คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : บทที่ 15 (1) คนแผนสูง
บทที่ 15
ภคนางค์เดินหนีพ่อของลูกออกมายังห้องนั่งเล่น ทว่ากลับไม่พบคุณรวิตาที่อุ้มน้องพลินทร์ออกมาก่อนหน้านั้น แต่ได้ยินเสียงอ้อแอ้แว่วมาจากมุมหนึ่งของบ้านเลยเดินตามหา จึงพบว่าเด็กน้อยกำลังถูกคุณย่าพาดูปลาคาร์ฟผ่านทางหน้าต่าง คนเป็นแม่เผยยิ้มออกมาบางๆ แล้วเดินเข้าไปหา
“เอ...นั่นแม่ใครมานะ” คุณรวิตาก้มลงกระซิบกับหลานสาวที่กำลังให้ความสนใจกับปลาตาไม่กะพริบ ทำให้เด็กน้อยหันไปมองมารดาแล้วยิ้มร่าแล้วส่งเสียงเรียก
“อาาา”
“เรียกแม่เหมือนเรียกปลาเลยนะลูกน่ะ” ภคนางค์ย่นจมูกใส่แล้วเดินเข้าไปหอมแก้มลูกด้วยความมันเขี้ยว แล้วรับมาอุ้มเมื่อหนูน้อยโน้มตัวเข้ามาหา พอสมใจแล้วก็ออดอ้อนคลอเคลียอย่างน่าเอ็นดู น่ารักแบบนี้จะไม่ให้คนเป็นแม่อย่างเธอใจละลายได้อย่างไรกัน
“คุณท่านคะ พรุ่งนี้นางค์ว่าจะขอฝากยายหนูไว้สักสองสามชั่วโมงได้ไหมคะ พอดีว่าจะออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวสักหน่อยน่ะค่ะ”
คราแรกคิดจะออกไปวันนี้ด้วยซ้ำ แต่ร่างกายไม่ค่อยอำนวยเท่าไรนัก ตอนจัดกระเป๋ามาที่นี่ ภคนางค์ไม่ได้นำของใช้ส่วนตัวมาเยอะนัก เธอเอามาแค่ครีมบำรุงไม่กี่อย่างเลยว่าจะไปซื้อเพิ่มสักหน่อย รวมถึงของใช้จำเป็นของลูกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือยาคุมกำเนิด...
แม้ช่วงนี้จะไม่ได้อยู่ในระยะของการตกไข่ ทว่าเธอก็อยากป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน กลัวเหลือเกินว่าเหตุการณ์แบบเมื่อคืนจะเกิดขึ้นอีก หญิงสาวไม่อยากท้องทั้งที่ความสัมพันธ์กับพ่อของลูกยังคงคลุมเครือ และถึงแม้ว่าท้องแรกจะไม่ได้ติดง่ายๆ แต่ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากคุณท่านทั้งสองต้องการทายาท ภคนางค์จึงไม่เคยรับประทานยาคุมกำเนิดเลยตั้งแต่จดทะเบียนสมรสเป็นภรรยาของภาวินทร์
ทว่าผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์ พอไปปรึกษาหมอก็พบว่าทั้งเธอกับภาวินทร์ก็สุขภาพแข็งแรงและปกติดีทั้งคู่ อาจจะเป็นเรื่องของช่วงจังหวะเวลา และช่วงนั้นชายหนุ่มเองก็เดินทางไปติดต่อธุรกิจที่ต่างประเทศบ่อย เมื่อยังไม่ตั้งท้องเสียที คุณรวิตาก็ไม่คิดให้พึ่งวิธีทางการแพทย์ อยากปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ หากทายาทอยากจะมาเกิดก็คงมาของเขาเอง เด็กน้อยแก้มย้วยถึงได้มาเกิดตอนที่แม่หย่ากับพ่อแบบนี้ไง
“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงหรอก” คุณรวิตาพยักหน้าแล้วยิ้มให้ เรื่องแค่นี้เองก็ทำเหมือนเกรงอกเกรงใจกันไปได้ ยายหนูน่ะเลี้ยงง่ายออกขนาดนี้ นางดูแลให้ได้อยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวระบายยิ้มอ่อนหวาน
“หนูอยู่กับย่าได้อยู่แล้วเนอะ ให้แม่ไปช็อปปิงบ้าง” คุยหยอกล้อกับหลานสาวที่มองผู้ใหญ่คุยกันตาแป๋วแหวว ปากจิ้มลิ้มนั้นก็ขยับขึ้นลงอย่างน่าเอ็นดู คงอยากจะมีส่วนร่วมด้วยสินะ
“แอ้!” เด็กน้อยยิ้มกว้างแล้วขยับแขนขาอวบๆ ขึ้นลงอย่างอารมณ์ดี อ้าปากรอการหยอกล้อจากคุณย่า
“น่ารักจริงๆ เลย โตขึ้นก็ว่าง่ายๆ แบบนี้นะจ๊ะ” จับมือน้อยๆ มาหอมให้ชื่นใจ ทว่าก็ทำให้หลานสาวหัวเราะเอิ๊กๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่างอารมณ์ดีเหลือเกิน พอได้อยู่ใกล้ๆ ก็พลอยทำให้นางอารมณ์ดีไปด้วย
“เมื่อครู่เห็นคุยอะไรกันเหรอครับ ใครจะไปไหนกัน” ภาวินทร์ที่เดินตามภคนางค์ออกมาถามขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะเมื่อครู่ได้ยินไม่ถนัดนัก
“พรุ่งนี้แม่ยายหนูจะออกไปซื้อของใช้ส่วนตัว เลยฝากลูกหมูแก้มกลมไว้กับแม่น่ะ” ท้ายประโยคนั้นหันไปคุยหยอกล้อกับหลานที่ยิ้มโชว์ฟันซี่เล็ก ไม่มีหรอกที่ถูกหยอกแล้วยายตัวเล็กจะไม่ยิ้ม
“แล้วจะไปยังไง”
ชายหนุ่มขยับเข้ามายืนเคียงข้างแล้วโอบเอวบางไว้หลวมๆ ขณะถามเสียงนุ่มพลางทอดมองด้วยแววตาอบอุ่น พลันทำให้คนถูกโอบร้อนวูบวาบในกาย ครั้นเมื่อเธอทำท่าจะขยับตัวออกห่างเขาก็กระชับวงแขนแล้วดึงเข้ามาชิดกายดังเดิม
“นางค์ว่าจะนั่งรถไฟฟ้าไปค่ะ ขากลับคงนั่งแท็กซี่” อ้อมแอ้มบอกแล้วหลบสายตาคมที่กำลังทำให้ใจสั่น พวงแก้มนั้นก็ร้อนผะผ่าว ไม่อยากให้ภาวินทร์ทำแบบนี้เลย เพราะมันกำลังทำให้ใจของเธอไหวหวั่น
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันพาไปเอง”
ภาวินทร์รีบเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ไม่มีทางยอมให้เมียไปไหนมาไหนเองให้ลำบาก และถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนพาไปก็ไม่ยอมให้เธอไปกลับเองอย่างที่บอกมาแน่นอน
ภคนางค์ช้อนดวงตาหวานซึ้งขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจที่จู่ๆ เขาก็เสนอตัว ทั้งที่ปกติไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย
“คุณต้องทำงานไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวนางค์ไปเองก็ได้ค่ะ”
คุณรวิตาฟังหนุ่มสาวคุยกันอยู่เงียบๆ แล้วลอบยิ้ม ดูซิว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ดูเหมือนภคนางค์จะไม่อยากให้พ่อของลูกพาไปเท่าไรนัก ถึงได้มีสีหน้ากังวลขนาดนั้น
“พรุ่งนี้ฉันมีประชุมแค่สองชั่วโมง พาไปได้อยู่แล้ว” หรือต่อให้มีงานทั้งวันภาวินทร์ก็สามารถยกเลิกเพื่อภคนางค์ได้ คนอยากเอาใจเมียคิดแล้วยกยิ้มเล็กน้อย
แม้ภาวินทร์จะมีเวลาว่างให้ ทว่าภคนางค์ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย กระนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธออกไป เพราะไม่กล้าเนื่องจากมีสายตาของคุณรวิตามองคล้ายกำลังกดดันอยู่
“งั้นก็เอายายหนูไปด้วยแล้วกันจ้ะ”
คุณย่าของน้องพลินทร์เสนอขึ้น หากภคนางค์ไม่อยากไปกับภาวินทร์ตามลำพังก็เอาลูกไปด้วยเลยแล้วกัน ก่อนหันไปยักคิ้วให้ลูกชายอย่างรู้กัน ภาวินทร์นั้นถูกใจนักละที่มารดาคอยช่วยอยู่ตลอด เพราะรู้ว่าคุณรวิตาอยากให้ภคนางค์เป็นลูกสะใภ้มากกว่าเด็กในปกครอง
“แอ้” ยายหนูของคุณย่าวิก็ส่งเสียงรับอย่างรู้ความ พลอยทำให้คุณรวิตายิ้มถูกใจกับความรู้งานของหลานสาว ตัวแค่นี้ก็เป็นงานแล้ว น่ารักน่าชังจริงๆ เลย
“หนูก็อยากไปด้วยเหรอลูก” ถามเสียงกลั้วขัน ทั้งเอ็นดูทั้งมันเขี้ยว
ภคนางค์ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ในยามหลุบเปลือกตาลงมองคนในอ้อมแขนอย่างอ่อนใจ ลูกหนอลูก ช่างรู้เห็นเป็นใจกับพ่อเหลือเกิน ไม่คิดจะช่วยแม่เลยสักนิด สมกับเป็นลูกพ่อจริงๆ
“งั้นก็ไปกันทั้งแม่ทั้งลูกนั่นละ นางค์จะได้ไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลังด้วย”
คุณรวิตาสรุปให้เสร็จสรรพแล้วระบายยิ้มออกมา ก่อนหันไปส่งสายตาให้ลูกชาย เป็นอันรู้กันว่าแม่ช่วยขนาดนี้แล้วน่าจะต้องมีอะไรมาตอบแทนสักหน่อย แก้วแหวนเงินทองน่ะนางมีเยอะแล้ว อยากได้เด็กน้อยตัวกลมๆ แสนน่ารักแบบน้องพลินทร์อีกสักคนมากกว่า
พอคุณรวิตาว่ามาแบบนี้แล้วภคนางค์ก็ปฏิเสธไม่ได้ เลยจำใจพยักหน้ารับ มีแต่คนอยู่ข้างเขาแบบนี้แล้วเธอจะทำอะไรได้
ภาวินทร์กระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ เหลือบมองคนข้างกายที่หันมามองค้อนใส่อย่างแสนงอน ทว่ากลับทำให้ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี ก่อนยักคิ้วหยอกเย้าลูกสาวที่เงยหน้าขึ้นมามองตาแป๋วให้ยิ้มร่า ยายหนูช่างน่ารักและรู้ใจพ่อซะเหลือเกิน แบบนี้ต้องหาน้องมาเป็นเพื่อนเล่นให้สักคนสองคน เขาเองก็อายุมากขึ้นทุกวันก็อยากมีลูกชายอีกสักคนหรือสองคนไว้ช่วยสืบทอดธุรกิจของธีระธนภัทร หวังว่าสิ่งที่ตั้งใจทำเมื่อคืนจะทำให้ความหวังของเขาประสบความสำเร็จ ในเมื่อภคนางค์ไม่ยอมรับว่าเป็นสามี เขาก็เลยจะเป็นพ่อของลูกเธอหลายๆ คนแทน คนเจ้าเล่ห์คิดแล้วยิ้มในหน้าขณะหลุบตาลงมองคนขี้อายที่พยายามหลบหน้าหลบตา
+++++
ยัยขนุนนี่ลูกพ่อจริงๆ เล้ยยยยย
มีความคิดเห็นยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ / อิงธารา
e-book >> https://goo.gl/K5N86N
หรือ get it now ค่ะ
ความคิดเห็น