[SF] : ♡ I care about U. [ luhan x minseok ] - [SF] : ♡ I care about U. [ luhan x minseok ] นิยาย [SF] : ♡ I care about U. [ luhan x minseok ] : Dek-D.com - Writer

    [SF] : ♡ I care about U. [ luhan x minseok ]

    ผู้เข้าชมรวม

    2,378

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.37K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    35
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 มี.ค. 58 / 12:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    BlackForest ✿
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      F i c t i o n -


      E X O

       
       


      SF: I care about U. [ luhan ♥ minseok ]

       

       

       


       

       

      มินซอกฮยองไม่ยอมกินมื้อเย็นอีกแล้วหรอเนี่ย

       


      เสียงจื่อเทาน้องเล็กของวงบ่นพึมพำขึ้นขณะที่เมมเบอร์กำลังนั่งลงประจำที่เพื่อทานมื้อเย็นกัน ขาดเพียงแค่พี่ใหญ่สุดของวงที่ไม่ยอมออกมาจากห้อง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มินซอกไม่ยอมทานข้าวเย็น ด้วยความที่เจ้าตัวต้องลดน้ำหนักด่วนจากคำสั่งของทางบริษัทที่ให้ดูแลเรื่องของรูปร่างด้วย นั่นทำให้มินซอกเครียดมาก จนไม่ยอมทานข้าวเย็นมาเกือบอาทิตย์นึงแล้ว เมมเบอร์ทุกคนต่างก็พากันเป็นห่วง แต่ถึงอย่างนั้นมินซอกก็ยังไม่ยอมทานข้าวให้ครบทุกมื้ออยู่ดี


                  “ปล่อยไว้แบบนี้มีหวังมินซอกฮยองได้เข้าโรงบาลแน่  ไหนจะต้องซ้อมทุกวัน ถ้ายังไม่ยอมกินข้าวเย็นแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้เป็นลมกันพอดี


      จงแดพูดขึ้นบ้าง มือก็ยังคีบอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ย แต่ก็อดเป็นห่วงคนเป็นพี่ไม่ได้


                  “แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ? มินซอกฮยองน่ะ ถ้าบทจะดื้อก็ไม่ยอมฟังใครหรอกอี้ชิงเสริม

       



                  “เฮ่อ....

       


      แล้วก็มีเพียงเสียงถอนหายใจปลงๆของเมมเบอร์ในวง พวกเขาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ มินซอกน่ะไม่ใช่คนดื้อรั้นไม่ฟังใครหรอก แต่ถ้าเขาคิดจะทำอะไรจริงๆจังๆล่ะก็จะยึดเอาแต่ความคิดแบบนั้นอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ทุกคนเข้าใจว่าเรื่องลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับมินซอก ใช่ว่ามันจะเลวร้ายไปซะหมด รูปร่างอวบกับใบหน้ากลมของมินซอกทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าทะนุถนอม ลู่หานชอบที่มินซอกเป็นแบบนั้น เขาชอบที่จะเรียกอีกคนว่า เปาจื่อก็เพราะว่า

       

      มินซอกคือซาลาเปาของลู่หาน

       


                  “ฉันจะไปคุยกับมินซอกเอง


      ลู่หานบอกก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปในครัวก่อนจะจัดอาหารในส่วนของมินซอกใส่ถาดแล้วยกเดินขึ้นไปบนชั้นสองของหอพัก แล้วก็มาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของคนที่ไม่ยอมลงไปทานข้าวเย็น

       

      ยังไงวันนี้ก็ต้องทำให้มินซอกยอมกินข้าวให้ได้

       

      ลู่หานคิดก่อนจะยกมือเคาะประตูห้องนอนเพื่อเรียกให้คนข้างในมาเปิด อีกมือก็ประคองถาดอาหารอย่างทุลักทุเล ซักพักประตูบานเล็กก็เปิดแง้มออกมา

       

                  “อ่าว ลู่หาน..

       

      มินซอกทักเพียงแค่นั้น แล้วก็ต้องเงียบลงเมื่อเห็นว่าลู่หานยกถาดอาหารมาด้วย เขาเดาได้ทันทีว่าลู่หานต้องเอามาให้เขา ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่หานทำแบบนี้ซะหน่อย มินซอกพองลมจนแก้มป่อง ทำแบบนั้นแล้วยิ่งเหมือนซาลาเปาก้อนก
      ลมๆที่ลู่หานชอบมอง


                  “ฉันเคยบอกลู่หานแล้วไง ว่าจะงดมื้อเย็นน่ะ


      บอกด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจนิดๆแต่เขาไม่ได้โกรธลู่หานหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเป็นห่วงเขาแบบนี้ มินซอกรู้ดีว่าทุกคนเป็นห่วงเขา แต่.. เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ นี่ไม่ใช่เพราะคำสั่งของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่เป็นนความตั้งใจของมินซอกเองด้วย เขาอยากมองเห็นตัวเองในกระจกที่รูปร่างผอมบางกว่านี้ เขาอยากให้ตัวเองดูดีเวลาที่ยืนอยู่บนเวทีร่วมกับเมมเบอร์คนอื่นๆ


                  “ไม่รู้ล่ะ


      ลู่หานพูดแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้องพร้อมกับถาดอาหาร เดินดุ่มๆตรงไปยังโต๊ะตัวเตี้ยที่ตั้งไว้กลางห้องนอน แล้ววางถาดอาหารลง


                  “มินซอก มานั่งนี่เร็ว


      ลู่หานนั่งลงกับพื้นก่อนจะกวักมือเรียกอีกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงประตูห้อง


                  “ยังไงก็ไม่กินหรอก


      มินซอกอมลมแก้มป่องอีกครั้ง ก่อนจะทำปากยื่นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ลู่หานเห็นแบบนั้นก็เริ่มจะเหนื่อยใจ มินซอกนี่ถ้าดื้อจริงๆก็ไม่ใช่เล่นๆเลยแฮะ

       

       เฮ่อออ

       

      ลู่หานถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปหาอีกคน คว้าเอาข้อมือของคนตรงหน้าออกแรงดึงเบาๆให้เดินตามมานั่ง มินซอกอิดออดแต่ก็ขืนได้ไม่นาน ยอมเดินตามมานั่งลงอย่างขัดใจ

                 

                  “ฉันไม่กิน มินซอกยื่นคำขาด

                 

                  “นายจะรอให้ตัวเองเป็นลม โดนหามเข้าโรงบาลไปหยอดน้ำข้าวต้มก่อนรึไง มินซอก

       

      ลู่หานเริ่มใช้น้ำเสียงดุอีกคน คราวนี้หน้าตาของลู่หานจริงจัง จนมินซอกไม่กล้าจะงอแงใส่อีก แต่ยังไงก็ไม่ยอมแตะอาหารที่ลู่หานยกมาให้อยู่ดี

       

                  “ก็.. ต้องลดน้ำหนักนี่

       

      คราวนี้น้ำเสียงคนตัวอวบดูอ่อนลง ตอนนี้มินซอกเริ่มซูบลงไปเยอะจากการที่เจ้าตัวไม่ยอมทานข้าวเย็น มื้อเช้ามินซอกก็กินแค่น้ำผลไม้กับขนมปัง ส่วนมื้อกลางวันก็แตะแค่รามยอนซองเดียวแค่นั้น แทบจะไม่กินอะไรเลยในวันๆนึง ทั้งๆที่ต้องใช้พลังงานตั้งเยอะ กลับไม่ยอมกินอาหารที่ให้พลังงานเลย แบบนี้เขาถึงได้เป็นห่วงน่ะสิ

       

                  “มันมีวิธีที่ดีกว่าการไม่ยอมกินอะไรแบบนี้ตั้งเยอะนะ

       

      ลู่หานบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปจับแก้มคนตรงหน้า มินซอกมองหน้าอีกคนพร้อมกับทำตาปริบๆ เขารับรู้เสมอว่าลู่หานป็นห่วงเขามากแค่ไหน

                 

                  “แต่ฉันไม่หิวนี่ ถึงอย่างนั้นมินซอกก็ยังไม่ยอมอยู่ดี

       

                  “นี่ เปาจื่อ!” ลู่หานเรียกอีกคนด้วยฉายาที่เขาตั้งให้เสียงดัง จนอีกคนสะดุ้งโหยง

       

                  “ทำไมนายดื้อแบบนี้นะ


      มินซอกทำปากคว่ำ เบี่ยงหน้าหนีลู่หาน ถ้าเขากินตอนนี้ น้ำหนักก็จะไม่ลด เขาก็จะไม่ผอม ยังไงๆก็ไม่ยอมกินหรอก

       

                  “ลู่หานเอาอาหารพวกนี้ออกไปเลย ฉันไม่หิว แล้วก็ไม่กินอะไรทั้งนั้นแหล่ะ พูดแค่นั้นแล้วมินซอกก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนีออกจากห้อง แต่ก็โดนลู่หานเดินตามไปคว้าข้อมือไว้ทัน


                  “ถ้าไม่กิน จะโดนทำโทษนะ


                  “ไม่โดนหรอก


      มินซอกดื้อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

                 

                  “นายแน่ใจ?

       

      ลู่หานบอกพร้อมกับยื่นหน้าเข้าใกล้อีกคน มินซอกน่ะแพ้ไม้นี้ตลอดแหล่ะ คนขี้อายแบบมินซอกน่ะอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้มาก มินซอกแพ้ความใกล้ชิด มินซอกแพ้ลู่หานที่รุกแบบนี้เสมอ


                  “เอ่อ.. น่ะ แนใจสิ


                  “หืม?

       

      จากตอนแรกที่ยื่นแค่หน้าเข้าไปหา ตอนนี้ลู่หานขยับตัวเดินเข้าหามินซอกจนอีกคนถอยหนีทีละนิด แต่ลู่หานก็ตามไปชิดตัวจนได้ มินซอกที่ตอนนี้ถอยหนีจนหลังชนกับประตูห้องไม่รู้จะหนีไปทางไหนแล้ว ลู่หานเข้าประชิดเขามากเกินไปแล้ว

       

       “ลู่หาน.. ไม่เล่นแบบนี้แล้ว

       

      น้ำเสียงติดขัดของมินซอกที่เอ่ยออกมา พร้อมกับฝ่ามือที่ดันแผลงอกของลู่หานออกหวังให้ตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์เสี่ยงนั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวเขินมากแค่ไหน ใบหน้าของมินซอกตอนนี้แดงระเรื่อ ดวงตากลมโตของมินซอกเอาแต่หลุบต่ำมองพื้นไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากับลู่หาน มินซอกแบบนี้น่ารักกว่ามินซอกจอมดื้อตั้งเยอะ

       

      น่ารักจนอยากจะจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอด

       

                  “ใครว่าเล่นกันล่ะ เอาจริงต่างหาก


      มินซอกเบิกตากว้างเมื่อลู่หานใช้แขนช้อนร่างทั้งร่าง อุ้มเขาขึ้นจากระดับพื้น เขาไม่ทันตั้งตัวจึงไม่มีทางหนีได้เลย ลู่หานที่ถึงแม้จะตัวเล็กกว่าเขาแต่ความสูงก็มากกว่า บวกกับร่างกายที่แข็งแรงและกำลังที่มีมากกว่า ทำให้อุ้มคนร่างอวบอย่างมินซอกได้สบายๆ


                  “ลู่หาน ปล่อยนะ!”


      ลู่หานไม่ฟัง เสียงประท้วงใดๆทั้งสิ้น เขาอุ้มมินซอกตรงไปยังเตียงนอนที่ว่างอยู่ ก่อนจะวางอีกคนลงบนเตียงนุ่ม มินซอกยกตัวนั่งทันทีเมื่อร่างสัมผัสกับเตียง ตั้งท่าจะลุกหนีแต่ก็ช้ากว่าคนตัวสูงที่โถมน้ำหนักตัวลงมาทาบทับ จับข้อมือสองข้างล็อกไว้ข้างลำตัวไม่ให้หนีไปไหนได้


                  “นายดื้อ ต้องโดนลงโทษ


      ลู่หานจ้องอีกคนไม่วางตา ตอนนี้เขาเหมือนกวางหื่นที่พร้อมจะกินซาลาเปาก้อนกลมตรงหน้านี้ได้ทุกเมื่อ ลู่หานก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวของอีกคน สูดดมกลิ่นกายของคนด้านใต้เข้าเต็มปอด ลิ้นเล็กเริ่มซุกซนเลียไล้รอบคอขึ้นไปจนถึงใบ
      หู มินซอกครางอื้ออึงพลางหดคอหนีการสัมผัสที่อีกคนพยายามฉกฉวย


                  “อ่ะ อื้ออ... ละ.. ลู่หาน ไม่เอา อย่าเล่นแบบนี้สิ ฉะ..ฉัน..


                  “หืม?


      ลู่หานละใบหน้าออกจากลำคอของคนด้านใต้ เพื่อมองอีกคนที่ตอนนี้หน้าแดงกล่ำ จากการถูกสัมผัสจากลู่หานเมื่อครู่

       

                  “ฉัน..ยอมกินข้าวแล้วก็ได้ มินซอกบอกด้วยน้ำเสียงงอนๆ สุดท้ายก็ต้องยอม ใครจะไปรู้ว่าลู่หานจะใช้ไม้นี้กันล่ะ

       

      ลู่หานหลุดยิ้มขำๆ มินซอกแพ้ไม้นี้จริงๆนั่นแหล่ะ

       

                  “จริงนะ?ลู่หานถามย้ำอีกครั้ง มินซอกไม่ตอบได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก ลู่หานเผยยิ้มออกมาน้อยๆ

       

                  “แต่ว่านะ ... ตอนนี้มินซอกทำฉันหิวแล้วล่ะ

       

                  “ห้ะ ?

       

      ลู่หานกระตุกยิ้มเจ้าเลห์

       

                  “เพราะมินซอกไม่ยอมกินข้าว ฉันก็เลยต้องเอาข้าวมาให้ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย

       

                  “งั้นก็ไปกินข้าวกัน  ปะ

       


      มินซอกพยายามจะลุกและดันอีกฝ่ายออก แต่ลู่หานก็โถมน้ำหนักตัวลงมาอีก


                  “ละ.. ลู่หาน

       

                  “ตอนนี้อยากกินซาลาเปามากกว่า


      มินซอกหน้าแดงกล่ำ ซาลาเปาที่ลู่หานว่าทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหมายถึงตัวเขา


                  “มะ ไม่เอาน่า ไปกินข้าวกั..


      ยังไม่ทันพูดจบประโยคมินซอกก็ต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ เพราะร่างสูงที่ทาบทับอยู่บนตัวเขาเลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบเข้ากับริมฝีปากบางของเขา มินซอกตกใจไม่น้อยตากลมนั้นเบิกกว้างอยู่พักใหญ่ก่อนจะค่อยหลับตาลงเพราะสัมผัสอ่อนโยนของลู่หานที่มอบให้ทำให้มินซอกเริ่มจะเคลิบเคลิ้มไปกับมัน ลู่หานค่อยละเมียดละไมเม้มริมฝีปากบางนั้นอย่างแผ่วเบา จากสัมผัสอ่อนโยนก็เริ่มออกแรงกดริมฝีปากให้หนักขึ้น ลิ้นเล็กของลู่หานเริ่มซุกซนค่อยๆแทรกเข้าไปในโพลงปากเพื่อหยอกล้อกับลิ้นเล็กอีกคน ลู่หานชำนาญพอที่จะทำให้คนด้านใต้หอบหายใจเบาๆ เกือบนาทีที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกัน จนกระทั่งลู่หานต้องผละออกอย่างเสียดาย เมื่ออีกคนที่โดนฉวยโอกาสหอบหายใจติดขัดเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจ


                  “ถอยออกไปได้แล้ว..


      มินซอกเอ่ยออกแผ่วเบาเพราะระยะห่างของใบหน้าเขาทั้งสองยังห่างกันเพียงแค่คืบเดียว มินซอกไม่กล้าสบตาร่างสูงตรงๆเขาได้ที่เสมองออกไปทางอื่น อาการเขินแบบนี้ลู่หานเห็นไม่บ่อยนัก เพราะพวกเขาไม่ค่อยจะมีเวลาได้อยู่กันแบบนี้ซักเท่าไร



      เพราะงั้น ใครจะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไปกันล่ะ


                  “ไม่เอา ยังไม่อิ่มเลย


      ลู่หานบอกด้วยหน้าตายียวน น้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กที่ลู่หานมักจะใช้อ้อนเวลาอยากได้อะไรจากมินซอก ทำเอามินซอกต้องหันมาถลึงตาใส่


                  “ไม่ พอเลยนะลู่หาน นายกำลังฉวยโอกาสฉันอยู่นะ” มินซอกเริ่มขู่

       
                 “ป่าวซะหน่อย..ฉันอุตส่าห์เป็นห่วง มินซอกไม่เห็นให้รางวัลเลยลู่หานบอกด้วยน้ำเสียงงอนเหมือนเด็ก พร้อมกับอมลมทำแก้มป่องเหมือนที่มินซอกชอบทำเวลาไม่พอใจ

       

                  “จะเอาอะไรอีกล่ะ


      ลู่หานยิ้มกว้างเมื่อได้ยินอีกคนพูดขึ้น นิ้วเรียวแตะลงที่ริมฝีปากของตัวเอง สื่อเป็นนัยว่าเขาต้องการอะไรจากมินซอก และเหมือนกับอีกฝ่ายจะเข้าใจดี หน้าของมินซอกจึงขึ้นสีอีกครั้งเพราะความเขิน

       

      ลู่หานเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

       

      ถึงจะแอบว่าอีกฝ่ายในใจ แต่มินซอกก็ยอมใช้สองแขนโอบรอบต้นคอคนข้างบนก่อนจะใช้แรงเหนี่ยวให้หน้าของลู่หานลงมาชิดกันมากขึ้น มินซอกยกศรีษะของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะประกบริมฝีปากบางของตนเข้ากับอีกคนด้านบน จูบที่มินซอกมอบให้ลู่หานทำเอาลู่หานอยากจะกินคนตรงหน้าซะเดี๋ยวนั้น มินซอกผละริมฝีปากออกแต่หน้าก็ยังไม่ขยับออกห่างจากลู่หาน ทำให้ตอนนี้ปลายจมูกของคนทั้งคู่แตะกันอยู่เบาๆ

       

                  “ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ

       

      รอยยิ้มผุดขึ้นมาจากใบหน้าคนทั้งสอง ลู่หานและมินซอกสบตากัน มินซอกรู้สึกขอบคุณลู่หานจริงๆที่คอยเป็นห่วงเขาเสมอ คอยดูแลเอาใจใส่ จนเขาไม่รู้จะขอบคุณยังไง

       

                  “ที่ห่วงก็เพราะรัก..รักมินซอกคนนี้ไง

       

      ....

       

                   “ฉันก็รักนาย ลู่หาน..


       

      -The End-

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×