เรื่องซึ้งๆ ของความรัก - เรื่องซึ้งๆ ของความรัก นิยาย เรื่องซึ้งๆ ของความรัก : Dek-D.com - Writer

    เรื่องซึ้งๆ ของความรัก

    เรื่องซึ้งๆ ของความรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    726

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    726

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 50 / 15:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องซึ้ง ๆ ของความรักที่อยากให้อ่านก่อนที่จะสายเกินไป
      เรื่องสั้น : โดย The story of my love [20 (spamphone) 09:09:15]

       

      แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตก อยู่ระหว่างกอหญ้าที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบ
       มันขึ้นมาปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานาน พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน... แต่ฝนไม่สามารถลบเลือน
       คำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้ ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจาก เรื่อง เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้

           และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้น ม.4 คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวก
      เราได้รู้จัก กับนุ่น
               “นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ” บอม พูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
           เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้ พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวก
      ผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร

           และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคน หนึ่ง นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่
      กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็น คำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย .. จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี.... เมื่อ เพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
           และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมา ใหม่

               “เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ” ผมพูด “อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย” กบพูดพร้อม กันเสียงหัวเราะจากทุกคน “แต่เราว่าน่ารักดีนะ” บอม พูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้า
      ขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา

           ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมี อิทธิพลกับนุ่นมาก และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอม ไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารัก คำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน

           ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา
               “ขนมมาแล้วจ๊ะ” เสียงใสๆของ นุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม (การซื้อขนมเลี้ยงของนุ่นมัก เป็นกิจวัตรประจำ)
           พวกเราเคยปฏิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของ คุณหนูนุ่นนั่นเอง)
           ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนกบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า
      เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสง
      เคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย เพราะการ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
           สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน

           เมื่อนุ่นพุดจบ บอม ก็หยิบสมุด จดศัพท์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มาเปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า... เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...
           สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที. ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............

           วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเอง เหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง..
      วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า .....” อิสรภาพ” ......... ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม แต่การที่
      ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้ เลย
           โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่ง คุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว หน้าตาสวยมาก คนหนึ่ง
       พร้อมพูดว่า “นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ” ตั้งแต่วันนั้นผู้ หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆ
      ที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอม ถามให้ได้ว่า เป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสน ใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่
      ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ ซึ่งพวกผม จะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ
      หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผม คือ daytona ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่อง ตู้เกมส์ เตอติส
      ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอม และนุ่น ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอม ให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ
       เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่ง เพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน
       พลางคิดไปถึงคำพูดในหนังรักออกแบบไม่ ได้ ที่ว่า ”เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ” แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไป ถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง
      ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
           ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้า กำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่า ทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
           แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของ ทั้งคู่พร้อมอาการเขิน และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฏิเสธ แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า”พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว”
      พร้อมกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป

           วันศุกร์ใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามา ถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น วันนี้จึงไม่ค่อย ได้เรียนเพราะวันศุกร์ที่โรงเรียน
      มีเรียนแค่2วิชา พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียน เพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้นุ่นผิด ปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก
       ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอม ได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด บอมจึงพูดว่า”นุ่นเธอตัวร้อน มากนะกินยาอะไรหรือยัง?”
               “ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” นุ่นตอบ พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้น taxi โดยผม กับกบจะไปรอที่
      food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า “นี่ไม่สบาย ขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก” “ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ” นุ่นตอบพร้อมกับ ยิ้มมา
       “ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก” บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอย ยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่
      ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไป ส่งนุ่นขึ้น taxi กลับบ้าน

           ........เอี้ยด.....ปัง......อัก...... รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับ taxi คันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย
      กระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น และไถลไป ข้างหน้าอีก 7-10 เมตร สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ
      มือถือแตกเป็น 2 ส่วน พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือด และบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
           เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่ นุ่นมาเรียนสาย เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบาย และผักผ่อนอยู่ที่บ้าน
      แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้ 15 นาที เพจของบอมก็ดังขึ้นพร้อมกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
           เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอย ช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอม
      หยุดที่หน้าห้อง ICU เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชาย
      ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่

           เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก แต่ยังไงก็คงไม่เท่ากับบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก
      ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจศพนุ่น 2 วัน แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ” ในห้อง ICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอก
      กับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้” แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุง กระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้

           หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบ diary ขึ้นมา มันเป็น diary เล่มสีชมพูที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น ชื่อของบอมมีอยู่ใน diary
      ของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นใน diary เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้ม
      โดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษามหาลัยธรรมมศาสตร์
               “ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”บอมพูดเมื่ออ่าน diary และได้ รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่ และเมื่อช่วงหนึ่งใน diary จึงได้รู้ว่านุ่นเข้าใจผิดว่าบอม
      ไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ ที่เรียนพิเศษ สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้าใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่มว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอม
      ไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึก ของตัวเอง นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้ก่อน
      การเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็นครั้งที่ 2 ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไร
      ก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไรคำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด ทุกคนตอบต่างๆกันไป เมื่อ กบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม

               “เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”
           บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมาหลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน

           วันนั้นผมจึงได้รู้ว่านุ่นยังคงอยู่ในของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง วันที่ผมได้รู้ อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
           เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้าน ของกบ กบติด ม.เชียงใหม่ ผมติดที่ประสานมิตร แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือคนที่ได้คะแนน 60 กว่าเกือบทุกวิชา
      ไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น ทำให้ผม
      ได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก
       เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต
           คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใครแต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขา ตลอดเวลา ........

           ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นเป็นเม็ดฝนลง มาสู่ดินทุกหนแห่ง
           ลมพัดเข้ามาในห้องผมอย่างแรงทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่คว่ำด้านหน้าลง ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม และมองไปที่รูปนั้นอีกครั้งหนึ่งที่มันทำ
      ให้ผมนึกถึง ..เธอ... .. เธอ
           ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกิน อาหารบางอย่างไม่ได้ ..
           เธอผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY
           เธอผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี และออกไปต่อสู้กับปัญหา
           เธอผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส
           เธอผู้ที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกผม เธอผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา

           ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง
           เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน
           แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
           พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็น จริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว .....
           “รัก” บางคนคิดว่าเป็นแค่วามรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด
           แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและ รอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่ เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดาย และเสียใจ
      เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่...สาย...เกิน...ไป.... ขอบคุณ

               เพียงความทรงจำ................. บดความนี้ถ้าใคร่อ่านแล้วไม่ออกความเห็นแปลว่าคนฯนั้นไม่รู้จักคําว่ารักแท้.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×