ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] Blind Justice -Ristaccia-

    ลำดับตอนที่ #7 : ออกทำภารกิจค้นหาริสทัชเชีย

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 54


    ความเงียบยิ่งเงียบสงัด ราวกับหากใครสักคนทำเข็มตกลงไปก็คงได้ยิน ร่างบางสั่นสะท้านน้อยลง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบตาด้วยนัยน์ตาฉายแววโศก

    "ฉัน..ซึ้งจัดอ่ะผบ....."

    คนเป็นผบ.ทั้งหลายต่างพากันยกมือขึ้นกุมขมับ ส่วนสควอลโลยิ่งแล้วใหญ่ ถึงกับเดินเอาหัวไปโขกกำแพงดังโป๊กๆจนคนฟังแล้วทำหน้าเบ้เพราะรู้สึกเจ็บแทน

    "ไอ้บ้าเอ้ย...คิดไปได้ไงวะ..."

    เสียงพึมพำเหมือนกัดฟันพูดออกมายังพอแว่วให้ทั้งสามได้ยิน อยากปลอบก็อยาก แต่ไม่รู้จะพูดอีท่าไหน เบลนั้นอยากบอกยิ่งนักว่า..ไอ้เขาก็หลงเชื่ออะไรง๊องแง๊งไปตั้งรอบแล้วเหมือนกัน

    "แล้ว..? ริสทัชเชียทำอะไรอีกรึเปล่า"

    มาม่อนพยายามขัดความเงียบ โฟลยกแขนเสื้อสูทสีดำเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ยเสียงเครือๆ

    "ไม่รู้เหมือนกัน ฉันรู้อยู่แค่นี้เอง"

    "อืม..สรุปได้ว่าริสทัชเชียเป็นสมบัติมหัศจรรย์ของแผ่นดินลอยฟ้างั้นสิ?" เบลว่า

    "ไม่เชิง..ก็คงใช่มั้ง ว่าไปก็ลืมดูภารกิจเลย ผบ.ลองอ่านหน่อยสิ ตามัวจนมองไม่เห็นแล้ว.."

    เธอว่าพลางยื่นกระดาษบางๆให้อีกฝ่าย ส่วนบนของกระดาษถูกเขียนไว้ด้วยตัวอักษรตัวโตว่า 'ตามหาริสทัชเชีย'

    "แล้วจะหายังไง? มันอยู่บนแผ่นดินลอยฟ้าไม่ใช่เหรอ" มาม่อนตั้งคำถามขึ้น ก่อนจะหันไปทางสควอลโล "นายก็เลิกทำอะไรงี่เง่าเหอะน่า รีบๆมาช่วยกันทำภารกิจเถอะ ฉันได้กลิ่นเงิน.." ท้ายประโยคเจ้าตัวหัวเราะหึๆ

    "..อืม รู้สึกสุดท้ายแผ่นดินลอยฟ้าก็ล่มสลายนะ ริสทัชเชียก็คงแตกกระจายไปทั่วมุมโลก.." โฟลว่า ดูท่าทางดีขึ้นกว่าเดิม

    "ไหนว่าไม่รู้?" สควอลโลเดินมาที่โซฟาพลางเอามือคลำหัวป้อยๆ คนไม่รู้เลยยิ้มแหยๆก่อนแจกแจง

    "ที่ว่าไม่รู้หมายถึงเรื่องสงครามก่อกบฏของน็อกซ์กับมาตินค่ะผบ.สควอลโล"

    "แล้วลุซกับเลวี่?" เบลถามไปอย่างนั้นเพื่อความมั่นใจ กระชับเสื้อนอกบ่งบอกความเตรียมพร้อมที่จะออกทำภารกิจได้ทุกเมื่อ

    "พวกนั้น..เอาไปก็งานล่มหมดเปล่าๆ ปล่อยมันงมกันสองคนไปเถอะ" สควอลโลว่าพลางใช้ดาบตวัดกระจกที่กำแพงข้างตัว "ลองหาแถวอิตาลีดูก่อนนี่ล่ะ เผื่อจะแจ๊กพอต" ผลที่ได้คือเศษกระจกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ คนเป็นลูกน้องมองแล้วก็อึ้งอ้าปากค้าง

    "ออกทางนี้เหรอคะผบ.?"

    "ชิชิ สควอลโลน่ะชอบทำลายข้าวของจะตาย ถ้าไม่มีสควอลโลล่ะก็ ปราสาทอีกฝั่งไม่เละขนาดนั้นหรอก ชิชิชิชิชิ" เบลเอ่ยขำๆ ท้ายประโยคหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่ค่อยอยู่ พลางเดินไปที่กระจก

    "เฮ้ย น้อยๆหน่อยไอ้เด็กเวร ตอนนั้นฉันไปรับพวกแกโว้ย"

    สควอลโลแย้งทันควัน โฟลมองหน้ากับมาม่อนแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงว่าเอือมระอาเต็มที่กับการเถียงไร้สาระของทั้งคู่ ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างเตรียมออกทำภารกิจ

    สควอลโลกระโดดออกไปคนแรก เบลกระโดดตามทันที ต่อท้ายด้วยมาม่อนและโฟล ทุกคนทำท่าจะเตรียมออกโผนทะยานอย่างเคยทันที แต่โฟลกลับหันมาที่กระจกอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจชักดาบออกจากฝักและฟันไปที่กระจกที่ไร้ซึ่งแผ่นกระจก

    เศษกระจกถูกวางรูปแบบใหม่ทันที กลับมาอยู่ในสภาพเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ หญิงสาวเก็บดาบเข้าฝักเหมือนเดิม ผ้าที่พันด้ามดาบเอาไว้ยิ่งเพิ่มความสงสัยว่าสิ่งที่พิเศษสุดยอดที่พวกเขานึกไม่ถึงอาจซ่อนอยู่

    "แกทำได้ไง"

    สควอลโลถามเสียงเครียด ทั้งที่หน้าตาบ่งบอกความตกใจสุดขีด แต่สาวเจ้ากลับยิ้มๆก่อนจะเดินมาที่พวกเขาที่นำมาไม่กี่ก้าว

    "กระจกดีน่าเสียดายออกค่ะผบ. เปลืองตังค์ซ่อมอย่างมาม่อนว่า"

    คนซ่อมกระจกว่าพลางอ้างอิงไปที่อีกคน คำตอบที่ไม่ตรงกับคำถามทำให้คนถามขมวดคิ้ว โฟลจึงตอบใหม่อีกที

    "เอาเป็นว่า ของดีเขาต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ทำได้ไงน่ะช่างมันไปเถอะค่ะผบ."

    คราวนี้คนเป็นผบ.จึงตัดใจ แม้ในใจจะนึกเอาไว้ว่าวันหลังต้องถามเอาความให้ได้ เพราะที่เจ้าหล่อนทำมันน่าสนใจไม่หยอก ฝีมือดาบดูร้ายใช่เล่น ทั้งเบลและมาม่อนเองก็คงคิดอย่างเดียวกัน ทั้งสามจึงตัดสินใจออกทำภารกิจก่อน โฟลมองก่อนจะเตรียมตัวกระโดดขึ้นบนกิ่งไม้บ้าง มือกำดาบไว้แน่น ซึ่งกำลังเปล่งแสงสีแดงสว่างแต่ไม่มากเพราะผ้าที่พันเอาไว้ ไม่มีใครสังเกตเห็นมันทั้งสิ้น...





    "ผบ.คงไม่คิดจะให้วิ่งหล่กๆเป็นไอ้งั่งเหมือนที่ผบ.เบลใช้ฉันเมื่อวานใช้มั้ยคะ"

    โฟลเอ่ย สายตากวาดไปรอบๆบริเวณเบื้องล่าง การอยู่เหนือน่านฟ้าช่างให้ทัศนียภาพที่กว้างไกล เสียแต่อาจพลาดรายละเอียดเล็กน้อยไปได้

    "วะ..อย่าเรื่องให้มันมาก แกเป็นลูกน้อง ฉันสั่งไรก็ทำไปเถอะ"

    "ค่าๆ พลาดไรก็อย่าว่าแล้วกัน.."

    "ชิชิ สควอลโล เจ้าชายขอแยกไปทางเหนือนะ"

    อยู่ดีๆเบลก็โพล่งขึ้นมา มือชี้ไปทางทิศเหนือ ก่อนจะโผนทะยานไปทันทีโดยไม่รอคำอนุมัติ ผบ.อีกสองคนมองตามก็ถอนหายใจ ก่อนจะหันมาตกลงกัน

    "งั้นค่ำมะรืนนี้ เจอกันที่เนโอ เวโรนา โฟล แกไปทิศใต้ ฉันไปฝั่งตะวันออก"

    "งั้นฉันก็ได้ฝั่งตะวันตกงั้นสิ" มาม่อนว่า ก่อนจะแยกไปเงียบๆไร้ซึ่งคำต่อต้าน โฟลมองตามก่อนหันมามองสควอลโลอีกครั้งก่อนยิ้มยิงฟันโบกมือให้คนเป็นผบ.

    "งั้นไปล่ะค่ะผบ. กู๊ดลั๊คค่ะ"






    "ว้า ไม่มีใครให้เจ้าชายแกล้งบ้างรึไงเนี่ย.."

    คนเป็นเจ้าชายเผลอบ่นออกมา ทำหน้าบูดบึ้งแม้อีกครึ่งจะถูกปกปิดไว้ก็ตาม ก่อนจะหยุดพักที่ริมน้ำ เขามาจนถึงแถบป่าเสียแล้ว เขาล้วงมือเข้าไปในเสื้อโค้ทก่อนหยิบแผนที่โลกที่ม้วนๆเอาไว้ออกมาคลี่

    'ดีว่าหยิบติดมือมา'

    "อืม..ริสทัชเชีย...ริสทัชเชีย ....น่าจะไปอยู่ที่ไหนกันน้า"

    เขาทิ้งตัวลงนั่งกับหินขนาดพอดี มือลากมั่วๆไปบนแผนที่ ปากก็พึมพำถึงเรื่องที่ได้ยินมา

    "มาติน..น็อกซ์...แชมเชอร์...ชื่อเจ้าคนพวกนี้จะมีเบาะแสอะไรมั้ยเนี่ย ชิชิ"

    "ลองนึกถึงชื่อที่สามารถแปลงเป็นตัวอักษรเดี่ยวๆได้สิ.."

    เสียงๆหนึ่งก้องขึ้นมา เบลขว้างมีดไปรอบด้านทันทีตามสัญชาตญาณ ไม่มีเสียงอะไรขึ้นมาอีก มีเพียงเสียงลำธารดังกลบความเงียบเท่านั้น ทันใดนั้นเสียงปริศนานั้นก็ดังขึ้นมาอีก

    "จงนึกให้ออก"

    ฉับพลันเขานึกถึงเรื่องที่โฟลเล่าให้ฟังที่ปราสาท ต้องขอบคุณประวัติศาสตร์สวยหรูงี่เง่าที่ไม่เห็นจะเกี่ยวกับริสทัชเชียนั่นที่โฟลเล่าให้ บางที..

    ลีเอนอาจพบเสียงนี้ตอนที่กำลังแก้ปริศนาเลขจำนวนเฉพาะ...

    ถ้าหยุดคิด คำใบ้จะหายไป..คำตอบจะหาไม่พบ

    ชื่อ..ชื่อที่สามารถแปลงเป็นตัวอักษรตัวเดียว

    ชื่อใครล่ะ?

    พูดบ้าๆ พูดถึงริสทัชเชียก็ต้องไอ้ประวัติศาสตร์ลอยฟ้านั่นสิ...

    ใคร? มาติน คาทอร์ซ , น็อกซ์ คาทอร์ซ , แชมเชอร์ , เอจิโอนา , อดิวค์ , ซิกมา , ลีเอน , ฮันเนส , ฟาโล

    ใคร...ใครนอกเหนือจากนี้หรือไม่....

    'ตัวอักษรตัวที่ 18 ของภาษากรีก'

    สิ่งที่สควอลโลเคยพูดถึงที่ปราสาทตอนเข้ามาในห้องและกล่าวสรุป ดังก้องไปมาในหัวของเขา มันเหมือนจะคิดออกมาได้ เหมือนกำลังจะรู้..แต่มันนึกไม่ออก

    ไม่..อย่าหยุดคิด...

    อย่าหยุดคิด....ตัวอักษรของกรีกก็มี อัลฟ่า เบต้า แกมม่า เดลต้า เอ็พซิลอน เซต้า เอต้า เธต้า โลต้า แคพพา แลมด้า มู นู ซี โอไมครอน พิ โห์ร ซิกมา เทา

    ตัวอักษรที่สิบแปด...ซิกมา(Σ)

    "ใช่ เจ้านึกออกแล้ว ทีนี้สิ่งที่เจ้ากำลังหาอยู่คือสิ่งใด"

    คำใบ้ต่อไปดังมาอีก เบลไม่คิดสนใจเจ้าของเสียงปริศนาแล้ว เขาคิดตามทันที ไม่แน่..หากเขาสามารถรู้คำตอบได้ เขาอาจได้พบเทพีอย่างลีเอน

    แล้ว..เขาหาอะไรอยู่?

    คิดพลางมองแผนที่ในมือ เจ้าตัวก็ยิ้มกริ่ม ใช่..เขาหาสถานที่ที่น่าจะมีริสทัชเชียอยู่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เข้าใจ ทำไม...ถ้าเกิดทฤษฎีถูกต้อง..ทำไมต้องกระจายออกเป็นตัวซิกมา

    ซิกมา..ในเรื่องราวของแผ่นดินลอยฟ้า นางคือใคร?

    นางคือเทพีแห่งสติปัญญา คนสร้างนางขึ้นมาคือ รูฟินา

    รูฟินา สร้างซิกมาขึ้นมาเพื่ออะไร? เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของรูฟินาที่กำลังจะสูญพันธุ์

    แล้วริสทัชเชียล่ะ ทำไมถึงอยู่ที่แผ่นดินธรณีพื้นผิวโลก

    ก็เพราะแผ่นดินลอยฟ้าล่มสลาย ไม่มีผู้ครอบครอง

    หรือเพราะซิกมายังคงสืบทอดปณิธาณของชนเผ่ารูฟินาอยู่ ไม่เพียงจะสูญพันธ์ไปหรือต่อให้เกาะลอยฟ้าล่มสลายไป...หลักฐานของการมีอยู่ของรูฟินาจะไม่มีวันหายไป?

    หรืออาจจะเป็นการประกาศการมีอยู่ของรูฟินา..แผ่นดินลอยฟ้า ให้ชาวมนุษย์บนพื้นดินล่างได้รับรู้?โดยการทำให้ริสทัชเชียตกลงมาที่พื้นผิวโลก กระจายออกเป็นตัวซิกมา ซึ่งก็กลายเป็นตัวแทนชนเผ่ารูฟินา คนบนพื้นผิวโลกก็จะรับรู้ได้จากคำใบ้นี่

    งั้นการที่ริสทัชเชียอยู่ที่พื้นผิวโลก..ก็เป็นเจตนางั้นเหรอ? ต่อให้แผ่นดินลอยฟ้าล่มสลายหรือไม่ ริสทัชเชียก็ต้องตกมาที่นี่งั้นเหรอ?

    ไม่...พวกฮิวมินาไม่มีวันยอมปล่อยริสทัชเชียไปแน่ๆ

    งั้นหมายความว่า เป็นเจตนา ที่ต้องอาศัยความล่มสลายของแผ่นดินลอยฟ้างั้นเหรอ?

    "โอ้ยยยย เจ้าชายงงไปหมดแล้วว"

    ราชนิกูลหนุ่มหมดความอดทน ทิ้งแผนที่โลกที่กำแน่นจนแทบจะขาดและเอนตัวลงนอนกับพื้นหญ้านุ่มทันที ท้องฟ้าเริ่มมืดแต่ยังไม่มาก

    ช่างเถอะ..ภารกิจแค่ให้หาริสทัชเชียนี่นา ก้อนนึง..คงประเมินค่าเป็นเงินบนพื้นผิวโลกไม่ได้แน่ๆ ถ้าอำนาจมันมหัศจรรย์อย่างที่ว่า

    งั้น..หาที่มาที่ไปมันก็ไร้ประโยชน์.....

    ...............
    ..........
    ........
    .....

    "จะใช่เร้อ.."

    และแล้วก็พึมพำออกมา เขาคิดว่าที่เขาหาสาเหตุก็เพื่อยืนยันทฤษฎีที่ว่าริสทัชเชียกระจายอยู่บนพื้นผิวโลกเป็นรูปตัวซิกมา

    แต่ถ้าใช่...งั้นจุดเริ่มต้นจะเป็นตรงไหน?

    ทันใดนั้น เมื่อท้องฟ้ามืดลง ที่ด้านหลังโขดหินริมน้ำก็ประกายแสงออกมา มันชัดขึ้นเรื่อยๆเมื่อแสงอาทิตย์หมดลง แสงสีแดง...สีแดงฉาน....

    เบลลุกขึ้นนั่งพักหนึ่ง พยายามจับจ้องไปที่หลังโขดหินเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาด พักหนึ่งจึงลุกขึ้นเดินไปที่โขดหิน มองไปด้านหลังแล้วก็เบิกตากว้าง....

    ให้ตายเถอะ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ..







    เอิ่ม....แจ้งให้ทราบนิดนึงค่ะ ตอนนี้ไรเตอร์เปิดเทอมแล้ว (ซัมเมอร์) ม.1โดนบังคับให้เรียนปรับพื้นฐานT T ช่วงนี้อาจไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่ถ้ามีโอกาสจะมาอัพฟิคนะคะ (ถึงจะไม่มีคนอ่านก็เถอะ=..=)


    ขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×