โอเซฮุน..เคยเป็นเพื่อนสนิทกับแบคฮยอนสมัยตอนอยู่ม.ปลาย สนิทกันมากไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนความรู้สึกต่างๆของทั้งสองเริ่มแปรเปลี่ยน.. ไม่แน่ใจว่าเป็นความรักได้รึเปล่า.. หรือแค่ความผูกพันธ์.. แต่แบคฮยอนคิดว่าเซฮุนคงไม่หักหลังกัน.. จริงๆก็ไม่รู้สิ่ว่าจะเรียกว่าหักหลังได้รึเปล่า แต่เขาว่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกเจ็บปวดสุดๆเลยละ..
เพราะ..อยู่ดีๆผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนก็หายจากชีวิตของแบคฮยอน.. ไม่มีการติดต่อมาหากันสักอย่างทั้งโทรศัพท์หรืออีเมลหรืออะไรต่างๆ ไม่มีเลย.. แบคฮยอนพยายามทุกๆทางแต่ไร้วี่แววว่าจะได้พบกับโอเซฮุน จนกาลเวลาเริ่มทุกให้เขายุ่งจนไม่มีเวลาได้ใส่ใจและลืมเรื่องนี้ไปในที่สุด.. มีเพียงรูปภาพ หนังสือรุ่นและความทรงจำเกี่ยวกับคนๆนี้เท่านั้น
"นาย..กลับมาทำไม?"
"ไปปาร์ตี้แฟนซีมาหรอ.." ร่างสูงกลับตอบไม่ตรงคำถามและส่งยิ้มอ่อนๆมาให้
"แฟนซีมากเลยล่ะ.." พึมพำเสียงเบาก่อนจะเดินผ่านร่างสูงเข้าไปในห้องนอนแต่กลับมีวงแขนหนาโผเข้ากอดจากด้านหลัง..
..ทำเอาแบคฮยอนแทบหยุดหายใจ..
"คิดถึง..." สองคำง่ายๆที่โอเซฮุนอยากพูดมากที่สุดให้คนนี้..
"...."
"ขอโทษ.." สองคำสั้นๆที่เขาต้องการบอกให้คนเดิมฟัง..
"ปล่อย.." ร่างเล็กกัดฟันพูดด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างถาโถมเข้ามาในสมอง ขอบตาเรียวสวยเริ่มร้อนผ่าว..
"ฮุนขอโทษ.."
"...."
"แบคจะทุบจะตีฮุนก็ได้.."
"..."
"ฮุนขอแค่แบคกลับมา.."
"ทำไมเพิ่งโผล่มาเอาป่านนี้.."
ทำไมถึงกลับมาทั้งๆที่เราลืมนายไปแล้วแท้ๆ..
"..."
"มันสายเกินไปแล้ว.."
"...."
"ฮึก.. สายเกินไปสำหรับเราสองคน.." แบคฮยอนกำลังกลั้นเสียงน้ำตาที่กำลังไหลรินผ่านพวงแก้มใส..
"ฮุนขอแค่โอกาศ.."
"..กลับไปก่อนเถอะ.."
"แต่บะ.."
"ฮุนจะให้เราทำใจได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงหรอ..
จะใจร้ายเกินไปแล้วนะ.."
"..."
"กลับไปเถอะฮุน.."
เสียงวิงวอนของร่างบางส่งผลให้มือที่กอดอยู่ค่อยๆคลายออกจนแบคฮยอนสามารถหลุดออกจากอ้อมกอดนั้นมาได้.. เมื่อร่างสูงยอมที่จะปล่อยให้ใครอีกคนเป็นอิสระคนตัวเล็กก็วิ่งหนีเข้าไปภายในห้องของตัวเองทันที..
สิ่งที่เสียไปหรือสิ่งที่เราเลือกที่จะจากมา ไม่มีสิ่งไหนจะหวนกลับคืนมาได้ง่ายๆ.. กาลเวลาทำให้จิตใจคนเราเข้มแข็งก็จริงแต่กว่าจะสามารถก่อตัวขึ้นมาได้มันไม่ใช่ภายในพริบตาและมันก็พร้อมจะพังทลายลงมาได้ไม่ยาก บางครั้งเราคิดว่ากำลังที่เราสร้างไว้สูงพอ แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานกับพายุที่โหมกระหน่ำได้
..สุดท้าย เรากลับคิดผิด..
กาลเวลาสอนให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเราเองแต่ ..ไม่ได้สอนว่าเราควรจะรับมือกับความเจ็บปวดเช่นไร..
ร่างสูงที่กำลังยืนเป็นเพื่อนสนิทกับความเว้งว้างอยู่หน้าห้องนอนของคนตัวเล็กด้วยความเจ็บปวดที่กำลังเคลื่อนตัวกัดกินหัวใจของเขาทีละนิด.. ทีละนิด..
มีเพียงคนเดียวที่ทำให้โอเซฮุนป็นแบบนี้ ทำใหเขาเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้... ทั้งๆที่เป็นคนที่ไม่เคยสนใจใคร แต่กับคนๆนี้เขาแคร์มากกว่าทุกคน.. เพียงคนเดียวจริงๆ.. 'บยอน แบคฮยอน'..
TALK
เย้!! คิดถึงฟิคดื่มกันมั๊ยเอ๋ยยยยย ... ขอโทษที่หายไปนานมากก ToT ในที่สุดตอนนี้ก็เต็ม 100!!
ถ้าชอบติดแท็คกันด้วยนะเออ #ฟิคดื่ม
ขอบคุณที่ติดตามฟิคเรื่องนี้นะค้าาา -////-
:) Shalunla
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น