ก้าวใหม่ที่ใหญ่กว่า

คำนำผู้เขียน

คงไม่มีใครเชื่อหากจะพูดว่ามนุษย์ทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ตามที่เขาต้องการ แต่! ที่แน่ๆ คือมนุษย์ทุกคนต่างต้องการความสำเร็จ และสิ่งที่ยืนยันได้ว่าความสำเร็จนั้นมีค่าอาจจะไม่ใช่เพียงแค่การมีฐานะที่ร่ำรวย มีผู้คนนับหน้าถือตา หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพรียบพร้อม หากแต่มันเป็นความรู้สึก ความมั่นใจในตัวเอง และความภูมิใจที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปได้จนถึงจุดหมาย

อาวุธอันทรงพรานุภาพแอบแฟงอยู่ในตัวของทุกๆ คน แม้แต่ดาบที่ว่าคมกริบก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นจงอย่ามั่นใจในดาบมากกว่าปัญญาของคุณ  

คำที่หลายๆ คนล้วนแล้วแต่พึงปราถนาต่างเรียกร้องสิ่งที่ต้องการจากมันช่างเขียนง่ายซะเหลือเกิน "ความสำเร็จ"

เชื่อเถอะครับว่ามันก็ไม่ได้ยากไปกว่าการเขียนซักเท่าไหร่ แค่คุณต้องเปลี่ยนจากการเขียนเป็นการใช้ความคิดและลงมือทำอย่างตั้งใจ จงจำไว้ว่าหลายๆ คนที่ได้ลิ้มรสชาติแห่งความสำเร็จไม่ได้เริ่มต้นจากการนับเลขหลักร้อย หรืออาจจะเริ่มจากการติดลบซะด้วยซ้ำ แล้วทำไมคุณจะพบกับความสำเร็จไม่ได้?

"เตรียมพร้อมเพื่อก้าวครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่า" 

จุดเริ่มต้นของความสำเร็จมันมักจะมาจากสิ่งเล็กๆ เสมอ ลองคิดดูซิว่า ถ้าเซอร์ไอแซ็ก นิวตัน ผู้ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วงของโลกไม่ล้มตัวลงนอนกลางวันใต้ต้นแอ็บเปิ้ลจะเกิดอะไรขึ้น!

รายระเอียดปลีกย่อยที่จะต้องมีคนมองข้าม สิ่งนี้มักจะเป็นสาเหตุให้อะไรก็ตามที่มุ่งหวังไว้เริ่มทิ้งช่วงห่างออกจากตัวคุณ

ลองหยุดนิ่งเพื่อฟังเสียงที่รายล้อม มองสังเกตุแม้กระทั้งสิ่งที่ไม่ได้จับจ้องอยู่หรือสิ่งที่มองข้ามไป บางทีคุณอาจจะได้ยิน หรือพบเห็นในสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

   
ชัดเจนยิ่งขึ้น

นักศึกษาฝึกงาน 2 คน มีหน้าที่ส่งเอกสารในบริษัทแห่งหนึ่ง นักศึกษาคนแรกคิดว่าการเดินส่งเอกสารเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรทำอย่างยิ่ง เขาคิดว่าสามารถทำได้มากกว่านั้น เพราะเขาไม่ได้เรียนมาเพื่อส่งเอกสาร การส่งเอกสารมันง่ายเกินไปสำหรับเขา

แต่นักศึกษาอีกคนกลับคิดว่าการเดินส่งเอกสารทำให้เขาได้เรียนรู้ระบบการทำงานของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น และเขาได้รู้จักกับพนักงานในบริษัทมากขึ้ม ซึ่งตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะชีวิตในวัยเรียน และชีวิตในการทำงานมีหลายสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

หากบริษัทนั้นต้องการรับพนักงานเพิ่มซักคนคงไม่ต้องถามว่าผู้บริหารจะเลือกใคร
    
เหนือชั้นกว่า

นักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวจะฝึกงานคนหนึ่ง เขายุ่งอยู่กับการเลือกบริษัทที่จะเข้าฝึกงาน โดยการสอบถามจากอาจารย์ และรุ่นพี่ที่ทำงานแล้ว "ผมพยายมตรวจสอบดูว่าบริษัทไหนมีตำแหน่งงานที่ผมต้องการว่างอยู่ และมีพนักงานบริษัทไหนที่กำลังคิดว่าจะลาออก หรือคิดจะเปลี่ยนงาน จนรุ่นพี่คนหนึ่งบอกผม" เขาพูด

หลังจากการฝึกงาน 3 เดือน นักศึกษาคนนั้นได้รับเข้าทำงานต่อด้วยค่าตอบแทนเดือนละ 8,000 บาท แต่เชื่อเถอะครับว่าอีกไม่นานเขาจะได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นกว่านี้มาก เพราะเขาเลือกที่จะก้าวให้ใหญ่ขึ้นอย่างชาญฉลาด

สังเกตุหรือไม่ว่านักศึกษาทั้งสองกรณีมีการเริ่มต้นการก้าวเดินทางความคิดในเวลาที่ต่างกัน นักศึกษาคนแรกมีความคิดที่จะก้าวที่ใหญ่กว่าโดยการรอโอกาส แต่ไม่คิดที่จะหาโอกาส นักศึกษาคนที่สองพร้อมที่จะหาโอกาสเพื่อก้าวเดินถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ ก็ตาม เขาสองคนเริ่มก้าวเมื่อเข้าฝึกงานแล้ว แต่นักศึกษาคนที่สามเริ่มก้าวตั้งแต่ก่อนหน้านั้น โดยรู้โอกาสและมีการเตรียมพร้อมมากกว่าสองคนแรก

สำหรับคนที่ก้าวก่อนอย่างรู้โอกาสย่อมเดินไปได้เร็วและมั่นคงกว่าเสมอ

"การมองดูรายระเอียดโดยรอบก่อนที่จะก้าวเท้าแตะพื้น จะทำให้เรากล้าที่จะเหยีบได้เต็มเท้าด้วยความมั่นใจ"

          สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะการดำเนินชีวิตเพื่อไปสู่ความสำเร็จคงต้องใช้อะไรอีกหลายๆ อย่าง สำหรับหนังสือเล่มนี้ขอเป็นเพียงแค่อีกก้าวหนึ่งที่คุณเดินผ่านไปสู่

                                                                                                            ต่างที่มุมมอง