เสียงฟ้าร้องเบาๆทำให้รู้ถึงสายฝนที่กำลังจะมา บรรยากาศดูอึมครึมมาตั้งแต่เช้าด้วยเพราะเมฆสีเทาหม่นปกคลุมท้องฟ้าไปทั่ว ดูอย่างไรก็เป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจะตก ไม่ควรออกมานอกบ้าน แต่ทีฟากลับสาวเท้าไปข้างหน้าเรื่อยๆราวกับใจลอย
เธอหยุดลงเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าโบสถ์เก่าแห่งหนึ่ง ราวกับมนตรา เพียงแค่เห็นมันก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยน ความศักดิ์สิทธิ์ตามแบบโบสถ์ทางศาสนา และความเก่าแก่ที่อาจจะเป็นเพราะความผุพังของมันเสียส่วนหนึ่ง กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆโชยมาตามลมที่พัดค่อนข้างแรง ทีฟาสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนย่างเท้าเข้าไปภายในโบสถ์
ทุกอย่างเงียบสงัด ทัศนะเบื้องหน้าเป็นเพียงเก้าอี้โบสถ์เรียงราย ข้างหน้าแท่นทำพิธีมีดอกไม้หย่อมหนึ่งเจริญเติบโตบริเวณนั้นจากพื้นดินที่ทะลุขึ้นมาเพราะพื้นไม้ของโบสถ์ที่เป็นรูโหว่เช่นเดียวกับหลังคา ทำให้แสงที่ถูกบดบังเสียส่วนใหญ่ด้วยก้อนเมฆจากนภาส่องลงมากระทบพื้นบริเวณนั้นพอดี เกิดเป็นภาพที่งดงามราวกับความฝัน
ทีฟาก้มตัวลงแตะดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ เธอยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นเสื่อเก่าๆผืนหนึ่งข้างๆแปลงดอกไม้เล็กๆนี้
ฉับพลันเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ เธอลุกขึ้นยืดตัวตรงก่อนมองไปที่เสื่อผืนนั้นอย่างพินิจ อะไรบางอย่างบอกเธอว่าคลาวด์อยู่ที่นี่..ข้างแปลงดอกไม้แห่งนี้เสมอ
หรือนี่คือเหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับบ้าน..?
ทีฟารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาทั้งสอง ไม่ทันได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เธอพยายามปาดน้ำตาทิ้ง เก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดในใจที่เหมือนจะถูกซ้ำเติมจากการเห็นภาพแบบนี้
รู้ทั้งรู้..ว่าหนึ่งเดียวในใจของเขาคือ..แอริธ..เพื่อนสาวที่จากไปในสงครามเมเทโอ..
พยายามไม่แสดงความรู้สึกของตนเองออกมาให้ทั้งคู่เห็น.. ภาพที่เขาสองคนยืนเคียงคู่กัน..มันช่างดูเหมาะสมกันเหลือเกิน
มากเสียจนเธอรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงส่วนเกิน
รู้ดีว่ามันไม่มีที่ให้เธอเข้าไปแทรกระหว่างความผูกพันที่เกินกว่าเพื่อนของคลาวด์และแอริธ
แต่ทำไม
มันถึงได้เจ็บปวดใจขนาดนี้
?
ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ที่เธอนึกอิจฉาเพื่อนสาวของเธอที่ยืนเคียงข้างคลาวด์..และทำให้เขาหัวเราะได้..?
“ทีฟา..?”
เสียงคนในความคิดดังขึ้นข้างหลัง หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว รีบเช็ดน้ำตาที่ยังไหลออกมาไม่ขาดสายอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ก็ไม่ทันการเมื่อคลาวด์สาวเท้าเดินอาดๆเข้ามาหา เธอรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่ก็ไม่เร็วพอจะให้เขาไม่สังเกตน้ำตาของเธอ
“ทีฟา..? เธอ..ร้องไห้เหรอ?”
ทีฟาหันกลับไปยิ้มให้เขาเล็กน้อยทั้งที่ตายังแดงๆอยู่ พยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติแม้ว่ามันจะสั่นเครืออยู่บ้าง
...ตั้งแต่เมื่อไรกันนะที่เธออ่อนแอเป็นผู้หญิงแบบนี้?
“ไม่มีอะไรหรอก..แค่ตะกี้ก้มไปดูดอกไม้แล้วละอองเกสรเข้าตาน่ะ...”
เขาพยักหน้าเบาๆก่อนถอนหายใจพลางเสมองไปทางอื่น
“จริงสินะ...วันนี้ลมแรงนี่...”
ทั้งคู่ต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง จนทีฟาเอ่ยปากถามขึ้นมาหลังจากบังคับน้ำเสียงได้แล้ว
“เธอ...มาอยู่ที่นี่งั้นเหรอคลาวด์...?”
“...อืม”
“เธอคง..คิดถึงแอริธสินะ...”
เธอกล่าวเสียงเบาหวิว ถามไปก็เหมือนกับตอกย้ำตนเองให้เจ็บมากขึ้น
“....อืม”
คลาวด์ตอบคำเดิมเสียงไม่ดังเกินกว่ากระซิบ แต่มันกลับดังก้องราวกับมีคนมาตะโกนใส่หูเธอ
..ยิ่งคำตอบที่ได้รับกลับมายิ่งทำให้เธออยากร้องไห้อีกครั้ง
“นี่สินะ...คือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่กลับบ้าน...”
ทีฟากล่าวพลางยิ้มไปด้วย เธอล้มตัวลงนั่งกอดเข่าข้างผนังโบสถ์ ซบหน้าลงกับเข่า
“..ทีฟา..?”
เธอแบกรับความรู้สึกแบบนี้
ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
.
“....ไปเถอะคลาวด์... เธอช่วยออกไปตอนนี้ทีเถอะ.... ขอให้ฉันลืมตาขึ้นมาแล้วไม่เห็นเธอเถอะนะ... ฉัน...ไม่อยากมองภาพเธอเดินจากฉันไปแบบนี้อีกแล้ว...”
“.....”
“พวกเด็กๆอาจจะคิดถึงเธอ... อย่างน้อยก่อนไปก็ช่วยไปลาพวกเขาด้วยก็แล้วกัน... ตอนนี้บาร์ก็ไปได้ดี.. ฉันพอเลี้ยงดูมาลีนกับเดนเซลได้...”
“ทีฟา...”
คลาวด์มองเธออย่างงุนงง เขารู้สึกได้ว่าเธอกำลังร้องไห้.. แม้จะไม่เห็นหน้า แต่เสียงของเธอกลับสั่นเครืออย่างกลั้นไม่อยู่
“ฮะๆ...นี่ฉันพูดอะไรอยู่กันนะ...? ฝ่ายที่ต้องไปน่ะ..มันฉันนี่นา..? ก็ที่นี่... ที่นี่เป็นที่ของเธอกับ..แอริธ...”
เธอลุกขึ้นยืน เสียงหัวเราะที่ฟังยังไงก็รู้ว่าฝืนทำให้คลาวด์พูดอะไรไม่ออก ทีฟากำลังเดินออกไปจากโบสถ์โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา แต่เมื่อถึงประตูโบสถ์ เธอก็หยุดชะงัก แต่ไม่ได้เหลียวหลังกลับมาหาเขา
“....นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะคุยกับเธอก็ได้นะคลาวด์....”
ทีฟาถอนหายใจ ก่อนกล่าวต่อ
“ฉันขอให้เธอโชคดีนะ... ฉันเชื่อว่าแอริธคงจะเฝ้าดูเธออยู่เสมอแน่ๆ... และกำลังรอคอยเธออยู่ที่ไหนสักแห่ง....”
เสียงเธอสั่นเครือมากขึ้น แต่เธอไม่ได้หยุดพูด
“ฉัน
รักเธอนะคลาวด์”
คำพูดสุดท้ายที่ทำให้คลาวด์ถึงกับเบิกตากว้าง แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรทั้งสิ้น ทีฟาก็ออกตัววิ่งไปจากโบสถ์เสียแล้ว พร้อมๆกับสายฝนที่เริ่มตกลงมาประปรอย และหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ทีฟา..!!!”
ทีฟากลั้นหายใจวิ่งต่อไป พยายามไม่รับฟังเสียงของคลาวด์ที่ตะโกนเรียกเธอและเสียงของหัวใจตัวเองที่บอกให้หยุดวิ่งแล้วกลับไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง สายฝนชโลมใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตา
“ฮึก...บ้าจริง... ไม่ยักรู้แฮะว่าน้ำฝน..มันเค็มเหมือนกัน...”
เธอยิ้มทั้งน้ำตา หยุดยืนหอบหายใจ ตอนที่เธอวิ่งจากมา..เธอไม่ได้ดูทิศทางเลยแม้แต่น้อย ทำให้ตอนนี้เธอวิ่งออกมานอกเมืองแล้ว เมื่อมองกลับไปที่ประตูเมือง เธอก็นึกถึงเด็กทั้งสองคนและรู้สึกเป็นห่วง
แย่ล่ะ..ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
เธออ่อนแอเกินไปแล้วนะทีฟา... ปัญหาแค่นี้ยังร้องไห้ได้เป็นวรรคเป็นเวร...
ต้องกลับ...ต้องกลับไป ...มาลีนกับเดนเซลกำลังเป็นห่วงเธออยู่แน่ๆ...
“จะหนีฉันไปอีกนานไหม ทีฟา”
คลาวด์เอ่ยขึ้นพลางกอดเธอจากข้างหลัง ทีฟาสะดุ้ง แต่เธอไม่กล้าหันหน้ากลับไป
“...คลาวด์...เธอตามฉันมางั้นเหรอ....?”
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร เขาเพียงแต่กอดทีฟาแน่นมากขึ้นจนเธอรู้สึกเขิน สายฝนเย็นๆที่ปะทะเข้ากับหน้าที่ร้อนวูบวาบของเธอมันทำให้รู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล
“มาลีนกับเดนเซลต้องกำลังเป็นห่วงเธออยู่แน่ๆ...เพราะฉะนั้น..กลับกันเถอะ”
เขาพูดประโยคเดียวกับที่เธอคิดเมื่อครู่ คราวนี้ทีฟาหันตัวกลับมาเมื่อคลาวด์คลายอ้อมกอด
ที่แท้เขาก็แค่ห่วงเด็กสองคน...ไม่ใช่เธอ
“ฉันกลับแน่ เธอไม่ต้องห่วง”
น้ำเสียงทีฟาดุดัน แต่อ่อนลงเล็กน้อยเมื่อสบตากับดวงตาสีฟ้าใสที่มีประกายแปลกๆ
“เธอโกรธฉัน”
คลาวด์พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทีฟายังคงปั้นหน้าถมึงทึง
“เรื่อง..แอริธ?”
คราวนี้หญิงสาวทำสีหน้าไม่ถูก เธอทำเพียงเสมองไปทางอื่น
“ไม่ได้โกรธสักหน่อย...”
คลาวด์ถอนหายใจ มองทีฟาอย่างอ่อนใจ
“งั้นเธอหึง..?”
หน้าของหญิงสาวแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที และมีหรือที่คลาวด์จะไม่ทันสังเกตเห็น แม้ว่าเธอจะรีบก้มหน้างุดทันทีก็เถอะ
“ไม่..ไม่ใช่...”
“งั้นเธอเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นล่ะ!!”
“เธอวิ่งหนีจากฉันมา วิ่งตากฝนแบบไม่เหลียวหลัง คนไม่เป็นอะไรจะทำแบบนี้มั้ยล่ะทีฟา”
คำถามย้อนของคลาวด์ทำเอาทีฟาสะอึก เธอเพียงแต่เงียบไปพักหนึ่ง คลาวด์เองก็ไม่พูดอะไรไปพักหนึ่ง ราวกับกำลังรอคอยคำตอบจากเธอ
“ฉันมันงี่เง่านี่..”
ทีฟาเอ่ยเสียงเบา คลาวด์ขมวดคิ้วทันที
“ทีฟา..?”
“ใช่สิ!! ฉันตะโกนบอกรักใส่นาย!! หึงนายกระทั่งกับเพื่อนสนิทที่เป็นคนตายไปแล้ว!!! ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรให้นาย! เอาแต่รอนายกลับบ้านจนไม่ได้นอนทั้งคืนบ่อยๆ!! ดวดเหล้าจนเมาแทบร้องไห้เพราะอกหัก!!! ถ้าฉันงี่เง่าล่ะก็
นายก็เป็นต้นเหตุนั่นแหละ อีตาบ้า!!!”
ชายหนุ่มอึ้งเมื่อได้รับรู้ความจริงที่ไม่เคยแม้แต่จะสังเกต ส่วนทีฟาที่พึ่งรู้ตัวว่าหลุดอะไรออกไปก็ตาโต เลือดสูบฉีดทั่วหน้า สายฝนแรงขึ้นจนแทบเป็นพายุ
คราวนี้หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น น้ำใสๆไหลอาบแก้มเธออีกครั้ง
“ฉันไม่เคยบอกใครเลย...ว่าทุกวันนี้..หลังจากที่ฉันมีชีวิตอยู่ต่อมาหลังจากที่เซฟิรอธเผานีเบลไฮม์ไปแล้วนั้น...ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งเดียว....”
ดวงตาสีทับทิมที่เคยฉายแววสดใสอยู่เสมอ บัดนี้กลับเศร้าหมองจนคนมองรู้สึกหม่นหมองตามไปด้วย เธอสบตากับคลาวด์ก่อนเอ่ยต่อเสียงหวิว
“นั่นคือการรอเธอกลับมา...กลับมาปกป้องฉันตามสัญญา.....”
ทีฟาสะอื้นฮัก ไม่สามารถเก็บความรู้สึกในใจเธอได้อีกต่อไป
“แต่เธอรักแอริ....”
ไม่ทันจบประโยค คลาวด์ดึงทีฟาเข้ามากอด เขาฝังจมูกลงกับเส้นผมสีดำสนิทที่ยาวสลวยแต่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝน หลับตาลงพลางพร่ำคำขอโทษ
“ฉันขอโทษทีฟา....”
“คะ....คลาวด์.....??”
“เธอไม่ได้งี่เง่าเลยสักนิด... คนที่งี่เง่าน่ะ..มันฉันต่างหาก...”
“....”
“จริงอยู่...ว่าฉันเคยรู้สึกว่าตัวเองรักแอริธ”
“งั้นเธอ...”
“แต่ตอนที่เธอตามหาตัวฉัน
ที่เป็นฉันจนพบในไลฟ์สตรีม... ฉันถึงได้รู้...”
คลาวด์กล่าวขัดทีฟาที่เริ่มรู้สึกว่า
เทพีวีนัสกำลังอยู่ข้างเธอ....
“ว่าที่ฉันรู้สึกกับแอริธ.... มันเป็นเพียงความรู้สึกเหมือนเพื่อน...”
ทีฟาหน้าแดงแจ๋ เธอเริ่มเขินจนทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกบอกรัก
“ฉันอาจจะรู้สึกว้าเหว่นิดหน่อย เลยคิดถึงแอริธ อาจจะเป็นเพราะความทรงจำและตัวตนของแซ็คที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวฉันที่ทำให้ฉันรู้สึกกับแอริธแบบนั้น... แต่เธอรู้มั้ย...?”
“คลาวด์....”
เขาคลายอ้อมกอด สบตากับทีฟาที่ร้องไห้...แต่ไม่ใช่เพราะเสียใจอีกต่อไป
“สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้... คือการทำตามสัญญาที่ฉันเคยให้ไว้กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันหลงรักมาตลอดตั้งแต่เด็ก...”
คลาวด์โน้มหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาวมากขึ้นจนจมูกของทั้งคู่สัมผัสกัน
“และจนถึงตอนนี้.... ฉันรักเธอ...ทีฟา”
ฉันจะไม่ทำร้ายเธออีกแล้ว...
สรุป...ตอนจบ ตามชื่อเรื่องนะจ๊ะ :)
++ของแถม++
คำทิ้งท้ายของตัวละครแต่ละคน(?)
คลาวด์ : ทีฟา
ทำไมจูบเธอเค็มล่ะ -*-;; (ก็มันผสมน้ำตา... ว่าแต่แกจะค้าวก็เอาให้มันน้อยๆหน่อยดิเฮ้ย ทำเอาสาวน้ำตาตกไปไม่รู้กี่คนละนะแก เพราะงั้นมันเค็มเพราะแกนั่นแหละโบะ)
ทีฟา : น้ำเน่าอ๊ะ... (เจ๊เริ่มก่อนนะเฮ้ย...)
แอริธ : ว้า...ฉันเสน่ห์ตกแล้วเหรอเนี่ย? (เป็นผีแล้วนาเจ๊แอร์... อย่าทำคนเขาแตกแยกกันเลย อีกอย่าง.. ได้ข่าวเจ๊ก็เสวยสุขหวานหวีดวิ้วกับพี่หัวเม่นไปแล้วนี่?)
มาลีน+เดนเซล : ถ้าพวกผมบอกว่าแอบดูกันอยู่จะโดนทีฟากักบริเวณมั้ยอ่ะ...? (เออ สรุปพวกแกห่วงสองคนนี้แทนที่สองคนนี้จะห่วงพวกแก)
จบค่ะ!! XD ขอบคุณที่อ่านเด้อ
ตบท้ายด้วยรูปหนุ่มค้าวสาวซึน 5555+
ความคิดเห็น