[YURI] Some - SooSica [SNSD] 100% [end] - [YURI] Some - SooSica [SNSD] 100% [end] นิยาย [YURI] Some - SooSica [SNSD] 100% [end] : Dek-D.com - Writer

    [YURI] Some - SooSica [SNSD] 100% [end]

    ฟิคคู่ที่หายากดั่งงมเข็ม แต่งขึ้นสนองนี๊ด เผื่อมีคนชอบซูสิกเหมือนกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    859

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    859

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ธ.ค. 57 / 23:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    SOME 








     

    บางทีไรต์อาจจะรวมฟิคสั้นsoosicสักวันนะ 555555




     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       
       
      เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นและจบลงภายในเสี้ยววินาที หญิงสาวถอดรองเท้าส้นสูงที่แสนจะคับเท้าออกก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าถือสีน้ำตาลอ่อน ของตนลงบนโซฟา นิ้วมือเรียวของเจ้าหล่อนเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในกระเป๋ามาดูเวลา
      "อีกหนึ่งนาที"พึงพำกับตัวเองเบาๆ แล้วก็วางมันลงบนกระเป๋าใบเดิม
      .
      .
      .
      'ถึงห้องรึยัง'
      ข้อความที่เด้งขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ของโปรแกรมแชทสีเหลืองๆยอดฮิตในเกาหลี เวลาเดียวกับของเมื่อวาน 
      'ยังตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะ' เจ้าของโทรศัพท์หยิบมันขึ้นมาตอบ ก่อนจะปิดหน้าจอลง
      'ตกลงถึงรึยัง?' อีกฝ่ายยังย้ำคำถามเดิม
      'ถึงแล้วน่า จู้จี้จังเลย' เจ้าของโทรศัพท์หยิบขึ้นมาตอบอีกครั้ง ก่อนจะเบ้ปากใส่หน้าจอ เป็นเชิงล้อเลียน
      'อืม' อีกฝ่ายตอบกลับมาสั้นๆ
      เจ้าหล่อนดึงหน้าใส่หน้าจออีกครั้ง เหตุเพราะหมั่นไส้อีกฝ่าย 
      "แค่นี้ก็งอน" บ่นนิดๆหน่อย แล้วจึงตอบกลับไป
      'แบร่:p' แล้วก็ปิดหน้าจอลง ก่อนจะเปลี่ยนชุด จากชุดทำงานเป็นเพียงเสื้อยืดตัวโคร่งๆโทรมๆ กับกางเกงขาสั้นสีซีดๆ บ่งบอกอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดีว่าเก่าครึแค่ไหน
      หญิงสาวเปิดทีวีดูได้สักพักสายตาเจ้าหล่อนก็เหล่มองเจ้าเครื่องมือสื่อสารของตนที่วางอยู่ที่เดิม ก่อนจะกลับไปสนใจสิ่งตรงหน้าใหม่อีกครั้ง สองสามนาทีถัดมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมบนกระเป๋าอีก
      "โอ้ย!!จะงอนไรนักหนาเนี่ย เดี๋ยวเฉาะหัวแหกซะหรอก" เธอโวยวายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นเตรียมส่งข้อความไปหาปลายทาง
      Kakaotalk~
      ยังไม่ทันจะได้เปิดหน้าจอ เสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้น
      'ไปดูหนังกันมั้ย?'
      เธอทำท่าคิดสักพัก
      'อย่าลีลา'
      มีตาทิพย์รึไงกันนะ!! หญิงสาวขมวดคิ้วคิดสักพักก่อนจะตอบกลับไป
      'ไม่ว่างอ่ะ ติดละคร' ยิ้มอย่างมีความสุขเหลือประดาที่ได้แกล้งอีกฝ่าย
      'งั้นไม่เป็นไร'
      ข้อความที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำเอาเธอเคืองเล็กน้อย
      "นี่ตื๊อสักหน่อยไม่ได้รึไงเนี่ย!" เธอกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด
      ชิส์!
      ทำเสียงจิ๊ปากเบาๆ แล้วก็เดินอาดๆ ไปหาขนมในตู้เย็นมากิน
       
       
      ผ่านมากว่าครึ่งชั่วโมงที่ข้อความไม่เข้าเลย เจ้าของห้องดูท่าจะกระวนกระวายไม่น้อย เพราะเธอเล่นกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ดูได้ไม่เกินช่องละหนึ่งนาทีเลย สายตาพลันเหลือบมองแสงสว่างจากหน้าจอที่สว่างขึ้น
      'แบตเตอร์รี่ต่ำกว่า20%'
      "เฮ้อ" เสียงถอนหายใจเมื่อรู้ว่าตกใจเก้อ 
      อะไร?! เธอเปล่าดีใจสักหน่อยที่หน้าจอสว่างขึ้น
      เปล่ารอใครสักหน่อย แค่นึกว่าเพื่อนที่ทำงานทักมาต่างหาก
      "อาบน้ำดีกว่า" ว่าแล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
       
       
      "อะไรเนี่ย" หญิงสาวสบถเล็กน้อยเมื่ออาบน้ำ สวมชุดนอนเสร็จยังพบว่าเจ้าโปรแกรมแชท ไม่มีการแจ้งเตือนอะไรเลย
      ปิดไฟ เตรียมตัวจะนอนแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่คนคนนั้นจะทักมาเลย เธอจับโทรศัพท์พลิกไปพลิกมาอย่างกระวนกระวายใจ
      "ทักมาซ้ำมาหน่อยเซ่!!" ฟาดแขนฟาดขางอแงราวกับเด็กอยากได้ของเล่น
      "ไอ้ซูยองบ้า!!"
      มือเล็กเลื่อนปลดล็อคหน้าจอ มองรูปคนในโทรศัพท์ที่เธอเพิ่งตั้งเป็นรูปหน้าจอไปเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน
      รูปคนตัวสูงๆที่กำลังตั้งใจซ้อมบาสเก็ตบอลให้กับเด็กๆละแวกใกล้ๆคอนโดของเธอ
      ที่ที่เธอและเขามักจะนัดพบกันเป็นประจำเวลาว่างๆ
      ตาของหญิงสาวร้อนผ่าวๆเหมือนกับว่าจะร้องไห้ออกมา พักหลังเหมือนเขาจะไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่ 
      'คิดถึงนะไอ้บ้า'
      เมื่อรอสักพักเห็นว่าไม่มีข้อความตอบกลับ เธอจริงตัดสินใจนอน
      Kakaotalk~
      ยังไม่ทันที่จะหลับตา เสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น เธอรีบหยิบขึ้นมาเปิดอ่านทันที
      'คิดถึงเจสสิก้าเหมือนกันนะ'
      ข้อความตอบกลับมาพร้อมกับรูปของอีกคนที่ถ่ายต่อกันเป็นรูปตัว"J"
      'ไอ้บ้า นอนแล่ว!!' ถึงจะต่อว่าอีกฝ่ายไป แต่เจ้าตัวกลับยิ้มออกมาจบแทบปิดปากไม่ได้
      'พรุ่งนี้ทำโอทีรึเปล่า?'
      'ไม่อ่ะ ขี้เกียจ'
      'ขี้เกียจทุกวันนั่นแหละ'
      'ว่าเหรอ ห๊ะ?!!'
      'เปล๊าาา นี่ชมนะ'
      'หราาาา เชื่อก็ได้ เพราะฉันสวย'
      'เหอะๆ'
      'อะไร?!!!'
      'ไหนบอกจะนอน'
      'ก็มีคนกวน'
      'กวนใจ?'
      'กวนตีน!!'
      'นี่สิก้า'
      'มีอะไรเหรอ'
      'ปีนี้ไปเคาท์ดาวน์ด้วยกันอีกมั้ย?'
      'อื้ม เอาสิ'
      'งั้นอีกสี่วันเจอกันสี่ทุ่มนะ..ฝันดี'
      'โอเค ฝันร้ายย่ะ'
      การสนทนาจบลง พร้อมกับการนอนหลับอย่างมีความสุขของ จอง ซูยอน หรือที่อีกคนเรียกว่า เจสสิก้า


       
      .
      .
      .
      “ช้าจัง” เจสสิก้าเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองรอบที่ห้าได้ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองมาช้าแล้ว แต่คนที่นัดกลับมาช้ากว่าเธอเสียอีก
      เจสสิก้าเหลือบไปมองที่ว่างข้างๆเธอ ก่อนจะเอนหลังพิงพนักพิงของม้านั่ง ที่ที่เธอและซูยองเจอกันครั้งแรก แล้วรอต่อไป
       
       
      .
      .
      .
      รอมากว่าครึ่งชั่วโมง นี่ก็จะห้าทุ่มแล้ว เจสสิก้าจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดข้อความทักคนที่นัดเธออีกครั้ง
       
      'ไอ้บ้า อยู่ไหนแล้วเนี่ย' 
      'รอนานแล้วนะ'
      'รีบๆมาสิ'
      'ตกส้วมตายรึไงเนี่ยยยย!!!'
       
      แต่อีกคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะตอบ ไม่สิ แค่อ่านยังไม่ได้อ่านเลย
      เจสสิก้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย นัดมาเองแท้ๆ กลับมาสาย ไอ้ซูยองบ้าๆๆๆๆ!!!!!
      “เฮ้ออออ” เสียงถอนหายใจรอบที่สิบกว่าๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เธอเป็นแบบนี้ ทั้งที่ไม่เคยติดโทรศัพท์แท้ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอรอข้อความจากอีกคนตลอด ถึงจะชอบทักมาตามเวลาก็เถอะ เธอก็รอให้ถึงเวลานั้นเร็วๆเสมอ ทรมาน....
      เจสสิก้าเลื่อนดูรูปในโทรศัพท์ของเธอไปเรื่อย แทบจะทุกรูปในนั้นมีผู้หญิงที่ชื่อ ชเว ซูยองอยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าจะตอนไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งทะเล สวนสัตว์ ริมแม่น้ำ ตอนมาค้างคอนโดเธอ หรือว่าตอนทำอาการทานด้วยกัน
      ...นี่เธอ เผลอยิ้มออกมาจนได้สิน่า...
      “ทำไรน่ะ!!!”
      “กรี๊ดดดด!!! ไอ้บ้า มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ตกใจหมด”
      “ให้แล้วนะ ดังด้วย” ผู้มาใหม่ยักคิ้วใส่เจสสิก้า ก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่างที่เหลือของม้านั่ง
      “ทำไมทักแชทไปแล้วไม่ตอบ” เจสสิก้าย่นจมูกเล็กน้อยพลางหันมองคนข้างๆ 
      “พอดีว่าแบตหมดน่ะ โทษน๊าาาา” ซูยองรีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเจสสิก้ายกใหญ่
      “ช่างเถอะ” เจสสิก้ายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
      “รอนานมั้ย” ซูยองถามพร้อมยิ้มให้คนข้างๆ
      “ม...ไม่นานหรอก ฉันก็มาช้าเหมือนกัน” เจสสิก้าก้มหน้าหลบซูยองด้วยใบหน้าที่ร้อนฉ่า เธอเป็นอะไรก็ไม่รู้สิ...
      “ขอโทษจริงๆนะ พอวันสิ้นปีแบบนี้คนออกมาเที่ยวฉลองกันเยอะเลย เลยมาช้านิดหน่อยน่ะ”
      “อ..อื้ม บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร” 
      “นี่” ซูยองเขยิบตัวเข้าไปติดกับเจสสิก้าจนแทบจะนั่งตัก
      “ห๊ะ อะไร” เจสสิก้าสะดุ้งหันมองอีกคนทันที
      “ขอหนุนตักหน่อยสิ”
      “อื้ม เอาสิ” 
      เจสสิก้าขยับตัวให้ซูยองนอนได้อย่างสะดวก
      “สบายจัง” คนบนตักทำหน้าเคลิ้มออกมา
      “อย่าทำหน้าเหมือนตาแก่สิ ไอ้บ้า” น่าหมั่นไส้ น่าหมั่นไส้จนเธอต้อง
      “โอ้ยยยๆๆๆๆ สิก้าหยิกฉันทำไมเนี่ย เจ็บนะ” ซูยองลูบแขนตัวเองปอยๆเพราะเจ็บ
      “หมั่นไส้ แบร่” เจสสิก้าหัวเราะชอบใจกับใบหน้าเหยเกของอีกคน สุขกว่านี้ไม่มีแล้ว...
      .
      .
      .
      “หนาวมั้ย?” ซูยองช้อนหน้าขึ้นถามอีกคน
      “ก็..นิดหน่อย”เจสสิก้าไม่ได้สนใจอากาศสักหน่อยว่ามันจะร้อนหรือเย็น
      “อ๊ะ” จู่ๆ ซูยองก็จับมือเจสสิก้าไปซุกในกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขา
      “อุ่นขึ้นมั้ย?” อีกคนถามด้วยรอยยิ้ม
      “อ..อื้ม อุ่นมากเลย” ใบหน้าเจสสิก้าเริ่มขึ้นสีจากการกระทำของอีกฝ่าย ไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่เคยชินกับมัน
      “คิดถึงตอนนั้นเนอะ” อยู่ๆซูยองก็เปลี่ยนเรื่องคุย
      “ตอนไหนเหรอ?”
      “ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกไง เธอน่ะ ตลกชะมัด ฮ่าๆๆๆๆ”
      “นี่!!! หยุดเลยนะ” เจสสิก้าแยกเขี้ยวใส่คนที่นอนอยู่ทันที
      .
      .
      .
      รถยนต์คันหรูจอดถูกจอดลงใกล้ๆร้านสะดวกซื้อ ชเว ซูยองที่ถ่อรถมาจากคอนโดกลางดึกเพียงเพราะหิวรีบวิ่งเข้าร้านทันที ในวันสิ้นปีแบบนี้ คงมีแค่เธอที่นอนหมกตัวอยู่แต่ในห้อง ก็นะ เพื่อนก็ไปเที่ยวกับแฟน ส่วนแฟนก็ไม่มี ครอบครัวเองก็อยู่ต่างบ้านต่างเมืองซะไกล นอนอยู่ห้องคนเดียวดีกว่าถ่อไปให้คุณตาคุณยายถามคำถามเดิมๆว่า เมื่อไหร่จะแต่งงาน เฮ้อ...ผัวเอ้ย!แฟนสักคนยังไม่เคยจะมีเลยเถอะ...
      ขากลับจากร้านสะดวกซื้อคนตัวสูง กลับนึกครึ้มใจไปเดินเล่นที่สวนใกล้ๆแถวนั้น ถึงจะเอื่อยแค่ไหน ก็ไม่มีใครว่าหรอก เพราะเธออยู่ตัวคนเดียว
      “ฮึก...” เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นทำเอาซูยองนึกสงสัย ใครมาร้องไห้ในวันแบบนี้กันนะ
      “ฮึก...ฮืออออ” ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เสียงก็ยิ่งดังขึ้น
      “ฮืออออออ ทำไม..ฉันไม่ดีตรงไหน ฮือออ”
      “กรี๊ดดดผี!!!!” ซูยองถึงกับผงะเมื่อเดินไปใกล้ๆเสียงร้องไห้นั่น กลับเจอร่างของผู้หญิงที่เอาแต่นั่งก้มหน้าร้องไห้
      “คนย่ะ!! ฮืออออ ไอ้บ้า ผีอะไรสวยขนาดนี้” คนที่ร้องไห้เงยหน้าโทรมๆขึ้นมาด่าไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ กล้ามาว่าเธอเป็นผีซะได้
      “เออว่ะ ตัวยังอุ่นๆอยู่” ซูยองเอามือไปแตะๆอย่างกล้าๆกลัวเพื่อพิสูจน์ว่านั่น.. คนหรือผี
      หมับ!!! ผู้หญิงคนนั้นจับมือซูยองก่อนจะ...
      “นี่!!! ฉันมันไม่ดีตรงไหนกัน ทำไมต้องทิ้งฉันไปด้วย ฮือออ”
      “เอ่อ....มันไม่ดีตรงที่เธอเสียงดังนี่แหละ คนผ่านไปมาเขาเข้าใจผิดหมดแล้วนะ”ซูยองพยายามดึงมือตัวเองกลับ
      “ฮืออออออออออออ” ยัยนี่กลับเอาแต่ร้องไห้ ไม่สนเลยว่าคนอื่นจะมองยังไง
      “นี่เธอ” ซูยองนั่งลงตรงที่ว่าง ก่อนจะยิ้มให้อีกคนอย่างอ่อนโยน
      “อย่าร้องเลยนะ มันไม่มีประโยชน์หรอก ยิ้มเถอะ ตามทฤษฎีอารมณ์ของเจมส์แลงนะ พฤติกรรมเกิดก่อนอารมณ์ ฉะนั้น เธอต้องยิ้มนะ จะได้มีความสุข” ซูยองจ้องมองผู้หญิงข้างๆเธอด้วยความมั่นใจ
      “ยิ้มแล้วฉันจะมีความสุขจริงๆเหรอ?”
      “อื้ม”
      “แต่ฉัน...เพิ่งเลิกกับแฟน จะมีความสุขจริงๆน่ะเหรอ?”
      “จริงสิ ไหนลองยิ้มสิ” ซูยองยืนยันคำพูดของเธอ ก่อนจะยิ้ม ให้อีกคน...ยิ้มตาม
      “ฉัน จองซูยอน เรียกว่าเจสสิก้าก็ได้” ผู้หญิงคนเดิมแนะนำตัว พลางปาดคราบน้ำตาบนใบหน้า
      “ฉัน ชเว ซูยอง”
      “ขอบใจนะ”เจสสิก้ายิ้มให้ซูยอง
      “นี่ แล้วเธอฉลองปีใหม่กับใครเหรอ?” ซูยองถามขึ้น อีกคนทำได้แค่ส่ายหน้า
      “ไปคอนโดฉันมั้ย?”
      “อืม...”
      “ไปเถอะน่า ฉันอยู่คนเดียว”
      “ห้ามทำมิดีมิร้ายฉันนะ”
      “ด้วยเกียรติ์ของฉันเลย”ซูยองยกมือทำท่าทางยืนยัน
      “อื้ม ไปก็ได้”
      เพราะอะไรก็ไม่รู้แหละทำให้เธอเชื่อใจไอ้คนที่เพิ่งคุยกันเพียงแค่ไม่กี่สิบนาทีคนนี้ แต่อย่างน้อยๆเจสสิก้าก็มีความสุขขึ้นมานิดนึง ตอนที่ได้มองรอยยิ้มที่อีกคนส่งมาให้
       
       
       
       
      “ทั้งที่หิมะตกหนักแท้ๆ เธอก็นั่งร้องไห้อยู่ได้ตั้งนาน”ซูยองแขวะอีกคน
      “ก็คนมันเสียใจนี่ยะ!!!”
      “ฮ่าๆๆๆ”ซูยองขำท่าทางโวยวายของเจสสิก้า
      “ฉันดีใจนะ ที่ได้เจอเธอ” เจสสิก้ายิ้มให้คนที่นอนอยู่
      “นี่เจสสิก้า” ซูยองใช้ฝ่ามือยันพื้นไม้ลุกขึ้นมา ก่อนจะลงไปนั่งกับพื้น เข่าสองข้างจรดดินก่อนจะกุมมือเจสสิก้าไว้ทั้งสองข้าง
      “นี่ ทำไรน่ะ ลุกขึ้นมาเลยนะไอ้บ้า คนมองใหญ่แล้ว” เจสสิก้ามองไปรอบๆ มีบางคนหันมามองคู่ของเธอ ไม่ใช่ว่าเธออายหรอกนะ เขินต่างหาก เขินคนตรงหน้านี่แหละ
      “วันนี้ก็ครอบสองปีที่เรารู้จักกัน เราฉลองปีใหม่ด้วยกันสองครั้งแล้วนะ ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สาม แต่ฉันไม่อยากฉลองกับเธอแล้วล่ะ”
      “อะไรนะ”เจสสิก้าตกใจกับสิ่งที่คนตรงหน้าพูดออกมาอย่างมาก
      “เราเลิกเป็นเพื่อกันเถอะ คบกับฉันนะสิก้า ฉันรักเธอนะ”
      “...”
      ไร้เสียงตอบรับจากเจสสิก้า
      เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไป ซูยองจึงค่อยๆปล่อยมือเจสสิก้าลง
      “ขอโทษนะ ฉันคงคิดไปเองคนเดียว”
      “ไอ้บ้า!! ใครบอกเล่า ฉันก็แค่...”
      “อ...อะไรนะ ก็แค่อะไรเหรอ?” ซูยองทำตาโตทันที
      “....ก็แค่เขิน..” 
      “เลิกจ้องได้แล้วน่า”เจสสิก้าหลบสายที่อีกคนมองมา จ้องแบบนั้นได้ไง มันเขินนะ จะมุดดินหนีแล้ว!!
      “ตกลง...เป็นแฟนกันนะ?” ซูยองย้ำคำถามอีกครั้ง
      “อื้ม ตกลงค่ะ”
       
       
      .
      .
      .
      ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมา แม้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนหนาวสั่นได้ แม้หิมะจะนำมาซึ่งความหนาว ก็ไม่ได้แปลว่ามันนำมาซึ่งความเหงา ใครบางคนมีความสุขที่ได้เห็นมัน อาจมีหลายคนที่มีความสุขที่มันตกลงมา รวมทั้งเจสสิก้า และซูยอง แม้การพบเจอจะมีน้ำตา แต่มันก็มีรอยยิ้ม และมีตลอดไป..
      “สุขสันต์วันปีใหม่นะที่รัก” อ้อมกอดถูกกระชับให้แน่นขึ้น กอดอีกคนบนตักนุ่มๆ
      “สุขสันต์วันปีใหม่เหมือนกันนะ คุณแฟน” ร่างเล็กๆเอนหลังพิงแผ่นอกอุ่นๆของคนรัก สายตาของทั้งคู่จับจ้องไปที่พลุที่ถูกจุดขึ้นท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาบางๆให้ใครหลายคนได้หวนถึงอดีตที่น่าจดจำ
       
       


       
      Happy New Year : )


       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×