คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พี่ชายคนที่หนึ่งและคนที่สี่
"ว๊าย! นี่มันอะไรคะเนี่ย?!!" เสียงของหญิงสาวดังร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับรีบจัดเสื้อผ้าที่เริ่มถูกปลดออกให้เข้าที่เข้าทาง ภาคินไม่สนใจกับท่าทีตกใจของหญิงสาว แต่กลับจับตัวหญิงลงนอนบนโซฟาอีกครั้งพร้อมกับทำท่าจะซุกไซ้ซอกคอขาวผ่องนั้นต่อ แต่หญิงสาวกลับผลักร่างภาคินออกไป ทำให้ภาคินถอนใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะผละออกจากร่างหญิงสาว พร้อมกับยืนกอดอกจ้องมองไปยังร่างของหนุ่มน้อยที่ยืนมองตนด้วยสายตาแทบจะลุกเป็นไฟ
"นายเป็นใคร?!-- รู้มั้ยว่านายทำฉันหมดอารมณ์?!" ภาคินถามออกมาอย่างหัวเสีย แต่เรืองริทยังคงไม่ตอบเพราะกำลังตกใจกับภาพที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าและที่สำคัญกับคำพูดไม่มียางอายของอีกฝ่าย
โฮ่ง โฮ่ง
เสียงของเจ้าชมพูเห่าขึ้นมาเหมือนจะตอบคำถามแทนผู้เป็นนายของมัน พร้อมกับกระดิกหางอย่างเป็นมิตร ทำให้ภาคินเหลือบไปมองสุนัขขนปุยสีขาวที่นั่งสี่ขาอยู่อย่างไม่ชอบใจ
"อุ๊ย! น้องหมาน่ารักจัง!" เสียงของหญิงสาวดังขึ้น พร้อมกับรีบวิ่งเข้ามายังเจ้าชมพู ซึ่งเรืองริทรู้สึกเหมือนเคยเห็นหญิงสาวผ่านๆตามนิตยสารดาราทั่วไป แต่ก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะเข้าไปใกล้ เจ้าชมพูก็แยกเขี้ยวใส่อีกฝ่ายอย่างไม่ชอบใจ ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตกใจรีบวิ่งกลับไปหาภาคิน
"หมาบ้า!" หญิงสาวร้องออกมาอย่างไม่พอใจ
"เจ้าชมพูไม่ได้บ้า! ---คนที่บ้าคือพวกคุณต่างหาก!!" เรืองริทรีบเถียงออกมา ทำให้คนทั้งคู่มองหน้าอย่างไม่ชอบใจ
"นายนะสิบ้า! บ้าทั้งคนทั้งหมา! เข้าบ้านคนอื่นมาได้ยังไง!?--- แถมยังมาขัดเวลาความสุขฉันอีก!" ภาคินตะคอกถามอีกฝ่าย
"บ้านนายเหรอ?" เรืองริทถามอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อ
"ใช่นะสิ บ้าน---ของ---ฉัน ได้ยินชัดมั้ย?!"
"เอะอะอะไรกัน?!"
เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้น ทำให้เรืองริทรีบหันกลับไปมองตามเจ้าของเสียง ซึ่งเป็นภาพของชายผมยาวประบ่า หน้าตาสวยงามผิวหน้าเกลี้ยงเกลา มียางผูกผมรูปสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่สองลูกผูกจุกหน้าม้าอย่างน่ารัก เจ้าชมพูมองหน้าของผู้ชายคนนั้นสลับกับหน้าของเรืองริทเหมือนจะถามว่า เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ซึ่งเรืองริทก็จนปัญญาที่จะตอบเจ้าชมพูเช่นกัน ฟังดูจากเสียง น่าจะเป็นผู้ชายสินะ เรืองริทคิด
"เอ๊ะ! นี่ใครกัน?" ผู้ชายหน้าสวยคนนั้นถามขึ้นมาอย่างสงสัย พร้อมกับจ้องมองเรืองริทตั้งแต่หัวจรดเท้า
"นั่นนะสิ คุณรุจ แยมก็อยากจะรู้เหมือนกัน--- ว่านายคนนี้คือใคร?" เสียงของหญิงสาวที่ชื่อ แยม ที่ยืนอยู่ข้างร่างของภาคินดังขึ้นมา จากนั้นทั้งสามคนก็จ้องมองดูเรืองริทอย่างคาดคั้นคำตอบ ใบหน้าของเรืองริทเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ พร้อมกับเอยออกไปว่า
"เอ่อ... คือ ผมชื่อ เรืองริทฮะ" เรืองริทพูดมองหน้าศุภรุจเพียงคนเดียวโดยที่ไม่ได้สนใจอีกสองคน
"คือว่า แม่ผมบอกว่า ผมคือลูกชายของคุณดิลก เจ้าของบ้านหลังนี้ฮะ" เรืองริทรีบพูดออกมาพร้อมก้มหน้า พวกเขาคงไม่เชื่อเราแน่ แถมคุณดิลกก็ยังไม่อยู่ เอายังไงล่ะทีนี้ โดนไล่ออกไปจากบ้านแน่ เรืองริท
"อ้อ! ลูกคุณพ่ออีกคนสินะ --- ยินดีต้อนรับเข้าบ้านเพียงดาว" เสียงของศุภรุจดังขึ้นอย่างดีใจ ทำให้เรืองริทรีบเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา จากนั้นศุภรุจก็เดินเขามาโอบบ่าเรืองริทเอาไว้อย่างอบอุ่น
"พี่ชื่อ รุจนะ เป็นพี่คนโตของที่นี่ ---ส่วนนี่คือน้องชายคนที่สี่ ชื่อภาคินหรือโตโน่ น่าจะเป็นพี่ชายนายได้นะ... ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้นายก็เป็นน้องคนสุดท้องนะสิ! โอ๊ะ! ดีจัง" ศุภรุจพูดพร้อมทำหน้าตื่นเต้นดีใจพร้อมกับยิ้มน่ารักให้อย่างใจดี
"เราเป็นลูกคุณพ่อเหมือนกัน---แต่คนละแม่กันนะ" ศุภรุจรีบพูดขึ้น เมื่อเรืองริทมีท่าทีงงงัน ส่วนภาคินที่มีใบหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด
"ฮึ! แน่ใจได้ยังไงว่าเป็นลูกของเขา" ภาคินพูดสวนขึ้นมา ทำให้เรืองริทหน้าเสียเล็กน้อย เพราะตัวเองก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเป็นใช่ลูกของดิลกจริงหรือเปล่า
"ไม่เอาน่าโน่ ริทออกจะน่าจะตาย--- พี่ขอเรียกนายว่าริทนะ?" พูดพร้อมหันหน้าไปถาม ซึ่งเรืองริทพยักหน้ารับอย่างงกเงิ่น
"นายเป็นคนของประชาชนนะ ต้องทำตัวน่ารักๆสิโน่---" ศุภรุจกระเซ้าอีกฝ่ายอย่างหยอกล้อ แต่ภาคินกลับไม่มีท่าทีเล่นด้วย
"ริทรู้จักมั้ย? ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้องชื่อดังของเมืองไทย" ศุภรุจพูดอย่างภูมิใจในตัวของผู้เป็นน้อง ซึ่งหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆภาคินก็พลอยยืนอกอย่างภูมิใจด้วย แต่ภาคินกลับทำหน้าไม่สบอารมณ์
"ไม่รู้จักฮะ!!" เรืองริทรีบตอบออกมา ทำให้ภาคินจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ
"อ้าว! ไม่รู้จักเหรอ อืม... โน่--สงสัย นายคงจะดังไม่จริงมั้ง---" ศุภรุจพูดพร้อมหัวเราะออกมา เรืองริทมองหน้าอีกฝ่ายอย่างท้าทาย ความจริงแล้วเรืองริทรู้สึกคุ้นหน้าของภาคินเป็นอย่างมากและเมื่อครู่คำพูดของศุภรุจก็ทำให้เรืองริทนึกออกทันที ว่าภาคินคือนักร้องชื่อดัง แต่เรืองริทอยากตอกหน้าอีกฝ่ายจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ซึ่งได้ผล... ภาคินดูเดือดดาลขึ้นมาแทบทันที
"เอาล่ะๆ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่จะหาห้องนอนให้---" พูดพร้อมกับโอบบ่าของเรืองริทเพื่อก้าวไปในตัวบ้านด้านใน แต่ทันใดนั้นเจ้าชมพูก็เห่าขึ้นมา ทำให้ศุภรุจกับเรืองริทรีบหันหลับไปมอง
"อ้าว! นี่หมาของริทหรือเปล่า?" ศุภรุจถามขึ้นมา เรืองริทพยักหน้ารับ
"มันชื่อ ชมพูฮ่ะ---" เรืองริทบอกอย่างรักใคร่ ซึ่งเจ้าชมพูส่ายหางอย่างชอบใจที่เรืองริทเรียกชื่อของมัน ศุภรุจมีท่าทีขบขัน เพราะเจ้าชมพูขนฟูสีขาวไม่มีส่วนใดที่เป็นสีชมพูเลย
"ถ้างั้น เจ้าชมพูก็ตามริทเข้ามาด้วยนะ" ศุภรุจพูดอย่างใจดี ซึ่งเจ้าชมพูเห่าออกมาหนึ่งครั้งอย่างดีใจ จากนั้นร่างของศุภรุจและเรืองริท พร้อมด้วยเจ้าชมพูก็เดินเข้าไปในตัวบ้าน โดยมีสีหน้าไม่ชอบใจของภาคินเป็นอย่างมาก เมื่อร่างของศุภรุจและเรืองริทเดินลับไป หญิงสาวก็โอบคอภาคินพร้อมส่งสายตาให้อย่างมีความหมาย
"เรามาทำกันต่อดีกว่ามั้ยคะ โตโน่?"
แต่ภาคินกลับดึงมืออีกฝ่ายออกด้วยใบหน้าไม่พอใจ
"อย่าดีกว่า ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์ ---แล้วอีกอย่าง ฉันเคยบอกแล้วไง ว่าห้ามเรียกฉันว่า โตโน่!! " พูดพร้อมกับเดินจากอีกฝ่ายไป ปล่อยให้หญิงสาวมีใบหน้าเหรอหราอย่างไม่ชอบใจ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ป็นไง ชอบห้องนี้มั้ย?" ศุภรุจถามเรืองริทเมื่อทั้งคู่มาอยู่ภายในห้องขนาดกลางบนชั้นสอง ที่ถูกจัดตกแต่งเอาไว้เป็นอย่างดี เรืองริทสำรวจไปรอบๆห้องอย่างพึงพอใจ หน้าต่างขนาดใหญ่เท่าประตูมีด้วยกันอยู่สี่บานโยมีผ้าม่านสีขาวปิดอยู่ ซึ่งภายนอกหน้าต่างเป็นระเบียงกว้างทอดออกไปให้เห็นสวนดอกไม้ข้างล่าง
"ถ้าไม่ชอบก็บอกนะ จะได้ให้คนมาจัดห้องให้ใหม่" ศุภรุจพูดพร้อมยิ้มให้
"ไม่ฮะ ริทชอบห้องนี้" เรืองริทพูดพร้อมยิ้มกว้างให้ ทันใดนั้นสายตาของเรืองริทก็เหลือบไปเห้นประตูบานหนึ่งอยู่ที่มุมห้อง
"นั่นประตูห้องน้ำเหรอฮะ?" เรืองริทถามอย่างสงสัย ทำให้ศุภรุจหันตามไปดูตามสายตาของเรืองริทจากนั้นก็ยิ้มออกมา
"ไม่ใช่หรอก ริท... นั่นมันเป็นประตูเชื่อมไปยังอีกห้องนอนน่ะ--- โอ๊ะ แป๊บนะ โทรศัพท์พี่มา" จากนั้นศูภรุจก็เดินออกไปที่ระเบียงเพื่อคุยโทรศัพท์ ซึ่งทำให้เรืองริทได้สำรวจห้องได้อย่างเต็มตามากขึ้น
"ชอบมั้ย ชมพู?" เรืองริทก้มลงถามเจ้าสุนัขขนฟู เจ้าชมพูแลบลิ้นออกมาเลียหน้าเรืองริทอย่างชอบใจ
"เอาล่ะ ริท--- เดี๋ยวพี่ลงไปข้างล่างก่อนนะ เจ้าเก่งโทรมาบอกว่าเย็นนี้อยากกินไข่พะโล้ฝีมือพ่อบ้านเซน พี่ต้องลงไปบอกเจ้าพ่อบ้านเซนมันก่อน --- ว่าแต่เราอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย?" ศุภรุจที่เดินเข้ามาจากระเบียงถามอีกฝ่ายขึ้น
"อะไรก็ได้ฮะ"
โอเค จัดข้าวจัดของให้เรียบร้อยล่ะกัน พูดพร้อมกับเดินจากไป
"เก่ง ใครกันอีกนะ สงสัยคงจะเป็นพี่ชายต่างแม่อีกคนละมั้ง?" เรืองริทถามตัวเอง จากนั้นก็รื้อเสื้อผ้าที่อยู่ในเป้ออกมาเพื่อจะใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้า แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าห้องนี้ไม่มีตู้เสื้อผ้า เรืองริทพยายามมองหาตู้เสื้อผ้าก็ยังหาไม่เจอ เมื่อเดินมาตรงมุมที่เป็นประตูเชื่อมเข้าไปอีกห้อง เรืองริทก็มองอย่างลังเลสักพัก จากนั้นก็ลองหมุนลูกบิดประตู ก็ปรากฏว่าไม่ได้ล็อกเอาไว้ ร่างบางของเรืองริทเลยลองแง้มประตูออกไป ก็พบทางเดินกว้างที่ทอดยาวออกไปประมาณ5เมตร กว่าจะถึงประตูของอีกห้อง ซึ่งตรงด้านข้างทางเดินตรงมุมซ้ายมีตู้เสื้อผ้าบิ้วอินขนาดใหญ่ ส่วนตรงขวามือมีประตูเลื่อนที่เป็นกระจก ซึ่งเมื่อเรืองริทมองเข้าไปก็พบว่าเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ดูสะอาดสะอ้าน
"แล้วห้องข้างหน้ามันห้องใครกันนะ?" เรืองริทถามอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไป พร้อมกับกลับไปที่ห้องนอนของตนเพื่อนำเสื้อผ้าที่มีอยุ่ไม่กี่ชุดเข้ามาใส่ในตู้เสื้อผ้าที่ยังว่างอยู่
ความคิดเห็น