คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : กลับปราสาทวาเรีย
"แล้วแกกลับมามือเปล่าเนี่ยนะ!!!!?"
เสียงโวยวายที่ดังลั่นชนิดว่าแค่สองมือปิดหูก็ทนไม่อยู่บ่งบอกความอารมณ์เสียของผู้พูดเป็นอย่างดี ดาบในมือแกว่งไปมาอย่างหงุดหงิดใจ
ฆ่าทิ้งซะเลยดีมั้ยนี่...
"..ก็คนร้ายมันหนีไปได้นี่ แถมยัยศพเดินได้ยังมาขวางฉันอีก"
ข้ออ้างที่ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้นถูกยกขึ้นมาอีกรอบ สควอลโลฟังแล้วก็ได้แต่แยกเขี้ยว แต่ก็ต้องทำสีหน้าลำบากใจแทนเมื่อสาวเจ้ามองหน้าแล้วแหวขึ้นทันที
"ใครมันใช้ให้ฉันไปทำภารกิจแบบนี้ตั้งแต่แรกเลยเล่า! มาเหยียบปราสาทได้ไม่ถึงสิบนาทีก็โดนจิกหัวใช้ ให้ตาย! ฉันนี่มันโง่จริงๆที่หลงสมัครหวังเข้ามาอยู่ในวาเรียก๊อกแก๊กนี่!!"
"เออ! แกมันโง่! โง่มากด้วย!! คนร้ายอยู่แค่เอื้อมดันเซ่อปล่อยไปอีก!"
"บ๊ะ! ก็บอกว่ามันเล่นทิ้งยัยป้ามาให้ฉันฆ่าเล่นแทน! ฉันมันคนไม่ใช่ยอดมนุษย์ซูเปอร์ฮีโรอย่างพวกนายนะเฟ้ย!!!"
"แล้วทำไมแกกลับมามือเปล่าอย่างนี้ฟะ!!!?"
"...สควอลโล เจ้าชายว่าสควอลโลกำลังเปลี่ยนประเด็นนะ"
อยู่ดีๆเบลที่โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงก็เอ่ยเรียบๆขึ้นมาพลางยิ้มแหยๆ ทั้งสองหยุดเถียงกันทันทีและมองไปที่ผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าชายที่วันยังค่ำยังไงก็เป็นได้แค่เจ้าชายเก๊ในสายตาของสาวน้อยหน้าใหม่แห่งวาเรีย
"หึ! แหงแซะ! อีกอย่างได้ข้อมูลกลับมาเรียกว่ากลับมามือเปล่าเนี่ยนะ"
ฟลอเรนซ์ยังไม่วายเลิกแม้น้ำเสียงจะราบเรียบลง แต่มุมปากเริ่มกระตุกเหมือนจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะแยกเขี้ยวก็ไม่เชิง
"ข้อมูลต๊อกต๋อยที่ว่าคนร้ายใส่ชุดคลุมสีแดงมันจะเอามาทำต้มอะไรได้วะ.."
สควอลโลก็ไม่แพ้กัน เบลมองทั้งคู่แล้วก็ถอนหายใจก่อนจะตบไหล่ทั้งคู่ที่ตอนนี้ต่างคนต่างสะบัดหน้ากันไปคนละทาง
"เอาน่า นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว ไปนอนกันเหอะ เจ้าชายง่วง"
สายตาคมกริบสองคู่ตวัดมาที่คนง่วงทันที แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะเทือน ยักไหล่ก่อนเอ่ยใหม่อีกรอบ
"แค่จะบอกว่าจะเถียงกันก็พักยกไว้จนถึงพรุ่งนี้ก็ไม่เสียหายน่า"
..สรุปมันก็ไม่ได้จะห้ามว่างั้นเถอะ
"เฮ้ย..แล้วฉันนอนไหน"
ฟลอเรนซ์ที่พึ่งนึกได้ขณะเดินอยู่ในโถงทางเดินแทบกระโดด เพราะเท่าที่เคยได้ยินมาห้องของลูกน้องแต่ละหน่วยจะอยู่อีกฝั่งของปราสาท หรือก็คือฝั่งที่ถูกเผาไปนั่นแหละ เบลที่เดินนำอยู่จึงพูดไปถึงพวกลูกน้องคนอื่นในวาเรียแทน
"ชิชิ ไม่รู้สิ พวกนั้นคงไปนอนกันตามมีตามเกิดล่ะมั้ง"
"พวกนั้น?"
"พวกที่ห้องอยู่ทางฝั่งนั้นไง"
ว่าแล้วคนต้องไปนอนตามมีตามเกิดก็สะดุ้งโหยง ทำหน้าหวาดวิตกแปลกๆก่อนจะสอดส่องสายตาไปทั่ว แต่อีกฝ่ายรู้ทันจึงพูดดักไว้
"พวกลูกกระจ๊อกไม่มีสิทธิ์นอนในเขตฝั่งปราสาทซีกนี้ แม้แต่ห้องน้ำก็ห้ามนะ ชิชิชิชิ"
...ห้องน้ำ ใครมันจะไปนอนวะ
"ผบ.เบลเฟกอร์ นายคงไม่คิดจะให้ฉันไปนอนตามดินใต้ต้นไม้ใช่ไหม"
หญิงสาวเอ่ยถามกล้าๆกลัวๆ เบลฟังแล้วก็ขยับรอยยิ้ม ก่อนจะหยุดเดินหน้าห้องๆหนึ่งก่อนจะจับลูกบิดประตู
"เห็นแก่ว่าวันนี้ยอมไปทำภารกิจแทนเจ้าชาย จะยอมให้ยืมห้องซักคืนแล้วกัน"
"เอ้อ..ดีเนอะ แค่ไปทำภารกิจตั้งกะเช้ายันดึก นั่งฟังผบ.ฉลามเน่าบ่นนิดบ่นหน่อยก็ได้ที่พักคืนนึงแล้ว คุ้ม..คุ้มจริงๆ"
"..โฟล ประชดเหรอนั่น?"
"เออสิ!"
ฟังคำตอบที่ถูกกัดฟันตอบมาแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา คิดถูกหรือคิดผิดกันนี่ที่ยอมให้นอนในห้องเขาสักคืน
ประตูถูกเปิดออกหลังค้างมานานจากการสนทนา เผยให้เห็นภาพภายในที่...
"สมกับเป็นห้องนาย คาวเลือดจนน่าอ้วกจริงๆ"
"ชิชิชิ อย่าบ่นน่า เอ้า เข้ามาสิ"
"แหวะ..ฉันต้องนอนห้องแบบนี้เนี่ยนะ?"
"ไม่ต้องก็ได้นะ แต่ถ้าไม่เอาก็..นู่น"
เบลบอกขำๆพลางชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่นอกปราสาทผ่านหน้าต่าง โฟลมองตามก่อนจะทำหน้าเบ้เดินเข้าห้องอย่างรวดเร็ว ไม่ลืมจะเอามือปิดจมูกอย่างเปิดเผยและส่งสายตาหงุดหงิดที่ตกเป็นรองให้กับเบลที่ปิดประตูตามท้าย
"ทำไมห้องนายมันเลือดเต็มไปหมดอย่างนี้เนี่ย"
"ก็พวกเบ๊เจ้าชายคนก่อนๆมันงี่เง่ากันหมดนี่นา ช่วยไม่ได้ อุชิชิชิ"
"อย่าบอกนะให้ฉันนอนนี่กะจะให้ฉันหลับแล้วมาควักตับควักไส้ฉันออกมามั่ง"
"...เป็นความคิดที่น่าสน"
อีกฝ่ายแทบจะร้องจ๊ากออกมาทันทีเมื่อเบลตอบอย่างไม่คาดคิดทั้งที่พูดไปเล่นๆ ก่อนจะทำท่าหมดอาลัยตายอยากเดินไปที่โซฟาที่ดูจะสะอาดที่สุดแล้วนอกจากเตียงที่เมื่อเทียบกับทั้งห้องที่เหมือนถูกเอาเลือดมาละเลง
"รสนิยมนายห่วยมาก ผบ."
"หมายถึงไอ้รอยมือที่กำแพงนั่นน่ะนะ"
"นั่นก็ด้วยแหละ"
เบลพยักเพยิดไปทางผนังที่มีแต่รอยเลือดรูปฝ่ามือคนเต็มไปหมด รอยมือเหล่านั้นบ่งบอกอาการตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดได้เป็นอย่างดี โฟลมองอย่างปลงๆก่อนจะเอนตัวนอน พักหนึ่งก็นึกได้ว่าวันนี้วิ่งไปมาเป็นไอ้โง่อยู่ทั่วเมืองฟีเรนเซทั้งวัน เหงื่อโทรมกายที่ตอนนี้มีเพียงเหนอะหนะอยู่บ้างหลังจากตากอากาศเย็นเฉียบในปราสาท
"เอ่อนี่ ผบ."
"หา?"
เบลที่กำลังถอดเสื้อนอกออกหันมามองโฟลที่เรียกเขาอย่างงงๆ เธอมองไปรอบๆห้องอีกทีก่อนจะถาม
"ห้องผบ.เนี่ย มีห้องอาบน้ำมั้ย เหนอะหนะเป็นบ้าเลย"
"ห้องเจ้าชายน่ะไม่มีหรอก ปราสาทยังแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ นับห้องได้เลยล่ะ"
"ออกจะรวย ทำไมมีห้องอาบน้ำนิดเดียว"
"ที่อิตาลีมันไม่ร้อนนี่นา เหงื่อแทบไม่มี ห้องอาบน้ำที่มีก็แค่สร้างไว้ประดับไปงั้นๆแหละ"
...พูดให้ถูกคือไม่มีคนธรรมดาที่ไหนไปวิ่งท้าแดดท้าลมแบบน็อนสต๊อปแบบเธอ ว่างั้นเถอะ
"แล้วมันอยู่ไหนล่ะ"
"ฮ้าววว อาบพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ เจ้าชายง่วงแล้วอ่ะ จำทางไปไม่ค่อยได้ด้วย"
"จำทางไม่ได้" โฟลทวน คิ้วขมวดมุ่น
"ราตรีสวัสดิ์"
"เฮ้ย"
อยู่ดีๆคนเป็นเจ้าชายก็ถอดรองเท้าออกพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที ไฟในห้องถูกปิดกริ๊กจากสวิทช์หัวเตียง หญิงสาวทำหน้างงๆอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินกระทืบเท้าปังๆไปที่ประตูห้องและกดเปิดสวิทช์ไฟข้างประตูแทน
กริ๊ก
กริ๊ก
พอเปิด..มันก็เอื้อมมือไปปิดง่ายๆ
กริ๊ก
อีกซักรอบ..ให้มันรู้ไป
กริ๊ก
ถ้ามีแรงปิดสวิทช์ก็ลุกมาหน่อยสิฟะ เอาใหม่!
กริ๊ก
กริ๊ก
กริ๊ก
กริ๊ก
"โว้ยยยยยยยยยยยยยย!!!"
หญิงสาวหลุดเสียงออกมาอย่างอดกลั้นไม่อยู่ สุดท้ายคนเป็นเจ้าชายเลยกดเปิดสวิทช์ซะเองแล้วลุกจากเตียง
"นี่โฟล แค่รอถึงพรุ่งนี้แหละน่า"
"แค่รอ? นายจะซกมกไปถึงไหน"
"เฮ้อ...."
เสียงที่เริ่มงัวเงียเงียบไป เบลเกาศีรษะแกรกๆทำให้เส้นผมยุ่งเหยิงแต่ก็ไม่คิดจะจัด สุดท้ายก็หาวหวอดและเปิดประตูห้อง ทำให้โฟลที่มองอยู่ยิ้มกว้างออกมาทันที
"หึๆ ฉันรู้นาว่านายไม่ได้ใจร้าย"
เธอว่าพลางเดินด้วยท่าทางกวนๆออกจากห้อง รออีกฝ่ายปิดประตูและนำทางไปให้ ซึ่งหันมาก็แทบสะดุ้งเมื่อประโยคสยองๆตามมาด้วย
"ถ้าพูดมากอีก เจ้าชายจะไม่พาไป"
...ดูมัน อุตส่าห์ชมว่าใจดี มีที่ไหนตอบแทนกันยังงี้
เห็นแก่ยอมลุกจากเตียงแล้วกัน เหอะๆ.....
ความคิดเห็น