[GOT7 | MarkBam/YugBam] AT THE EDGE OF INSANITY. Chapter 2 - [GOT7 | MarkBam/YugBam] AT THE EDGE OF INSANITY. Chapter 2 นิยาย [GOT7 | MarkBam/YugBam] AT THE EDGE OF INSANITY. Chapter 2 : Dek-D.com - Writer

    [GOT7 | MarkBam/YugBam] AT THE EDGE OF INSANITY. Chapter 2

    โดย powder3

    He is about to lose it.....

    ผู้เข้าชมรวม

    1,906

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.9K

    ความคิดเห็น


    29

    คนติดตาม


    35
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.พ. 57 / 21:01 น.

    แท็กนิยาย

    got7 markbam yugbam bambam mark yugeom



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      At the Edge of Insanity

      Chapter II

      





       

      M.






       

             ไม่ต้องรอให้แบมแบมหรือใครมาบอกผมก็ทำตามอย่างที่ผมต้องการอยู่แล้ว ผมปิดไฟและเดินกลับไปที่เตียง พยายามข่มตาให้หลับและทำใจให้เย็น ย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ผมรู้ตัวเองว่ากำลังมีปัญหา ทั้งๆที่อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแท้ๆ ผมกลับ... ผมนอนพลิกไปมาอยู่บนเตียงสักพักจนไม่มีทีท่าว่าอาการนี้จะหายไป  ผมหยิบโทรศัพท์มือถือ เปิดวีดีโอเดียวกับที่เล่นไปก่อนหน้านี้ ก่อนจะเลื่อนมือไปปลดซิปกางเกงและจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อย ผมเอื้อมมือหยิบกระดาษทิชชู่บนหัวเตียงมาเช็ดทำความสะอาดพร้อมๆกับหลุดหัวเราะเบาๆออกมาในลำคอ

      
       ผมทิ้งตัวลงบนฝูกนอนอีกครั้ง ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากและหลับตาลงช้าๆ สมเพชตัวเองชะมัด ผมอาจจะเป็นโรคจิตอย่างที่แบมแบมชอบว่าไว้ไปแล้วจริงๆ ทั้งรูปถ่ายและคลิปวีดีโอมากมาย ทั้งรูปภาพในชีวิตประจำวันและส่วนตัวที่สุด ด้วยความสัตย์จริงผมไม่เคยคิดที่จะต้องนำมันมาใช้เป็นเครื่องต่อรองอะไร ผมเพียงอยากที่จะเก็บแบมแบมคนนั้นของผมไว้ ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำว่าจะเอาไว้ทำเรื่องอย่างที่เพิ่งทำเสร็จไปเมื่อกี้ แต่ผมก็ทำไปแล้ว (และบ่อยครั้งผมถอนใจ ยิ่งพูดก็ยิ่ง... ผมคงโรคจิตไปแล้วจริงๆ

      



       

      o0o

      




      B.

      

       ผมเพียงแค่นึกทุเรศกับความไร้เดียงสาของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยี่หระนักกับการที่มีของเหล่านั้นที่พร้อมจะหลุดไปสู่สายตาทุกคนบนโลกได้ทุกเมื่อ ทั้งที่ผมคิดว่าผมไม่ได้แคร์อะไร ผมกลับรีบกระวนกระวายก้าวขาไปที่ห้องนอนของยูคยอม

      



      เฮ้ย เปิดประตูหน่อย" ผมทุบประตูเรียกยูคยอม

      



      มีเสียงก๊อกแก๊กดังมาจากข้างใน ตามมาด้วยเสียงเลื่อนเก้าอี้ครูดกับพื้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออก

      อะไร แบมแบม?” ผมแทรกตัวผ่านวงแขนของยูคยอมที่พาดกั้นกับกรอบประตู

      ไม่มีอะไร แค่เบื่อๆ" ยูคยอมไม่ได้ใส่เสื้อ คงเตรียมที่จะไปอาบน้ำหรืออะไรสักอย่าง "ขอนั่งเล่นแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็กลับละ"

      ฮะๆ อะไรเนี่ย" ยูคยอมหัวเราะพลางปิดประตู "ตามใจสิ อยากทำอะไรก็ทำจะขอทำไม"

      ยูค นั่นอะไรอ่ะ" ผมหันไปเห็นของไม่คุ้นตาที่ชั้นหนังสือของเขา


      ไหน?" ยูคยอมมองตามนิ้วของผม "อ้อ นั่น โมเดลกันดั้ม แฟนๆเพิ่งให้มา"

      โห เจ๋งอ่ะ"ผมเบิกตากว้างพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ "ขอดูหน่อยดิ่ ได้ป่ะ?”


      จะดูก็ดูไปสิครับ" เขาตอบก่อนจะลุกจากเก้าอี้โต๊ะคอมที่เขานั่งเมื่อครู่ ก่อนจะเดินมาใกล้ "เดี๋ยวหยิบให้ ดูท่าคงต้องเขย่งจนปวดขานู่นกว่าจะถึง"


      ผมที่กำลังจะหันไปค้อนวงใหญ่ ก็ต้องรู้สึกร้อนวาบเมื่อเพื่อนตัวสูงที่เด็กกว่าผมเองด้วยซ้ำ สามารถยืนคร่อมหัวผมได้ทั้งตัว ผมรีบหันกลับมาก่อนที่หน้าจะชนแผงอกของเขา รู้สึกตัวเองตัวเล็กเท่ามดและอ่อนแอทีเดียวเมื่อเทียบกับเจ้าหมอนี่ในตอนนี้ ผมได้กลิ่นเหงื่ออ่อนๆและรู้สึกถึงอุณหภูมิอุ่นๆจากผิวหนัง... ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก ซวยละสิ...


      ให้ตายเหอะ นี่มันไม่ดีแน่ๆ" ยูคยอมเอ่ยขึ้นขณะที่มือหนึ่งถือกันดั้มเอาไว้แน่น หน้าเขาแดงเถือก


      "แบมแบม! นายจะตัวเล็กไปไหนเนี่ย ให้ตาย รู้สึกอย่างกับยืนอยู่กับเด็กผู้หญิงเลย" เขาเอาหลังมือขึ้นปิดหน้าก่อนจะเสมองไปทางอื่น "ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปกระโดดเชือกเลยไป ตัวจะได้โตๆ ไปเล่นกล้ามด้วย โหย แย่ละ เผลอใจเต้นด้วยอ่ะ อ้าก!"


      ยูคยอมโวยวายก่อนจะเดินหน้าแดงหยิบผ้าขนหนูไปอาบน้ำ

      
“ไหวเปล่าวะน่ะ" ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะขำออกมา พระเจ้าช่วย ผมก็สภาพไม่ได้ดีกว่ากันไปเท่าไหร่ ใจเต้นไม่เป็นส่ำเหมือนกันล่ะวะจังหวะเมื่อกี้

             ผมนั่งดูหุ่นกันดั้มสักพักก่อนจะได้ยินเสียงดนตรีสั้นๆดังขึ้น ผมมองไปที่มือถือของยูคยอมก่อนจะรู้สึกเย็นวาบตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมา ไม่เคยเลยที่ผมจะไปจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวของใคร และถือว่าโทรศัพท์ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แม้ผมจะมั่นใจว่าพี่มาร์คคงไม่เกิดเสียสติส่งคลิปพวกนั้นออกมาจริงๆ และถึงเขาจะทำ ใช่ว่าผมจะแคร์ แต่ ณ เวลานี้ผมกลับรู้สึกกลัวจนจับขั้วหัวใจ กลัวว่าถ้าหากยูคยอมได้เห็นเรื่องราวพวกนั้น เรื่องราวที่เขาคงจินตนาการไม่ออกและไม่เคยนึกถึงมันมาก่อน เพื่อนคนเดียวของผมจะคิดยังไง มันเข้าใจกันไม่ได้ง่ายๆแน่นอนไม่ต้องสงสัยเลย


      ผมนั่งคิดสักพักก่อนจะอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมา ผมจ้องมือถือที่ขึ้นว่ามี '1ข้อความใหม่' เขม็ง

      ผมน่าจะใส่ยาเบื่อลงในชามข้าวพี่มาร์คไปซะก็ดีเมื่อเช้านี้ ผมสูดลมหายใจเข้า เตรียมพร้อมที่จะเปิดดูข้อความนั้นแล้วลบออกก่อนที่ยูคยอมจะเห็น ผมเลื่อนปลดล็อคโทรศัพท์ ใส่รหัสเลขสี่ตัวที่เข้ามาในหัวแวบแรก ผมแทบไม่ต้องเดา กริ๊ก! ผมกลอกตาเมื่อสามารถปลดล็อคได้อย่างง่ายดาย มีอะไรที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับนายบ้างไหมเนี่ยยูคยอม


      ผมกดดูเมสเสจ 'ไม่มีหัวข้อ' ผมกวาดสายตาไปดูชื่อคนส่ง


      และมันไม่ใช่พี่มาร์ค


      ผมควรจะโล่งอกที่พี่มาร์คยังคงฉลาดและไม่คิดทำอะไรปัญญาอ่อน


      ทั้งที่ควรจะเป็นแบบนั้น ผมกลับรู้สึกฉุนขึ้นมาทันทีที่ได้อ่านข้อความที่ว่าแล้วนึกก่นด่าพี่มาร์คให้รีบส่งคลิปวีดีโอเสื่อมๆนั่นมาแทนให้มันรู้แล้วรู้รอด


      'เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก' พร้อมรูปภาพหญิงสาวสวยสะดุดตา 'จาก จียอน'

      ระหว่างที่ผมยืนจดๆจ้องๆตัดสินใจระหว่างกดลบข้อความทิ้ง เขวี้ยงโทรศัพท์ออกนอกหน้าต่างหรือเผามันให้แหลกตรงนั้น ยูคยอมก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

      แบม ทำอะไรอ่ะ"

      ผมหันไปมองเขาที่น้ำหยดไปทั่วตัวด้วยสายตาเฉยเมย

      เขาจ้ำอ้าวเข้ามาใกล้ก่อนจะชะโงกดูสิ่งที่อยู่ในมือผม

      เฮ้ย" ยูคยอมร้อง ก่อนจะรีบคว้ามือถือกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาเบิกตากว้าง "อ่านไปแล้วใช่ไหม?”


      ใช่" ผมตอบเรียบๆ

      ไม่ได้มีอะไรหรอก แค่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆกัน"

      ผมไม่ได้ตอบอะไร หันไปมองเขาก่อนจะเดินไปที่ประตูและทำท่าจะเปิดออกไป

      มือของยูคยอมฟาดมาดันประตูไว้ทันทีที่บานประตูแง้มออก

      พี่แบม... พูดอะไรหน่อย คุยกันก่อน" ยูคยอมมักจะเรียกผมว่าพี่ในเวลาที่เขาต้องการผมจริงๆ "นี่มันไม่ได้มีอะไรจริงๆ"

      มาบอกทำไม" ผมเบือนหน้าหนีและพยามยามบิดลูกบิดอีกครั้ง

      ไม่มีแล้วทำไมทำหน้าอย่างนั้น"

      ผมจ้องหน้าเขา “หนีออกจากหอพักไปเที่ยว? เหอะ นาย ถ้าฉันต้องจบชีวิตทั้งที่เพิ่งเดบิวต์เพราะนายโดนจับได้ว่าไปเที่ยว ก็ลองคิดดูเอาเองแล้วกัน"

      ยูคยอมลดแขนลงมาเพื่อเปิดทางให้ เขามองผมไม่วางตาด้วยสีหน้าที่ผมเองก็บอกไม่ถูก

      สรุปโกรธเรื่องนั้นสินะ ขอโทษ แต่ไม่มีใครจับได้หรอก แต่ขอบอกอีกครั้ง มันไม่มีอะไรเกินเลย"

      ผมปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดัง... ผมปิดประตูใส่หน้าคนเป็นรอบที่สองของวัน

      



             เช้าวันต่อมาเรามีคิวสัมภาษณ์กับรายการวิทยุ ผมสะลึมสะลือเดินไปขึ้นรถตู้ เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ ในหัวมีแต่ชื่อ จียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอนจียอน สลับกับ เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก เมื่อคืนสนุกมาก หวังว่าเราคงได้พบกันอีก จนเช้า

      



      ผมเดินไปนั่งข้างพี่มาร์คบนรถตู้ ที่ๆทุกวันนี้มักจะเป็นของพี่แจ๊คสัน พี่มาร์คเบิกตากว้างราวกับไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมยักไหล่ ปลดเป้ที่บ่าวางลงที่พื้น ยูคยอมเปิดประตูรถโดยที่ผมไม่หันไปแม้กระทั่งสบตา เขาถอนหายใจระหว่างเดินผ่านผมไป ระหว่างทางผมกับพี่มาร์คแทบไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ผมแอบเห็นเขาอมยิ้ม คอยเอามือปิดปากเวลาที่ทำอย่างนั้น กริยาเขินอายที่ไม่อยากแสดงออกของเขาแบบที่ผมคุ้นตา เขามองทิวทัศน์ระหว่างทางข้างนอกและหูของเขาเริ่มแดงก่ำ ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพี่มาร์คดูมีความสุขที่สุดในรอบกว่าปีที่ผ่านมา ผมคิดพลางกอดอกแล้วค่อยๆงีบหลับไป

      



      เมื่อเรามาถึงสถานีวิทยุ พวกเราทั้งเจ็ดก็ได้แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ รายการวิทยุสัมภาษณ์ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ

      



      Come and get it, we're Got7” พวกเราแนะนำตัวอย่างเคยก่อนที่บทสนทนาต่างๆจะเริ่มขึ้น

      ผมนั่งเบื่ออยู่ข้างยูคยอมตามที่ที่ทีมงานจัดไว้ คำถามแล้วคำถามเล่าถูกถามและผมพยายามจะมีส่วนรวมให้มากที่สุด

      
“ทุกคน” ผมหันควับไปมองข้างๆทันทีที่คำตอบของคำถาม If I were a girl, I would really like to date this member?

      ความรู้สึกหงุดหงิดใจก่อตัวขึ้น

      



      โลภมากหรอ หรือผมควรจะด่าเขาว่ายังไงดี ผมชักหัวเสีย

      แล้วนี่ผมเอาสัมภาษณ์พวกนี้มาถือเป็นเรื่องจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมนั่งฟังคำตอบของพี่ๆคนอื่นขณะที่นั่งมองนิ้วตัวเองถูไปมา หงุดหงิดชะมัด

      



      แบมแบม" ผมได้ยินชื่อตัวเองถูกตอบโดยพี่ยองแจ ผมเงยหน้า โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ก็รู้สึกตกใจนิดๆ ผมได้ยินเสียงหัวเราะแห้งๆของยูคยอมดังมาจากข้างๆ ขณะที่พี่มาร์คกัดริมฝีปากแน่น เขามองมาที่พี่ยองแจและพยายามฝืนยิ้มให้ดูปกติที่สุด ผมกลอกตา พี่มาร์คเขาจะอะไรนักหนานะ...


      I choose Mark” ผมพูดอย่างไม่ยี่หระ "You know, very good looking, handsome, sexy”

      



      อะไรเนี่ย” พี่มาร์คที่ตอนนี้ทั้งตัวกำลังแดงไปหมดหลังได้ยินสิ่งที่ผมพูด เขาหลุดขำ ยิ้มกว้างและหัวเราะไม่หยุด

      



      Nice personality, perfect” ผมพูดจบและอดรู้สึกตลกกับปฏิกริยาที่ได้เห็นไม่ได้ พี่มาร์คกัดปากแน่นและจนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถหุบยิ้มลงไป


      ผมเหลือบมองยูคยอมที่นั่งข้างๆ เขาท้าวคางยิ้มนิดๆและไม่ได้พูดอะไร เขามองโต๊ะและไม่ได้หันมามองผมอีก ผมไม่ได้คิดจะตอบพี่มาร์คด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ทำเรื่องให้ผมต้องงุ่นง่านตั้งแต่เมื่อคืนแบบนี้ เป็นยังไง ทีนี้รู้สึกหรือยัง


      เขาอาจจะไม่สนก็ได้ ผมกำลังสำคัญตัวผิด ผมรู้ตัว

      And which is your ideal type?”

      ผู้หญิงที่ที่มีโลกส่วนตัว มีความเป็นตัวของตัวเอง" ยูคยอมตอบออกมา ผมเบ้ปาก ได้แต่สบถหยาบคายอยู่ในใจ 'จียอน...'

      What about you, Bambam?”

      ผู้หญิงที่ยิ้มสวย และสามารถยิ้มไปด้วยกันกับผม" ผมตอบคำถามขณะเหลือบมองยูคยอมที่ยังคงเสมองไปทางอื่น เหอะ ใครคนที่เคยยิ้มหัวเราะไปพร้อมกับผมเขาไม่หันมามองผมสักนิดในตอนนี้ ยูคยอมทำให้ผมหงุดหงิดได้จริงๆให้ตายเถอะ

      
“Can I speak in English” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามดีเจที่นั่งอีกฟาก ผมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาพี่มาร์คพูดแบบนั้น เขากำลังจริงจังและต้องการที่จะสือสารออกมาให้ถูกต้องที่สุด

      I like a girl who makes me want to be with her”

      ไม่ต้องสงสัย

      It's me” ผมพูดขึ้นราวกับเป็นมุกตลก

      There’s those girls who you meet and then you just kind of forget about them. Then there’s other girls where you just want to keep meeting them. Those kinds of girls.”

      You know, that's me” ผมหัวเราะ ทุกคนขำไปด้วยกัน

      แน่นอนพี่มาร์คไม่ได้เห็นว่ามันตลกตรงไหน

             หลังจากเสร็จสิ้นตารางงานของวัน เราทั้งเจ็ดนั่งกินข้าวพร้อมหน้า ผมอิ่มและเตรียมลุกไปล้างจานก่อนจะเดินไปที่ระเบียง ผมยืนสูดอากาศเย็นยามค่ำคืนไว้เต็มปอด มองดูแสงไฟตามถนนหนทาง เสียงล้อเลื่อนบานประตูเปิดออก ผมแทบไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร พี่มาร์คทำหน้าราวกับรอให้ได้จังหวะอยู่กับผมสองคนมาตั้งแต่จบรายการวิทยุ



      เขาสวมกอดผมจากทางด้านหลังซุกใบหน้าฝังลงกับเส้นผมของผม ด้วยระยะห่างนี้ ผมได้ยินเสียงลมหายใจกับจังหวะหัวใจถี่ๆของเขา

      แบม....” เขากระซิบ "นึกว่าเราเกลียดพี่ไปแล้ว"

      ที่จริงเขาเข้าใจถูกนะ...

      เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นเข้าจนได้" ผมพูด

      



      แบม พี่ขอโทษได้ไหม? นะ? อะไรที่แบมไม่ชอบใจ พี่จะแก้ไขได้ไหม" เสียงของเขาแหบพร่า พี่มาร์คพูดประโยคซ้ำๆราวกับกำลังสวดมนต์อ้อนวอน ร้องขอต่อเบื้องบนหรืออะไรสักอย่าง"พี่ดีใจในสิ่งที่แบมพูดวันนี้นะ"

      



      ผมพ่นลมหายใจ หึ 

      พี่ยอมทุกอย่าง ไม่ว่าแบมอยากได้อะไร ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น เงิน รถ บ้าน ของเล่น เกมส์ใหม่ พี่จะหาให้แบมทุกอย่าง อย่าไปไหนอีกเลยนะ อย่าทำเย็นชาใส่อีกเลยนะ ทุกวันนี้มันก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว" เสียงที่ทุ้มต่ำของพี่มาร์คกำลังสั่นเครือ "แบม...”

      



      เขาออกแรงกระชับวงแขนให่แน่นขึ้น ผมรู้สึกอึดอัด พี่มาร์คแนบจมูกลงกับแก้มของผม ใช้ริมฝีปากกดเบาๆที่ต้นคอราวกับโหยหาและเฝ้าฝันถึง ผมมองลงไปที่ถนนด้านล่าง กำลังนึกว่าผมจะใช้เงินของพี่มาร์คไปซื้ออะไรได้ในวันรุ่งขึ้น

      



      เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง

      



      ผมสบตากับยูคยอม

      



      เขาเดินมาหยิบเสื้อที่ตากไว้ที่ราวข้างๆและออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      



      ผมใจเต้นระส่ำ ผมลืมคำพูดที่พี่มาร์คพูดไปเมื่อครู่ทุกคำ ตอนนี้ผมไม่อยากได้อะไรมากไปกว่าการตามยูคยอมไป

      



      แบม จะไปไหน" พี่มาร์ครั้งข้อมือผมไว้

      



      ยูคยอมเห็นแล้วนะ" ผมขึ้นเสียง

      



      แล้วยังไง "

      



      แล้วยังไง? บอกให้นะพี่มาร์ค ทุกวันนี้ผมมีความสุขดี ผมไม่ต้องการให้พี่มาเอาใจอะไร ผมมีเพื่อน ผมสนุกเวลาอยู่กับเขา เข้าใจนะ"

      



      ผมรีบเปิดบานประตูแล้ววิ่งตามไป

      



      ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือใบหน้าขาวซีดที่ราวกับกำลังยืนมองทั้งโลกแหลกสลายไปต่อหน้าต่อตาของพี่มาร์ค

             “กลับมาแล้ว"

      ผมร้องตะโกนอย่างอารมณ์ดีหลังกลับจากบ้านเพื่อนมาในเวลาหนึ่งทุ่ม รีบถอดรองเท้าที่หน้าประตูหอพักก่อนจะเดืนเข้ามาเห็นพี่มาร์คเดินงุ่นง่านอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ทันทีที่เขาเห็นผม พี่มาร์คเดินตรงมากระชากแขนของผมไว้

             “ไปไหนมา?"

             “บ้านเพื่อนไง"

             “ไม่มีนาฬิกาหรอ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว!” พี่มาร์คที่ทั้งแสนดีและเพอร์เฟ็กต์ของผมกำลังตะคอกเสียงดังพลางเขย่าตัวผมไปมา

             “แบมบอกแล้วว่าแบมจะกลับเย็น"

             “บอกใคร?!” พี่มาร์คแทบจะเหวี่ยงผมไปที่พื้น

             “แบมบอกพี่แจบอมไว้แล้ว แบมบอกแล้วว่าให้บอกพี่มาร์คด้วย"

             “แล้วฉันรู้ไหม!! ทำไมไม่มาบอกเอง เคยบอกแล้วใช่ไหมจะไปไหนมาไหนให้มาบอกก่อน  เก่งมากสินะ ดูแลตัวเองได้แล้ว คิดว่าปีกกล้าขาแข็งแล้วสิ!" ผมในวัยสิบสามขวบได้แต่ยืนตัวสั่นงันงก พี่มาร์คไม่เคยโกรธผมมากขนาดนี้

             “ถ้าแบมบอกพี่มาร์คก็ไม่ให้แบมไปอยูดี" ผมกระซิบ

             พี่มาร์คถลึงตา

             "ก็รู้นี่" เขาปล่อยมือจากแขนของผมแล้วขยี้ผมสีแดงของตัวเอง เขาถอนหายใจราวกับพยายามสงบสติอารมณ์ให้ดี

             “แบมแบมไปทำอะไร?"

             “แบม... เพื่อนแบมเพิ่งซื้อเกมส์มาใหม่ แบมอยากไปเล่นกับเพื่อน"

             “เกมส์อะไร"

             “ Call of Duty ครับ” ผมพูดเสียงเบา

             พี่มาร์คค่อยๆย่อตัวจนอยู่ระดับสายตาเดียวกับผม

             “พรุ่งนี้เราจะไปซื้อเกมส์นี้กันนะ แล้วไว้เรามาเล่นด้วยกันนะครับ" พี่มาร์คยิ้ม “พี่ขอโทษที่เสียงดังนะแบม"

             “.........”

             “แบมทำให้พี่โกรธมากเลยรู้มั้ย อย่าทำอย่างนี้อีก เข้าใจนะ" เสียงนุ่มๆราวกับผ้ากำมะหยี่ของพี่มาร์คยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ "ทีหลังจะไปไหนจะทำอะไรต้องบอกพี่นะครับ"

             “พี่ให้แบมแบมได้ทุกอย่างนะ"

             “อย่าหนีพี่ไปไหนอีก"

             “อย่าให้พี่ต้องหักแขนหรือขาของแบมแบมนะ"

             “อย่าให้พี่ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนะ"

             ฝ่ามือที่กว้างกุมมือของผมเบาๆ ผมยืนตัวสั่นและเริ่มร้องไห้

             “พี่รักแบมมากนะ"

             ผมมองดูรอยยิ้มของพี่มาร์ค ...เป็นวันแรกที่ผมรู้สึกกลัวที่สุดในชีวิต

      o0o



       

      To be continued...




      Talk: สารภาพตรงนี้เลยว่าตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะมาต่อไวหรืออะไร (ที่จริงนี่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าไวนะ กร๊าก) ดังที่เห็นเครื่องหมาย ? หลังทูบีคอนทินิวเมื่อตอนที่แล้ว ช่วงนี้เรายุ่งๆค่ะกลับบ้านดึกตลอด แต่อ่านคอมเม้นต์แล้วแบบ อืม เหมือนชะนักปักหลัง รู้สึกผิดมากไงไม่รู้ ทีนี่เลยพิมพ์ยิกๆเท่าที่เวลาจะอำนวย พิมพ์ผิด พิมพ์ตก พิมพ์งงยังไงเราต้องกราบขออภัยไว้ตรงนี้ ตอนหน้าก็จบแล้วค่ะ ลากยาวกว่านี้เกรงว่าชาติหน้าก็ไม่จบ พอดีได้ดูสัมภาษณ์ (Arirang Radio ช็อตแบมเลือกพี่มาร์ค) ของพวกฮีทั้ง 7 แล้วแบบ มโน... เลยเอามาแต่งผสมมั่วปั่นรวมกันดังที่ได้อ่านไป

      Soull ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เม้นต์ยาวด้วย ฮือ อุตส่าห์เสียเวลา เราก็เข้าใจน้องแบมค่ะ เรื่องเกมส์ 55555 อาจจะไม่ดราม่าขนาดนั้น อย่าไปคาดหวังนักนะคะ T T
      ไม่ได้ติ่งมั่วๆแค่ติ่งแบบทั่วถึง (โหชื่อ... ขำอ่ะ) พี่มาร์คนั่นแหละใจร้ายยยยยย เชื่อเรา ><

      pataran ตาฝาดแล้วเตง ไม่ดราม่ามากหรอกค่ะ สบายใจได้ 5555

      HoneyJ หึหึ เราว่าพี่มาร์คดื้อกว่าอีกนะคะที่รัก

      natty เราก็คิดเหมือนกันค่ะว่าพี่มาร์คควรพบแพทย์ 55555

      ฟังค์กัส ตอนนี้ยังอาจไม่ค่อยรู้ ตอนหน้าอาจได้รู้ค่ะ

      kera ต่อแล้วนะะะะะะะะ

      littlepenz ใช่ พี่มาร์คฮีเยอะน่ะค่ะ ทำนองนั้นเลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ขอบคุณที่คอมเม้นท์ด้วยค่ะ T T

      AmorousTK บอกเลยว่าเม้นท์ตัวเองนี่แบบทำเอาเรานอนไม่เป็นสุขเลย 555555 เค้ามาต่อให้แล้ว ขอโทษที่ตัวเองต้องมาตามเช็ค ในที่สุดเค้าก็มา เราก็ชอบยูคยอมค่ะ แต่แบมแบมมีน้อยใช้สอยประหยัดเลยต้องแบ่งให้พี่มาร์คได้ตอดบ้าง 5555 ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ กำลังใจมาเต็ม แบบ ว่าจะยังไม่พิมพ์ๆ ต้องลุกมาพิมพ์ เหอๆ ประโยคที่พิมพ์มาอ่านแล้วรู้สึกบาปหนามากถ้าไม่มาต่อภายในเร็ววัน ขอโทษด้วยที่พิมพ์ชื่อยูคยอมผิด คือแรกๆเราเรียก ยูคยองอยู่ มันไม่ชินปาก ออกเสียงยาก ตอนนี้โอแล้ว ขอบคุณอีกทีนะคะ คืออ่านที่พิมพ์มามันเร้าอารมณ์มากเลยอ่ะ ชอบ ฮ่าๆ <3

      ชาบู ขอบคุณที่ชอบนะคะ

      KATOL_039 55555 มันเป็นสไตล์ของพี่มาร์คแก

      Mylove.YA โปรดสงสารแบมเถิด 5555

      onmiae ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ มาต่อแล้วนะ สนุกไม่สนุกเชิญด่าได้ค่ะ 5555

      กขค ทำใจค่ะ หน้าตาดีก็ต้องมีข้อเสียบ้าง ก๊าก

      จัสมินสีชมพู ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เป็นต่างด้าวที่ต้องสู้ชีวิตในเมืองใหญ่และผู้ชายมากมีค่ะ แบมต้องปากกัดตีนถีบค่ะ

      batadeen เค้าขอโทษที่ทำค้าง เค้ามาแล้ว อีกสามเดือนเค้าจะมาต่อนะ \หลบเกิบ batadeen 55555

      ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ

      ปล. เพิ่งรู้ตัวว่ากดเพิ่มตอนไม่ได้เพราะตัวเองเลือกแบบเรื่องสั้นไว้ 55555 คือ ไม่คิดจะมาต่อเอาซะจริงๆเลยนะทีแรกเนี่ย


       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×