คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : HitsuKarin || 10 ways to love HIM
10 ways to love HIM
PG-13 || One shot
Hitsigaya Toshiro x Kurosaki Karin
_____________________________________
การมีแฟน…อืม ฉันเห็นยูสึฝันหวานเล่าให้ฟังหรือแม้แต่เอาหนังสือการ์ตูนผู้หญิงโชโจเรื่องโปรดของเธอมาให้ฉันอ่าน ได้แต่ฝันหวานตั้งแต่เริ่มได้ชอบใครซักคนมาตั้งแต่ประถมปลาย
จนมาพบกับ ฮิตสึกายะ โทชิโร่ นายยมทูตผมขาวคนนั้น ไม่รู้ว่าเอาอะไรไปชอบกับท่าทางขี้เก๊กนั่น แต่สุดท้ายก็ได้คบกันจนตอนนี้ฉันก็เข้าสู่ช่วงวัยมัธยมปลายแล้ว ปีหนึ่งใส่กระโปรงนักเรียนกับอายุสิบหกของฉัน..แต่ปีนี้ก็ยังไม่เคยเห็นเขาคนนั้นเลย
ตั้งแต่เริ่มคบกัน ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีใครเทคแคร์หรืออะไรอย่างที่เคยฝันไว้ แน่นอน ว่ามันเป็นเพราะเขาเป็นถึงหัวหน้าหน่วยในยมทูตพลังสูง แถมอยู่ที่โซลไซตี้คนละโลกขนาดนี้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม คุโรซากิ คาริน คนนี้ต้องทำหน้าที่สร้างโมเม้นของการเป็นแฟนที่ดีขึ้นมาเองยังไงล่ะ!
คู่มือการเป็นแฟนที่ดี 10 ข้อ (ฉบับคารินเท่านั้น ห้ามทำตาม✘)
ข้อ1 : โกหกพี่ชายให้เนียน ออกจากบ้านให้ได้ก่อน
“คารินจะไปไหนน่ะ”
พี่อิจิคงจับลางสังหรณ์ได้ว่าท่าทางเดินเหมือนย่องของฉันคงมีพิรุธ…แต่ใครจะยอมให้จับได้กันล่ะ
“ไปเตะบอลกับเพื่อน”
“เธอไม่ได้เตะบอลมานานแล้ว!”
เมื่อรู้แล้วว่าไม่เนียน ฉันก็ไม่มีทางอะไรอีกนอกจากออกจากบ้าไปให้เร็วที่สุดโดยไม่ผ่านทางพี่อิจิ แถอะไรตอนนี้ก็พูดไปเพราะไม่ได้สำคัญแล้ว
“งั้นไปติวหนังสือกับเพื่อน บายย”
“ไม่มีทางอ่ะ อย่างเธอ---เห้ย! คารินอย่าปีนออกทางหน้าต่างแบบนั้น!!”
ข้อ2 : รู้จักจับจุดอ่อนคนรอบข้างแฟน
“ขอร้องล่ะคุณอุราฮาร่า เค้กคราวที่แล้วทำไม่อร่อยเหรอ ฉันทำให้มันเข้ากับผงชารสโปรดของคุณเลยนะคะ”
ตอนนี้ฉันอยู่ที่ร้านขายของ ฮุราฮาร่า คิสึเกะ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเปิดทางผ่านให้ฉันผ่านข้ามมิติไปโซลโซไซตี้ได้…อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้พลังของฉันแกร่งกล้าขึ้นมาก จนสามารถควบคุมพลังวิญญาณได้ดีแล้วล่ะ ถึงแม้จะไม่เก่งเท่าพี่อิจิก็ตาม
“แล้วฉันจะเล่นลูกบอลพลังวิญญาณกับเก็นตะทั้งวันเลยด้วยเอ้า!”
“เป็นข้อต่อรองที่ดีมากแต่มันออกจะ---”
อุราฮาร่า คิสึเกะ รักสนุกแต่เรื่องทั่วไปเช่นดูแลเด็กที่เริ่มเข้าวัยรุ่นในร้านเขาก็จนปัญญาที่จะทำทุกวัน ข้อเสนอของคารินมักจะทำให้เขาได้นั่งจิบชากินเค้กสบายไปเป็นวัน อยากจะตอบตกลงมากเป็นที่สุดแต่ก็..
ข้อ3 : ฝากของให้แฟนสร้างความประทับใจ
“ไม่ได้หรอกครับคาริน แค่ฝากเอาเค้กไปให้ฮิตสึกายะคุงคราวที่แล้วก็สุดความสามารถแล้ว”
อุราฮาร่าแค่เอาเค้กไปฝากถึงหน่วยที่สิบก็เป็นข่าวลืมทั่วกันมากพอแล้ว ถ้าพาคารินแหกกฏส่งไปโซลโซไซตี้คนที่ตายจะไม่ใช่เธอ แต่เป็นเขาต่างหาก!
“แล้วโทชิโร่เขาชอบไหมอ่ะ?”
“ก็แน่สิครับ ไม่งั้นเขาจะใช้เฮียวรินมารุสร้างกุหลาบน้ำแข็งเอากลับมาฝากให้เธอเหรอ”
คารินยิ้มกว้าง รู้อยู่แล้วแหละ แต่แค่อยากได้ยินจากปากคนอื่นว่าเป็นเรื่องจริงอีกรอบเท่านั้นเอง ฟังแก้เศร้าว่าอย่างน้อยไปหาไม่ได้ก็ยังเอาของไปให้ได้
“งั้นรอบนี้ฝากอันนี้ไปให้โทชิโร่หน่อยนะ”
“เครื่องรางโอมาโมริ? ของแบบนี้กับยมทูตจะใช้ได้เหรอครับ”
เครื่องรางผ้าไหมญี่ปุ่นชิ้นเล็ก ๆ ภายในบรรจุคำอธิษฐานที่เขียนลงบนกระดาษ เชื่อว่ามีพลังในการปกป้องแต่สำหรับยมทูตดูไม่เข้าท่า อุราฮาร่ากลัวว่าหัวหน้าหน่วยสิบอาจจะไม่รับ แต่คารินก็ยังยืนยัน
“ก็ลองดูสิ บอกโทชิโร่ด้วยว่าฉันเป็นคนปักเองเลยนะ คำอธิฐานในนั้นฉันก็เขียนให้เขา เอ้อ! แต่บอกเขาด้วยว่าห้ามเปิดล่ะ”
แค่บอกว่าคารินเป็นคนทำเอง…โทชิโร่ก็ปฎิเสธไม่ได้แล้วล่ะ
ข้อ4 : ฝึกฝนพลังวิญญาณ
ล่านโล่งที่เคยเอาไว้เตะบอล ตอนนี้กลายเป็นสวนสาธารณะรกร้างไร้การดูแล สถานที่ดูเปลี่ยนไปเช่นเดียวกันกับคารินที่ใช้สถานที่สำหรับการฝึกฝนพลังวิญญาณแทนที่จะเตะบอลเล่นๆ
“ย๊ากกกกก” คารินฟันกิ่งไม้ใหญ่ขาดก่อนที่จะใช้วิชาวิถีทำลายที่ร่ำเรียนมา
“วิถีทำลายที่ 12 ฟุชิบิ!” ฉับพลันขอนไม้นั่นก็ถูกไฟเผามอดจากใยชนวนที่คารินสร้างขึ้นก่อนมันกลิ้งมาถึงตัวเธอ
“อืมม วิถีผนึกก็ทำได้ วิถีทำลายก็ดีขึ้นมากแล้ว ถึงจะปลดชิไคไม่ได้ก็เถอะ…เอาไปอวดโทชิโร่ดีมั้ยนะ?” คารินรู้ดีว่าเขาจะบอกว่าไม่พอใจที่เธอแข็งแกร่งขึ้นแต่มองท่าทางก็รู้ว่าโทชิโร่ก็จะภูมิใจในตัวเธอ
ข้อ5 : ทดลองพลังวิญญาณ เรียกร้องความสนใจให้โทชิโร่มาหา
อาจจะเป็นเพราะฉันฝึกอยู่นานจนพลังวิญญาณมันถูกปล่อยออกแรงไปหน่อย…
ปึ้ดด! กรรรร!!!!
“แย่ล่ะ เรียกฮอลโลว์มาอีกแล้ว..รอบนี้เป็นเมนอสอีกซะด้วย" ฉันไม่กลัวมันหรอก เพราะมันคือตัวทดลองพลังของฉันหลังฝึกทั้งนั้น
“วิถีทำลายที่ 4 เบียคุไร!” เส้นสายฟ้าทะลวงเป็นวิชาที่ฉันถนัดที่สุดที่ฝึกมา แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเอาเจ้าเมนอสนี่ไม่อยู่แล้ว
มันเข้าใกล้ฉันมากเกินไป…แต่คนอย่างฉันเรื่องอะไรจะยอมแพ้ง่ายๆกันล่ะ วิถีทำลายไม่อยู่ก็คงต้องใช้วิธีฟันดาบประชิดตัวบ้างล่ะ
“ย้ากกกกก”
“คุณคาริน นั่นมันเมนอสนะ!”
ข้อ 6 : ถ้าไม่ใช่แฟนก็ใจร้ายได้บ้าง ไม่ผิด
เจ้ายมทูตในหน่วยของโทชิโร่ที่ประจำการในเขตนี้อีกแล้ว…จะมาปกป้องอะไรฉันตอนนี้ เห็นไหมเนี่ยว่ากำลังฝึกกับของจริงอยู่ห๊ะ
“อย่ามายุ่งกับเหยื่อของฉัน!”
“แต่คุณจะไม่ไหวเอานะ ให้ข้าช่วย--” นายคนนั้นมีหน้ามาขวางฉัน ตัดหน้าฟันเมนอสได้ยังไง!
ดูซิ ไม่เห็นว่ามันจะตายในดาบเดียวแบบโทชิโร่เลย นายก็อ่อนไม่ต่างกับฉันนั่นแหละ ทำแบบนี้เดี๋ยวปั๊ดถีบ
ผลักก
“โอ๊ยยยย คุณคารินใจร้ายถีบข้าอีกแล้ว”
“ถ้าอ่อนแบบนี้ก็ปล่อยให้ฉันได้ฝึกจัดการ อีกอย่างนะ ฉันจะไม่ยอมใครทั้งนั้นนอกจากหัวหน้าของนาย!”
ข้อ 7 : เจอกันแล้ว ต่อให้สถานการณ์คับขันแค่ไหนก็ห้ามปล่อยมือ
ไม่อยากจะเชื่อว่านายนั่นจะไปตามหัวหน้าตัวเองมาจริงๆ แถมโทชิโร่ก็กระโจนจากประตู ฟันมันเข้าแข็งตายไปในดาบเดียว…เท่ชะมัดเลยแฟนฉัน
“โทชิโร่! ฉันคิดถึงนายชะมัด” อยากจะกระโดดกอดแต่ก็โดนโทชิโร่ห้ามอีกแล้ว
“ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบตาย ต้องบอกอีกกี่ครั้งว่าเลิกฝึกได้แล้ว เจ้าจะเอาพลังยมทูตไปทำอะไร!"
“จะได้ช่วยทำงานเวลานายมาได้ไง เราจะได้มีเวลาเที่ยวเล่นด้วยกันมากขึ้น--” ถึงนายจะยังหน้าบูด โกรธฉันไม่หายแต่ก็ขอจับมือหน่อยหลังจากไม่ได้เจอกันมานานละกัน
“เจ้าทำแทนไม่ได้ อีกอย่าง เวลางานไม่ได้มีไว้เที่ยวเล่น” โทชิโร่สะบัดมือออกอย่างไม่ไยดี เดินหนีแบบที่ทำให้ฉันโกรธแทบตาย แต่เวลาของพวกเราที่อยู่ด้วยกันมีน้อยจะตาย...สุดท้ายก็ได้แต่ข่มความน้อยใจของตัวเอง และเดินไปตามโทชิโร่
จะปล่อยมือไม่ได้เด็ดขาด!
ข้อ 8 : เพื่อแฟน ถ้าต้องอายก็อายไป
“ฉันผิดไปแล้ว โทชิโร่ไม่โกรธกันน้าา”
เดินพูดง้อจนจะเข้าเขตเมืองสรรพสินค้าอยู่แล้วยังไม่หันกลับมาเนี่ยนะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานจะใจแข็งไปไหนเนี่ย!
“….” ไม่ตอบอีกแล้ว เย็นชาจริงๆเลย
คนเดินขวักไขว่มากขึ้นแต่ถ้าไม่ง้อให้เร็วตอนนี้คงจะมีเวลาดีๆด้วยกันน้อยแน่ๆ ฉันคิดแบบนั้นจึงตัดสินใจทำอะไรโดยไม่สนใจคนรอบข้าง
หมับ
“ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ เรามาคุยกันดีๆแล้วเลิกโกรธฉันเถอะนะโทชิโร่” ฉันคว้ากอดเขาแบบแบ็คฮัก เพราะพอเข้ามัธยมฉันตัวสูงขึ้นเยอะ ตอนนี้ก็เลยสูงกว่าโทชิโร่อยู่สองสามเซ็น สามารถกอดเขาจากด้านหลังได้แบบพอดิบพอดี
“เฮ้ย นี่มันคนเดินเยอะแยะเลยนะ!"
“แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้นายจะยอมหันมาคุยกันมั้ยเล่า!” ครั้งนี้ฉันไม่อาย กอดไม่ปล่อยหรอกนะ
“ยอมแล้ว ยอมแล้ว เจ้านี่จริงๆเลย” โทชิโร่เป็นคนหน้าบาง ฉันรู้อยู่แล้วเพราะตอนนี้หน้าเขาแดงเถือกตัดกับสีผิวและผมสีเงินสว่างอย่างน่าเอ็นดู
..ว่าแต่หน้าของฉันมันกำลังเป็นสีนั้นเหมือนกันรึเปล่านะ?
ข้อ 9 : อย่าปฎิเสธแฟน
“ถ้าเจ้าตกอยู่ในอันตรายเพราะข้าแม้แต่นิดเดียว…พวกเราอาจจะคบกันไม่ได้อีกต่อไป”
โทชิโร่มีสีหน้ากังวลที่สุด ฉันไม่ชอบเลยที่เขาจะต้องมาเป็นห่วงฐานะที่แตกต่างของเรา ยมทูต กับ มนุษย์อย่างฉัน
“แต่ถ้าฉันแข็งแกร่งขึ้น โทชิโร่ก็จะได้ไม่เป็นห่วงฉันไงล่ะ”
“หากสถานการณ์คับขันจริงข้าจะปกป้องเจ้าเอง…ไม่ทำแบบนั้นอีกนะคารินเข้าใจมั้ย?”
ฉันไม่อยากจะยอมรับมันเลย แต่อย่างที่บอกไปว่าเพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขเยอะๆ การเชื่อฟังนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“อืม” ฉันพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ ท่าทางฉันจะแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีออกไปให้โทชิโร่เห็น เขาจึงลูบหัวฉันหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเป็นห่วง
ฉันดีใจที่โทชิโร่เป็นห่วงฉันแต่ก็อยากเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ขอร้องเถอะถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ตลอดก็หยุดทำเป็นว่าห่วงกันขนาดนี้ซักที! ฉันอ่อนแอขนาดนั้นซะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!!
ข้อ 10 : ก็แค่ทำตามใจตัวเอง ถ้าใจตรงกันมันจะดีเอง
“ฉันไม่อยากให้นายทำหน้ายุ่งเป็นห่วงฉันแบบนี้นี่นา อยากเห็นนายยิ้มเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่า”
ไม่มีอะไรมาก แค่พูดสิ่งที่คิดออกไปจากใจก็มากพอที่จะทำให้คนหน้าบางอย่างโทชิโร่เขิน หน้าแดงอย่างกับเด็กสาวสารภาพรักในการ์ตูนโชโจของยูสึแน่ะ…น่ารักชะมัด
“เพราะได้เจอนายเฉลี่ยแทบจะปีละครั้ง ฉันก็อยากให้เรามีความสุขด้วยกันนะรู้มั้ย”
“ข้ามีความสุขทุกครั้งที่เจอเจ้า”
“เหหห วันนี้ตรงกว่าที่คิดแฮะ”
“แล้วจะแซวข้าให้เสียบรรยากาศทำไมห๊ะคาริน!”
“ฮ่าๆๆ”
มันอดไม่ได้จริงๆที่จะแซวโทชิโร่ทุกครั้งที่เขาจริงจังเวลาพูดความในใจของตัวเอง เพราะมันน่ารักมาก แล้วฉันเองก็แซวกลบเกลื่อนตัวเองที่เขินด้วยส่วนนึง…นี่อย่าไปบอกโทชิโร่เชียวนะ
“แต่นายรู้ไหม ว่าตอนนี้นายก็ยังไม่ตรงเท่าไหร่น่ะโทชิโร่”
“ข้าไม่มีทางที่จะปิดบังอะไรจากเจ้า”
โทชิโร่ดูกังวลมาก เขาแสดงออกทางสีหน้ามาแทบจะทั้งหมดและฉันก็แน่ใจว่าโทชิโร่หมายความว่าอย่างนั้นจริง ไม่เคยมีอะไรปิดบัง
แต่ปิดบังในที่นี้ที่ฉันกำลังพูดอยู่มันเป็นคนละความหมายนิดหน่อย..
“นายมักจะมองลงมาเสมอตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กประถมเพราะฉันตัวเตี้ยกว่านาย ตอนนี้ฉันสูงกว่านายแล้วรู้ไหม”
“นี่ตั้งใจจะกวนให้ข้าโมโหหรือไงคาริ--”
“แต่ว่านายก็ยังชอบมองลงมานิดหน่อยบ่อยครั้งน่ะสิ”
“….”
โทชิโร่เงียบสนิท แม้หน้าจะนิ่งแต่หูของเขาแดง เห็นได้ไม่ยากเลยเมื่อฉันเป็นคนช่างสังเกตโดยเฉพาะเรื่องของเขา
“ผ่านมาหลายปีแล้วนะ นายจะไม่ยอมบอกฉันเลยเหรอโทชิโร่”
“ก ก็ เจ้าก็รู้ว่าข้าสัญญาอะไรกับคุโรซากิ อิจิโกะไว้"
“จะไม่แตะฉันจนกว่าฉันจะบรรลุนิติภาวะ?”
ฉันรู้ดีในข้อนั้น แต่ไม่คิดว่าโทชิโร่จะถือมันจริงจังขนาดนั้น ตั้งแต่ได้กอดครั้งแรกหลังจากนั้นก็ไม่มีการได้กอดกันอีกเลย อะไรที่มากกว่านั้นก็ไม่เคยมีวี่แวว จนฉันเองที่เพิ่งได้เรียนรู้ขณะที่เติบโตขึ้นยังแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะจินตนาการกับเรื่องพรรค์นั้นทุกครั้งที่เจอกัน
แล้วโทชิโร่ล่ะ…ต้องอดทนขนาดนั้นมานานเท่าไหร่กันนะ
“ใช่” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นจนฉันเดาได้เลยว่าแม้แต่ขอให้กอดหน่อยก็คงไม่ได้รับอย่างแน่นอน
“แต่ฉันไม่ได้เป็นคนสัญญานะโทชิโร่ดังนั้น--”
จุ๊บ
“ถ้าเมื่อกี้มันผิดสัญญา ก็ถือว่าฉันเป็นคนผิดละกัน” เอาเข้าจริงฉันก็เขินมากเหมือนกัน ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่า คุโรซากิ คาริน ผู้หญิงอย่างฉันจะต้องเป็นคนมาเริ่มทำอะไรแบบนี้กันแฟนตัวเองแต่จะให้ต้องทนไปอีกนานเท่าไหร่กันล่ะ
แค่จูบถากๆข้างริมฝีปากของเขา…เท่านั้นเองไม่เป็นไรหรอก
“ให้ตายสิ ข้าอยากจูบเจ้าจะเป็นบ้าแต่ต้องเก็บไว้ พอเจ้ารู้เข้าก็ทำแบบนี้กับข้าเนี่ยนะ”
“ด เดี๋ยว นายตรงไปแล้ว--"
“อีกอย่าง เจ้าอาจจะรู้จักข้าไม่มากพอที่จะรู้ว่าจูบแค่นั้นมันไม่พอ..คาริน”
ทำหน้านิ่งราวกับเจ้าชายน้ำแข็งแต่พูดแบบนั้นกับฉันเนี่ยนะ!?
โอเค ยอมรับก็ได้ว่าเป็นฉันที่ไร้ประสบการณ์ ต้องมาเสียอาการให้แฟนอย่าง ฮิตสึกายะ โทชิโร่ ทุกปีอีกตามเคย
_________________________________
กรี๊ดดด ฮิตสึคารินชิปเปอร์ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งค่ะ//ปาดน้ำตา คิดถึงโมเม้นของสองคนนี้มากๆ เลยขออนุญาติลัดคิวมาก่อนตอนจบของเรื่องเบียคุยะนะคะ(ต้องขอโทษด้วย) ว่าแต่…มาหวีดกันเถอะเพื่อนร่วมเรือ//กอดคอแน่นมาก
ตอนนี้คล้ายจะเป็นตอนหลังจากที่พวกเขาคบกันแล้วนะคะ จะนับว่าเป็นตอนต่อจากเรื่องด้ายแดงก็ได้แต่ว่าถ้าอ่านเป็นตอนแยกไปก็ได้เหมือนกัน เพราะเรื่องนี้เป็นมุมมองของคาริน ไม่มีอะไรที่พูดถึงด้ายแดงนอกจากความหวานแหวววัยมัธยม(แบบธีมสีหวานแหววตามท้องเรื่อง?)ของเด็กหญิงที่ชื่อว่าคุโรซากิ คาริน
1 comment = 1 กำลังใจ
ต้องขอบคุณทุกคนมากๆเลยค่ะที่ติดตามเรื่องนี้นะคะ<3
ความคิดเห็น