ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mistake [XS,D18] [Reborn Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.45K
      20
      30 ม.ค. 53

    Chapter 2

     

    พวกนายไม่ต้องไปพักที่โรงแรมหรอกนะ อยู่กับฉันที่คฤหาสถ์คาบัคโรเน่นี่ล่ะ ที่นี่เหงียบเหงาจะตาย มีพวกนายอยู่คงครึกครื้นขึ้นมาบ้างล่ะ ม้าพยศเอ่ยขึ้นในขณะที่นั่งรถพาพวกวองโกเล่ไปที่คฤหาสน์ของตนเอง

     

    ครับ พวกเราอยู่ได้ แต่ว่า...แล้วคุณฮิบาริล่ะครับ วองโกเล่ร่างเล็กเอ่ยขึ้นพลางมองหน้าผู้พิทักษ์เมฆาของตนเองด้วยความหวาดกลัวนิดๆ

     

    ฉันอยู่ได้น่า แค่อย่ามารบกวนฉันให้มากนักก็พอ ฮิบาริ เคียวยะตอบพลางเสหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง จนสายตาพลันไปเห็นมหาวิหารแห่งหนึ่ง ที่ด้านหน้ามีประตูอยู่ด้วยกัน5บาน ตัววิหารเป็นสไตล์โกธิค บนยอดที่สูงที่สุดถูกประดับด้วยรูปปั้นพระแม่มาเรียสูง4เมตร หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์ ซ้ำด้านบนวิหารนั้นยังมียอดแหลมๆตั้งขึ้นมาอีกมากมายด้วย และสถานที่สวยงามแห่งนี้ยังตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองธุรกิจอิตาลีอย่างเมืองมิลานอีกด้วย

     

    นี่ ดีโน่ นี่คืออะไรน่ะ ชายหนุ่มเอ่ยถามม้าพยศ ในขณะที่สายตายังจับจ้องอยู่กับสิ่งที่เขาเห็นเมื่อครู่นั้น

     

    อ๋อ นี่คือมหาวิหารประจำเมืองมิลาน พวกเราเรียกกันว่า ดูโอโม(Duomo) นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งเมืองเลยนะ แล้วยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกันอีกน่ะ ฉันเคยขับรถผ่านมาแถวนี้ตอนช่วงเย็นๆด้วยนะ ขอบอกว่าสวยมากๆเลยล่ะ เคียวยะชอบเหรอ?”

     

    อืม ที่นี่สวยมากนะ แล้วข้างในวิหารนี้จะมีอะไรบ้างนะ ชายหนุ่มยังไม่ยอมละสายตาจากวิหารนั้นอีกเช่นเคย จนม้าพยศรู้ว่า ลูกศิษย์คนนี้ของเขาท่าทางจะติดใจที่นี่แล้วล่ะสิ

     

    ถ้าอย่างนั้น วันพรุ่งนี้ช่วงเย็นๆ เรามาที่นี่กันดีมั๊ยล่ะ ขอรับรองเลยว่าถ้าพวกนายเห็นข้างในจะต้องทึ่งในความสวยงามมากๆเลยล่ะ ม้าหนุ่มพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกับทุกคน

     

    เอ่อ... แต่คือ...ผมว่าที่นี่น่ากลัวนะครับ มีอะไรแหลมๆ อยู่ข้างบนเยอะแยะไปหมดเลยอ่ะ ผม...ขอบายดีกว่าครับ ชายร่างเล็กผมสีน้ำตาลแห่งวองโกเล่เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงเกรงใจนิดๆ

     

    ถ้ารุ่นที่สิบไม่ไป ผมก็ไม่ไปด้วยครับ วายุแห่งวองโกเล่เอ่ยด้วยน้ำเสียงขึงขัง

     

    แต่ถึงอย่างนั้น คุณดีโน่และเคียวยะก็ไปกัน2คนก็ได้นี่ครับ พวกผมรออยู่ที่คฤหาสถ์ก็ได้ มุคุโร่พูดขึ้นพลางบอกไปที่ดีโน่และฮิบาริ

     

    อืม.. แล้วแต่เคียวยะสิ ว่าจะยังไง พูดจบดีโน่ก็หันไปมองทางฮิบาริ

     

    ฉันอยากไปที่ดูโอโมกับใครก็ได้...เย็นนี้ ปากก็พูดเช่นนั้น แต่ในใจอยากจะตะโกนว่า ฉันอยากไปกับแกโว้ย!!! ไอ้ม้าบ้า

     

    หา? ตอนนี้ก็บ่ายแล้วนา เคียวยะไม่ไปนอนพักผ่อนก่อนเหรอ เพิ่งมาถึงเหนื่อยๆนา ม้าพยศพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง จนทำให้ใครบางคนคิดไปไกล

     

    ไม่...ไม่ต้องหรอก ฉันอยากไปวิหารมากกว่า เรื่องนอนพักผ่อนน่ะ ยังมีเวลานอนอีกมาก...ในโลงศพ

     

    ฮะ ฮา ฮ่า ก็ได้ๆ อยากไปก็ไป เดี๋ยวไปเก็บของที่คฤหาสน์ก่อนนะ แล้วเราค่อยไปกัน ดีโน่พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

    .

    .

    .

     

    เมื่อมาถึงที่มหาวิหารดูโอโม เมฆาร่างเล็กแห่งวองโกเล่ก็รู้สึกว่าจะตื่นเต้นในการได้มาเที่ยวครั้งนี้เหลือเกิน ถึงแม้จะไม่แสดงทางวาจาหรือท่าทางว่าสนุกสนานมากนัก แต่สำหรับดีโน่ ผู้เคยเป็นอาจารย์ของเขามาก่อน กลับสัมผัสความรู้สึกนี้ได้ทางดวงตาของเขาที่แสดงออกมาอย่าปิดไม่มิด...แต่ทำไม...ดีโน่..กลับสัมผัสไม่ได้ถึงความรักเกินอาจารย์ที่ลูกศิษย์คนนี้มีให้ต่อตนเอง

     

     

    ...หรือว่า...ดีโน่..รับสัมผัสของเคียวยะไม่ได้...เพราะเขาจะรอรับแต่สัมผัสของใคร

     

    ...หรือว่า...ดีโน่...มองเคียวยะไม่ได้...เพราะในสายตาเขา...กำลังมองหาใคร

     

    หรือว่า...ดีโน่...ให้เคียวยะไปอยู่ในความคิดไม่ได้...เพราะตลอดเวลา...เขากำลังคิดถึงใคร

     

     

    .

    .

    .

     

    นี่ เคียวยะ เหนื่อยรึยัง มานั่งพักที่นี่ก่อนมั๊ย ฉันซื้อน้ำมาด้วย มาดื่มก่อนล่ะกัน มาเร็วๆ ดีโน่พูดพลางควักมือเรียกลูกศิษย์ของตนที่ตอนนี้กำลังเพลิดเพลินอยู่กับภาพวาดอันสวยงามขนาดใหญ่ที่อยู่ในมหาวิหารดูโอโมแห่งนี้

     

    อืม ฉันก็กำลังกระหายน้ำอยู่พอดีซะด้วย พูดจบฮิบาริก็หันไปมองภาพวาดนั่นอีกครั้ง แล้วจึงเดินตรงไปหาดีโน่ ...แต่ทว่าระหว่างทางเดินมานั้น เขาได้เดินไปชนกับคนคนหนึ่ง ที่มีผมสีเงินยาว นัยน์ยาสีอควอมารีน ใช่แล้ว! เขาคือ สเพลบี สคอลโล่ ฉลามแสนสวยแห่งวาเรีย...

     

    อ้าวเฮ้ย! เดินดีๆหน่อยสิวะ...ห๊ะ อ้าว? นี่เจ้าหนูเมฆานี่นา มาทำไรที่นี่เนี่ย?” ฉลามถามพร้อมทำใบหน้าสงสัยอย่างน่ารัก(?)

     

    แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก เจ้าสัตว์กินพืช ฮิบาริทำสีหน้าไม่พอใจนัก เพราะที่เดินชนกันกับฉลามขาวนั้น มีเขาที่เซอยู่คนเดียวอะดิ๊!

     

    เป็นอะไรรึเปล่า เคียวยะ อ๊ะ อ้าว สคอลโล่ นายก็มาด้วยเหรอนี่ ดีใจจังนะที่เจอนายที่นี่ ม้าพยศที่เดินเข้ามาหาลูกศิษย์ เมื่อเห็นสคอลโล่ก็รีบทักทายทันที

     

    ฉันมาทำงานแถวนี้น่ะ ก็เลยมาเดินเล่นที่นี่ แล้วแกล่ะ พาฮิบาริมาเที่ยวงั้นเหรอ แหม! ความสัมพันธ์ก้าวไกลแล้วสินะ ฮะฮ่า ฉลามขาวได้ทีแซวม้าพยศอย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจริงจังมาก

     

    เปล่านะ สคอลโล่ นายเข้าใจผิดแล้ว เคียวยะอยากมาที่นี่ ฉันก็แค่พามาเท่านั้นเอง เผอิญว่าพวกวองโกเล่ไม่อยากมากัน ก็เลยมาแค่2คนน่ะ หลังดีโน่พูดจบ ฮิบาริ เคียวยะก็เดินไปที่อื่นทันที ม้าพยศได้แต่ชายตามองเล็กน้อย แล้วหันไปคุยกับสคอลโล่ต่อ

     

    แล้ว...เอ่อ..ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับแซนซัสล่ะ เป็นยังไงบ้าง ม้าหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเจือเศร้า

     

    ก็ดี...ไอ้คุณบอสก็ยังเจ้าอารมณ์เหมือนเดิมอ่ะนะ ฮะฮ่ะฮ่า สคอลโล่พูดพลางหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าของตนเช่นกันยามพูดถึงชายที่ตนแอบรัก แต่กริยาเพียงแค่นี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ม้าหนุ่มต้องเจ็บปวดหัวใจ

     

    สคอลโล่...ฉัน...ยังยืนยันคำเดิมนะ...ว่าฉันยังรักนายอยู่...ถ้านายทนแซนซัสไม่ไหวล่ะก็ ปรึกษาฉันได้เสมอนะ สคอลโล่ ดีโน่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงจัง คนตรงหน้านิ่งไป

     

    โว้ย! ทำไมฉันจะทนมันไม่ได้ว่ะ อยู่กันมาตั้งนาน ถ้าทนไม่ได้ฉันก็คงลาออกจากวาเรียไปนานแล้วล่ะ สคอลโล่พูดอย่างจริงจังเหมือนกัน ในใจก็นึกสงสารดีโน่อยู่ด้วยที่มาชอบเขาแล้วเจ็บปวด สงสารที่ดีโน่รักเขาอย่าบ้าคลั่งขนาดนี้ ต่างกับตัวเขาเองที่รักแซนซัสมาก แต่ความรักของเขาก็ไม่ได้ต้องการความรักจากแซนซัสเป็นสิ่งตอบแทน และไม่ได้ทุกข์ทรมานอย่างดีโน่ด้วย เป็นแค่การแอบรักไปวันๆเท่านั้น

     

    ...

     

    นี่ ดีโน่ ฉันคิดว่า...แกควรจะตัดใจจากฉัน แล้วหันไปมองคนที่รักแกบ้างนะ บางที...แกอาจจะมีความสุขก็ได้ ยังไงก็ดีกว่าแกเจ็บซ้ำๆอยู่อย่างนี้อ่ะนะ คำพูดนี้ที่ออกจากปากสคอลโล่ ทำให้ม้าพยศยิ่งงงเข้าไปใหญ่

     

    หือ? สคอลโล่ ที่เมื่อกี้นายพูดว่า ให้ฉันหันไปมองคนที่รักฉันบ้างน่ะ หมายความว่าอะไร? แล้วคนที่รักฉันคือใครกัน?” ดีโน่ถามสคอลโล่ด้วยน้ำเสียงไม่น่าเชื่อ

     

    เฮ้ย!! ไอ้ม้างี่เง่า นี่แกโง่จริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่ว่ะ คนใกล้ตัวแกแท้ๆ ปกติแค่มองตาก็รู้แล้ว แต่นี่แกยังไม่รู่อีกเรอะ!!! ซื่อบื้อจริงๆว่ะ สคอลโล่มองหน้าเพื่อนรักด้วยอารมณ์หงุดหงิด สรุปว่ามันงี่เง่าสมชื่อจริงๆ ให้ตายเหอะ!’

     

    ในขณะที่ดีโน่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น อารมณ์ของฉลามน้อยก็เดือดขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเขาต้องรีบกลับไปรายงานให้แซนซัสทราบด้วยน่ะสิ ไม่มีเวลารอจนมันคิดออกหรอก!!! จนในที่สุด ก็ทนไม่ไหว...

     

    โว้ย!!!! แกนี่มันโง่จริงๆนะโว้ย ไอ้ม้าบ้า ก็คนที่แกรักก็คือคนที่แกพามาเที่ยวที่นี่ด้วยน่ะสิว่ะ สคอลโล่พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญเต็มที่ แล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ม้าพยศยืนคิดสิ่งที่สคอลโล่พูดอยู่เมื่อครู่...

     

     

    คนที่ฉันพามาเที่ยวด้วยเหรอ?...ก็คือเคียวยะนี่

     

    เคียวยะ...เป็นเคียวยะจริงๆเหรอ...

     

    เคียวยะรักฉันเหรอ?...จริงเหรอ?

     

    งั้นเหรอ...งั้นเหรอ...

     

     

    ฮะ ฮ่ะ ฮา จริงๆเหรอนี่ จริงๆงั้นเหรอ ฮะ ฮ่ะ ฮา...ฮะ..หึ...หึหึหึ อยู่ๆม้าพยศของหัวเราะออกมา ในใจพลางคิดว่า สนุกแล้วสิ ฉันคงได้สนุกบ้างแล้วสิ หึ ขอบคุณนะ เคียวยะ

     

     

     ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เอาล่ะ ต่อมาก็มาเครียดเรื่อง ตอนที่3ดีกว่า เพราะว่าตอนที่3จะมีฉากเรทอ่ะค่ะ

    อย่างที่พูด ฟิคนี้ดาร์กนะคะ เลยต้องมีบ้าง

    ทำไงดี~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×