หมาป่าตัวนั้นขอเป็นปลาเค็ม
ทำงานมาครั้หนึ่งแล้วไม่อยากทำอีกเลย อยากใช้เวลามาพักผ่อนอย่างสบาย ๆ ใจในชีวิตนี้สักครั้งอยากเป็น ”ปลาเค็ม“ มีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงานอีก แต่ทำไมแมวยักษ์ตัวนั้นถึงชอบตามติดเขาไปทุกที่เลยละ
ผู้เข้าชมรวม
24
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
นิยายวาย วาย boylove BL ชายรักชาย feelgood โรแมนติก 18 เอไอ AI รวย ก้าวหน้า ปัญญาประดิษฐ์ เรื่องราวชีวิต นิยายรัก
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
ณ จักรวาลอันกว้างใหญ่ในโลกอนาคต
มนุษย์ได้มีการวิวัฒนาการเพื่อทำการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบใหม่อันมีความก้าวหน้าอย่างที่สุด และหนึ่งในนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการนำ DNA ของสัตว์สิ่งมีชีวิตมีทำการทดลองให้สามารถปรับเข้ากับยีนส์ของมนุษย์ และแน้นอนผลคือสำเร็จ
ทำให้เกิดยื่นสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่และผลที่ได้นั้น ก็เกินขาดของพวกเขา คือความแข็งแกร่งทางร้างกาย พละกำลังแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงนั้นก็คือ
พลังแฝง หรือพลังจิตที่มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าอะไรเป็นไหนๆ และสิ่งนี้จึงเป็นตัวชี้วัด ทำให้มีการแบ่งแยกความแข็งแกร่งออกมาอย่างชัดเจนจึงทำให้เกิดความเลี่ยมลำของความเป็นมนุษย์หรือสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอย่างมิได้
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเวลาก็เป็นตัวที่จะพิสูจน์ว่า ความคิดของคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้
นั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของตัวเอก
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ…
เสียงพลิกหน้ากระดาษหน้าถัดไปเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ ในเวลากลางขึ้นที่เงียบสงัดมีเพียงแสงไฟที่เปิดไว้เพียงบางจุดเท่านั้น แต่ตรงนี้กลับเป็ดแสงไฟไว้อย่างไม่เปลืองเสียค่าไฟฟ้าเสียด้วยซ้ำ
ตรงหลังเคาน์เตอร์ตรงกลางชั้นห้องผู้ป่วยมีหมอประจำวอร์ดอยู่ กำลังนั่งเปิดหนังสืออ่านนิยายอย่างเพลิดเพลิอนและอย่างตั้งใจ จนเวลาล้วงเลยไปไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหรแล้ว
พรึบ
เสียงปิดหนังสือหนังสือดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและตามมาด้วยเสียงถอนหายใจยังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายอย่างคนเซ็ง ๆ อย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะทำการยืดเส้นจากการที่นั่งเป็นเวลานานทำให้เห็นรูปร้างของเจ้าของเสียงจากการยืดเส้น เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์ตามแบบของคนที่รักษาสุขภาพดี หากมองตั้งแต่เท้าไปจนถึงหัวจะต้องตกใจกับใจหน้าฟ้าประทานที่ไม่รู้ว่า จะชมว่าหล่อหรือสวยดีเพราะมันอยู่ระหว่างกึ่งกลางของทั้งสอง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการลงตัวที่จะมองดูกี่ทีก็ไม่รู้จักพอ สามารถมองได้เรื่อย ๆ ไม่รู้จักเบื่อเสียมากกว่า
“เฮ้อ”
“อ้าว!! อาจารย์นี้ยังไม่ไปพักผ่อนอีกเหรอครับ นี้ก็… เวลาออกงานของอาจารย์แล้วนะครับ”
ผู้มาใหม่กล่าวขึ้นพร้อมกับหันไปดูเวลาก่อนที่จะหันมามองหน้าของ มาเอล หยาง อติวิชญ์ ผู้เป็นอาจารย์ แต่พอเห็นว่าผู้เป็นอาจารย์กำลังถือหนังสือเล่มนั้นอยู่ก็ยกยิมขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“นี้อาจารย์หมออ่านนิยายที่ผมแนะนำด้วยเหรอครับ ผมไม่ยักรู้ว่าอาจารย์หมอจะอ่านนิยายด้วย ฮิฮิ”
มาเอลพยักหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับเด็กตรงหน้า
“นี้คิดว่าฉันจะไม่อ่านอะไรแบบนี้ใช้มัย แต่ขอบอกเลยว่านายคิดผิดแล้ว มาวิน สมัยก่อนฉันก็อ่านแต่พอหลัง ๆ มาเพราะทำงานเยอะเลยไม่มีเวลาอ่านนะ แต่ก็สนุกดีนะเรื่องนี้นะ” มาเอลพูดชมประติเสธไม่ได้เลยมาเนื้อเรื่องดีพอสมควร
“ใช้มัยละครับ อาจาร์ยหมอเรื่องนี้สนุกมาก ๆ เลยละครับบีสต์หูสัตว์นี้ดีที่สุดแล้วนะครับ แต่ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับอาจาร์มาเอลอีกครั้งนะครับที่ทำวิจัยสำเร็จแล้ว“ มาวินยิ้มให้กับมาเอลอย่างยินดีที่มาเอลประสบความสำเร็จอีกครั้ง
“ขอบใจนะมาวิน แต่ในวิจัยนี้ก็มีชื่อนายด้วยนะอย่ามาแสดงความยินดีกับฉันเพียงคนเดียวสิ ‘ยินดีด้วยนะมาวินที่ประสบความสำเร็จ’ แล้วนี้ไม่ไปเลี้ยงฉลองกับคนอื่นหรอ?”
มาเอลเอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัย ซึ่งเป็นการกระทำที่เคยตัวเมื่อสงสัยอะไรสักอย่าง
โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนี้ ทำให้มาวินที่เป็นคู่สนทนาเห็นแล้วยังคิดเลยว่า น่ารัก การที่เอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัยนั้นเป็นอะไรที่น่ารักสำหรับมาวินมาก ๆ หากไม่ติดที่ว่ามาเอลเป็นอาจารย์แล้วละก็เขาคงเข้าไปกอดอย่างเสียมิได้ ท่องไว้มาวิน ท่องไว้ นั้นอาจารย์ ท่องไว้ งืมมมมม
มาเอลยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่กับการกระทำของมาวินทีเดี่ยวก็ยิ้ม ทีเดี่ยวก็ทำหน้านิ่ง ๆ อย่างกับคนผีเข้าผีออกซักอย่างนั้นละ
“เอาละในเมื่อนายไม่ได้ไปงานเลี้ยงแล้ว งั้นฉันไปพักก่อนนะมาวินตรงนี้ก็ขอฝากด้วยนะ”
“ครับอาจารย์มาเอล”
แต่ในขณะที่มาเอลกำลังจะลุกจากเก้าอี้นั้นจู่ ๆ มาเอลก็เกิดอาการหน้ามืดซะอย่างนั้น จนต้องเอาแขนค้ำกับขอบโต๊ะไว้อย่างเร็วทำให้มาวินตกใจอย่างแรงจึงรีบเดินเข้าไปหาอย่างเสียมิได้
“เป็นอะไรมากไม่ครับอาจารย์มาเอล!!”
“ฉะ…ฉันไม่เป็นอะไรเธอก็ไม่ต้องคิดมาก แค่อาการหน้ามืดเชิย ๆ นะ” มาเอลกล่าวบอกเพื่อไม่ให้มาวินเป็นห่วง แต่สำหรับมาวินนั้นไม่ใช้เลยจากที่สังเกตคนตรงหน้าแล้วยิ้งทำให้เป็นห่วงเข้าไปใหญ่เสียอีก
“ไม่เป็นอะไรสักที่ไหนละครับหน้าซีด มือเย็นขนาดนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงละครับมาเอล”เขาเป็นห่วงคนตรงหน้าจริง ๆ เขาไม่อยากให้คนตรงหน้าเป็นอะไรเลยจริง ๆ มันทำให้เขาเจ็บปวดไปด้วย
“ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ มาวินเธอนี้เมื่อกี้เธอเรียกชื่อฉันห้วน ๆ สินะเธอกล้าดีนี้”มาเอลทำหน้าจริงจังหลังจากที่มาวินช่วยพยุงมาเอลนั่งเก้าอี้แล้ว
“ขะ ขอโทษครับ”หงอย
นั้นไงเอาละท่าหงอยที่เหมือนกับลูกสุนัขที่โดยเจ้าของดุ หูลู้หางตกพอเขาโดยมาวินทำท่านี้ใส่ทีไรก็ใจอ่อนทุกทีละสิน่า และด้วยที่มาวินชอบตัวติดกับเขาด้วยนั้นอย่างกับสุนัขตามเจ้าของนั้นพอเขาไม่อยู่หรือลาพักเจ้าตัวก็จะนิ่ง ๆ ดูเย็นชา ไม่น่าเข้าหา แต่ก็สามารถพึ่งพาได้บางเรื่องเท่านั้นแต่พอเขากลับมาทำงานทีไรก็ร่าเริงทันที่และตามติดต่อย ๆ จนทำให้คนในโรงพยาบาลถึงกับตั้งฉายาให้กับเขา ‘เจ้าของ’ สะอย่างนั้นเขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ มาเอลยิ้มที่มุมปากอย่างคบคัน
“เอาละฉันจะไม่ดุแล้วเพราะงั้นเลิกทำหน้าหมาหงอยสักที อย่างนี้ไงทุกคนถึงชอบตั้งฉายาให้ฉันกับนายแบบแปลก ๆ นะ”
เมเอลไม่พูดอย่างเดียวแล้วยื่นมือออกไปลวบหัวของมาวินเบา ๆ เพื่อปลอบใจคนตรงหน้า ทำให้มาวินดีใจยกใหญ่ที่ได้รับรางวัลปลอบใจจากเขา ทำให้เกิดหูและหางทิพย์ส่ายไปมาอย่างดีใจ นี้สินะหมาน้อยอย่างที่ทุกคนเห็น
แต่พอมาวินกำลังจะค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้อีกทีก็เกิดวูบอีกครั้งก่อนที่สติจะเริ่มเลินรางก่อนภาพตัดนั้นเขาเห็นได้ว่ามาวินดูร้อนรนใจและตะโกนเรียกชื่อของเขา แต่ถึงอยางนั้นเขาก็ส่งยิ้มให้กับมาวินและพูดอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป
“ไม่ เป็น อะไร อย่าห่วงเลย มาวิน”
ผลงานอื่นๆ ของ One Day Sleepy ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ One Day Sleepy
ความคิดเห็น