NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภาวินทร์ภคนางค์

    ลำดับตอนที่ #30 : บทที่ 11 (1) ตื่นมาก็น่ารัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 911
      31
      20 เม.ย. 67



    บทที่ 11

    “มำ ม่ะ มำ ม่ะ!”

    คนตัวเล็กที่ตื่นแต่เช้าก่อนใครๆ ลุกขึ้นนั่งมองพ่อกับแม่ที่ยังนอนกอดกันหลับสบายตาแป๋ว แล้วคลานจากเตียงของตัวเองเข้าไปนั่งใกล้ๆ แม่อย่างร่าเริง มือเล็กยื่นไปตบแปะๆ ที่แก้มราวกับจะปลุกให้ตื่นขึ้นมาหา

    “มา!” พอแม่ไม่ยอมลืมตาก็ส่งเสียงเรียกอีกรอบ นิ้วเล็กๆ นั้นก็จิ้มที่ปากที่ตาด้วยความสงสัย พร้อมทั้งบ่นอืออาไปด้วย

    สัมผัสจากลูกทำให้ภคนางค์รู้สึกตัว มือบางคว้าสะเปะสะปะจนถึงตัวลูกแล้วคว้าเข้ามากอดแนบอก ลดใบหน้าลงหอมหน้าผากเล็กทั้งที่ยังหลับตาเพราะง่วงจนแทบไม่อยากจะตื่น กำลังนอนสบายๆ แต่ยายตัวเล็กก็ปลุกซะแล้ว ตื่นเช้าจริงๆ เลย

    “มำ ม่ะ”

    น้องพลินทร์เงยหน้าขึ้นมองมารดา ใช้นิ้วเล็กๆ จิ้มไปที่ใบหน้าอย่างไร้เดียงสา ขณะขาอวบๆ ที่ยกขึ้นพาดบนลำตัวของแม่นั้นก็ขยับไปมาจนโดนคนเป็นพ่อที่นอนอยู่ด้านหลัง เลยถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยอีกคน ภาวินทร์ทำเพียงแค่ลืมตาขึ้นมาแต่ยังไม่ขยับตัวเพราะอยากจะนอนกอดเนื้อตัวนุ่มๆ ของภคนางค์นานๆ คลี่ยิ้มทั้งที่งัวเงียเมื่อเหลือบเห็นลูกสาวนอนซุกซบอยู่กับอกแม่ด้วยท่าทางน่าเอ็นดู เท้าน้อยๆ ที่ปราศจากถุงเท้านั้นก็ชูขึ้นมาทักทาย

    “จ๋า ทำไมวันนี้หนูตื่นแต่เช้าจังเลยลูก” ภคนางค์พึมพำถามแล้วถูไถจมูกโด่งสวยกับกลุ่มผมของลูกเบาๆ พลางกอดกระชับเนื้อตัวอวบๆ ด้วยความรักใคร่ กอดแล้วเต็มไม้เต็มมือดีจริงๆ

    “มำ!”

    แม่หนูมุดหน้าเข้าหาอกแม่ประกอบคำพูด มือน้อยๆ เริ่มสาละวนอยู่กับการดึงเสื้อหาแหล่งอาหารที่โปรดปรานจนกระดุมเสื้อนอนของแม่หลุดลุ่ยออกจากกัน เผยให้เห็นเนินอกอวบที่ปราศจากบราเซียร์ เนื่องจากตอนนอนภคนางค์ไม่ได้ใส่มันจนกลายเป็นความเคยชินเสียแล้ว

    “ตื่นมาก็หิวเลยเหรอหือ” หญิงสาวปรือเปลือกตาขึ้นมองเด็กตัวกลมที่พยายามดึงทึ้งเสื้อนอนที่แยกออกจากกันเพื่อจะหม่ำๆ อย่างอ่อนใจ ตื่นมาก็ร้องหาหม่ำๆ แต่เช้าเลย จะกินเก่งเกินไปแล้วนะ

    “ไหนจุ๊บแม่ก่อน” หญิงสาวขยับใบหน้าลงไปหาพร้อมทำปากยื่นรอจุ๊บ ซึ่งลูกสาวตัวน้อยก็ยอมจุ๊บอย่างว่าง่าย ทว่ากลับโดนแม่แกล้งไม่ให้กินหม่ำๆ ทันที

    “มำ มำ” น้องพลินทร์เริ่มงอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มฉายแววเอาเรื่อง จนคนเป็นแม่ต้องยอมปลดกระดุมเสื้อออกให้

    “โอเคๆ อะ…หม่ำๆ”

    ภคนางค์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจะป้อนนมลูกได้ถนัด มือบางตบตูดเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว คงจะหิวจัดถึงได้ดูดแรงจนแม่รู้สึกเจ็บแปลบ มือเล็กน่ารักก็บีบขย้ำเบาๆ แถมยังบ่นอืออาในลำคออีกต่างหาก

    “เบาๆ สิจ๊ะ แม่เจ็บนะ”

    ใช้ปลายนิ้วเรียวเขี่ยแก้มกลมเป็นซาลาเปาเบาๆ เพื่อปรามด้วยความมันเขี้ยว แล้วย่นจมูกใส่เมื่อยายตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋ว เมื่อคืนก็ตื่นขึ้นมาร้องโยเยกลางดึก แล้วปีนข้ามจากฝั่งของภาวินทร์มาหา เธอเลยให้เข้าเต้าจนหลับไปอีกรอบ ไม่รู้ว่ากลิ้งไปนอนที่เตียงของตัวเองตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ว่าเธอโดนเท้าเล็กๆ ฟาดเข้าที่ไหล่และปลายคางด้วย ฤทธิ์เยอะทั้งตอนตื่นและตอนหลับจริงๆ

    “หิวมากเลยเหรอลูก เมื่อคืนหนูออกกำลังไปเยอะใช่ไหม หมุนไปรอบเตียงเลยนะ”

    ทอดถามเสียงนุ่มแล้วระบายยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะสะดุ้งน้อยๆ เพราะเสียงสวบสาบจากการขยับตัวของคนที่นอนอยู่ด้านหลัง ภคนางค์รีบลนลานดึงสาบเสื้อให้ปิดทรวงอกเปลือยด้วยความอาย ทว่ามือเล็กๆ ของคนที่กำลังกินนมอยู่นั้นกลับปัดออก ไม่ยอมให้แม่ปิด ลูกหนอลูก ทำไมถึงน่าตีแบบนี้นะ

    “ลูกตื่นแล้วเหรอ”

    ภาวินทร์ขยับตัวขึ้นแล้วเอาศอกเท้ากับหมอน ชะโงกหน้าผ่านไหล่บอบบางของคนที่นอนแนบข้างแล้วแสร้งถาม ขณะที่ท่อนแขนแกร่งอีกข้างก็ยังวางพาดอยู่ที่เอวบาง ใบหน้าคมคล้ามลดลงเล็กน้อยเพื่อสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โปรดปราน ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ออกมาเป็นรอยยิ้ม การได้ตื่นมาแล้วมีภคนางค์กับลูกอยู่ข้างๆ ทุกเช้านั้นคือความรู้สึกที่แสนพิเศษ

    “ค่ะ”

    ภคนางค์ตอบเสียงเบา เม้มปากแล้วหลับตาลงอย่างอายๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ปะทะกับพวงแก้มร้อนผ่าว ยิ่งเขาขยับเข้ามาชิดใกล้จนความร้อนจากเรือนกายกำยำแผ่ซ่านเข้ามาในร่างกาย ใจนั้นก็ยิ่งเต้นโครมคราม

    ดวงตาคมทอประกายอบอุ่นของภาวินทร์มองสบตากับลูกสาวที่กำลังนอนมองตาปริบๆ ก่อนที่มือป้อมๆ จะยกขึ้นมาหา ชายหนุ่มเลยขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ให้ลูกสัมผัส เลยทำให้ปลายคางบึกบึนเกยอยู่กับต้นแขนของภคนางค์

    “อรุณสวัสดิ์ครับคนสวยของพ่อ”

    ทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและรอยยิ้มอบอุ่น แววตาคมทอดมองลูกสาวและอกขาวอวบล่อตาล่อใจที่กำลังทำให้เลือดลมในกายวิ่งพล่าน แค่นอนกอด ได้ตอดเล็กตอดน้อยในยามที่มีโอกาส ภาวินทร์ก็ต้องพยายามข่มความต้องการของตัวเองเอาไว้สุดความสามารถเพื่อไม่ให้บุ่มบ่ามมากเกินไป แต่ตอนนี้ภคนางค์กำลังนอนเปิดอกให้นมลูกอยู่ตรงหน้า แม้อยากทำอย่างที่ใจปรารถนาทว่าได้แค่มองตาปรอยแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ปล่อยให้ลูกได้ครอบครองไปก่อน

    “แอ้…”

    น้องพลินทร์ผละจากอกแม่แล้วส่งเสียงทักทายพ่อกลับก่อนยิ้มร่าใส่ พลอยทำให้ภาวินทร์ยิ้มตาม แต่ตาไม่รักดีกลับเหลือบมองเลยไปยังยอดทรวงสีระเรื่อที่ประดับอยู่บนอกกลมกลึง ลำคอของเขาถึงกับแห้งผาก เรือนกายสมบูรณ์แบบขยับเบียดชิดคนข้างกายโดยอัตโนมัติ ลำแขนแกร่งที่วางเฉยเปลี่ยนเป็นโอบรัด ถ้าลูกไม่อยู่สาบานได้เลยว่าเขาจะไม่ทำแค่มอง!

    ภคนางค์รีบดึงสาบเสื้อให้ปิดเข้าหากันเมื่อลูกผละห่างไปทักทายพ่อของแก ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมด มันคงแดงจัดประจานความขวยเขิน ขณะใจก็สั่นไหวรุนแรง อยากจะขยับตัวถอยหนีจากปลายคางที่วางอยู่บนต้นแขน ทว่ากลับถูกท่อนแขนแกร่งรัดเอวบางไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหนได้ นึกฉุนคนร้ายกาจเหลือเกินที่ชอบทำเอารัดเอาเปรียบ

    “มาให้พ่อหอมหน่อยเร็วคนเก่ง”

    ภาวินทร์พยักหน้าเรียก ลูกสาวตัวน้อยก็ขยับตัวลุกขึ้นทันทีแล้วโถมตัวเข้ามาหา โดยเกาะตัวแม่เอาไว้ ชายหนุ่มจึงยื่นใบหน้าเข้าไปหอมแก้มป่องๆ รับอรุณฟอดใหญ่ ไม่วายทำเนียนหันไปหอมแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกของภคนางค์ฟอดใหญ่เช่นกัน หอมลูกแล้วก็ต้องหอมแม่ด้วยสิ จะได้เท่าเทียมกัน

    คนถูกหอมทำหน้างอใส่คนชอบฉวยโอกาส ทำอะไรไม่ได้นอกจากค้อนกระลับกระเลือกด้วยความเอียงอาย สองแก้มแดงปลั่ง ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นโครมครามจนแทบกระเด็นกระดอนออกมาข้างนอก เธอไม่ชอบให้ภาวินทร์ทำแบบนี้เลย เพราะห้ามใจไม่ให้ไหวหวั่นไปกับเขาไม่ได้ ยิ่งเขารุกเข้าหามากเรื่อยๆ ใจแสนทรยศก็ทำท่าจะสยบยอม…

    “อา!”

    เสียงประท้วงของลูกทำให้ชายหนุ่มละสายตากรุ้มกริ่มจากคนขี้อาย แล้วเลิกคิ้วขึ้นมองด้วยความรักใคร่เอ็นดู ยิ่งพอได้เห็นรอยยิ้มเล็กๆ อันแสนสดใส ใจของคนเป็นพ่อยิ่งเบิกบานเหลือเกิน ทั้งรักทั้งหลงยายตัวเล็กมากขึ้นทุกวัน

    “ครับผม เรียกพ่อทำไมครับ”

    “มา!”

    น้องพลินทร์จับแขนพ่อแล้วยกขาขึ้นพาดบนตัวแม่เพื่อจะปีนไปหา ท่าทางการปีนของเด็กน้อยนั้นน่ารักจนคนเป็นแม่ลืมความอายแล้วเผยยิ้มออกมา ขาก็สั้นๆ ป้อมๆ พุงก็กลม แต่ดูมีความพยายามจะข้ามตัวเธอไปหาพ่อเหลือเกิน จนในที่สุดก็สำเร็จ พอได้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนพ่อก็ยิ้มร่าอารมณ์ดีเชียวละ ลูกหนอลูก นับวันยิ่งติดพ่อจนแทบแยกออกจากกันไม่ได้แล้ว

    “เมื่อคืนใครกันนะที่เตะพ่อ หนูหรือเปล่า”

    เสียงทุ้มทอดถามในยามมองใบหน้าจิ้มลิ้มของนักเตะตัวน้อยที่งัวเงียตื่นมากลางดึกแล้วข้ามมานอนอยู่บนอก พอหลับแล้วก็ออกฤทธิ์เก่งเชียว จากตอนแรกที่นอนอยู่ในอ้อมแขนพ่อดีๆ ก็เริ่มหมุนไปรอบทิศ แถมเท้าน้อยๆ ก็ยังฟาดไปทั่วอีกต่างหาก

    “แอ้” นักเตะตัวน้อยอ้อแอ้ยอมรับแถมยังยิ้มร่า ดีดแขนดีดขาอยู่บนตัวพ่ออย่างร่าเริง

    “หนูเหรอครับที่เตะพ่อ” ภาวินทร์มันเขี้ยวยายตัวเล็กเหลือเกิน ทำความผิดไว้แล้วยังมายิ้มให้อีก น่าตีจริงๆ เลย

    ภคนางค์นอนอมยิ้มฟังสองพ่อลูกคุยกัน ก่อนจะพลิกตัวหันไปหา ใช้สองมือประกบกันวางใต้ซีกแก้มแล้วทอดมองอยู่เงียบๆ คนตัวเล็กที่ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างมาเติมพลังด้วยการกินนมนั้นช่างอารมณ์ดีเหลือเกิน ยิ่งพอได้อยู่กับพ่อก็ยิ่งร่าเริงกว่าปกตินัก

    “แสบจริงๆ เลยนะรู้ไหม”

    ภาวินทร์ใช้ปลายนิ้วเคาะปลายจมูกโด่งเล็กเบาๆ ด้วยความหยอกเย้า ลูกสาวตัวน้อยนั้นหลับตาพริ้มทั้งยังอ้าปากจิ้มลิ้มอย่างน่ารักน่าชัง ทำให้คนเป็นพ่อนั้นมองแล้วคลี่ยิ้มอบอุ่นให้กับความน่าเอ็นดูของลูกสาว ก่อนจะเหลือบมองเรียวหน้าหวานหยดของคนที่นอนอยู่ข้างๆ สีหน้า แววตา และรอยยิ้มของเธอในยามที่มองลูกนั้นดูละมุนละไมเหลือเกิน มองคราใดก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเสมอ

     

    +++++

    มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา

    e-book >> https://goo.gl/K5N86N

    หรือ get it now ค่ะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×