My [boy]friend เพื่อนกูรักมึงว่ะ [Short Fic] - My [boy]friend เพื่อนกูรักมึงว่ะ [Short Fic] นิยาย My [boy]friend เพื่อนกูรักมึงว่ะ [Short Fic] : Dek-D.com - Writer

    My [boy]friend เพื่อนกูรักมึงว่ะ [Short Fic]

    ฉันแอบรักเพื่อน... แต่เพื่อนที่ฉันแอบรัก ไปรักเพื่อนสนิทที่ฉันรักที่สุด ฉันควรจะเป็นฝ่ายไปเอง..หรือฉันควรทำอย่างไร ?

    ผู้เข้าชมรวม

    791

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    791

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ย. 53 / 18:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     
     

    เมื่อเราแอบรักเพื่อนสนิท...


     
     

    เค้าทั้งน่ารัก ร่าเริง...


      

    แต่เค้ารักเพื่อนของเรา....

     
     

    เพราะงั้น เราเองควรเป็นฝ่ายถอยใช่มั๊ย...

    เจ้าของธีมค่ะๆ 

    l e t . GO !

     



    nu eng

    นิดนึงๆ  เป็นที่มาของนิยายเรื่องนี้

    http://www.youtube.com/watch?v=7YAF2k2Ljfs&feature=related

    เศร้ามากๆ  พอดูแล้วเลยอยากจะลองแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราวดู  55 
    มีโครงการจะแต่งเรื่องสั้นอีกเร็วๆนี้  เพราะช่วงนี้โรงเรียนหยุดเพราะน้ำท่วม 55

    ชื่อเรื่องใหม่ๆ " love Me love My Beby นี่ลูกเราไงที่รัก! "

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      ฉันยืนมองคู่ชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งโอบกันอยู่ที่หลังโรงเรียน  พวกเค้าคงจะมีความสุขกันมาก  น้ำตาของฉัน...มันค่อยๆไหล ทีละหยด ทีละหยด  สุดท้าย..มันก็ไหลออกมาเป็นสาย

                      ฉันยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมารบกวนพวกเขา  ฉันวิ่ง  วิ่ง..ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าควรจะวิ่งไปที่ไหนดี  แต่ฉันก็ยังหยุดวิ่งไม่ได้  สุดท้าย..ฉันก็มาหยุดที่ห้องเรียนของตัวเอง  ห้องนี้..มีความทรงจำมากมาย  ภาพต่างๆหลั่งไหลเข้ามาเหมือนหลุดเข้าไปในอดีต

       

      ทำไมเธอไม่ทำการบ้านมาเนี่ย!  ดูสิ ฉันต้องมารอเธอลอก แล้วฉันก็ต้องเอาไปส่งให้เธออีก!!’  เขาโวยวายอย่างหัวเสีย  แต่ฉันรู้หรอกน่าว่าเขาแค่แกล้งทำเท่านั้น

      ก็เดี๋ยวฉันต้องไปซ้อมดนตรีนี่นา  แค่นี้นายช่วยเพื่อนอย่างฉันไม่ได้รึไง

      เฮ้อๆ  เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีทางปฏิเสธน่ะ

      คิกๆ  ขอบใจนะ  รักนายจัง

       

      สอบแก้เป็นยังไงบ้างยะ

      สบายๆหรอกน่า  เรื่องแค่นี้เอง

      สบายๆเพราะนายแก้บ่อยล่ะสิ  ใช่มั๊ย ?

      ยัยบ้า!’

       

      เรื่องราวมากมาย  ความทรงจำแสนดี  ฉันสัญญาว่าฉันจะจดจำมันตลอดไปนะ  แล้วเธอจะจำเรื่องพวกนี้ได้รึเปล่านะ 

      “แยม!  มาทำอะไรที่นี่น่ะ  ทำไมไม่ไปเดินเล่นดูวิวกับเพื่อนๆล่ะ”

      เขาเดินมาทางฉัน  เขาทำเหมือนไม่เห็นว่าฉันเป็นอะไร! 

      “ฉัน..ฮึก  ฉันปวดท้องนิดหน่อยน่ะ  แล้วนายล่ะ ฮะ..ฮึก  กะ..แก้วไปไหนล่ะ”

      ฉันพยายามแล้วนะ  ฉันพยายามไม่สะอื้นออกมาแล้วนะ  แต่..ฉันทำไม่ได้  โดยเฉพาะตอนเอ่ยชื่อเธอคนนั้น...เพื่อนรักของฉัน..

      ใช่..ผู้ชายตรงหน้าคือคนที่ฉันรัก  รักมาก  รักจนยอมตายแทนเขาได้  แต่..เขารักแก้ว! แก้ว..เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน

      แน่นอน..มันยากที่จะยอมรับได้  แต่เพราะมันคือความจริงที่ต้องยอมรับ!

      “ฉันขอโทษ..”

      ขอโทษงั้นเหรอ  ได้โปรดอย่าพูดคำนั้น...เพราะมันจะทำให้ฉันรักเธอมากขึ้น  มันทำให้ฉันลืมเธอยากขึ้น...

      “......”

      ฉันไม่ตอบอะไร  ไม่ใช่เพราะว่าหยิ่ง  ไม่ใช่เพราะว่าโกรธ  แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไร  ถ้าฉันพูดกับเขาตอนนี้  คงจะพูดอะไรไม่ออก นอกจาก ฉันรักเธอ..ฉันรักเธอ..ฉันรักเธอ  ฉันอยากจะพูดคำนี้ซ้ำๆจนกว่าเขาจะมารักฉัน  ถึงแม้ว่าอาจเป็นวันสุดท้ายที่ฉันหายใจ  แค่ซักวินาทีให้ฉันได้กอดเขา.. ฉันแค่หวังว่าจะมีวันนั้น

      ฉันเมินหน้าหนีเขา  พยายามไม่มองหน้า  ไม่มองแววตานั่น ..

      “ทำไมเธอไม่เข้าใจฉัน!  แก้วรักฉัน ฉันก็รักแก้ว  เรารักกัน เราก็ต้องเป็นแฟนกัน!   ทำไมเธอยังไม่เข้าใจ!....เข้าใจฉันเถอะนะ  เลิกรักฉันเถอะ”

      ทำไม...ทำไมเขาถึงพูดออกมาได้ว่าให้เลิกรักเขา  ทำไมเขาพูดออกมาง่ายดายขนาดนั้น

      “ซักวันแก้วอาจหมดรักนาย..”

      ไม่..ไม่  แกพูดไปทำไม  แกพูดออกไปทำไมนังโง่!  ถึงมันจะเป็นความจริง  แต่ฉันก็ไม่ควรพูดออกไป  ฉันไม่ควร..

       

      แก้ว.....ไอ้มอสมันรักแก้วนะ

      แล้วแกจะมาบอกฉันทำไมล่ะ  ฉันไม่ได้รักมอสซักหน่อย

      ใช่..ฉันรู้ว่าแกไม่แม้แต่จะสนใจมอส  แต่..

      แต่แกรักมอสใช่มั๊ย..

      ......

      ใช่มั๊ยแยม

      ใช่..ฉันรักเขา

      แกรักมอส  ไม่อยากเห็นมอสเสียใจ  ถึงตั้งใจมาขอให้ฉันยอมเป็นแฟนเขา  แกตั้งใจแบบนั้นใช่มั๊ยแยม

      ใช่..แต่ถ้าแกไม่อยาก  ก็ไม่เป็นไร  ฉันอยากเห็นแกมีความสุขมากกว่า

      ได้  ฉันจะยอมเป็นแฟนมอส

      .....

      ไม่ใช่เพราะว่าฉันมีใจให้ไอ้มอส  แต่เพราะว่าแกเป็นเพื่อนฉัน!’

      .....

      แต่ถ้าวันไหนฉันเริ่มเกลียดเขา  ฉันจะไม่ทน!!’

       

      “ห๊ะ!  เธอว่าอะไรนะ!

      “.....”

      ฉันเอามือห่มไหล่ตัวเอง  ค่อยๆซุกตัวเข้าไปในมุมห้อง 

      “แยม!!  ใกล้ได้เวลาปิดค่ายแล้วนะ  เตรียมตัวเถอะ  วันนี้เป็นวันพิเศษไม่ใช่เหรอ”

      เหมยลี่  เพื่อนร่วมวงของฉัน  เปิดประตูเข้ามาเรียก  นั่นสินะ  วันนี้เป็นวันพิเศษ  ฉันไม่ควรจะมาร้องให้แบบนี้   ฉันยกนาฬิกาห้อยคอขึ้นมาดู  อีกสิบนาทีจะต้องขึ้นจัดคอนเสิร์ต  เพลงสุดท้าย...ก่อนที่พวกเราจะต้องจากกัน

      “อื้ม  รอฉันด้วยสิ”

       

      “แยม  เธอโอเครึเปล่า  สีหน้าเธอดูไม่ค่อยดีนะ”

      ยิ้มหวานมือกีต้าร์เดินเข้ามาถาม   จริงสิ  ฉันยังเหลือเพื่อนๆอยู่  พวกเขาจะรักฉันตลอดไป..

      “ฉันโอเคแล้วล่ะ  ไปกันเถอะพวกเรา!!  ไปอำลาเพื่อนกัน”

      ฉันยิ้มให้เหมยลี่ นักร้องนำ  ยิ้มหวาน มือกีตาร์  โซล  มือคีย์บอร์ดแล้วตีมือกับพวกเธอ  ยกเว้น...มอส  ที่วิ่งตามฉันมา

      “ค่ะ!  ถึงเวลาที่เหล่าสาวๆวง The Summer danger  จะมาทำให้พวกเราทุกคนจะได้ปลดปล่อยอารมณ์กันแล้วนะคะ  เพลงรัก เพลงเศร้า เพลงมันส์  เอากันให้สะใจไปเลย  เชิญพบกับวง The Summer danger  ได้เลยค่า!!

      ยัยพิธีกรพล่ามยาวยืด  ก่อนจะผายมือมาทางพวกเราที่ยืนหลังเวที  เพื่อนๆค่อยๆเดินไปประจำที่กัน  ฉันก็เดินไปที่กลองตัวโปรดของฉัน  ใช่แล้ว...ฉันมีหน้าที่เป็นมือกลอง

       

       

      “เพลงรัก เพลงมันส์ เพลงไทย เพลงสากล เล่นมาเยอะแล้ว  ขาดแต่เพลงเศร้า  จะให้ไอ้เหมยลี่ร้องก็ไม่ได้  เพราะคุณเธอกำลังอินเลิฟ  ถ้าสงสัยว่าอินเลิฟกับใครก็มองไปที่ขอบเวทีเลยค่ะ  ผู้ชายใส่หมวกสีแดงนั่นแหละค่า หวานใจนักร้องของเรา!

      โซล..พูดขึ้นตามที่เราตกลงกันที่หลังเวที  ก่อนจะผายมือไปทางหวานใจยัยเหมยลี่  ทำเอายัยเหมยลี่และหวานใจเขินม้วนไปตามๆกัน

      “พอๆ ไอ้โซล  ดูทำนักร้องเราเขิน  เพลงต่อไปจะร้องได้มั๊ยก็ไม่รู้  ว่าไงคะ คุณนักร้อง  เพลงต่อไปร้องได้มั๊ย  เพลงเศร้าซะด้วย  อินเลิฟขนาดนี้จะร้องได้อารมณ์มั๊ยน๊ออ~

      “คิกๆ  จะไปไหวได้ยังไงกันเล่ายัยบ้า > <  เดี๋ยวฉันขอไปหาแฟน เอ๊ย!  ไปทำใจหลังเวทีซัก สองเพลงละกัน”

      “แล้วสองเพลงนั้นใครจะร้องล่ะลี่เอ๊ยย  พวกเรามีหน้าที่ต้องทำนะ”

                      “ฮิๆ  ในเมื่อมีนักร้องนำ  ก็ต้องมีนักร้องตาม  และคนๆนั้นคือแยมค่า!!

                      ฉันแกยิ้มและปรบมือให้กับไอ้แยม.... แยม!!!   ฉันนี่หว่า  นี่มันนอกบทนี่ๆๆ

                      “ฝากด้วยนะจ๊ะแยมคุง : D

                      ยัยเหมยลี่ส่งไมค์ให้ฉันก่อนจะผลุดหายไปหลังเวที  เหลือฉันที่งงเต๊กกับเพื่อนอีกสองคน 

                      “ค่ะๆ  เพลงมันส์ เพลงรักไปแล้ว  ก็เพลงเศร้าต่อนะคะ!

                      “ใช่แล้วค่ายิ้มหวาน!  เพลงเรื่องนี้ต้องมีคนแพ้  นักร้องนำ...แยมค่า”

                      ในเมื่อไม่มีทางเลือก  ฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกจากไปยืนที่ๆเหมยลี่เคยยืน  ข้างงหน้าสุด...

       

      .........รู้เลยยังไง เขาก็ไม่ยอม  รู้ดีว่าเธอ ก็เคลียร์ไม่ไหว
      รักเขาก็รัก ฉันพอเข้าใจ   แล้วเธอก็ยังมีใจให้ฉันอยู่

      เรื่องมันซ้ำซ้ำ คนสามคน   ต้องช้ำช้ำ คงไม่ดีเท่าไร
      ถ้าไม่ใช่เขา ก็ต้องฉันที่ไป.....

       

                      พอเริ่มเพลงพวกนักเรียนก็ฮือฮาขึ้นมาซักพักก่อนจะเริ่มตั้งใจฟังต่อ

       

      ต้องมีคนแพ้แน่ๆ สักคน ...
      ต้องมีหนึ่งคนที่ต้องเหงาใจ...
      ยิ่งยื้อ ก็ยิ่งสับสน   ไม่เจ็บสักคน จะจบลงได้ไง

      ฝืนก็ยิ่งวุ่นวาย  ปล่อยไว้ก็สาย ยิ่งทรมาน
      ถ้ารักจนลำบากใจ จบเองไม่ไหว
      คงดีใช่ไหม ถ้าฉันเป็นคนลา...

                      เมื่อร้องจบท่อนฮุค สายตาฉันก็เหลือบไปเห็น  สองคนที่ฉันรักมาก  มอส....ผู้ชายที่ฉันเทใจให้  แก้ว...เพื่อนแสนดี  ทั้งสองยืนโอบกันอย่างมีความสุข 

      ไม่ใครสักคน ต้องมีน้ำตา
      ไม่เร็วก็ช้า เธอรู้ใช่ไหม
      ทิ้งเขาก็กลัว เขาไม่เหลือใคร
      ทิ้งฉันก็ทำไม่ได้ อีกแล้วเธอ

                      คนนึงก็เพื่อนสนิท  อีกคนนึงก็คนที่ตัวเองรักมาก  ถ้าฉันเป็นเขา  ฉันก็คงจะเลือกไม่ได้เช่นกัน

      เรื่องมันซ้ำซ้ำ คนสามคน ต้องช้ำช้ำ คงไม่ดีเท่าไร
      ถ้าไม่ใช่เขา ก็ต้องฉันที่ไป

      ต้องมีคนแพ้แน่ๆ สักคน...
      ต้องมีหนึ่งคนที่ต้องเหงาใจ...
      ยิ่งยื้อ ก็ยิ่งสับสน   ไม่เจ็บสักคน จะจบลงได้ไง

      ฝืนก็ยิ่งวุ่นวาย  ปล่อยไว้ก็สาย ยิ่งทรมาน
      ถ้ารักจนลำบากใจ จบเองไม่ไหว
      คงดีใช่ไหม ถ้าฉันเป็นคนลา....

       

      มันคงจะดีสินะ  ถ้าเธอเลือกแก้ว  ฉันก็ยินดีด้วย  ฉันขอให้พวกเธอมีความสุขกันมากๆ

      ถ้ารักจนลำบากใจ จบเองไม่ไหว
      คงดีใช่ไหม ถ้าฉันเป็นคนลา.....

                      เพลงจบลงแล้ว....คนอื่นๆปรบมือให้กับนักร้องหน้าใหม่  เสียงชมอื้ออึง  แต่หูของฉันกลับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น  สายตาฉันไม่ได้มองไปยังเพื่อนๆข้างล่างเวที  ฉันมองไปที่เขา  คนที่อยู่แสนไกล  ฉันรอแค่เสียงปรบมือของเขา  ขอแค่รอยยิ้มของเขา

                      ....แต่ฉันก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย

                      “โซล  เดี๋ยวต่อไปเพลงอะไรวะ”

                      ตอนนี้เศร้าไปก็ไม่เกิดประโยชน์  ฉันควรจะทำให้ดีที่สุดในวันสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยม

                      “อืม...ตามกำหนดการก็เพลง กว่าจะรัก  แต่แกจะเปลี่ยนก็ได้นะเว้ย   ถ้า...แกอยากจะเปลี่ยน”

                      ยัยโซลพูดก่อนท้ายประโยคจะหันไปมองทางเขา...

                      “ถ้าฉันเปลี่ยนพวกแกจะสาปแช่งฉันมั๊ย”

                      55  ไม่หรอกย่ะ  ว่าแต่แกจะเปลี่ยนเป็นเพลงอะไรล่ะ”

                      “เพลงสุดท้าย..”

                      “จัดไป!

      เคยพร่ำบอกหัวใจจะมีแต่เธอ แต่เธอผู้เป็นที่หนึ่ง
      ข้อความสุดซึ้งที่เคยผ่านเพลงมากมาย
      ทุกเพลงที่มีความหมายใช้เพียงปากกาด้ามหนึ่ง
      ซึ่งกรองจากหัวใจ

      ไออุ่นรักที่มีช่างงดงาม
      เหมือนแสงดวงจันทราของค่ำคืน
      อ้อมกอดอบอุ่นที่คุ้นเคย ซึ้งใจไม่เคยลืม

                      พระจันทร์เอ๋ย...  ฉันสาบานว่าฉันจะไม่ลืมผู้ชายคนนี้  ตราบชั่วชีวิตของฉัน.....

      เคยต้องเจ็บ ก็มีแต่เธอผู้เดียวที่คอยเฝ้าดูไม่ห่าง
      แม้ตอนอ้างว้างก็มีแต่เธอช่วยปลอบ
      ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำผิดเธอไม่โกรธ
      ที่สุดในหัวใจ

      ให้เพลงนี้เป็นเพลงหนึ่งของเธอ
      ฉันเขียนมาจากใจ ฉันให้เธอ
      แค่อยากเอ่ยคำว่ารักเธอ เป็นเพลงสุดท้าย

      มันอาจจะเป็นเพลงสุดท้ายที่ฉันจะได้ร้องให้เขาฟัง  ที่นี่อาจจะเป็นที่สุดท้ายที่ฉันจะได้เจอเขา

      ที่รัก รักฉันรักเธอหมดใจ
      และต่อจากนี้ แม้ฉันต้องลาไป
      จะรักจะห่วงใย แบบนี้ตลอดไป
      ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะเหลือเพลงสุดท้าย

      แม้ต้องเจ็บที่ต้องบอกลา
      แต่ฉันและเธอนั้นจะเคียงคู่กันฉันสัญญา
      แม้เวลาจะนานจะเนิ่นเท่าไร
      ใจฉันจะอยู่กับเธอ จะอยู่ทุกที่และทุกวินาที

      ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา
      ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา
      ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา
      ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา

                      ไม่ต้องสงสัยเลย  ทุกๆคนที่มาดูคอนเสิร์ตหลั่งน้ำตากันไปตามๆกัน  โซล ยิ้มหวาน แม้แต่เหมยลี่ที่สวีทกับแฟนอยู่หลังเวทีก็ยังร้องไห้ หัวพิงไหล่แฟน (อิจฉาค่ะๆ =..=)

                      พวกเขาก็เช่นกัน....แก้วร้องไห้อย่างหนัก  มอสเอื้อมมือไปโอบหัวแก้วมาพิงไหล่ตัวเอง 

                      .........แล้วฉันล่ะ  ?  ฉันควรจะทำอะไร  ?

                      ร้องไห้เพราะเหตุการณ์เมื่อกี้  ร้องไห้เพราะซึ้งในเพลงที่ตัวเองร้อง   มีความสุขเพราะทุกคนชื่นชมเพลงของฉัน  มีความสุขให้เพื่อนทั้งสองคนข้างล่างนั่น

                      ....ฉันควรทำอะไร ?

       

                      “แยม  แกไม่เป็นไรแน่เหรอ”

                      “ฮืออออ  ฉัน ฟืดด..ไม่ ฟาดด  เป็น ฟื๊ดด ไร”

                      “นี่แกๆ  ร้องไห้จนขี้มูกย้อยแล้วแกยังจะมาบอกว่าไม่เป็นไรอีกหรอ -*-

                      “แกก็รู้ว่าฉันเป็นอะไรแล้วแกจะถามทำไมเล่า!

                      “โอ๋ๆ ฉันขอโทษ  ร้องต่อเหอะๆ”

                      หลังจากจบคอนเสิร์ตสุดท้ายของพวกเรา  ฉันก็เอาแต่ร้องไห้ๆ  จนเพื่อนร่วมวงของฉันพร้อมใจกันลากฉันไปคาราโอเกะแล้วให้ฉันมาร้องไห้ที่นี่

                      ซาบซึ้งจริงๆ  = =

                      “แกอยากให้มอสเป็นแฟนกับแก้วจริงๆเหรอ...”

                      หนึ่งคำถามของยิ้มหวานทำให้ฉันหยุดร้องไห้

                      “......”

                      “แกมีความสุขเวลาเห็นเขาอยู่ด้วยกันจริงๆเหรอ..”

                      “.....”

                      “แก...”

                      “ไม่!!  ฉันไม่อยากให้เขาเป็นแฟนกัน  ฉันแทบขาดใจตอนขอให้แก้วเป็นแฟนมอส  ฉันจะเป็นบ้าตอนที่เห็นแก้วรับมอสเป็นแฟน  ฉันเกือบตายตอนเห็นพวกเขากอดกัน!!

                      “ถ้าเป็นแบบนั้น แกจะฝืนใจตัวเองไปทำไมล่ะ”

                      “ฉันรู้  ถ้านี่เป็นละคร  ฉันคงดูโง่มาก  คนดูหลายคนกำลังสมน้ำหน้าฉัน  แต่แกจะให้ฉันทำยังไง  แกจะให้ฉันไปบอกว่ามอสว่าแก้วเกลียดเขา  ให้เขาเป็นบ้า  ให้เขาเสียใจ  ฉันทำไมได้หรอก”

                      “แกมันช่างเป็นนางเอก”

                      “ก็ฉันสวย - -

                      “อีบ้า!

                      555

                      “งั้นพวกแกคุยกันไปก็แล้วกันนะ”

                      “คุยกะ.....”

                      ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยปากถาม  คนที่ยิ้มหวานพูดถึงก็เดินเข้ามาในห้องคาราโอเกะ

                      มอส.....นั่นเอง

                      “เธอ....โอเคมั๊ย”

                      เขาถามฉันว่าโอเคมั๊ยงั้นเหรอ ?  เขาไม่เห็นสภาพฉันรึไง  ฉันเพิ่งร้องไห้มาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ  เขาคงถามตามมารยาทสินะ

                      “ไม่!  ฉันไม่โอเค”

                      “เฮ้อ..ทำไมเธอถึงหัวดื้อขนาดนี้นะ”

                      “.....”

                      “ฉันรู้แล้วนะ  เรื่องที่เธอไปขอให้แก้วมาคบกับฉันน่ะ”

                      อะไรกัน!!  ไม่จริงน่า  เขารู้แล้วเหรอ  ทำไมเขาถึงรู้ล่ะ  ฉันคงจะดูโง่ในสายตาเขามากๆเลยสินะตอนนี้

                      “เธอรู้มั๊ยว่าฉันเจ็บที่รู้ว่าแก้วไม่ได้รักฉัน  แก้วคบกับฉันเพราะเธอ”

                      “......”

                      “แต่ฉันรู้  เธอคงจะเจ็บกว่าฉันมากสินะ  ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนตาย  แล้วตอนที่แก้วตอบฉัน  เธอรู้สึกยังไง”

                      “......”      

                      “เธอเจ็บมั๊ย”

                      “ฉันเจ็บ.....”

                      “.......”

                      “เจ็บตรงนี้   เจ็บมากๆ  ฉันไม่ได้รู้สึกเหมือนตาย  ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองใกล้ตาย  มันทรมานกว่าตายมากๆ  นายเข้าใจมั๊ย ?”

                      ฉันพูดพร้อมกับเอามือมาทาบอกตัวเอง  ฉันเจ็บทุกครั้งที่เขาอยู่ด้วยกัน...

                      “ฉันขอโทษ”

                      “......”

                      “เราจะเป็นเหมือนเดิมได้มั๊ย?”

                      “......”

                      “ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ......เหมือนเดิม”

                      “.....”

                      “ฉันรู้มันต้องใช้เว...”

                      “พอฉันก้าวออกจากตู้คาราโอเกะนี้  ฉันจะเป็นไอ้บ้าแยมคนเดิมที่ขอนายลอกการบ้าน”

                      “ตะ..”

                      “ฉันขอกอดนายได้มั๊ย ?”

                      “หะ!

                      “ในฐานะผู้หญิงที่แอบรักผู้ชายคนนึง”

                      “ก็ได้”

                      จบคำตอบฉันก็โผเข้ากอดเขา  อกอันแข็งแรงที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส  วงแขนแข็งแกร่งที่พร้อมจะปกป้องใครซักคนกอดฉันไว้  กลิ่นกายของบุรุษอย่างเขาถูกสูดเข้าจมูกฉันอย่างเต็มแรง  หอมหวาน......  ฉันเอาแขนของตัวเองกอดเอวเขาไว้  ฉันอยากจะกอดเขาให้แน่นๆด้วยซ้ำไป แต่ฉันกลัวว่าเขาจะหายใจไม่ออกแค่นั้นเอง...   ฉันเอาหน้าซบลงบนหน้าอกของเขา 

                      อา... ฉันอยากให้เทพเจ้าแห่งกาลเวลาหยุดทำงานตอนนี้เป็นบ้าเลย

                      แต่ฉันก็ได้เพียงแค่นั้น....

                      “ขอบคุณนะ”

                      “ไม่เป็นไรหรอก”

                      เท้าขวาของฉันค่อยๆออกไปจากตู้นี้แล้ว  แน่นอนที่ฉันพูดไว้ฉันทำไม่ได้หรอก  ฉันแค่พูดให้เขาสบายใจเท่านั้นเอง

                      เท้าซ้ายของฉันตามออกมาติดๆ  ฉันคงต้องลืมเขา......

                      ฉันสูดลมหายใจเข้าแรงๆ  เหมือนว่าสามารถลืมเขาได้ด้วยการหายใจยังไงยังงั้นแหละ

                      “ไปเล่นแข่งรถกันมั๊ยไอ้หนู!

                      “หะ!  อ้อ!  เธอท้าฉันใช่มั๊ย  ได้เลย  ใครแพ้ต้องเลี้ยงไอติมนะเฟ้ย!

                      ฉันคงลืมแกไม่ได้จริงๆหรอก.......เพื่อน

       

       

      The End

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×