เบื่อโว้ยยยย....เบื่ออออ
ทำไมคนหล่อๆอย่างผมต้องมีความรู้สึกแบบนี้ด้วยครับ ปกติคนหล่อๆเขาจะไม่เบื่อกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าตอนนี้ผมจะเริ่มไม่หล่อแล้ว ไม่ได้นะ ไม่ได้ ไม่มีทาง
กระจก...
กระจกอยู่ไหนนนนนนน??
ผมรีบเดินไปหากระจกในห้องแต่งตัวทันทีเพื่อสำรวจตรวจตราว่าความหล่อบนใบหน้าได้ลดทอนลงไปหรือเปล่า แต่มองมุมไหนผมก็ยังหล่อคมเข้ม น่าหลงใหลไม่เปลี่ยนแปลง แล้วทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้
เอ๋...หรือเพราะ.....
เพราะว่า....
“ไม่จริง”
หัวใจเต้นแรงจนผมรู้สึกได้ นี่มันอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับคาสโนว่าหน้าหล่อแบบผม
“ไม่ใช่ มันต้องไม่ใช่”
สองมือยกขึ้นทึ้งหัวตัวเองพรางจับจ้องมองภาพที่ปรากฏในกระจก ภาพที่ทำให้ผมต้องตกตะลึงและทึ้งหัวตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ให้ตายฉันก็ไม่มีทางเชื่อ ไอ้กระจกบ้า ไอ้กระจกหลอกลวง ฉันซื้อแกมาแพงนะ แกลวงตาฉันแบบนี้ได้ยังไง ฉันให้โอกาสแกอีกครั้ง ถ้าแกยังหลอกตาฉันอยู่แบบนี้ฉันจะส่งแกไปเป็นทรายเหมือนเดิม”
ตอนนี้ผมคงก้าวข้ามคำว่าปกติไปแล้ว แต่จะให้ทำยังไงได้หล่ะครับ ก็คนที่ผมควรจะทะเลาะด้วยไม่ได้อยู่ที่นี่นี่นา(แล้วใครจะยอมให้มันอยู่) จะว่าผมพาลก็ได้ผมยอมรับ แต่จะให้ผมหยุดโวยวายฟาดงวงฟาดงาเป็นไปได้ยาก ไม่สิ..เป็นไปไม่ได้เลย เหมือน..อ่อ...เหมือนกับความแมนของผมที่ยังคงมีเกินล้าน(เกี่ยว??? -“-)
นับวันผมจะยิ่งรู้สึกว่าอารมณ์แปรปรวน อารมณ์ไม่คงที่ แล้วทั้งอ่อนไหวง่ายต่อสภาพแวดล้อม(คอนโด) ถ้าเป็นผู้หญิงคงอยู่ในวัยที่กำลังจะเข้าวัยทองหรือไม่ก็ผู้หญิงที่แตกเนื้อสาวมีประจำเดือนล่ะมั้ง
เอ๋...ประจำเดือน
หญิงสาว
วัยทอง
O[]O!!!!!!!
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยย....”
เสียงกรีดร้องของผมคงดังกึกก้องไปทั่วคอนโดแล้ว แต่จะให้ผมหยุดนี่คงเป็นไปไม่ได้
เพราะอะไรน่ะเหรอครับ...
เพราะ....
ไม่... ไม่บอก ให้ตายยังไงผมก็ไม่บอก เพราะมันน่าอับอาย
เรื่องน่าอับอายแบบนั้นผมรับไม่ได้ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยรู้สึกอับอายได้ขนาดนี้ เพราะมันคนเดียว คนเดียวที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้..รู้สึกแบบนี้ ทำให้ผมหมดความภาคภูมิใจ ทำให้ผมต้องหวาดระแรง และตอนนี้มันก็ทำให้ผมอยากด่ามันเป็นภาษาอุกันด้า
หลายวันที่ผมออกไปไหนไม่ได้ก็เพราะมัน หลายวันที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้อง ผมสูญเสียเวลาบริหารเสน่ห์ไปก็เพราะมัน มันคนเดียวไอ้เด็กเผือก โชคยังดีที่หลายวันมานี้เป็นวันหยุด ถ้าเป็นวันทำงานล่ะก็มีหวังผมต้องออกไปด้วยความอับอายขายหน้าหรือไม่ก็ต้องหยุดงานและก็ต้องโดนป๊าด่าว่าไม่มีความรับผิดชอบ ฮึ..สักวันเถอะ..สักวัน ผมจะต้องเอาคืนให้เจ็บแสบ ผมไม่ยอมถูกลบคมฟรีๆแน่นอน
“ไอ้เด็กเปรตแกไม่ได้ตายดีแน่ ฉันจะจัดหนักให้แกอย่างสาสมเลย คอยดูเถอะ” (พูดมากี่ครั้งละ ทำได้สักหนบ้างไหม-"-)
จ๊อกกกกกกกกกกกก
เสียงพยาธิในท้องและแบคทีเรียในลำใส่ใหญ่โห่ร้องกึกก้องเป็นพยานกับปนิธานอันแน่วแน่ของผม ไม่ใช่ละ
“หิวจัง” ลูบท้องปรอยๆกล่อมลูกรักให้สงบแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัวว่ามีอะไรพอจะเอามายัดใส่ท้องได้ไหม แต่สิ่งที่เห็นในตู้เย็นคือน้ำเปล่าและกระป๋องเบียร์ อะไรที่กินได้นอกจากนี้ไม่มีเลย งั้นคงต้องโทรไปสั่งรูมเซอร์วิสแล้ว แต่เอ๋..วันนี้วันอาทิตย์....ร้านปิด อะไรจะซวยขนาดนี้ ใครก็ได้ช่วยบอกอ๊คแทคยอนคนหล่อหน่อยครับ
เหลือสามทางให้คนหล่อๆแบบผมได้เลือก
หนึ่ง ลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์ข้างๆคอนโด
สอง โทรสั่งพิซซ่า
สาม ไม่ต้องกิน
ถ้าผมเลือกข้อหนึ่ง แล้วลงไปเกิดมีคนสังเกตเห็น....หรือถ้าซวยกว่านั้นคือบังเอิญเจอไอ้เด็กเวรนั่น ไม่ๆตัดข้อหนึ่งออกไป
ถ้าเลือกข้อสอง ถึงยังไงผมก็ต้องลงไปเอาที่ล็อบบี้อยู่ดี เจอคนส่งพิซซ่าน่ะไม่เท่าไร แต่ถ้าน้องฮยอนอาพนักงานคนสวยของคอนโดสังเกตเห็น...โอ้ยย...ไม่อยากจะคิด เรตติ้งตกแน่เลย ตัดมันออกไปปปปปป....
แต่ถ้าผมเลือกข้อสาม ผมก็ต้องอดตาย เพราะลูกรักในท้องร้องไห้งอแงกันโครมครามแล้ว ถ้าไม่มีอะไรยัดลงไปให้มันกิน มันก็จะเปลี่ยนเป้าหมายมาเล่นผมแทน นี่พวกแกกล้ากินพ่อตัวเองเหรอ(แน่ใจเหรอว่า...พ่อ??) ไม่เอาด้วยหรอก มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้สิ
และแล้วมันสมองอันชาญฉลาดของผมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผมรีเดินตรงไปยังจุดหมายนั่นก็คือห้องนอนที่มีเจ้าไอโฟนลูกรักนอนหลับอย่างสงบอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ผมจิ้มจึ๊กๆไปยังเลขหมายที่คุ้นเคย รอไม่นานก็ได้ยินเสียงกวนๆของปลายสายดังตอบกลับมา
//ว่าไงไอ้เสือ//
“มึงอยู่ไอ้เชี่ยวอน”
//อยู่ห้องน้องเมีย//
“อยู่กับเมีย(น้อย)ก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องเอาน้องมาอ้าง เอ๋...น้องเมีย น้องของฮยอกกแจน่ะเหรอ สวยไหมว่ะ”
//สวยเหรอ...อย่าพูดคำนั้นเลย//
“ทำไมว่ะ หรือว่าดูไม่ได้ แต่เมียมึงสวยนี่ น้องสาวก็น่าจะสวยเหมือนกัน หรือจริงๆแล้วมึงหวงไว้กินเองว่ะ”
//พูดเชี่ยไรเนี๊ย สร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวกูนี่คืองานของมึงจริงๆใช่ไหม//
“ฮ่าๆล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นกลัวเมียไปได้ สิ้นลายแล้วเหรอไอ้สิงโต”
//สิงโตแถวบ้านมึงมีลายเหรอ ไอ้เชี่ยแทคมึงอย่าบอกใครนะว่าจบโรงเรียนเดียวกะกู แล้วที่โทรหากูนี่มีอะไร//
“ตอนแรกว่าจะให้มึงมาหา แต่มึงไม่ว่างเดี๋ยวกูโทรหาไอ้ซูก็ได้”
//ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูขึ้นไปหา//
“ขึ้นมาเหรอ มึงอยู่ไหนกันแน่เนี๊ย”
//ก็อยู่ห้องน้องเมียกับเมียไง แต่น้องเมียกูก็อยู่คอนโดเดียวกะมึง//
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่แรก กูหิวจนใส้จะขาดแล้วหาอะไรมาให้กูกินเดี๋ยวนี้เลย”
//แล้วทำไมไม่ลงไปซื้อข้างล่างว่ะ มึงทนหิวอยู่ทำไม//
“กูลงไปไม่ได้ อย่าถามมาก ไว้กูจะบอกทีหลังแต่ตอนนี้หาอะไรมาให้กูแดกด่วน แค่นี้นะกูรอมึงอยู่เพื่อนรัก”
ว่าแล้วผมก็วางสายรวบรัดตัดตอนทันที กระดิกขานั่งรอคอยเวลาว่าเมื่อไรเสียงออดหน้าห้องจะดัง และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเสียงออดดังขึ้นพร้อมกับผมที่ถลาไปหน้าประตูทันที ไม่จำเป็นต้องดูว่าเป็นใครเพราะรู้อยู่แล้วว่าคือไอ้เชี่ยวอนแน่นอน
กึกกกกกกก
ไอ้เชี่ยวอนมาจริงๆมาพร้อมเมียคนสวยของมันพร้อมกับยื่นถูงใบโตส่งมาให้ผม มึงเอามาแค่เสบียงกะเมียก็พอแล้ว มึงเอาเด็กรับใช้มาด้วยทำไม
กูไม่ลงไปมึงก็เอามาเสิร์ฟถึงห้องเลยนะ ...ไอ้เพื่อนชั่ว...
“แทค ไอ้เชี่ยแทค...”
“หะ..ห๊า...”
“เป็นเชี่ยไรว่ะ จ้องหน้าน้องเมียกูตาเป็นมันเลยนะ”
“น้องเมีย ตาเป็นมัน ....งั้นเหรอ??”
“ใช่ นี่คุณนี่ ลูกพี่ลูกน้องของฮยอกแจ พึ่งกลับมาจากไทยเมื่อสองสามเดือนก่อนนี่เอง คุณนี่เพื่อนพี่ชื่อแทคยอน อ๊ค แทคยอน ทำความรู้จักกันไว้สิ”
กูอยากบอกมึงเหลือเกินเพื่อนว่ากูไม่อยากรู้จักมันนนนนนนนนนนน
“สวัสดีครับคุณแทคยอน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับและก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย” มันพูดสุภาพ มันเรียกผมว่าคุณ มันทำท่าทางนอบน้อม ไอ้หลอกลวง ไอ้ต้มตุ๋น ไอ้คนตีสองหน้า หลอกลวงผู้บริโภคชัดๆผมจะร้องเรียน!!!!
“อะ อืม”
“แล้วมึงเป็นอะไรทำไมออกไปไหนไม่ได้” ซีวอนหันมาถามผมด้วยแววตาและท่าทางที่เป็นห่วง กูซึ่งใจจริงๆเพื่อน แต่กูบอกมึงตอนนี้ไม่ได้ ตอนนี้ข้าศึกประชิดประตูเมืองแล้ว
“มะ ไม่มีอะไรหรอก”
“แน่ใจ งั้นไว้เจอกันเพื่อนบังเอิญกูมีธุระนิดหน่อยต้องรีบไปทำ ไว้เจอกัน”
“อืม ขอบใจมาก ขอโทษที่ทำให้ฮยอกแจต้องเสียเวลาด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ไว้เจอกันใหม่ครับ”
ว่าแล้วเจ้าเพื่อนรักกับเมียคนงามของมันก็เดินควงแขนกันไปอย่างหวานชื่น แต่คนที่ควรจะเดินตามมันกลับเดินเข้ามาหาผมจนผมต้องถอยหลังด้วยสัญชาตญาณระแวดระวังภัย ผมไม่ได้กลัวนะมันเป็นสัญชาตญาณจริงๆๆ
แล้วไอ้นี่ทำไมมึงยังไม่ไป พี่มึงไปโน่นแล้ว ตามตูดพี่มึงไปเซ่!!!!!!!
จ้องหน้ากูแบบนี้คิดอะไรกะกูใช่ไหม...
“กลัวเหรอ” สายตาเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากจนผมอยากเอานิ้วจิ้มลงไปที่ลูกตามันจริงๆ
“กลัว..กลัวอะไร”
“กลัวว่าจะเจอผม”
“กลัวนาย ใครกลัว” คนอย่างผมมีหรือจะกลัว ไม่มีหรอก ฝันไปเถอะ ชิ...
“งั้นคงเพราะ....” มันจุดยิ้มที่บนไปหน้าพร้อมกับเว้นคำพูดไว้ ที่จริงผมก็ไม่อยากจะถามหรอกนะ แต่เอาเถอะสงเคราะห์มันหน่อย
“อะไร อย่ามาพูดอะไรมั่วๆนะ”
“ก็...” มันหยุดชะงักคำพูดไว้ แต่ไม่หยุดสายตาบ้าๆที่จับจ้องมองผมเหมือนกับผมเป็นอาหารกลางวันของมัน
“.......”
“รอยคิสมาร์คละมั้ง หึหึ” ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มือขาวๆของมันดึงร่นเสื้อคอเต่าของผมลงมา รอยแดงจางๆปรากฏเด่นชัดพร้อมกับคำพูดกระซิบแผ่วๆที่ข้างหู
“O/////O” หน้าหล่อของผมร้อนเพราะ...เพราะความโกรธและอาย ถ้ามีใครรู้ว่าผมมาเสียเชิงโดนไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทั้งจูบทั้งดูดมีหวังผมต้องไปผูกคอตายใต้ต้นถั่วงอกแน่ๆ
จร๊วบบบบบบ
มันไม่ได้มาแค่เสียงแต่มันมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆที่ลำคอตรงจุดเกิดเหตุอีกแล้วครับ ตรงนั้นอีกแล้ว ไม่น๊า!!!!!!
จุ๊บ
ตอนนี้ผมได้แต่ยืนตะลึงเพราะแค่มันดูดคอผมอย่างกะแวมไพร์ไม่พอ มันยังจูบปากผมเป็นของแถมแล้วตบท้ายด้วยคำพูดที่ทำให้สติผมกลับคืนมาก่อนที่มันจะเดินจากไป
“จางแล้วสินะ เอาไปใหม่แล้วกันนะลุง”
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย
ใครก็ได้เอาไอ้เด็กชั่วนี่ไปฆ่าที
เม้าท์มอย
+++พาร์ทนี้อาจจะไม่ฮาเพราะมันคือจุดเริ่มต้นของการเป็นยอดชายของลุงสุดหล่อ ฮ่าๆๆๆ
+++ไว้จะมาแก้คำผิดและเพิ่มเติมเนื้อหา
ความคิดเห็น
ขำอะ ขำจนท้องแข็งเลยอะ
อิแมวเนี่ยฮาสุดสุด อย่างนี้นะหรอ
ที่เค้าเรียกว่าไม่ได้กลัวอะ
55555555555555555
โลกมันกลม ตามที่กาลิโลโอบอก(เกี่ยว??)
ถึงมันไม่เกี่ยวก็จะเอาว่า เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะ GU ROCK ไง ><
ใจจ้าไรเตอร์ <3
สุดท้ายเหมือนฟ้าดั่งสวรรค์แกล้ง เจอคุนนี่เลยได้ไปอีกรอย ก็มันเริ่มจาง
แล้วก็ต้อวเติมสีหน่อย555+
คุณนี่แสบจริง ชอบมากอ่ะ
คุณตอกย้ำให้กับแทคอีกอย่างนี้ลุงก็คลั่งอะดิ
สุดท้ายแทคก็ชักศึกเข้าบ้าน
คิคิคิ ทำไมกลัวขนาดนั้น
เสียเชิงหมดเลยนะเนีย
และ ชั้นไม่ช่วยแกหรอก แกเตีรยมโดนซั่ม ซ้าาาา
"ไรท์เตอร์" ท่านหายไปที่ใด มาต่อด่วนคราบบบบบ
อยากรู้ว่า ลุงจะโดนซั่ม ยังไง
ข้าศึกก็ยังตีเข้าเมืองมาได้ กร๊ากกก คุณลุง ทำไมอ่อนจังอ่า
อย่าให้น้องเค้ารุกอย่างเดียวเซ่
แมวแทคหนีไม่รอดแน่
เรื่องนี้แมวกลัวหนูซะแล้ว ท่าจะแย่แน่ๆๆๆๆๆๆๆ