ตำนานรักจอมอสูรเทพสวรรค์ ภาค 2

          ภาคต่อของนิยายเชิงปรัชญา เรื่องราวความรักของเทพผู้ครองสวรรค์ชั้นฟ้า 
เทพผู้ซึ่งปิดประตูหัวใจ ไม่อาจรักใครได้อีกนอกจากนางผู้ซึ่งเป็นของบุคคลที่เขาเคารพรักผู้นั้น
          เขารักนางด้วยใจบริสุทธิ์ นางมีสุข เขาเป็นสุข นางมีทุกข์ เขาเป็นทุกข์ 
ชาติที่แล้วไม่อาจก้าวล่วงความรู้สึก เพราะความรักที่นางมีต่อเทพผู้นั้น ยิ่งใหญ่กว่าความรักของเขามากมายนัก
          เขาไม่คู่ควรกับนาง ไม่ว่าใครก็ไม่คู่ควร
          เขาพร้อมที่จะเก็บซ่อนความรักนี้ไปจนวันตาย แต่เหตุใด...จึงมีด้ายแดงปรากฏอยู่ที่ข้อมือของเขา 
ด้ายแดงที่ไม่ว่าจะตัดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด
          ยิ่งรู้ว่าที่ปลายของด้ายแดงอีกฝั่งเป็นนาง...เขาก็ยิ่งทรมาน
          เขารักนาง...แต่ไม่คู่ควร นางควรจะไปอยู่ในที่ๆ เทพผู้นั้นอยู่ เพราะนั่นคือความปรารถนาของนาง

                   พบกับ “เทพศาศวัต” เทพจอมเฮี้ยบ กับ “ศัตวรี” เทวดาจอมหื่น 
ที่ครานี้ ภพภูมิทั้งหกถูกเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว 
กับคำทำนายถึงการกำเนิดพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ บนโลกใบใหม่ 
โลกที่มนุษย์ เทวดา พรหม หรือแม้กระทั่งยมบาลก็สามารถนั่งพูดคุยกันได้ 
ในเรื่องราวที่ไม่อาจเปิดเผย คำโปรยอาจเป็นแค่คำลวง หรือแม้แต่อยู่ในนิยายผิดหมวด 
สไตล์นักเขียนอินดี้ “ชนม์นิภา”

------------------------------------------------------------

แนะนำตัวละคร

เทพไอยศวรสวรรค์     เทพจากสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สวรรค์ชั้นสูงสุด ชาติที่แล้วครองรักกับเทวดาจอมหื่นนามว่าศัตวรี บรรลุ                                 นิพพาน ดับขันธ์ไปพร้อมกับบอกความลับอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลให้ศัตวรีได้รับรู้เกี่ยวกับการถือกำเนิดของ                                พระพุทธเจ้าองค์ที่ห้าของภัทรกัป คือ พระศรีอริยเมตไตรย และการเกิดเอกภพใหม่ มีอาวุธคือ ดาบจันทรทิตย์ (สร้าง)

ศัตวรี/ถั่วแดง           เทพในชาติก่อน กว่าจะได้แต่งงานกับเทพไอยศวรสวรรค์ก็ผ่านเคราะห์มากมาย เมื่อได้รู้ความลับจักรวาลเกี่ยวกับ
                            การเกิดเอกภพใหม่ โลกจะถึงกาลวิบัติ จึงได้ตระเตรียมดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับให้กำเนิดมนุษย์ไว้ให้เทพศาศวัต
                            ช่วยดูแล เพราะเสียสละให้เทพไอยศวรสวรรค์บรรลุนิพพาน จึงตั้งปณิธานจะใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ให้คุ้ม

เทพศาศวัต              ฉายาเทพล่ำ ในอดีตเป็นเทพขี้รำคาญและขี้โมโห รักความยุติธรรม เที่ยงตรงเหมือนไม้บรรทัด มีอิทธิฤทธิ์และพละ
                            กำลังมาก มีพลังจิตกล้าแข็งมองเห็นทั้งหกภพภูมิ ชาติก่อนเพราะต้องดูแลศัตวรีที่กินผลกิเลสเข้าไป จึงค่อยๆ หลงรัก
                            นางโดยไม่รู้ตัว เมื่อเทพไอยศวรสวรรค์จากไปแล้ว จึงตั้งปณิธานจะดูแลนางอยู่ห่างๆ ภายหลังมีด้ายแดงปรากฏขึ้นจึง
                            พยายามตัดด้ายแดงหรือชะตารักของตนเอง เพราะไม่อยากจะรักใครนอกจากศัตวรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งจอมเทพ
                            ดูแลสวรรค์และแดนมนุษย์

-อาวุธคือ ทวน (ทำลาย)

-หยุดรูปร่างหน้าตาตอนอายุเท่ากับมนุษย์ 25 ปี

คณะลูกขุนเทพ         1) พระอินทร์ หรือเทพหัวเขียว ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และจตุกมหาราชิกาเป็นเทพที่ชอบทำผมทรงหางม้า
                            นิสัยร่าเริงเจ้าชู้ ชอบดื่มน้ำจัณฑ์และตั้งวงสังสรรค์  หยุดอายุเท่ากับมนุษย์ 28 ปี

2) พระแม่ธรณี เทพแห่งดิน ให้กำเนิดสรรพชีวิต หยุดหยุดรูปร่างหน้าตาตอนอายุเท่ากับมนุษย์ 40-45 ปี

3) พระพิรุณ เทพแห่งน้ำ ให้กำเนิดสายฝนและแหล่งน้ำ สร้างบ่อน้ำค้างทิพย์หยุดอายุเท่ากับมนุษย์ 22 ปี

4) เทพวายุ เทพแห่งพายุ ก่อให้เกิดคลื่นลมในมหาสมุทร สร้างสายฟ้าหยุดอายุเท่ากับมนุษย์ 25 ปี

5) เทวทูต ทำหน้าที่รับส่งดวงวิญญาณไปยังบ่อกำเนิด และทำหน้าที่ส่งสารลับต่างๆ ปกติจะไม่เปิดปากพูด

เทพพยัฆเมฆา           เทพแม่ทัพแห่งสวรรค์ชั้นนิมมานรดี คอยเฝ้าแดนสว่างและแดนมืดบนสวรรค์ มีฝีมือการรบที่เฉียบคม นับถือเทพ
ไอยศวรสวรรค์เหมือนพี่ชาย ชาติก่อนเคยกลั่นแกล้งศัตวรี ชาตินี้จึงอยากจะชดเชยให้กับนาง

ท้าวสวัตตี                หรือพญารามาธิราช เทพผู้ปกครองสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี เป็นเพื่อนรักของเทพไอยศวรสวรรค์

พญาสถิตมรณะ         พญายมบาล เจ้าผู้ครองนรกอเวจี มีนิสัยเฉยชา และชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจ

ผลกิเลส                   เป็นรูปนามของกิเลสทั้งสี่ คือ รัก โลภ โกรธ หลง ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เก็บไว้สี่ภพภูมิ

สราวุธ                     ชายหนุ่มในแดนมนุษย์ มีนิสัยโอบอ้อมอารี มีความรู้ ทักษะต่างๆ แตกฉาน

สุทธิกร                    น้องชายของสราวุธ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แนะนำภพภูมิทั้ง 6

มนุสสภูมิ              ภูมิอันเป็นที่อยู่ของมนุษย์

ดิรัจฉานภูมิ           ภูมิอันเป็นที่อยู่ของสัตว์

อสูรกายภูมิ           ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกอสูร

เปตวิสัยภูมิ           ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกเปต

นรกภูมิ                ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพระยายมราชและพนักงาน กับพวกวิญญาณที่กำลังใช้บาป

ฉกามาพจรภูมิ       ภูมิอันเป็นที่อยู่ของพวกเทวดา หรือสวรรค์ มี 6 ชั้น

** ภพพรหม           เป็นที่อยู่ของพรหม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับหกภพภูมิ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แดนสวรรค์ 6 ชั้น

จตุมหาราชิกา (สวรรค์ ชั้นที่ 1) เป็นที่อยู่ของเทพยดาชาวฟ้า อายุ 500 ปีทิพย์ (9 ล้านปีมนุษย์) ในอดีต ศัตวรีเป็นเทวดาดูแลสวนรุกขชาติและต้นผลกิเลสอยู่ที่นี่ ปัจจุบันเทพศาศวัตแต่งตั้งพระอินทร์มารักษาการดูแลชั่วคราว

ดาวดึงส์ (สวรรค์ ชั้นที่ 2) ที่เรียกว่าไตรตรึงษ์หรือดาวดึงส์ เป็นเมืองใหญ่มี 1,000 ประตู มี สมเด็จพระอมรินทราธิราช (พระอินทร์) เป็นผู้ปกครอง อายุ 1,000 ปีทิพย์ (36 ล้านปีมนุษย์)

ยามา  (สวรรค์ ชั้นที่ 3)

เป็นที่อยู่ของเทพยดาผู้มีแต่ความสุขอันเป็นทิพย์ มีท้าวสุยามเทวราชเป็นผู้ปกครอง อายุ 2,000 ปีทิพย์ (144 ล้านปีมนุษย์) ในอดีต เทพไอยศวรสวรรค์ที่จำแลงจากชั้นสูงสุดลงมาปกครองในตำแหน่งจอมเทพ ปัจจุบัน เทพศาศวัตเป็นผู้ปกครอง

          ดุสิต (สวรรค์ ชั้นที่ 4)

เป็นที่อยู่ของเทพเจ้าผู้มีความยินดีแช่มชื่นเป็นนิจ มีท้าวสันดุสิตเทวราชปกครอง อายุ 4,000 ปีทิพย์ (576 ล้านปีมนุษย์)

นิมมานรตีภูมิ (สวรรค์ ชั้นที่ 5)

เป็นที่อยู่ของเทพเจ้าผู้ยินดีในกามคุณอารมณ์ ซึ่งเนรมิตขึ้นมาตามความพอใจ มีท้าวสุนิมมิตเทวราชปกครอง อายุ 8,000 ปีทิพย์ (2,304 ล้านปีมนุษย์) มีเทพพยัฆเมฆาเป็นแม่ทัพใหญ่

ปรนิมมิตวสวัตตี (สวรรค์ ชั้นที่ 6)

เป็นที่อยู่ของเทพเจ้าซึ่งเสวยกามคุณอารมณ์ แบ่งเป็น ฝ่ายเทพยดา มีท้าวปรนิมมิตเทวราช ปกครอง กับ ฝ่ายมารมีท้าวปรนิมิตวสวัตตีมาราธิราชเป็นผู้ปกครอง อายุ 16,000 ปีทิพย์ (9,216ล้านปีมนุษย์)