10 คำถามที่ทำให้คุณดูดี

เนื้อเรื่อง

1.น้ำหนักของเราเท่าไหร่แล้วนะ

            น้ำหนักตัวสัมพันธ์กับขนาดของรูปร่างและความน่ามอง ความคล่องแคล่ว ตลอดจนความมั่นใจในบุคลิกภาพ ไม่จำเป็นต้องผอมโกรก และอย่าให้อวบอ้วนจนเกินงาม รักษาความสมส่วนของรูปร่างเอาไว้ โดยมีวินัยต่อการดื่มกินและการออกกำลังกาย แถมยังส่งผลดีไปถึงสุขภาพและบุคลิกภาพด้วย เพราะหากน้ำหนักตัวพอดีๆ มีรูปร่างที่สมส่วน แต่งกายอย่างไรก็มั่นใจ การเคลื่อนไหวก็คล่องแคล่ว จะปฏิเสธหรือคะว่าผลดีเหล่านี้ไม่ช่วยให้คุณดูดี

2.เราพึงพอใจกับชีวิตในตอนนี้มั้ยนะ

            คนเรา...จะมีความสุขได้ต้องมีความพึงพอใจในชีวิตค่ะ คนที่พึงพอใจในชีวิตจะเป็นคนที่มีความสุข สดใส ร่าเริง และมองโลกในแง่ดี ทำให้มีประสิทธิภาพในการเข้าสังคมและการทำงาน เมื่อมองจากสายตาของคนภายนอก คุณจะเป็นคนที่หลายคนอิจฉา เพราะคุณช่างดูมีชีวิตชีวา มีความหวังต่อชีวิต และสนุกกับทุกๆ ช่วงตอนของชีวิต การตรวจสอบตนเองด้วยการถามคำถามนี้ ยังเป็นแรงผลักสำคัญที่จะทำให้คนเราคิดถึงความก้าวหน้าและความสุขใจที่เพิ่มขึ้น ทำให้เห็นหนทางที่จะพัฒนาตนเองและประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นอีก

3.เมื่อเทียบกับคนทำงานรอบตัว เราเป็นอย่างไรบ้างนะ

            บางครั้งคนเราต้องหามาตรวัดเพื่อตรวจสอบ ว่าเรามีค่ามีราคาแค่ไหน หากไม่เกิดการเปรียบเทียบ เราก็มักจะทึกทักเอาเองว่าเราดี เราเก่ง เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ชีวิตได้อย่างดี มีความสุข มีความหมายต่อคนที่เรารักและต่อตัวเอง แต่ในการเปรียบเทียบนั้น ต้องเปรียบเทียบอย่างซื่อตรง ไม่ลำเอียง หรือคิดเข้าข้างตนเอง หรือเพื่อจะอิจฉาริษยาว่าคนอื่นดีกว่า หรือเจ็บช้ำน้ำใจว่าเราด้อยกว่าคนอื่น พึงระลึกไว้ว่าเราเปรียบเทียบเพื่อหาคุณค่าของตัวเอง และเพิ่มพูนคุณค่าที่ว่านั้นให้เกิดความหมายสูงสุดกับทุกๆ คนที่เราเกี่ยวข้องด้วย ต้องวางทัศนคติว่าในโลกของการเรียนรู้และการมีชีวิตอยู่ มนุษย์ทุกคนต่างก็เป็น “ครู” ของกันและกัน

4.เราใส่ใจกับตัวเองมากพอหรือยังนะ

            หลายคนไม่ใส่ใจในตัวเองเลย ปล่อยปละละเลยตั้งแต่ผมถึงรองเท้า มันจะอยู่ในสภาพไหนก็ช่างมัน แค่มีไว้ปกปิดร่างกาย คิดอย่างนั้นก็ง่ายดีนะคะ แต่ต้องไม่ลืมว่าเสื้อผ้าคืออาวุธที่สำคัญในการสร้างพลังในตนเอง สร้างแรงดึงดูดจากคนภายนอก และบ่งบอกความเป็นคุณอย่างเห็นได้ชัด นั่นรวมไปถึงเครื่องประดับ ทรงผม การแต่งหน้า และผิวพรรณอันเปล่งหรือเหี่ยวของคุณด้วย คนทุกคนมีสง่าราศีในตัวเอง แต่ราศีที่ว่าจะแผ่รังสีออกมาให้คนอื่นสัมผัสได้ ต้องเกิดจากการใส่ใจและปรุงแต่งมันเพิ่มอีกเล็กน้อย ให้เป็นจุดเด่นที่สวย สง่า และน่ามอง

5.เราอ่านหนังสือเดือนละกี่เล่ม

            หนังสือคือปัญญา คือครูบาอาจารย์ที่เราจะเข้าพบท่านได้ตลอดชีวิต ช่วยให้เราพัฒนาความคิด สะสมความรู้ และขัดเกลาตัวตนของเราให้ยิ่งประณีตและประเสริฐ หนังสือ 1 เล่ม ราคาไม่ต่างจากเครื่องดื่มที่ไม่มีคุณค่าต่อร่างกายมากมาย บางคนซื้อกาแฟ 1 แล้ว แพงกว่าราคาหนังสือ 1 เล่มเสียอีก นี่ไม่รวมถึงค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้มในทุกๆ ครั้งของการสังสรรค์ หนังสือหลายเล่มให้ความสุข ทำให้สมองของเรามีดุลยภาพ มีสมาธิ มีการฝึกการคิด รู้สึก และประมวลผล มีประโยชน์มากกว่าที่ใครหลายคนคิด

6.เราฟังเพลงอะไรอยู่

            เพลงหรือดนตรีบ่งบอกสไตล์และรสนิยมของคนคนหนึ่ง บ่งบอกด้วยว่าเขามีอารมณ์สุนทรีย์แค่ไหน ซึ่งหมายถึงการใช้ชีวิตอย่างสมดุลกับส่วนอื่นๆ คนแต่ละคนต้องมีวิธีเติมความสุขหรือผ่อนคลายตัวเอง ดนตรีเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดทางหนึ่ง หลายคนดูดีเพราะมีรสนิยมการฟังเพลงที่ชัดเจนเป็นของตนเอง และรู้ที่จะตักตวงความสุขจากการฟัง มากกว่าเปิดเพื่อกรอกหู หรือทำลายความเงียบ

7.เรามั่นใจที่จะไปไหนมาไหนหรือเปล่า

            ความมั่นใจในตัวเองที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือการไปไหนมาไหนตามลำพังได้โดยไม่กลัว และมีวิธีที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างสุขุม ซึ่งจะช่วยให้คุณดูดี แม้อยู่ในสถานภาพโสด แต่ก็เป็นสุข หรือหากจะต้องติดต่อสัมพันธ์กับใคร ทั้งในฐานะส่วนตัว หรือเป็นตัวแทนของบุคคล หน่วยงาน องค์กร ก็ไม่ทำให้เกิดความเสียหายใดๆ แต่ยังเป็นที่รัก ชื่นชม และนับถือได้อีกต่างหาก

8.เราเป็นที่รักของเพื่อนฝูงและคนรอบตัวมั้ยนะ

            มนุษย์คนหนึ่ง หากเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ หรือเบื่อหน่ายจากคนรอบตัวแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะมีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต คำถามนี้จะช่วยให้เราพินิจพิจารณาตนเองและคนรอบข้าง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงบางอย่างบางเรื่อง บางบุคลิกของตนให้ดูดีและมีเสน่ห์ขึ้น

9.มีใครเห็นเราเป็น “แบบอย่าง” หรือ “แรงบันดาลใจ” ของเขาบ้าง

            หากตั้งคำถามนี้ แล้วคำตอบว่า “มี” แสดงว่าคุณดูดี และประสบความสำเร็จสูงสุดแล้ว

10.เราทำบุญปีละกี่ครั้ง

            การรู้จักทำบุญสะท้อนจิตใจที่นึกถึงผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จงเลือกวิธีทำบุญที่ดีกว่าหิ้วถังสังฆทานเข้าวัด แล้วไปกองเหลือบานเบอะแบบไม่มีประโยชน์ แต่ขอให้นึกถึงเรื่องของทุนการศึกษาที่จะไปต่ออนาคตของเด็กๆ และเยาวชน การบริจาคหนังสือเข้าห้องสมุด ร่วมสร้างถาวรวัตถุที่เป็นประโยชน์ทางปัญญาและคุณภาพชีวิตของคน ร่วมสนับสนุนองค์กรมูลนิธิต่างๆ ที่อุปถัมภ์ผู้สูงอายุ คนพิการ หรือคนที่ด้อยโอกาส นับว่าคุณมีจิตใจดีและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเพื่อนมนุษย์ด้วย

           เอาล่ะ ลองตั้งคำถามทั้ง 10 ข้อที่ว่ามา และนำไปสู่การปฏิบัตินะคะ ดิฉันเชื่อว่าคุณจะมีความสุข ความก้าวหน้า เป็นคนที่มีคุณค่า และเป็นที่รักของใครต่อใครได้มากทีเดียว