คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 20
Chapter 20
หลังจากที่พวกเขาหาบริเวณถนนทั่วแล้ว รวมทั้งบริเวณโดยรอบ พวกเขาก็ไม่เจอแม้แต่เงาของทั้งสองคนนั้นเลย เลยตัดสินใจไปปรึกษาหารือกันที่โรงแรมก่อน เพราะตอนนี้ถึงหายังไงสุดท้ายโอกาสเจอก็ยังน้อยกว่า 1 ต่อ 100 อยู่ดี
“ไอ้สวะหน้าไหนมันบังอาจจับตัวของของฉันไป ฉันจะเผามันทั้งโคตร!!” นายเหนือแห่งวาเรียพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดอย่างสุดๆ ในขณะที่บอสแห่งคาบัคโลเน่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย จะมีก็เพียงแต่แววตาที่ครุกกรุ่นดั่งไฟที่ทุกคนไม่เคยเห็นจากดีโน่มาก่อน เพื่อเป็นสัญญาณไว้ว่า ‘คนพวกนั้นคงจะได้เจออะไรดีๆซะแล้วสิ’
“ผมมีสายอยู่ที่เมืองไทยมากพอสมควรนะครับ เดี๋ยวผมจะไปติดต่อขอให้พวกนั้นช่วยตามหาให้ก็แล้วกัน เอาให้เร็วที่สุดเลย” มุคุโร่ที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็นึกออก
“อืม เดี๋ยวฉันก็จะติดต่อโรมาริโอ้ด้วย” ดีโน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆและนิ่งๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ดีค่ะ ที่เมืองไทยเราก็มีเลวี่นี่ค่ะ บอสจะให้เจ๊ติดต่อให้มั๊ยค่ะ!?” กระเทยสาวหันไปถามบอสแห่งวาเรีย
“อาจจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ก็ติดต่อไปล่ะกัน” บอสแห่งวาเรียพูดน่าขรึม
หลังจากที่ทุกฝ่ายทำธุระติดต่อคนรู้จักเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับมานั่งตรงที่เดิม ที่โต๊ะอาหารของโรงแรมตัวใหญ่ ในขณะที่สึนะโยชิหันซ้ายหันขวาไปรอบๆเหมือนหาใครยังไงยังงั้น
“เห็นท่าทางแกแล้วมันหงุดหงิดว่ะ สองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก!!” บอสแห่งวาเรียที่ทนไม่ไหวเอ่ยถามสึนะขึ้น
“เอ่อ...ผมกำลังหาล่ามผู้หญิงคนนั้นอยู่น่ะครับ เขาไม่ได้กลับมากับเราด้วยเหรอครับ!?” คำถามนี้ทำให้ทุกๆคนงงไปตามๆกัน เพราะพวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าล่ามสาวอยู่ ณ ที่นี่มั๊ย คงจะเป็นเพราะยุ่งๆกันอยู่แน่เลย
“เดี๋ยวเจ๊โทรไปถามให้ล่ะกันค่ะ” ลุซซูเรียอาสา
“แล้วถ้าสมมติว่าไอ้ล่ามสวะนั่นกำลังเล่นน้ำอยู่ล่ะ โทรศัพท์ของมันก็จะไม่อยู่กับตัวน่ะสิ แล้วจะรับได้ไง” บอสแห่งวาเรียแนะ
“ฉันว่าคงเลิกเล่นน้ำแล้วล่ะ เพราะว่านับตั้งแต่เราไปที่ถนนนั่นจนมาถึงตอนนี้ก็กินเวลาไปเกือบ 6 ชั่วโมงแล้วนะ ไม่มีใครบ้าเล่นน้ำนานขนาดนั้นหรอก แล้วอีกอย่าง เมื่อล่ามคนนั้นไม่เห็นพวกเรา เธอก็น่าจะโทรมาถามเราแล้วล่ะ ว่าไปอยู่ที่ไหน แต่นี่...เธอกลับหายไปเลย พวกนายคิดว่ามันแปลกไปมั๊ยล่ะ!?” ดีโน่พูดพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด
“บางที...ล่ามคนนั้นอาจจะเป็นสายของคนที่จับตัวสองคนนั้นไปก็ได้นะครับ!?” มุคุโร่เอ่ย
“งั้นเดี๋ยวเจ๊ลองโทรไปดีกว่าค่ะ ถ้าเขาปิดเครื่องหรือไม่รับสาย ตัดสายทิ้ง ก็แปลว่าคงเป็นอย่างที่คุณมุคุโร่พูดจริงๆ” จากนั้นลุซซูเรียก็จัดการโทรศัพท์ไปหาล่ามสาว แต่ผลปรากฏว่าเธอตัดสายทิ้ง
“เธอตัดสายทิ้งค่ะ เธอคงจะเป็นอย่างที่สปายจริงๆนั่นแหละค่ะ” ลุซซูเรียบอกทุกคน
“เฮอะ! นับว่าเป็นชะนีสวะที่กล้ามากทีเดียวที่ทำแบบนี้” แซนซัสว่าพลางยิ้มเหี้ยม
ไม่นานนัก สายสืบของมุคุโร่ก็โทรมาบอกว่า เขาเจอตัวฮิบาริกับสคอลโล่แล้ว อยู่ที่โรงแรมแถวชานเมืองซึ่งห่างจากถนนD18 เพียง
เมื่อพวกเขาได้ฟังดังนั้น ก็รีบนำรถออกและบึ่งไปที่โรงแรมดังกล่าวทันทีด้วยอารมณ์ที่เรียกว่าใจร้อนสุดๆ โดยเฉพาะดีโน่และแซนซัส พวกเขาสองคนกลัวว่าการที่พวกนั้นพาสองเคะมาที่โรงแรม ก็เพื่อจะพามาทำมิดีมิร้ายอย่างที่พวกผู้ชายมักทำกับผู้หญิง มากกว่าที่จะลักมาฆ่าเสียอีก
.
.
.
ทางด้านสองเคะบ้าง
ในห้อง 339 ของโรงแรมระดับ 5 ดาวแถวๆชานเมือง ฮิบาริกับสคอลโล่ถูกมัดมือไว้บนหัวเตียงคนละข้าง และเท้าก็ถูกมัดไว้อยู่เช่นกันในขณะที่พวกเขาก็ยังคงสลบอยู่ มีชายหญิงคู่นึงกำลังยืนมองภาพเหล่านี้อยู่ด้วยความพอใจ
“บอสค่ะ ในที่สุดบอสก็ได้สิ่งที่ต้องการซักทีนะคะ” อดีต(?)ล่ามสาวของเหล่าวาเรียเอ่ยขึ้นกับผู้เป็นบอสของตน
“อืม งานนี้ต้องขอบใจเธอนะ คงลำบากแย่เลย” ทรีเซียโน่ ผู้เป็นบอสแห่งทรีเซียโน่แฟมิลี่( หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงชื่อเดียวกันเลย และเหตุผลก็คือแพรวคิดชื่ออื่นไม่ออกค่ะ =_=:;) เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆกับผู้เป็นเลขาของตน
“ค่ะ ดิฉันยินดีค่ะ แต่ก็ยังเจ็บใจเล็กๆนะคะ แหม อุตส่าห์มาที่นี่ได้ตั้งนานแล้ว แต่กลับติดไอ้ยามหน้าโง่นั่นอยู่ได้ ไม่ยอมให้เข้าสักที อ้างว่ารักษาความปลอดภัยๆอยู่ได้ กลัวว่าเราจะมอมยาคนมาทำมิดีมิร้าย เฮอะ!! แล้วจะทำไมล่ะ ถามมากขนาดนั้น ตัวเองน่ะสิที่จะไม่ปลอดภัยซะเอง” เลขาสาวยังบ่นไม่หยุด
“เอาน่าๆ เขาก็แค่ทำตามหน้าที่เขา ไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย” บอสแห่งทรีเซียโน่เอ่ยอย่างใจเย็น
“ทำตามหน้าที่เหรอค่ะ เฮอะ!! แค่โดนเงินของบอสฟาดหัวไปก็ยอมแล้วไม่ใช่เหรอค่ะ” เลขาประชด
“ฮาฮ่าฮ่า” เขาไม่ตอบอะไรได้แต่หัวเราะด้วยความสมเพศเท่านั้น
“ว่าแต่..ทำไมบอสถึงเลือกประเทศนี้เพื่อลงมือล่ะค่ะ!?” เลขาสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง
“ที่จริงจะประเทศไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ ยกเว้นอิตาลีและญี่ปุ่นน่ะ”
“เอ๋!? ทำไมล่ะค่ะ”
“เพราะสองประเทศนั้นเป็นประเทศที่พวกวองโกเล่มีอำนาจมากล่ะสิ และก็แน่นอนว่าเราจะทำการนี้ลำบากด้วย” ผู้เป็นบอสตอบ ซึ่งเลขาสาวก็พยักหน้าเข้าใจทันที
“เธอว่ามั๊ย!? ตอนนี้ฉันเป็นคนที่โชคดีที่สุดเลยล่ะ ได้ผู้ชายสวยตั้งสองคนมาเป็นภรรยาน่ะ” ทรีเซียโน่ที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม ก่อนที่จะค่อยๆนำมือหยาบกร้านของเขามาลูบไล้ใบหน้าของทั้งสองเคะเบาๆ
“ค่ะ ถ้าคุณคิดเช่นนั้น” เธอตอบรับ
“ว่าแต่...พวกวาเรียรู้รึยังล่ะ ว่าฉันลักพาตัวสองคนนี้มา” ทรีเซียโน่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เกรงว่าพวกนั้นจะทราบแล้วค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าพวกนั้นคงไม่รู้หรอกค่ะว่าสองคนนี้อยู่ที่ไหน” เลขาสาวพูดด้วยท่าทางมั่นใจเสียเต็มประดา
“เธออย่ามาดูถูกพวกนั้นเชียวน่ะ ถึงแม้พวกนั้นจะไม่มีอิทธิพลที่ประเทศนี้ซักเท่าไร แต่มันก็ต้องมีบ้างแหละ” เขาดุ ทำเอาเลขาของเขาจ๋อยลงทันที
“เอ่อ..ขอโทษค่ะ”
“ตอนนี้เธอออกไปได้แล้วล่ะ หมดหน้าที่ของเธอแล้ว ฉันจะทำธุระของฉันต่อ” เขาพูดเชิงไล่
“ค่ะ ขอให้บอสมีความสุขกับสิ่งที่ทำนะคะ” พูดจบเธอก็เดินออกไปจากห้องนั้นทันที
และนั้นเป็นเวลาเดียวกันที่ ดีโน่ แซนซัส ลุซซูเรีย มุคุโร่และสึนะโยชิก้าวขาออกจากรถที่พวกเขานั่งมาพอดี พอลงจากรถ ดีโน่และแซนซัสรีบเดินเข้าไปในโรงแรมนั้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาไปเจอสายสืบที่ยืนรออยู่แล้ว คุยกันเพียงไม่กี่คำ เขาทั้งสองก็พยักหน้าเข้าใจ และเตรียมก้าวขาจะไปขึ้นลิฟต์ทันที แต่ทว่า...
“เฮ้ย!! พวกแก” มีเสียงผู้ชายทักขึ้นมาข้างหลังดีโน่ก่อน
ชายคนนั้นเตรียมเสยหมัดตั้งแต่วินาทีที่สองที่ดีโน่หันมา แต่แน่นอนอยู่แล้วว่า ตอนนี้ถึงจะไม่มีลูกน้องให้ปกป้อง แต่ดีโน่ก็ยังมีคนที่จะให้ปกป้องอยุ่ ซึ่งคอยอยู่ข้างบน ดีโน่ซัดหมัดไปที่หน้าของชายคนนั้นเต็มๆ ก่อนที่จะเตรียมขึ้นลิฟต์ไปอีกครั้ง
แต่แน่นอนว่า ศึกครั้งนี้มันยังไม่จบง่ายๆ เพราะมีชายคนอื่นมาเพิ่มอีก และเตรียมจะทำร้ายพวกเขา ทำให้ดีโน่และแซนซัสต้องจัดการพวกนี้ก่อน เป็นเวลาพอดีที่ลุซซูเรีย มุคุโร่และสึนะโยชิมาพอดี ดังนั้นพวกเขาจึงช่วยกันจัดการคนพวกนี้ก่อน และบอกให้ดีโน่กับแซนซัสตามไปช่วยสองเคะนั่น ซึ่งสองเมะพยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะขึ้นลิฟต์ไปตามชั้นและห้องที่เขาได้รู้เมื่อครู่เพื่อไปช่วยคนที่ใจตามหา(?)
.
.
.
TBC.
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ^^
ความคิดเห็น