[SF] : ♡ I care about U. [ luhan x minseok ]
ผู้เข้าชมรวม
2,378
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
- F i c t i o n -
♥ E X O
SF: ♡ I care about U. [ luhan ♥ minseok ]
“มินซอกฮยองไม่ยอมกินมื้อเย็นอีกแล้วหรอเนี่ย”
เสียงจื่อเทาน้องเล็กของวงบ่นพึมพำขึ้นขณะที่เมมเบอร์กำลังนั่งลงประจำที่เพื่อทานมื้อเย็นกัน ขาดเพียงแค่พี่ใหญ่สุดของวงที่ไม่ยอมออกมาจากห้อง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มินซอกไม่ยอมทานข้าวเย็น ด้วยความที่เจ้าตัวต้องลดน้ำหนักด่วนจากคำสั่งของทางบริษัทที่ให้ดูแลเรื่องของรูปร่างด้วย นั่นทำให้มินซอกเครียดมาก จนไม่ยอมทานข้าวเย็นมาเกือบอาทิตย์นึงแล้ว เมมเบอร์ทุกคนต่างก็พากันเป็นห่วง แต่ถึงอย่างนั้นมินซอกก็ยังไม่ยอมทานข้าวให้ครบทุกมื้ออยู่ดี
“ปล่อยไว้แบบนี้มีหวังมินซอกฮยองได้เข้าโรงบาลแน่ ไหนจะต้องซ้อมทุกวัน ถ้ายังไม่ยอมกินข้าวเย็นแบบนี้ เดี๋ยวก็ได้เป็นลมกันพอดี”
จงแดพูดขึ้นบ้าง มือก็ยังคีบอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ย แต่ก็อดเป็นห่วงคนเป็นพี่ไม่ได้
“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ? มินซอกฮยองน่ะ ถ้าบทจะดื้อก็ไม่ยอมฟังใครหรอก” อี้ชิงเสริม
“เฮ่อ....”
แล้วก็มีเพียงเสียงถอนหายใจปลงๆของเมมเบอร์ในวง พวกเขาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ มินซอกน่ะไม่ใช่คนดื้อรั้นไม่ฟังใครหรอก แต่ถ้าเขาคิดจะทำอะไรจริงๆจังๆล่ะก็จะยึดเอาแต่ความคิดแบบนั้นอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา ทุกคนเข้าใจว่าเรื่องลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับมินซอก ใช่ว่ามันจะเลวร้ายไปซะหมด รูปร่างอวบกับใบหน้ากลมของมินซอกทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าทะนุถนอม ลู่หานชอบที่มินซอกเป็นแบบนั้น เขาชอบที่จะเรียกอีกคนว่า “เปาจื่อ” ก็เพราะว่า
มินซอกคือซาลาเปาของลู่หาน
“ฉันจะไปคุยกับมินซอกเอง”
ลู่หานบอกก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปในครัวก่อนจะจัดอาหารในส่วนของมินซอกใส่ถาดแล้วยกเดินขึ้นไปบนชั้นสองของหอพัก แล้วก็มาหยุดอยู่หน้าห้องนอนของคนที่ไม่ยอมลงไปทานข้าวเย็น
ยังไงวันนี้ก็ต้องทำให้มินซอกยอมกินข้าวให้ได้
ลู่หานคิดก่อนจะยกมือเคาะประตูห้องนอนเพื่อเรียกให้คนข้างในมาเปิด อีกมือก็ประคองถาดอาหารอย่างทุลักทุเล ซักพักประตูบานเล็กก็เปิดแง้มออกมา
“อ่าว ลู่หาน..”
มินซอกทักเพียงแค่นั้น แล้วก็ต้องเงียบลงเมื่อเห็นว่าลู่หานยกถาดอาหารมาด้วย เขาเดาได้ทันทีว่าลู่หานต้องเอามาให้เขา ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลู่หานทำแบบนี้ซะหน่อย มินซอกพองลมจนแก้มป่อง ทำแบบนั้นแล้วยิ่งเหมือนซาลาเปาก้อนก
ลมๆที่ลู่หานชอบมอง
“ฉันเคยบอกลู่หานแล้วไง ว่าจะงดมื้อเย็นน่ะ”
บอกด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจนิดๆแต่เขาไม่ได้โกรธลู่หานหรอกนะ ก็แค่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาเป็นห่วงเขาแบบนี้ มินซอกรู้ดีว่าทุกคนเป็นห่วงเขา แต่.. เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องลดน้ำหนักให้ได้ นี่ไม่ใช่เพราะคำสั่งของบริษัทเพียงอย่างเดียว แต่เป็นนความตั้งใจของมินซอกเองด้วย เขาอยากมองเห็นตัวเองในกระจกที่รูปร่างผอมบางกว่านี้ เขาอยากให้ตัวเองดูดีเวลาที่ยืนอยู่บนเวทีร่วมกับเมมเบอร์คนอื่นๆ
“ไม่รู้ล่ะ”
ลู่หานพูดแค่นั้นก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้องพร้อมกับถาดอาหาร เดินดุ่มๆตรงไปยังโต๊ะตัวเตี้ยที่ตั้งไว้กลางห้องนอน แล้ววางถาดอาหารลง
“มินซอก มานั่งนี่เร็ว”
ลู่หานนั่งลงกับพื้นก่อนจะกวักมือเรียกอีกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงประตูห้อง
“ยังไงก็ไม่กินหรอก”
มินซอกอมลมแก้มป่องอีกครั้ง ก่อนจะทำปากยื่นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ลู่หานเห็นแบบนั้นก็เริ่มจะเหนื่อยใจ มินซอกนี่ถ้าดื้อจริงๆก็ไม่ใช่เล่นๆเลยแฮะ
เฮ่อออ
ลู่หานถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปหาอีกคน คว้าเอาข้อมือของคนตรงหน้าออกแรงดึงเบาๆให้เดินตามมานั่ง มินซอกอิดออดแต่ก็ขืนได้ไม่นาน ยอมเดินตามมานั่งลงอย่างขัดใจ
“ฉันไม่กิน” มินซอกยื่นคำขาด
“นายจะรอให้ตัวเองเป็นลม โดนหามเข้าโรงบาลไปหยอดน้ำข้าวต้มก่อนรึไง มินซอก”
ลู่หานเริ่มใช้น้ำเสียงดุอีกคน คราวนี้หน้าตาของลู่หานจริงจัง จนมินซอกไม่กล้าจะงอแงใส่อีก แต่ยังไงก็ไม่ยอมแตะอาหารที่ลู่หานยกมาให้อยู่ดี
“ก็.. ต้องลดน้ำหนักนี่”
คราวนี้น้ำเสียงคนตัวอวบดูอ่อนลง ตอนนี้มินซอกเริ่มซูบลงไปเยอะจากการที่เจ้าตัวไม่ยอมทานข้าวเย็น มื้อเช้ามินซอกก็กินแค่น้ำผลไม้กับขนมปัง ส่วนมื้อกลางวันก็แตะแค่รามยอนซองเดียวแค่นั้น แทบจะไม่กินอะไรเลยในวันๆนึง ทั้งๆที่ต้องใช้พลังงานตั้งเยอะ กลับไม่ยอมกินอาหารที่ให้พลังงานเลย แบบนี้เขาถึงได้เป็นห่วงน่ะสิ
“มันมีวิธีที่ดีกว่าการไม่ยอมกินอะไรแบบนี้ตั้งเยอะนะ”
ลู่หานบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปจับแก้มคนตรงหน้า มินซอกมองหน้าอีกคนพร้อมกับทำตาปริบๆ เขารับรู้เสมอว่าลู่หานป็นห่วงเขามากแค่ไหน
“แต่ฉันไม่หิวนี่” ถึงอย่างนั้นมินซอกก็ยังไม่ยอมอยู่ดี
“นี่ เปาจื่อ!” ลู่หานเรียกอีกคนด้วยฉายาที่เขาตั้งให้เสียงดัง จนอีกคนสะดุ้งโหยง
“ทำไมนายดื้อแบบนี้นะ”
มินซอกทำปากคว่ำ เบี่ยงหน้าหนีลู่หาน ถ้าเขากินตอนนี้ น้ำหนักก็จะไม่ลด เขาก็จะไม่ผอม ยังไงๆก็ไม่ยอมกินหรอก
“ลู่หานเอาอาหารพวกนี้ออกไปเลย ฉันไม่หิว แล้วก็ไม่กินอะไรทั้งนั้นแหล่ะ” พูดแค่นั้นแล้วมินซอกก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินหนีออกจากห้อง แต่ก็โดนลู่หานเดินตามไปคว้าข้อมือไว้ทัน
“ถ้าไม่กิน จะโดนทำโทษนะ”
“ไม่โดนหรอก”
มินซอกดื้อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“นายแน่ใจ?”
ลู่หานบอกพร้อมกับยื่นหน้าเข้าใกล้อีกคน มินซอกน่ะแพ้ไม้นี้ตลอดแหล่ะ คนขี้อายแบบมินซอกน่ะอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้มาก มินซอกแพ้ความใกล้ชิด มินซอกแพ้ลู่หานที่รุกแบบนี้เสมอ
“เอ่อ.. น่ะ แนใจสิ”
“หืม?”
จากตอนแรกที่ยื่นแค่หน้าเข้าไปหา ตอนนี้ลู่หานขยับตัวเดินเข้าหามินซอกจนอีกคนถอยหนีทีละนิด แต่ลู่หานก็ตามไปชิดตัวจนได้ มินซอกที่ตอนนี้ถอยหนีจนหลังชนกับประตูห้องไม่รู้จะหนีไปทางไหนแล้ว ลู่หานเข้าประชิดเขามากเกินไปแล้ว
“ลู่หาน.. ไม่เล่นแบบนี้แล้ว”
น้ำเสียงติดขัดของมินซอกที่เอ่ยออกมา พร้อมกับฝ่ามือที่ดันแผลงอกของลู่หานออกหวังให้ตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์เสี่ยงนั้นยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวเขินมากแค่ไหน ใบหน้าของมินซอกตอนนี้แดงระเรื่อ ดวงตากลมโตของมินซอกเอาแต่หลุบต่ำมองพื้นไม่ยอมเงยหน้ามาสบตากับลู่หาน มินซอกแบบนี้น่ารักกว่ามินซอกจอมดื้อตั้งเยอะ
น่ารักจนอยากจะจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอด
“ใครว่าเล่นกันล่ะ เอาจริงต่างหาก”
มินซอกเบิกตากว้างเมื่อลู่หานใช้แขนช้อนร่างทั้งร่าง อุ้มเขาขึ้นจากระดับพื้น เขาไม่ทันตั้งตัวจึงไม่มีทางหนีได้เลย ลู่หานที่ถึงแม้จะตัวเล็กกว่าเขาแต่ความสูงก็มากกว่า บวกกับร่างกายที่แข็งแรงและกำลังที่มีมากกว่า ทำให้อุ้มคนร่างอวบอย่างมินซอกได้สบายๆ
“ลู่หาน ปล่อยนะ!”
ลู่หานไม่ฟัง เสียงประท้วงใดๆทั้งสิ้น เขาอุ้มมินซอกตรงไปยังเตียงนอนที่ว่างอยู่ ก่อนจะวางอีกคนลงบนเตียงนุ่ม มินซอกยกตัวนั่งทันทีเมื่อร่างสัมผัสกับเตียง ตั้งท่าจะลุกหนีแต่ก็ช้ากว่าคนตัวสูงที่โถมน้ำหนักตัวลงมาทาบทับ จับข้อมือสองข้างล็อกไว้ข้างลำตัวไม่ให้หนีไปไหนได้
“นายดื้อ ต้องโดนลงโทษ”
ลู่หานจ้องอีกคนไม่วางตา ตอนนี้เขาเหมือนกวางหื่นที่พร้อมจะกินซาลาเปาก้อนกลมตรงหน้านี้ได้ทุกเมื่อ ลู่หานก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวของอีกคน สูดดมกลิ่นกายของคนด้านใต้เข้าเต็มปอด ลิ้นเล็กเริ่มซุกซนเลียไล้รอบคอขึ้นไปจนถึงใบ
หู มินซอกครางอื้ออึงพลางหดคอหนีการสัมผัสที่อีกคนพยายามฉกฉวย
“อ่ะ อื้ออ... ละ.. ลู่หาน ไม่เอา อย่าเล่นแบบนี้สิ ฉะ..ฉัน..”
“หืม?”
ลู่หานละใบหน้าออกจากลำคอของคนด้านใต้ เพื่อมองอีกคนที่ตอนนี้หน้าแดงกล่ำ จากการถูกสัมผัสจากลู่หานเมื่อครู่
“ฉัน..ยอมกินข้าวแล้วก็ได้” มินซอกบอกด้วยน้ำเสียงงอนๆ สุดท้ายก็ต้องยอม ใครจะไปรู้ว่าลู่หานจะใช้ไม้นี้กันล่ะ
ลู่หานหลุดยิ้มขำๆ มินซอกแพ้ไม้นี้จริงๆนั่นแหล่ะ
“จริงนะ?”ลู่หานถามย้ำอีกครั้ง มินซอกไม่ตอบได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก ลู่หานเผยยิ้มออกมาน้อยๆ
“แต่ว่านะ ... ตอนนี้มินซอกทำฉันหิวแล้วล่ะ”
“ห้ะ ?”
ลู่หานกระตุกยิ้มเจ้าเลห์
“เพราะมินซอกไม่ยอมกินข้าว ฉันก็เลยต้องเอาข้าวมาให้ ตอนนี้ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย”
“งั้นก็ไปกินข้าวกัน ปะ”
มินซอกพยายามจะลุกและดันอีกฝ่ายออก แต่ลู่หานก็โถมน้ำหนักตัวลงมาอีก
“ละ.. ลู่หาน”
“ตอนนี้อยากกินซาลาเปามากกว่า”
มินซอกหน้าแดงกล่ำ ซาลาเปาที่ลู่หานว่าทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหมายถึง ‘ตัวเขา’
“มะ ไม่เอาน่า ไปกินข้าวกั..”
ยังไม่ทันพูดจบประโยคมินซอกก็ต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ เพราะร่างสูงที่ทาบทับอยู่บนตัวเขาเลื่อนริมฝีปากมาประกบจูบเข้ากับริมฝีปากบางของเขา มินซอกตกใจไม่น้อยตากลมนั้นเบิกกว้างอยู่พักใหญ่ก่อนจะค่อยหลับตาลงเพราะสัมผัสอ่อนโยนของลู่หานที่มอบให้ทำให้มินซอกเริ่มจะเคลิบเคลิ้มไปกับมัน ลู่หานค่อยละเมียดละไมเม้มริมฝีปากบางนั้นอย่างแผ่วเบา จากสัมผัสอ่อนโยนก็เริ่มออกแรงกดริมฝีปากให้หนักขึ้น ลิ้นเล็กของลู่หานเริ่มซุกซนค่อยๆแทรกเข้าไปในโพลงปากเพื่อหยอกล้อกับลิ้นเล็กอีกคน ลู่หานชำนาญพอที่จะทำให้คนด้านใต้หอบหายใจเบาๆ เกือบนาทีที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่สัมผัสกัน จนกระทั่งลู่หานต้องผละออกอย่างเสียดาย เมื่ออีกคนที่โดนฉวยโอกาสหอบหายใจติดขัดเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจ
“ถอยออกไปได้แล้ว..”
มินซอกเอ่ยออกแผ่วเบาเพราะระยะห่างของใบหน้าเขาทั้งสองยังห่างกันเพียงแค่คืบเดียว มินซอกไม่กล้าสบตาร่างสูงตรงๆเขาได้ที่เสมองออกไปทางอื่น อาการเขินแบบนี้ลู่หานเห็นไม่บ่อยนัก เพราะพวกเขาไม่ค่อยจะมีเวลาได้อยู่กันแบบนี้ซักเท่าไร
เพราะงั้น ใครจะปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไปกันล่ะ
“ไม่เอา ยังไม่อิ่มเลย”
ลู่หานบอกด้วยหน้าตายียวน น้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กที่ลู่หานมักจะใช้อ้อนเวลาอยากได้อะไรจากมินซอก ทำเอามินซอกต้องหันมาถลึงตาใส่
“ไม่ พอเลยนะลู่หาน นายกำลังฉวยโอกาสฉันอยู่นะ” มินซอกเริ่มขู่
“ป่าวซะหน่อย..ฉันอุตส่าห์เป็นห่วง มินซอกไม่เห็นให้รางวัลเลย” ลู่หานบอกด้วยน้ำเสียงงอนเหมือนเด็ก พร้อมกับอมลมทำแก้มป่องเหมือนที่มินซอกชอบทำเวลาไม่พอใจ
“จะเอาอะไรอีกล่ะ”
ลู่หานยิ้มกว้างเมื่อได้ยินอีกคนพูดขึ้น นิ้วเรียวแตะลงที่ริมฝีปากของตัวเอง สื่อเป็นนัยว่าเขาต้องการอะไรจากมินซอก และเหมือนกับอีกฝ่ายจะเข้าใจดี หน้าของมินซอกจึงขึ้นสีอีกครั้งเพราะความเขิน
ลู่หานเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
ถึงจะแอบว่าอีกฝ่ายในใจ แต่มินซอกก็ยอมใช้สองแขนโอบรอบต้นคอคนข้างบนก่อนจะใช้แรงเหนี่ยวให้หน้าของลู่หานลงมาชิดกันมากขึ้น มินซอกยกศรีษะของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะประกบริมฝีปากบางของตนเข้ากับอีกคนด้านบน จูบที่มินซอกมอบให้ลู่หานทำเอาลู่หานอยากจะกินคนตรงหน้าซะเดี๋ยวนั้น มินซอกผละริมฝีปากออกแต่หน้าก็ยังไม่ขยับออกห่างจากลู่หาน ทำให้ตอนนี้ปลายจมูกของคนทั้งคู่แตะกันอยู่เบาๆ
“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ”
รอยยิ้มผุดขึ้นมาจากใบหน้าคนทั้งสอง ลู่หานและมินซอกสบตากัน มินซอกรู้สึกขอบคุณลู่หานจริงๆที่คอยเป็นห่วงเขาเสมอ คอยดูแลเอาใจใส่ จนเขาไม่รู้จะขอบคุณยังไง
“ที่ห่วงก็เพราะรัก..รักมินซอกคนนี้ไง”
....
“ฉันก็รักนาย ลู่หาน..”
-The End-
ผลงานอื่นๆ ของ popriku ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ popriku
ความคิดเห็น