หมาป่าตัวนั้นขอเป็นปลาเค็ม - นิยาย หมาป่าตัวนั้นขอเป็นปลาเค็ม : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    หมาป่าตัวนั้นขอเป็นปลาเค็ม

    ทำงานมาครั้หนึ่งแล้วไม่อยากทำอีกเลย อยากใช้เวลามาพักผ่อนอย่างสบาย ๆ ใจในชีวิตนี้สักครั้งอยากเป็น ”ปลาเค็ม“ มีเงินใช้โดยไม่ต้องทำงานอีก แต่ทำไมแมวยักษ์ตัวนั้นถึงชอบตามติดเขาไปทุกที่เลยละ

    ผู้เข้าชมรวม

    24

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    24

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ต.ค. 67 / 23:02 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ


     


     


     


     

            ณ จักรวาลอันกว้างใหญ่ในโลกอนาคต


     

            มนุษย์ได้มีการวิวัฒนาการเพื่อทำการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบใหม่อันมีความก้าวหน้าอย่างที่สุด และหนึ่งในนั้นนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการนำ DNA ของสัตว์สิ่งมีชีวิตมีทำการทดลองให้สามารถปรับเข้ากับยีนส์ของมนุษย์ และแน้นอนผลคือสำเร็จ


     

            ทำให้เกิดยื่นสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่และผลที่ได้นั้น ก็เกินขาดของพวกเขา คือความแข็งแกร่งทางร้างกาย พละกำลังแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงนั้นก็คือ


     

            พลังแฝง หรือพลังจิตที่มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าอะไรเป็นไหนๆ และสิ่งนี้จึงเป็นตัวชี้วัด ทำให้มีการแบ่งแยกความแข็งแกร่งออกมาอย่างชัดเจนจึงทำให้เกิดความเลี่ยมลำของความเป็นมนุษย์หรือสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาอย่างมิได้


     

            แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเวลาก็เป็นตัวที่จะพิสูจน์ว่า ความคิดของคนเรานั้นสามารถเปลี่ยนไปตามยุคสมัยได้


     

            นั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของตัวเอก


     

            พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ…


     

            เสียงพลิกหน้ากระดาษหน้าถัดไปเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ ในเวลากลางขึ้นที่เงียบสงัดมีเพียงแสงไฟที่เปิดไว้เพียงบางจุดเท่านั้น แต่ตรงนี้กลับเป็ดแสงไฟไว้อย่างไม่เปลืองเสียค่าไฟฟ้าเสียด้วยซ้ำ


     

            ตรงหลังเคาน์เตอร์ตรงกลางชั้นห้องผู้ป่วยมีหมอประจำวอร์ดอยู่ กำลังนั่งเปิดหนังสืออ่านนิยายอย่างเพลิดเพลิอนและอย่างตั้งใจ จนเวลาล้วงเลยไปไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหรแล้ว


     

            พรึบ


     

            เสียงปิดหนังสือหนังสือดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและตามมาด้วยเสียงถอนหายใจยังขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายอย่างคนเซ็ง ๆ อย่างไรอย่างนั้น ก่อนจะทำการยืดเส้นจากการที่นั่งเป็นเวลานานทำให้เห็นรูปร้างของเจ้าของเสียงจากการยืดเส้น เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์ตามแบบของคนที่รักษาสุขภาพดี หากมองตั้งแต่เท้าไปจนถึงหัวจะต้องตกใจกับใจหน้าฟ้าประทานที่ไม่รู้ว่า จะชมว่าหล่อหรือสวยดีเพราะมันอยู่ระหว่างกึ่งกลางของทั้งสอง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นการลงตัวที่จะมองดูกี่ทีก็ไม่รู้จักพอ สามารถมองได้เรื่อย ๆ ไม่รู้จักเบื่อเสียมากกว่า


     

            “เฮ้อ” 


     

            “อ้าว!! อาจารย์นี้ยังไม่ไปพักผ่อนอีกเหรอครับ นี้ก็… เวลาออกงานของอาจารย์แล้วนะครับ”


     

            ผู้มาใหม่กล่าวขึ้นพร้อมกับหันไปดูเวลาก่อนที่จะหันมามองหน้าของ  มาเอล หยาง อติวิชญ์ ผู้เป็นอาจารย์ แต่พอเห็นว่าผู้เป็นอาจารย์กำลังถือหนังสือเล่มนั้นอยู่ก็ยกยิมขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่


     

            “นี้อาจารย์หมออ่านนิยายที่ผมแนะนำด้วยเหรอครับ ผมไม่ยักรู้ว่าอาจารย์หมอจะอ่านนิยายด้วย ฮิฮิ”


     

            มาเอลพยักหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับเด็กตรงหน้า


     

            “นี้คิดว่าฉันจะไม่อ่านอะไรแบบนี้ใช้มัย แต่ขอบอกเลยว่านายคิดผิดแล้ว มาวิน สมัยก่อนฉันก็อ่านแต่พอหลัง ๆ มาเพราะทำงานเยอะเลยไม่มีเวลาอ่านนะ แต่ก็สนุกดีนะเรื่องนี้นะ” มาเอลพูดชมประติเสธไม่ได้เลยมาเนื้อเรื่องดีพอสมควร


     

            “ใช้มัยละครับ อาจาร์ยหมอเรื่องนี้สนุกมาก ๆ เลยละครับบีสต์หูสัตว์นี้ดีที่สุดแล้วนะครับ แต่ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับอาจาร์มาเอลอีกครั้งนะครับที่ทำวิจัยสำเร็จแล้ว“ มาวินยิ้มให้กับมาเอลอย่างยินดีที่มาเอลประสบความสำเร็จอีกครั้ง


     

            “ขอบใจนะมาวิน แต่ในวิจัยนี้ก็มีชื่อนายด้วยนะอย่ามาแสดงความยินดีกับฉันเพียงคนเดียวสิ ‘ยินดีด้วยนะมาวินที่ประสบความสำเร็จ’ แล้วนี้ไม่ไปเลี้ยงฉลองกับคนอื่นหรอ?”


     

            มาเอลเอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัย ซึ่งเป็นการกระทำที่เคยตัวเมื่อสงสัยอะไรสักอย่าง 


     

            โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำนี้ ทำให้มาวินที่เป็นคู่สนทนาเห็นแล้วยังคิดเลยว่า น่ารัก การที่เอียงหัวเล็กน้อยอย่างสงสัยนั้นเป็นอะไรที่น่ารักสำหรับมาวินมาก ๆ หากไม่ติดที่ว่ามาเอลเป็นอาจารย์แล้วละก็เขาคงเข้าไปกอดอย่างเสียมิได้ ท่องไว้มาวิน ท่องไว้ นั้นอาจารย์ ท่องไว้ งืมมมมม


     

            มาเอลยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่กับการกระทำของมาวินทีเดี่ยวก็ยิ้ม ทีเดี่ยวก็ทำหน้านิ่ง ๆ อย่างกับคนผีเข้าผีออกซักอย่างนั้นละ


     

            “เอาละในเมื่อนายไม่ได้ไปงานเลี้ยงแล้ว งั้นฉันไปพักก่อนนะมาวินตรงนี้ก็ขอฝากด้วยนะ”


     

            “ครับอาจารย์มาเอล”


     

            แต่ในขณะที่มาเอลกำลังจะลุกจากเก้าอี้นั้นจู่ ๆ มาเอลก็เกิดอาการหน้ามืดซะอย่างนั้น จนต้องเอาแขนค้ำกับขอบโต๊ะไว้อย่างเร็วทำให้มาวินตกใจอย่างแรงจึงรีบเดินเข้าไปหาอย่างเสียมิได้


     

            “เป็นอะไรมากไม่ครับอาจารย์มาเอล!!”


     

           “ฉะ…ฉันไม่เป็นอะไรเธอก็ไม่ต้องคิดมาก แค่อาการหน้ามืดเชิย ๆ นะ” มาเอลกล่าวบอกเพื่อไม่ให้มาวินเป็นห่วง แต่สำหรับมาวินนั้นไม่ใช้เลยจากที่สังเกตคนตรงหน้าแล้วยิ้งทำให้เป็นห่วงเข้าไปใหญ่เสียอีก


     

            “ไม่เป็นอะไรสักที่ไหนละครับหน้าซีด มือเย็นขนาดนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงละครับมาเอล”เขาเป็นห่วงคนตรงหน้าจริง ๆ เขาไม่อยากให้คนตรงหน้าเป็นอะไรเลยจริง ๆ มันทำให้เขาเจ็บปวดไปด้วย


     

            “ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ มาวินเธอนี้เมื่อกี้เธอเรียกชื่อฉันห้วน ๆ สินะเธอกล้าดีนี้”มาเอลทำหน้าจริงจังหลังจากที่มาวินช่วยพยุงมาเอลนั่งเก้าอี้แล้ว


     

            “ขะ  ขอโทษครับ”หงอย


     

           นั้นไงเอาละท่าหงอยที่เหมือนกับลูกสุนัขที่โดยเจ้าของดุ หูลู้หางตกพอเขาโดยมาวินทำท่านี้ใส่ทีไรก็ใจอ่อนทุกทีละสิน่า และด้วยที่มาวินชอบตัวติดกับเขาด้วยนั้นอย่างกับสุนัขตามเจ้าของนั้นพอเขาไม่อยู่หรือลาพักเจ้าตัวก็จะนิ่ง ๆ ดูเย็นชา ไม่น่าเข้าหา แต่ก็สามารถพึ่งพาได้บางเรื่องเท่านั้นแต่พอเขากลับมาทำงานทีไรก็ร่าเริงทันที่และตามติดต่อย ๆ  จนทำให้คนในโรงพยาบาลถึงกับตั้งฉายาให้กับเขา ‘เจ้าของ’ สะอย่างนั้นเขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ  มาเอลยิ้มที่มุมปากอย่างคบคัน


     

           “เอาละฉันจะไม่ดุแล้วเพราะงั้นเลิกทำหน้าหมาหงอยสักที อย่างนี้ไงทุกคนถึงชอบตั้งฉายาให้ฉันกับนายแบบแปลก ๆ นะ” 


     

            เมเอลไม่พูดอย่างเดียวแล้วยื่นมือออกไปลวบหัวของมาวินเบา ๆ เพื่อปลอบใจคนตรงหน้า ทำให้มาวินดีใจยกใหญ่ที่ได้รับรางวัลปลอบใจจากเขา ทำให้เกิดหูและหางทิพย์ส่ายไปมาอย่างดีใจ นี้สินะหมาน้อยอย่างที่ทุกคนเห็น


     

            แต่พอมาวินกำลังจะค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้อีกทีก็เกิดวูบอีกครั้งก่อนที่สติจะเริ่มเลินรางก่อนภาพตัดนั้นเขาเห็นได้ว่ามาวินดูร้อนรนใจและตะโกนเรียกชื่อของเขา แต่ถึงอยางนั้นเขาก็ส่งยิ้มให้กับมาวินและพูดอะไรสักอย่างก่อนที่เขาจะไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป


     

            “ไม่ เป็น อะไร อย่าห่วงเลย มาวิน”


     

          


     


     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น