ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุมิติกับช่องว่างแห่งกาลเวลาสุดวุ่น

    ลำดับตอนที่ #1 : เหตุเกิดจากความดื้อรั้น

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 51


    เมืองอิโซริ เป็นเมืองหลวงประเทศอัสซาไม่มีการช่วงชิงอำนาจและทำสงครามเหมือนเมื่อก่อน  บ้านหลังหนึ่งไร้ซึ่งผู้ใหญ่ดูแลมาได้2ปีสองพี่น้องอยู่กันอย่างหลบหนีบางอย่างเด็กสาววัย14และ15ปีพี่น้องที่ต่างกันสุดขั้ว
        แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้องเป็นสัญญาณให้รู้ว่ายามเช้ามาเยือน
    "นี่พี่ปอตื่นได้แล้ว"เสียงเรียกเป็นครั้งที่10พร้อมกับมือทั้งสองที่เขย่าพี่ตนอย่างไม่ปรานีจากเด็กสาวนัยน์ตาสีน้ำตาลและผมสีน้ำตาลดำที่มีศักดิ์เป็นน้องของผู้ที่หลับไม่สนใจสิ่งใด
    "อารายล่าคนจาหลาบจานอน"นัยน์ตาสีเดียวกับผู้ปลุกปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหลับลงอีกครั้ง ผมสีน้ำตาลแดงซอยสั้นระต้นคอยุ่งเหยิงเมื่อส่งเสียงยานๆไปให้ก็เอาหมอนปิดหูและพลิกตัวหนีหวังจะให้ผู้มารบกวนแต่เช้าเลิกตอแยไปเองแต่มันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเพราะคนปลุกยิ่งระดมปลุกกว่าเก่า
    "ฝ้ายไปอาบน้ำไปพี่ขอ5นาที"เมื่อผู้เป็นพี่เริ่มได้สติจึงพูดด้วยความรำคาญเชิงไล่ให้ไปพ้นๆ
    "อาบแล้ว...นี่7โมงกว่าแล้วพี่ไม่ไปโรงเรียนใช่มั้ย"ฝ้ายรีบโต้กลับด้วยอารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก  เธอต้องมาปลุกพี่ขี้เซาทุกวันแทนที่พี่จะต้องปลุกน้องแต่มันก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่จำความได้จนกลายเป็นชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว
    "เฮ้ย!7โมงกว่าทำไมไม่ปลุกพี่ฮะ"ผู้เป็นพี่พูดด้วยท่าทีร้อนรนและรีบกระเด้งตัวขึ้น
    "แล้วไอ้ที่มายืนแหกปากปาวๆบ้านพี่เรียกขัดส้วมรึไง"ฝ้ายเริ่มมีอารมณ์โมโหอย่างเห็นได้ชัด        "เฮ้ๆพูดอย่างกับอยู่คนละบ้าน...เดี๋ยวนี้กวนอวัยวะเบื้องล่างนะเรา"ปอพูดพร้อมยิ้มร่าขณะบิดขี้เกียจอยู่บนเตียง
    "พี่ไม่ต้องมัวพล่ามไม่งั้นไม่รอนับ1ถึง3"ฝ้ายได้ทีรีบขู่และก็ได้ผลทันที
    "อย่าเพิ่งรอพี่ข้างล่างนะ"ปอกระโจนเข้าห้องน้ำ  และเมื่ออาบนำแต่งตัวเสร็จความง่วงเริ่มกลับมากิเลสเริ่มพุ่งไม่ต้องคิดอะไรขาก็ก้าวไปที่ประจำคือขอบหน้าต่างกระโดดขึ้นไปนั่งอย่างชำนาญเหมือนทุกวันก่อนจะเผลอหลับอย่างรวดเร็ว
                                                                     ........*****..........
       ณ ประเทศโรวาเซมอส
    เมืองต่างๆยังปกครองดดยเจ้าเมืองและล่าอาณาจักรอื่นมาเป็นของตนโดยการทำศึกสงครามและผู้ที่แข็งแกร่งก็จะขึ้นเป็นกษัตริย์ประเทศรอบข้างก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน   ผู้คนสมัยนี้สามารถทะลุไปมิติอื่นได้อย่างสบายแต่จะต้องมีสิ่งของในตำนานแต่การจะไปมิติอื่นเราจะกำหนดไม่ได้ว่าจะไปที่ไหน  มันขึ้นอยู่กับเวลาที่ตรงกันพอดี อาจมีเพียงผู้เดียวที่กำหนดได้คือเจ้าหญิงเปเซรัสแห่งประเทศวิเวียย่าผู้ที่คิดสิ่งของในตำนานขึ้นชิ้นแรกซึ่งเจ้าหญิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่ออายุ10ปีและเวลาก็ผ่านมา15ปีแล้วไม่มีใครได้พบเธออีกสิ่งของในตำนานที่เธอคิดคือสร้อยดาวจักร12แฉกคาดว่าไม่มีใครเคยเห็นสร้อยเส้นนี้    ตอนนี้วิธีการทำสิ่งของในตำนานถูกเผยแพร่มีการสร้างขึ้นอย่างแพร่หลาย
       เมืองเอกิรอสเมืองหลวงของโรวาเซมอสกษัตริย์คนปัจจุบันได้ปกครองประเทศยาวนานถึง18ปีมีนามว่าเดตทรอสพระชายานามว่าเซเลริส
    "เจ้าขัดคำสั่งข้าไม่รู้กี่ครั้งกี่หน...หัดทำตัวอย่างพี่เจ้าบ้าง"กษัตริย์ผู้เป็นพ่อตะคอกด้วยความโมโหและโกรธเคือง
    "ข้ากับท่านพี่เป็นคนละคน...โกรธคือโง่โมโหคือบ้า"เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวผมสีเงินสั้นระต้นคอกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยโดยพึมพำประโยคหลังเบาๆแต่ใครบางคนกลับได้ยินชัดเจน
    "ไม่ต้องมาสอนข้า"ความโกรธของกษัตริย์พุ่งสูงขึ้น
    "ข้าพูดลอยๆ"เจ้าชายผมเงินเสมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สา
    "ข้าไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำ...เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าไม่ควรแอบเอาแหวนในตำนานของข้าทะลุไปมิติอื่น"กษัตริย์พยายามลดโทสะและกล่าวช้าๆ
    "ไม่ได้แอบข้าเห็นแหวนวางอยู่ก็แค่หยิบไป...ข้าไปกับคิวแล้วก็กลับมาได้ทุกครั้ง"ผู้เป็นลูกชายตอบอย่างไม่สะทกสะท้านแววตานิ่งเฉยไม่แสดงถึงอะไรทั้งสิ้น
    "โอหัง..บังอาจ..เถียงคำไม่ตกฟากที่เจ้ากลับมาได้เพราะข้าส่งกระแสจิตไปเรียกมิเช่นนั้นคงไม่ได้มายืนต่อปากข้าเจ้ายังอ่อนต่อประสบการณ์มากนักหัดนึกถึงจุดนี้ซะบ้าง"เมื่อได้ทีผู้เป็นพ่อก็ใส่เต็มที่
    "ก็เพราะท่านให้ข้าเรียนแต่เวท  ศัตราอาวุธ  การปกครองไม่เคยให้ข้าได้เผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเองจะให้ข้ามีประสบการณ์ได้ยังไรอยู่แต่วัง...เบื่อ..แล้วท่านเคยคิดถึงจุดนี้บ้างมั้ย"เจ้าชายตอบกลับอย่างเอาจริงเอาจังไม่ลดลาวาศอก
    "เจ้ายังเด็กไป"กษัตริย์พูดต่อ
    .....พ่อข้าคิดอะไรไม่ออกรึไงที่บอกว่าข้าเด็กไป.....
    เสียงคิดในใจของเจ้าชายผมเงินดังก้อง
    "15มันเด็กตรงไหน"
    "ข้าพูดเรื่องนี้กับเจ้าทุกวันมันไม่ซึมเข้าสมองเจ้ารึไง"ผุ้เป็นพ่อเริ่มอนาถในตัวลูกชายไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่
    "สมองข้าคงหนาหรือไม่กลวงคำพูดท่านพ่อคงใช้กระบวนการแพร่เข้ามาไม่ได้"คำตอบที่ทำเอาผู้เป็นพ่อเครียดหนักกว่าเก่านอกจากลูกตนจะไม่เอาไหน(ในสายตาตน)พูดไม่รุ้เรื่องเย็นชาทำมาดนิ่งวางเฉยต่อหน้าผู้อื่นแต่เขาไม่เข้าใจตรงที่ทำไมเข้าเรื่องนี้ทีไรกลายเป็นพูดมากเถียงไม่หยุด
    "ก็ได้เจ้าอยากไปนักใช่มั้ยมิติอื่นมันมีดีตรงไหน"ผุ้เป็นพ่อทนไม่ไหวจึงเอ่ยขึ้นอย่างจำยอมแต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆนอกจากการพยักหน้าเล็กน้อย
    "แล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ...เจ้าหาทางกลับมาเองแล้วกันข้าจะไม่ให้แหวนกับเจ้า"เมื่อกล่าวจบก็หยิบแหวนขึ้นขณะกำลังใช้เวทเพื่อเปิดประตูมิติเมื่อดัดนิสัยดื้อๆของลูกราชินีจึงขัดขึ้น
    "เจ้าคิดดีแล้วหรือ...ชิน"
    "ข้าจะต้องกลับมา"เจ้าชายกล่าวและยิ้มเล็กน้อยอย่างที่หาไม่ค่อยได้
    "อย่าไปห้ามมันเลยขนาดข้าห้ามมันทุกวันไม่เห็นมันจะเคยใส่ใจ"เมื่อกษัตริย์กล่าวจบก็ร่ายเวททำให้เกิดช่องว่างสีดำ
    "เจ้าชายข้ามีเรื่องจะ....."ไม่ทันที่บุรุษอีกคนที่เพิ่งวิ่งมาข้างเจ้าชายจะกล่าวจบประโยคก็ถูกดูดเข้าไปในช่องว่างสีดำพร้อมกับเจ้าชายทันที
                                                                    .......*****.........
    "ว้าย"เสียงเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้างผมสีน้ำตาลดำปลิวไปตามลมที่อยู่ๆก็พัดมาสิ้นเสียงก็ล้มลงไปกองที่พื้นแล้วเสียงที่ดังทำให้ปอเริ่มปรือตาภาพแรกที่เข้ามาในโสตประสาทคือน้องสาวกับบุรุษที่โผล่มาจากไหนไม่รู้นอนสลบเหมือดไม่ได้สติที่พื้นความรุ้สึกจากที่งัวเงียเริ่มคุกรุ่นเตรียมจะไปจัดการผุ้บุกรุก
    "หนอย..แก...ต้องตา.."ปอยังไม่ทันพูดจบ
    "ตุบ..โครม..โอ้ย..อ๊าก"เสียงตะโกนแหกปากและสบถจากปอพ่นมาเป็นชุดเมื่อรู้สึกว่ามีใครถีบตนตกจากขอบหน้าต่างที่สุงพอควรปอรีบลุกขึ้นยืนและพุ่งหมัดเข้าชกบุรุษครงหน้าอย่างไม่ให้ตั้งตัวแต่ชายผู้นั้นกลับหลบได้อย่างหวุดหวิด
    "หลบฉันได้"ปอเริ่มขบฟันอย่างโกรธแค้นที่ฝ่ายตรงข้ามหลบได้แถมทำหน้าไม่รับรู้สนใจสิ่งใด"แกใช่มั้ยที่ถีบฉัน...อูย"ปอยกมือชี้หน้าแต่ต้องชะงักเอามือไปลูบหลังที่ถูกถีบและที่ไม่ค่อยจะมีกระแทกพื้นอย่างจัง
    .......เงียบ........
    "แกคิดจะขโมยของตอนหลับรึไง...ขอบอกว่าแกคิดผิดอย่าคิดว่าคนอย่างฉันไม่รู้"ปอเริ่มเปิดบทสนทนาอย่างเข้าเรื่อง
    "ยังไม่ทันได้จุดธูปเชิญก็มาเองเลยเหรอ...เขาเรียกว่าแขกไม่ได้รับเชิญ"ปอพึมพำงึมงำอยู่คนเดียวแต่แขกไม่ได้รับเชิญหูไวพอที่จะได้ยิน  ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกไม่ว่าจะพูดอะไรก็มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบทำให้ปอรู้สึกพูดกับตอไม้ก้อนหินประมาณนั้นเพราะอีกฝ่ายเอาแต่เงียบๆๆและเงียบปอเริ่มเดือดแต่ต้องสะกดอารมณ์นับ1-10ในใจ
    "แกเป็นใบ้รึไงวะ"แต่ยังคงไม่มีคำตอบเช่นเดิม"หรือว่าเป็นบ้า"
    "ข้าไม่ได้ปากมาก...แล้วที่บ้ามันเจ้ามากกว่าพูดคนเดียวอยู่ได้"คำพูดเย็นๆจากบุรุษเล่นเอาพูดไม่ออก
    ......ไอ้บ้าพูดน้อยต่อยหนักยอมไม่ได้.......
    ปอได้แต่คิดและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพลางส่งสายตาอาฆาตแค้นปล่อยรังสีอำมหิตไปให้เมื่อจิตใจสงบได้จึงเอ่ยปากถาม
    "แกมาบ้านฉันมีจุดประสงค์อะไร...เป็นขโมยใช่มั้ย"ช่างเป็นคำถามที่ตรงประเด็นซะจริงแล้วไอ้ขโมยหน้าไหนมันจะโง่บอกปอทนรอคำตอบไม่ไหวชักดาบออกจากฝักชี้ไปที่บุรุษเบื้องหน้าทีไม่มีวี่แววของความกลัวแม้แต่น้อย
    "ขโมยเหรอ...เจ้ามีความคิดต้อยต่ำเช่นนั้นได้อย่างไร..แค่ถือวิสาสะโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็แค่นั้น"ผู้บุกรุกนัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ทนฟังอีกฝ่ายมานาน
    "แล้วมันต่างกันตรงไหนถ้าขโมยเป็นความคิดต้อยต่ำแล้วที่แกทำไม่จมดินเลยรึไง"ปอเริ่มไม่พอใจ(ที่จริงคงตั้งแต่โดนถีบ)
    "ต่างกันที่ข้าไม่ได้มาขโมยอะไร...หัดใช้สมองคิดซะบ้างก่อนที่จะฝ่อหมด"คำย้อนกลับที่ทำปอฉุนกึกอารมณ์เริ่มเดือดดาลจิตสังหารทั้งสองแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัว
    "อย่ามากวนอวัยวะเบื้องล่าง...เดี๊ยวปั๊ดเสย"ปอเริ่มปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บไม่อยู่
    "แค่ต่อยยังไม่โดนหัดประมาณตนซะบ้างว่าเป็นใครอยู่ในฐานะที่จะทำได้รึเปล่า"เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวพึมพำหลุดคำปรามาสเป็นชุด
    "แล้วแกมันใหญ่คับฟ้ามาจากไหนล่ะ....หัดประมาณตนซะบ้าง"ประโยคหลังพูดเลียนแบบก่อนจะเอ่ยต่อ"ขอไปประมาณกับหมายังดีซะกว่าใหญ่แล้วคิดว่าทำอะไรก็ได้..เกลียดจริงชอบมาถามไม่รู้รึไงว่าฉันลูกใคร"
    "บุรุษครงหน้าหยุดฟังคำพูดที่แสนยืดยาวแต่ไร้สาระ....ข้าไปถามเจ้าว่าข้าลูกใครเมื่อไหร่....
    "งั้นเชิญพูดจนกว่าจะพอข้าไปล่ะ"เอ่ยจบก็หันหลังเดินไปหาชายที่ไม่ได้สติข้างฝ้าย
    "เดี๋ยวๆทำไมแกต้องเรียกตัวเองว่าข้าแล้วเรียกคนอื่นว่าเจ้านี่มันยุคไหนสมันไหนแล้วทำเป็นโจรยุค500ปีที่แล้วไปได้....ยังว่าก็แกเป็นโจร500"ปอรู้สึกแปลกๆที่ถูกเรียกว่าเจ้า
    "ข้าจะทำอะไรก็เรื่องของข้ายังมีหน้ามาถามอีกว่ายุคไหนเจ้าไม่รุ้ข้าจะไปรู้ได้ไง"คำตอบกวนไม่ได้ตั้งใจทำเอาปอขบฟัน
    ........ทำไมเราต้องมาเสวนากับโจรด้วย..บ้าจริง.....
    "ข้ามีเรื่องอยากถามนี่ที่ไหน"คำถามสายฟ้าแลบเล่นเอาไปขมวดคิ้วแทบไม่ทัน
    "ยังมีหน้ามาถามก็บ้านฉันน่ะสิ...คิดว่าเป็นเอกิรอสประเทศโรวาเซมอสรึไงเลิกเล่นตลกแล้วก็ไสหัวไปได้แล้ว"ปอประชดมั่วจากที่เคยเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ที่เรียนๆหลับๆ
    "ก็ข้าเป็นเจ้าชายประเทศนั้น"ผู้บุกรุกที่อ้างเป็นเจ้าชายพูดอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่รู้เลยว่ามีคนยืนตาค้างตรงหน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×