ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic exo) DRINK! -chanbaek-

    ลำดับตอนที่ #10 : PART 8 .COINTREAU. 100%

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 57


    PART 8 .COINTREAU.
     
    เหตุผลของการทะเลาะก็มีไม่มากหรอกครับ
     
     
        หึง.. 
     
     
        หวง.. 
     
     
        ห่วง..
     
     
          อยู่ที่ว่าเขาจะแสดงออกยังไงมากกว่า.. แต่ตอนนี้บยอนแบคฮยอนกำลังรู้สึกอยากจะลุกขึ้นไปตบผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ ถ้าไม่คิดว่าอยากจะเป็นกุลสตรีแล้วก็ยังมีหัวอกลูกผู้ชายอยู่นะ สาดน้ำใส่หน้าที่โป๊ะแป้งมาเป็นชั้นจนวอกไปแล้วละ!เอาให้เป็นละครหลังข่าวไปเลยดีมั๊ย?
     
     
     
     
     
          เรื่องมันมียังไงนะหรอ.. ผู้หญิงหน้าวอกนี่มานั่งตรงข้ามผมได้ยังไง? แล้วตอนที่อยู่บนรถผมเสียตัวในรถมั๊ย? ผมจะค่อยๆตอบนะครับ .. 
     
     
     
     
            บอกเลยว่าในรถไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าจูบ ซึ่งบางทีผมก็เผลอไปเหมือนกัน บางทีผมก็มีอารมณ์นะแต่ผมต้องหยุดมันไว้เพราะที่ผมทำอยู่มันคืองาน.. จบงานนี้ไปผมกับเขาก็ไม่ได้เจอกันแล้วเพราะเมื่อผมได้เงินค่าจ้างมารวมกับเงินที่ผมสะสมมามันเพียงพอที่ทำให้ผมทำอะไรได้หลายๆอย่าง ซึ่งผมกะจะไปเรียนด้านดีไซด์ที่เมืองนอกสักสองสามปี ... หลายคนคงสงสัยว่าทำไมไม่ขอเงินพ่อแม่เอา? คำตอบเลยคือ ทำไมผมต้องแบมือขอเงินพ่อแม่ทั้งๆที่ผมก็มีมือมีเท้าทำงานเองได้แล้ว มีวุฒิภาวะพอที่จะทำงาน ผมไม่อยากให้พวกท่านต้องคอยเหนื่อยกายเหนื่อยใจไปมากกว่านี้..  ผมเป็นเด็กดีใช่มั๊ยครับ~
     
     
     
             มาเรื่องเจ๊หน้าวอกที่ทำตัวเป็นปลิงเกาะชานยอลอยู่ เมื่อผมกับชานยอลมาถึงร้านอาหารหรูสไตล์อิตาลี ซึ่งผมเพิ่งรู้ว่าชานยอลเขาใช้เส้นมาเพื่อให้ได้โต๊ะในคืนนี้ จริงๆผมกินอาหารข้างทางก็ยังได้ แต่เขาอยากเลี้ยงผมก็ไม่ขัดอะไร ตอนแรกที่โต๊ะอาหารมีเพียงแค่เก้าอีสองตัวคือของผมกับชานยอล เราสั่งอาหารกันอยู่ดีๆก็มีเจ๊หน้าวอกปากแดงเดินตรงเข้ามาทักชานยอล ซึ่งผมคิดว่าเขาจะคุยด้วยแล้วเขาจะกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง..
     
     
          แต่เปล่าเลย.. เขาลากเก้าอี้เข้ามานั่งข้างๆชานยอล..
     
     
     
     
     
       ..อึ้งเลยสิ่ครับ..
     
     
     
     
          เพื่อนของเขาก็มาเรียกให้ไปที่โต๊ะหลายรอบแล้วก็ไม่ไป.. ชานยอลก็ไม่ยอมปฏิเสธยัยนั้นสักที ทุกที่ไม่เห็นจะเกรงใจใครเลยนิ่! แล้วพอมาผู้หญิงคนนี้ไปเกรงใจเขาทำไม?
     
     
     
            แล้วแบบนี้...ผมควรทำไงดีละ? ยั่วบริกรชายสักคนเบาๆแก้เบื่อก็น่าจะดีเหมือนกันนะ..
     
     
     
    "ชานยอลคะ พาเอมมี่ไปห้องน้ำหน่อย"
     
     
     
        ยัยปลิงนามว่าเอมมี่! พูดเสร็จก็เอามือเกี่ยวแขนชานยอล พร้อมกับนมที่ถูไปมาราวกับจะยั่ว เสียงที่เหมือนจะเมา .. แต่ขอโทษครับ..
     
     
        ร้านนี้ไม่ขายเหล้า.. มาผิดที่รึเปล่าครับน้อง..
     
     
     
    "ทำไมเอมมี่ไม่ไปเองละครับ"
     
     
     
          ทำเสียงแบบนั้นให้ท่าเขาชัดๆเลยนะ! หึย จากที่จะยั่วพนักงานชานเบาๆ ขอจัดหนักเลยได้ไหม? ไม่รู้สกีลในการยั่วของบยอนสะแล้ว..
     
     
    "เอมมี่ไปไม่ไห.."
     
     
    "น้องคะ..! พี่ขอสั่งอาหารหน่อยค่ะ"
     
     
          ขอขัดจังหวะหน่อยนะตัวเอง.. ผมเรียกพนักงานที่หน้าตาหล่อใบหน้าคมคาย สีผมสีดำ ออกแนวค่อนไปทางลูกครึ่งนิดหน่อย..
     
     
    "กินอีกแล้วหรอ.. เดี๋ยวก็อ้วนหรอก"
     
     
    "คุณผู้หญิงรับอะไรดีครับ.."
     
     
          ปาร์ค ชานยอลยุ่งอะไรด้วยเล่า! ท้องก็ท้องผม! ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเขาแต่หันไปหาพนักงานหน้าหล่อที่ยิ้มให้ผมอยู่..
     
     
    "ขอเมนูหน่อยคะ.."
     
     
    "อ่า.. คะ ..ครับ"
     
     
         พูดเสร็จผมก็ส่งรอยยิ้มที่หวานสุดๆให้เขาเคลิมเบาๆ..  ผมใช้หางตามองชานยอลแค่เสี้ยววินาที แววตาเขาออกแนวโมโหเล็กๆแล้วละ.. แต่มันก็ยังไม่มากพอให้เขาปฎิเสธผู้หญิงข้างๆ!
     
     
     
     
        เล่นแบบนี้ใช่มั๊ยปาร์ค ชานยอล..
     
     
     
     
        พนักงานชายคนเดินกลับมาพร้อมเมนูเล่มสีน้ำตาลแดง เขายื่นเมนูให้ผม ผมรับมันมา.. มีเราโดนกันนิดนึง เชื่อผมสิ่ผมไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ..  แค่บังเอิญจริงๆ...
     
     
     
         พนักงานคนนั้นสีหน้่เขาดูตกใจอยู่ไม่น้อยเลยละ ผมยิ้มหวานใส่เขาเพื่อจะบอกว่าไม่เป็นไร.. ผมสั่งสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าไปจานหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าผมจะกินไหว แต่ค่อยห่อกลับบ้านก็ได้นี่ เมื่อพนักงานรับออร์เดอร์จากผมเสร็จก็ทวนรายการอาหารให้ฟังอีกครั้ง..
     
     
     
    "เอ่อ.. คาโบนาร่าแอมเบคอนที่หนึ่งนะครับ.."
     
     
     
    "ค่ะ..  เอ่อ  น้องคะ.."
     
     
     
    "คะ .. ครับ?"
     
     
     
    "ห้องน้ำไปทางไหนหรอคะ.."    ..ถามเสร็จตบด้วยรอยยิ้มหวานอีกที..
     
     
     
    "อะ เอ่อ....   ทางนั้นครับ..."
     
     
    "ตรงไหนอ่า..ช่วยพาไปหน่อยได้มั้ยคะ"
     
     
         กัดปากตัวเองเพื่อยั่วอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะหันไปมองร่างสูงฝั่งตรงข้ามที่กำลังจ้องมาตาเขม็ง หึ รู้ฤทธิ์ของ บยอนแบคฮยอนน้อยไปรึเปล่า?
     
     
     
    "ดะ..ได้ครับ" 
     
     
     
       พนักงานหน้าหล่อคนนั้นเดินนำทางไป ผมเลยรีบเดินตาม เอ..ต่อไปยังไงดีนะ สะดุดรองเท้าล้มอะไรแบบนี้..
     
     
     
     
    ฟึ่บ!
     
     
     
     
         แหม..มันล้มเองนะ บังเอิญมากๆ ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ..
     
     
     
    "คุณ!..เป็นอะไรมั้ยครับ!?" พนักงานคนนั้นรีบคว้าเอวผมมากอดไว้ก่อนจะถามด้วยสีหน้าตกใจปนเป็นห่วง
     
     
     
    หืม.. คว้าเอวมากอดหรอ?
     
     
     
         มันก็..เกินความคาดหมายไปนิด จะบอกว่าเขินมั้ยมันก็นิดหน่อย แต่มันมีเรื่องน่าตกใจมากกว่าตรงที่ปาร์คชานยอลหันมามองพอดีนี่สิ.. แล้วก็กำลังลุกมาหาผมด้วยสินะ เหอะ เห็นยัยผู้หญิงหน้าเหวอไปเลยล่ะ
     
     
     
    "เกิดอะไรขึ้น.."
     
     
    "สะดุดล้มนิดหนะ..อ้ะ!"
     
     
     
         ย๊า! ชานยอลบ้าไปแล้ว นี่เขาดึงผมออกจากพนักงานคนนั้นก่อนจะอุ้มผมในท่าเจ้าสาวพาเดินออกนอกร้าน!
     
     
        ถามว่าอายมั้ย? นี่โคตรอายอ่ะ! ถามความสมัครใจผมก่อนดีมั๊ย! เขาอุ้มผมออกมาแล้ววางผมลงบนพื้นบริเวณที่รถปอร์เซ่สีขาวจอดอยู่.. เขาเปิดประตูให้ผมเข้าไป แต่ผมไม่เข้า ผมยืนกอดอกอยู่หน้าประตูรถ
     
     
     
    "ขึ้นรถ.."       เขากดเสียงลงราวกับกำลังข่มความโมโหไว้
     
     
          เดี๋ยวนะ! ผมควรจะโมโหเขาสิ่!..
     
     
    "ไม่ขึ้น!"
     
     
     
     
    "จะขึ้นดีๆหรือ.."
     
     
     
          เขาพูดโดยเว้นช่วงไว้เหมือนการต่อคำปริศนา แต่.. ตัวเขาดันขยับมาจนหลังผมไปชนกับประตูรถที่ถูกเปิดไว้.. ผมแอบเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในดวงตาเขา ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ
     
     
     
    "..."
     
     
     
    "หรือ... ต้องให้ฉันจูบจนหมดแรงแล้วคลานขึ้นรถ"




     
    {   .COINTREAU.    }





     
     
          ใบหน้าคมคายของร่างสูงเลื่อนลงมาเรื่อยๆ นัยน์ตาโตจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวสวยราวกับสะกดทุกอย่างให้คนตรงหน้าหยุดมองแค่คนๆเดียว.. ปลายจมูกทั้งสองชนกันไม่มีเสียงท้วงห้ามให้หยุดของร่างบาง ..ก็ไม่มีการหยุดการกระทำ.. ริมฝีปากสมบูรณ์ราวกลีบกุหลาบประทับลงบนริมฝีปากเล็กสีชมพูดูนุ่มนวลชวนลิ้มลอง บดเบียดจูบลงไปเพิ่มความร้อนแรงด้วยการส่งลิ้นหยาบเข้าไปเชยชิมความหอมหวานจากโพรงปากเล็กแลกความหอมหวานกันไปมา เขาปราถนาที่จะเป็นเพียงชายคนเดียวที่ได้ครอบครองของล้ำค่าที่อยู่ตรงหน้า มือหยาบเกี่ยวรั้งท้ายทอยอีกคนปรับองศาการจูบให้พอดีหรือเป็นการย้ำใจว่าไม่อยากให้จากไปไหนดูดดึงริมฝีปากเล็กจนน้ำสีใสเลอะที่มุมปาก ร่างสูงถอนจูบอย่างช้าๆใช้ริมฝีปากตัวเองเช็ดน้ำสีใสออก..


          แบคฮยอนก้มหน้าแขนเล็กยกขึ้นดันอีกคนออกไป แต่คนตัวสูงก็มีแรงมากกว่า ทำให้การดันไม่เป็นผล...



    "อื้อ.. ขึ้นแล้วๆ.." เปล่งเสียงออกมาทั้งๆที่หน้าก็ยังก้มอยู่.. คนมันอายนิ!



    "ยอมตั้งแต่แรกก็จบ" พูดเสร็จก็ปล่อยอีกคนออก ร่างบางไม่รอช้ารีบพาตัวเองเข้าไปในรถ พร้อมกับกอดอกไว้ จนร่างสูงต้องยกยิ้มให้ความน่ารักของอีกคน.. ปิดประตูให้คนขี้งอนแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งแล้วขึ้นรถไป



          ร่างสูงขึ้นรถมาก็กะจะมาง้อคนขี้งอนให้หายก่อนแต่พอขึ้นรถมาไม่ถึงนาทีเสียงโทรศัพท์ มองดูหน้าจอก็กดปิดไปทันที คนที่โทรมาก็ตัวการที่ทำให้ผมกับเขาทะเลาะกันไงละ!.. 'เอมมี่' เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องผมเองหละ เขาบอกว่าเขาอยากเห็นตัวการที่ทำให้ผมไปทำงานที่ผับทุกวัน ผมก็ให้รูปเขาดูแล้วแต่เขาอยากมาดูด้วยตาตัวเองแล้วก็สร้างแผนให้นาบีหึง ถ้าหึงแสดงว่ามีใจหน่อยๆใช่ป่ะละ..



          แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะไปยั่วพนักงานชายคนนั้นกัน



    "ไม่รับโทรศัพท์หรอ.."



    "....." ชานยอลเงียบและเสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่



    "รับก็ได้นะ" เสียงติดเหวี่ยงนิดๆ ใบหน้าหวานมองออกไปนอกหน้าต่าง แทบไม่ต้องคิดถึงสถานการณ์ข้างหน้าว่าถ้ารับแล้วสภาพของปาร์คชานยอลจะเป็นเช่นไร..



    "ทำไมต้องรับ"



    "เผื่อเขาอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้.."



    "ไม่รับ.."



    "รับไปเหอะน่า! ฉันรำคาญเสียงโทรศัพท์นายแล้วนะ!"





    "ฮัลโหล"


    [เป็นไงบ้าง?] เสียงลูกพี่ลูกน้องตัวแสบดังลอดออกมานิดหน่อยทำให้ชานยอลต้องเหลือบตามองคนข้างกาย



    "ก็..ไม่ค่อยดี"



    [ฮิฮิ ง้อให้ได้นะ ตู๊ดดดด] วางสายไปเฉยๆเสียอย่างนั้น ร่างสูงหันกลับมามองคนข้างกายอีกครั้ง



    "คุยเสร็จแล้วรึไง?" ใบหน้าหวานหันมาปะทะสายตากับอีกคน


    "อืม.."



    "..."



    "นี่..โกรธรึไง?"



    "อะไร? เปล่า!"



    "เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง" พูดขึ้นมาลอยๆแต่กลับได้สายตาขุ่นขวางจากอีกคน



    "ไม่ได้ถามสักหน่อย!" เมินหน้าหนีอายๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงอ่อนๆอย่างน่ารัก..และน่าฟัด



          มือหยาบเอื้อมขึ้นไปหยิกแก้มนุ่มนิ่มสีแดงที่ย้วยออกมาด้วยความหมั่นเขี้ยว คนอะไรน่ารักน่าฝัดขนาดนี้..


    "งื้อออ อย่าหยิก.." บอกด้วยน้ำเสียงที่ติดหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ยังน่ารักในสายตาปาร์ค ชานยอลอยู่ดี



    "พูดดีๆแล้วจะหยุด.." พูดด้วยเสียงที่ดูจะดุอยู่ไม่น้อยแต่จริงๆในใจยิ้มอยู่ มือยังคงหยิบแก้มนุ่มนิ่มนั่นอยู่แต่ก็ยังคงความถนอมเอาไว้..



    แบคฮยอนกำลังชั่งใจว่า..




    เขาจะพูดหรือไม่พูดดี..




    สุดท้าย..





    "งื้อ.. ชานปล่อยเค้านะ.." ตอบกลับด้วยเสียงที่โคตรน่าฟัด พร้อมกับคำแทนตัวเองที่น่ารักมากๆ ทำเอาปาร์ค ชานยอลแทบหายใจไม่ทัน



    "...." คนที่สั่งให้พูดหวานๆชะงักไปสักพักมือยังคงค้างอยู่ที่แก้มอีกคน



    "ชะ.."




          ยังพูดไม่ทันจบประโยคริมฝีปากของร่างสูงก็ประทับริมฝีปากลงรอยเดิมที่ติดอยู่ในใจ ริมฝีปากร้อนดูดดึงริมปากเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว ลิ้นหยาบถูกส่งเข้าไปภายในโพร่งปากเล็กที่ไม่ว่าจะจูบกันกี่ที่มันก็ยังคงหวานเสมอ..



    "อื้ออออ"



          เสียงหวานร้องท้วงอีกคนในลำคอเนื่องจากอากาศเริ่มจะหมด อีกคนจึงถอนริมฝีปากออกแล้วหันไปขับรถออกจากร้านอาหารพร้อมกับพูดเบาๆ แต่กลับทำให้คนตัวเล็กกลับมาหน้าแดงอีกครั้ง







    "ทำไมชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย.."








           รถปอร์เซ่สีขาวถูกขับมาจนถึงคอนโดแบคฮยอน ร่างสูงบอกขอโทษที่ไม่สามารถขึ้นไปส่งร่างบางข้างบนเพราะมีเรื่องต้องไปเคลียร์กับครอบครัวสักหน่อยซึ่งแบคฮยอนก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ขับรถมาส่งก็มากพอแล้วละสำหรับเขา



          หลังจากที่แยกกับชานยอล แบคฮยอนก็กดลิฟขึ้นไปยังชั้นของตัวเองไขกุญแจเข้าไปในห้องก็พบกับบุคคลที่เขาไม่คิดว่าจะเจอ.. บุคคลที่หายไปเกือบสิบปี




    "อะ ..โอเซ..ฮุน" เสียงหวานเอ่ยชื่ออีกคนออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับเสียงลม.. ร่างสูงตรงหน้านี้โอเซฮุนจริงๆหรอ?..



        หายไปแล้วก็หายไปเลยสิ กลับมาทำไมกัน..



        คนถูกเรียกก็ยกยิ้มมุมปากถ้าเป็นเมื่อก่อนแบคฮยอนคงคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่าหมั่นไส้แล้วเดินไปตบหัวอีกคนเป็นว่าเล่น แต่สถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว.. ทำไมนะหรอ?


     
        ก็โอเซฮุน..เคยเป็นเพื่อนสนิทกับแบคฮยอนสมัยตอนอยู่ม.ปลาย สนิทกันมากไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด จนความรู้สึกต่างๆของทั้งสองเริ่มแปรเปลี่ยน.. ไม่แน่ใจว่าเป็นความรักได้รึเปล่า.. หรือแค่ความผูกพันธ์.. แต่แบคฮยอนคิดว่าเซฮุนคงไม่หักหลังกัน.. จริงๆก็ไม่รู้สิ่ว่าจะเรียกว่าหักหลังได้รึเปล่า แต่เขาว่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกเจ็บปวดสุดๆเลยละ..




         เพราะ..อยู่ดีๆผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนก็หายจากชีวิตของแบคฮยอน.. ไม่มีการติดต่อมาหากันสักอย่างทั้งโทรศัพท์หรืออีเมลหรืออะไรต่างๆ ไม่มีเลย.. แบคฮยอนพยายามทุกๆทางแต่ไร้วี่แววว่าจะได้พบกับโอเซฮุน จนกาลเวลาเริ่มทุกให้เขายุ่งจนไม่มีเวลาได้ใส่ใจและลืมเรื่องนี้ไปในที่สุด.. มีเพียงรูปภาพ หนังสือรุ่นและความทรงจำเกี่ยวกับคนๆนี้เท่านั้น




    "นาย..กลับมาทำไม?"




    "ไปปาร์ตี้แฟนซีมาหรอ.." ร่างสูงกลับตอบไม่ตรงคำถามและส่งยิ้มอ่อนๆมาให้




    "แฟนซีมากเลยล่ะ.." พึมพำเสียงเบาก่อนจะเดินผ่านร่างสูงเข้าไปในห้องนอนแต่กลับมีวงแขนหนาโผเข้ากอดจากด้านหลัง..





    ..ทำเอาแบคฮยอนแทบหยุดหายใจ..





    "คิดถึง..." สองคำง่ายๆที่โอเซฮุนอยากพูดมากที่สุดให้คนนี้..




    "...."




    "ขอโทษ.." สองคำสั้นๆที่เขาต้องการบอกให้คนเดิมฟัง..




    "ปล่อย.." ร่างเล็กกัดฟันพูดด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างถาโถมเข้ามาในสมอง ขอบตาเรียวสวยเริ่มร้อนผ่าว..




    "ฮุนขอโทษ.."



    "...."




    "แบคจะทุบจะตีฮุนก็ได้.."



    "..."




    "ฮุนขอแค่แบคกลับมา.."




    "ทำไมเพิ่งโผล่มาเอาป่านนี้.."



         ทำไมถึงกลับมาทั้งๆที่เราลืมนายไปแล้วแท้ๆ..



    "..."




    "มันสายเกินไปแล้ว.."




    "...."




    "ฮึก.. สายเกินไปสำหรับเราสองคน.." แบคฮยอนกำลังกลั้นเสียงน้ำตาที่กำลังไหลรินผ่านพวงแก้มใส..




    "ฮุนขอแค่โอกาศ.."




    "..กลับไปก่อนเถอะ.."




    "แต่บะ.."




    "ฮุนจะให้เราทำใจได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงหรอ..



     จะใจร้ายเกินไปแล้วนะ.."




    "..."




    "กลับไปเถอะฮุน.."





         เสียงวิงวอนของร่างบางส่งผลให้มือที่กอดอยู่ค่อยๆคลายออกจนแบคฮยอนสามารถหลุดออกจากอ้อมกอดนั้นมาได้.. เมื่อร่างสูงยอมที่จะปล่อยให้ใครอีกคนเป็นอิสระคนตัวเล็กก็วิ่งหนีเข้าไปภายในห้องของตัวเองทันที..




         สิ่งที่เสียไปหรือสิ่งที่เราเลือกที่จะจากมา ไม่มีสิ่งไหนจะหวนกลับคืนมาได้ง่ายๆ.. กาลเวลาทำให้จิตใจคนเราเข้มแข็งก็จริงแต่กว่าจะสามารถก่อตัวขึ้นมาได้มันไม่ใช่ภายในพริบตาและมันก็พร้อมจะพังทลายลงมาได้ไม่ยาก บางครั้งเราคิดว่ากำลังที่เราสร้างไว้สูงพอ แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานกับพายุที่โหมกระหน่ำได้



         ..สุดท้าย เรากลับคิดผิด..




         กาลเวลาสอนให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเราเองแต่ ..ไม่ได้สอนว่าเราควรจะรับมือกับความเจ็บปวดเช่นไร..




         ร่างสูงที่กำลังยืนเป็นเพื่อนสนิทกับความเว้งว้างอยู่หน้าห้องนอนของคนตัวเล็กด้วยความเจ็บปวดที่กำลังเคลื่อนตัวกัดกินหัวใจของเขาทีละนิด.. ทีละนิด..




         มีเพียงคนเดียวที่ทำให้โอเซฮุนป็นแบบนี้ ทำใหเขาเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้... ทั้งๆที่เป็นคนที่ไม่เคยสนใจใคร แต่กับคนๆนี้เขาแคร์มากกว่าทุกคน.. เพียงคนเดียวจริงๆ.. 'บยอน แบคฮยอน'..





    TALK 


       เย้!! คิดถึงฟิคดื่มกันมั๊ยเอ๋ยยยยย ... ขอโทษที่หายไปนานมากก ToT ในที่สุดตอนนี้ก็เต็ม 100!!


        ถ้าชอบติดแท็คกันด้วยนะเออ #ฟิคดื่ม 

        ขอบคุณที่ติดตามฟิคเรื่องนี้นะค้าาา -////-






    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×