ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #52 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Caramel path(1) (Part11)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.62K
      37
      14 มิ.ย. 65

    Title: Candied dream : Caramel path (1)
    Pairing: All x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 11/20

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
















     

    ข้าไม่ได้ตาบอด’ ชายในบ้านหลังนั้นกล่าวขึ้น 

    เคยได้ยินมาว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม 

    แต่ก็อันตราย... มักทำให้ใครหลายคนต้องหลงมัวเมา 

    เพราะไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นเลยสักครั้ง... การทำความเข้าใจจึงเป็นเรื่องที่ยากนัก 

     

     

     

    หนาวอากาศที่นี่ราวกับจะแช่สิ่งมีชีวิตให้แข็งเป็นอนุสาวรีย์หากไม่ยอมขยับไปไหน 

     

                ลูฟี่สาวเท้าของตนไปตามเส้นทางรกทึบ รอบข้างของเขามีแต่ป่าลึกแต่ไร้ซึ่งวี่แววของสัตว์ป่า มือบอบบางกระชับเอาผ้าคลุมสีแดงที่บังเอิญติดตัวมาด้วยตั้งแต่อยู่กับสองหมาป่าแน่น ด้วยชุดที่เป็นแขนกุดแบบนี้ ต่อให้มีผ้าคลุมมันก็ยังไม่ทำให้หายหนาวอยู่ดี

      

                ท้องเจ้ากรรมร้องประท้วงว่าต้องการอาหาร ช่วงเวลาที่ฟ้ามืดสนิทแบบนี้ทำให้การมองเห็นเป็นไปได้ยากนัก ทั้งเหนื่อยและหิว แถมยังหนาวอีกต่างหาก ไม่อยากจะต้องมาเป็นลมอยู่กลางป่าเสียหน่อย

      

    อยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้วถ้ากำลังฝันอยู่ก็ตื่นซักทีเถอะน่า

      

    “ หือ…? ” 

     

                ราวกลับคำโอดครวญนั้นถูกส่งไปถึงใครบางคน เมื่อดวงตากลมโตเลื่อนไปเจอะกับบางสิ่งที่เหมือนกับขนมปังวางเรียงรายอยู่บนพื้นเป็นทางยาว โดยสามัญสำนึกใครๆต่างก็ต้องคิดว่านั่นคือกับดักอยู่แล้ว แต่ด้วยความไม่คิดอะไรเลยของเด็กหนุ่ม เขาเดินเข้าไปหยิบขนมปังเหล่านั้นเข้าสู่ปากตามการเรียกร้องของกระเพาะแทบจะทันที

      

    ไม่รู้ว่าขนมนี่จะพาไปที่ไหนแต่อร่อยจัง 

     

    ได้กลิ่นหอมเหมือนกับอะไรบางอย่างที่หวานละมุนมาจากข้างหน้าด้วย… 

     

                รู้ตัวอีกทีปลายเท้าทั้งคู่ก็ก้าวเดินไปตามทางนั้นเสียแล้ว กลิ่นหอมนั้นราวกับจะเชื้อเชิญให้ร่างเล็กตรงสู่เส้นทางปริศนา ไกลขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ… ต้นไม้ที่เคยบังดวงจันทร์เสียมิดก็ค่อยๆลดจำนวนลง แสงสีเหลืองนวลปรากฏขึ้นราวกับกำลังจะฉายภาพที่น่าอัศจรรย์ใจให้เห็นตรงหน้า

      

                ลานขนาดไม่กว้างมากเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างหน้าตาน่ากินชนิดหนึ่ง …น่าแปลกใจสุดๆ เข้าใจว่าสิ่งนี้มีแต่ในนิทานที่เคยได้ยินมาสมัยเด็กเสียอีก บ้านทั้งหลังที่ราวกับสร้างด้วยบิสกิตกับช็อคโกแลต และขนมเคลือบน้ำตาลหลากสีสัน ปูทับด้วยหลังคาวาฟเฟิลลายตาราง และปล่องไฟที่มีรูปร่างเหมือนกับคัพเค้กนั่น

      

    นี่มันบ้านขนมหวานชัดๆเลย… กลิ่นหอมหวานที่ว่ามาจากบ้านหลังนี้นี่เอง 

     

    เอ… สรุปว่าเป็นบ้านหรือขนมกันแน่นะ 

     

                ไม่ต้องเสียเวลายืนอึ้งให้นานนัก ร่างบอบบางก็เดินไปเปิดประตูช็อคโกแลตของบ้านนั้นเข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาตใคร ปลายจมูกรั้นยื่นเข้าไปพิสูจน์กลิ่นที่ประตูนั้นด้วยความสนใจ และมันก็เป็นของที่กินได้อย่างที่เขาคิดจริงๆ… 

     

                สิ่งที่ดึงความสนใจทั้งหมดไปนั่นคงเป็นสภาพภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆถูกจัดวางเป็นส่วนๆอย่างมีระเบียบ แต่น่าแปลกที่สิ่งของเหล่านั้นกลับเป็นของใช้ธรรมดาทั่วไปที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เก้าอี้ที่ทำจากไม้ โซฟาที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่ และผ้าม่านสีอ่อนหวานที่ตัดเย็บจากผ้าชั้นดี 

     

                แต่สิ่งที่พลาดไปไม่ได้คงเป็นโต๊ะกลมตัวเล็กๆที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นที่ของบ้าน บนนั้นมีชั้นวางที่มีขนมหวานชิ้นเล็กๆจำนวนมากมาย มันมีเยอะ แต่ก็ประมาณด้วยสายตาได้ว่า คงมีราวๆสิบโต๊ะเห็นจะได้ ด้วยท้องที่หิวมาตั้งแต่การหนีออกมาจากกระท่อมของเอสและซาโบ รวมกับระยะทางที่เตร็ดเตร่มาแสนไกล ลูฟี่จำเป็นต้องหยิบขนมเหล่านั้นเข้าปากก่อนที่ตัวเองจะหมดพลังงานไปเสียก่อน 

     

    หวานแต่อร่อยสุดๆไปเลย 

     

    แต่การกินของลูฟี่ก็ไม่เคยปราณีใคร

      

                ด้วยปริมาณการกินที่ผิดกับขนาดร่างกาย ไม่นานนักขนมจากชั้นวางสองโต๊ะก็โดนจัดการไปอย่างง่ายดาย เด็กหนุ่มมัวแต่ให้ความสนใจกับของหวานตรงหน้า โดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อนว่าสถานที่แห่งนี้นั้นมีเจ้าของอยู่

      

    หมับ! 

     

                ข้อมือเล็กถูกคว้าไปด้านหลังจนทั้งร่างเซไปชนกับแผงอกของผู้มาใหม่ แรงบีบที่มีนั้นมากมายจนทำให้ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือใหญ่ของใครบางคนนั้นบีบแน่นราวกับคีมที่ไม่ยอมหลุดออกง่ายๆ

      

    “ เจ้าเป็นใครบังอาจรุกล้ำเข้ามาในบ้านของข้า ” 

     

                น้ำเสียงทุ้มกดลงต่ำราวกับไม่พอใจอย่างมาก แรงบีบที่ส่งเพิ่มมายังบริเวณข้อมือทำให้ลูฟี่เริ่มรู้สึกผิดที่ตัวเองทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิด 

     

    “ ฉ..ฉันขอโทษ แต่นายช่วยปล่อยก่อนได้หรือเปล่า ” ความเจ็บคือสิ่งเดียวที่รู้สึกได้ในตอนนี้ แสงรอบตัวนั้นมืดสลัวเกินกว่าจะมองเห็นลักษณะของคนที่กำลังพันธนาการได้ ข้อมือของเขาเริ่มชาไปหมดแล้ว 

     

    “ เจ้าเข้ามาในบ้านและกินขนมของข้า ต้องการอะไรกันแน่ ” 

     

                เจ้าของเสียงทุ้มพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเหมือนกำลังโมโห หมุนตัวเจ้าหนูตัวน้อยที่เข้ามาขโมยของในบ้านมาอีกด้านเพื่อให้มองเห็นใบหน้านั้นได้ชัดเจน แต่เหตุผลที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำเอาร่างสูงต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ

      

    “ ฉันแค่หิว…  

     

    เหตุผลตื้นเขินเสียจนไม่น่าเชื่อถือทั้งที่ประตูบ้านก็ล็อคอยู่ แต่ทำไมเด็กนี่จึงเข้ามาได้ 

     

    “ หิว…? ” 

     

    “ ขอโทษจริงๆนะ... ฉันแค่หิวจริงๆ ” 

     

                   ราวกับบรรยากาศเป็นใจ ก้อนเมฆที่เคยบดบังดวงจันทร์กลับเคลื่อนออกไปด้านข้าง แสงสว่างของยามค่ำคืนฉายผ่านหน้าต่างบ้านเข้ามายังร่างเล็กที่กำลังตกเป็นรอง ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่หวานเกินชายนั้นปรากฏให้เห็นแก่สายตา ยามที่ดวงตาคู่สวยต้องแสงสีนวล มันกลับทอประกายระยับจนไม่อาจละสายตาออกไปได้ สีหน้าที่รู้สึกผิดแสดงออกมาอย่างไม่ปกปิด ส่งให้ชายอีกคนนิ่งไปด้วยความทำอะไรไม่ถูก 

     

                มือข้างที่รวบข้อมือเล็กเอาไว้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระอย่างไม่รู้ตัว ลูฟี่รีบยกมืออีกข้างขึ้นมาจับข้อมือตัวเองด้วยรู้สึกปวดหนึบ ในขณะที่ดวงตาคู่คมของเจ้าของบ้านยังคงไม่ย้ายไปจากร่างบอบบางน่าทะนุถนอมนั้น

      

    ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจอยู่ๆความรู้สึกที่มีมันก็พลันแปลกไป 

     

    หัวใจกระตุกวูบแบบที่ยังไม่เคยเป็นมาก่อน… 

     

                คนตัวสูงกว่าได้แต่ตั้งคำถามกับตนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ก่อนจะรีบสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปและเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการไปจุดตะเกียงเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้แก่ห้องโถงนี้แทน ยามที่ใบหน้าหวานนั้นแสดงความเจ็บปวดจากบริเวณข้อมือที่เขาเป็นคนทำ มันเร่งให้หัวใจที่ว่างเปล่าดวงนี้บีบตัวแรงกว่าปกติ 

     

    ทำไมกันอยู่ๆก็รู้สึกผิดขึ้นมา 

     

     “ เอาแขนเจ้ามานี่สิ ” ฝ่ามือใหญ่ยื่นออกมาวางตรงหน้าเด็กหนุ่ม ในมืออีกข้างถือกระปุกอะไรบางอย่างที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นยาทาภายนอก ลูฟี่เงยหน้ามองเจ้าของบ้านด้วยความหวาดระแวง เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นใบหน้าของคนๆนี้ชัดๆเป็นครั้งแรก 

     

                ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อคลุมขนสัตว์สีมืดครึ้ม น่าแปลกที่อากาศภายนอกหนาวแบบนั้น แต่คนๆนี้กลับใส่เพียงเสื้อผ้าฝ้ายบางๆอยู่ภายใต้เท่านั้น ใบหน้าคมของเจ้าตัวดูน่ากลัวราวกับวายร้ายที่พบเห็นได้ตามการ์ตูน ผมสีแดงเพลิงถูกเซ็ตให้ตั้งขึ้นไปด้านบน คาดเอาไว้ด้วยแว่นตาดำน้ำรูปร่างประหลาดตา 

     

                ฝ่ายนั้นใช้ดวงตาคู่ที่ดูคมกริบจ้องมายังใบหน้าของลูฟี่นิ่ง เขาดันไปทำลายความประทับใจแรกของเด็กนี่เสียป่นปี้ เรื่องจะให้ไว้ใจคนที่ทำร้ายตัวเองตั้งแต่แรกคงจะเป็นไปไม่ได้ จึงตัดสินใจเอื้อมเข้าไปคว้าข้อมือเล็กนั้นเข้ามาอีกรอบ คนตัวเล็กทำท่าจะขัดขืน แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของคนที่ตัวใหญ่กว่ามากได้ 

     

                ไม่ได้มีการทำร้ายใดๆอีก ผู้ชายหน้าโหดคนนี้บรรจงทายาลงบนข้อมือของลูฟี่อย่างแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าจะเผลอทำร่างกายที่บอบบางนี้สลายหายไป มันอ่อนโยนเสียจนชวนให้เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย 

     

    อะไรของเขากันนะทำให้เจ็บแล้วก็มาทายาให้เฉยเลย 

     

    “ ข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นไม่เคยมีใครมาที่นี่ ” 

     

                 เจ้าของใบหน้าโหดเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ น้ำเสียงนั้นเรียบสนิทราวกับเรื่องที่กล่าวขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่ชินชาไปเสียแล้ว ตั้งแต่จำความได้ เขาอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด ทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่รู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับโลกภายนอกมากนัก ไม่ว่าใครที่ไม่คุ้นหน้าก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้น 

     

    แต่ก็แปลกมันกลับเป็นข้อยกเว้นสำหรับเด็กตรงหน้านี่ เพียงแค่การพบเจอกันครั้งแรกเท่านั้น 

     

    “ นายอยู่คนเดียวงั้นหรอ ที่บ้านขนมหวานนี่? ” เสียงเล็กเอ่ยถามขึ้น ดวงตากลมโตมองตามมือของอีกฝ่ายที่กำลังทายาให้ตนเหมือนกับแมวกำลังมองตามของเล่น สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงการเงียบสนิทของอีกฝ่ายที่ดูจะไม่ได้ใส่ใจคำถามนัก คิ้วเรียวขมวดหากันอย่างไม่เข้าใจ พิจารณาใบหน้าที่ดูโหดร้ายนั้นสลับกับบ้านขนมแสนสวยไปมา

      

    “ เหนายดูไม่น่าชอบกินของพวกนี้เลยนะ พิลึกดีจัง ”

      

                คนที่เพิ่งผละออกจากร่างเล็กขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะประโยคแปลกๆนั้น เด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาหมดเลยหรือไงนะช่างเป็นคำพูดที่อุกอาจเสียเหลือเกิน อยากจะอารมณ์เสียและโกรธเคืองไป แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงทำไมลง… 

     

     “  ข้าก็ไม่ได้ชอบเสียหน่อย เพราะที่นี่มันมีแต่ของแบบนี้ต่างหากล่ะ ”

      

                ถอนหายใจออกมาอย่างไม่เข้าใจนัก ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ใช่คนในพื้นที่ ถึงได้ทำท่าทางงุนงงกับประโยคที่เขาเพิ่งกล่าวขึ้นมา 

     

    “ ในป่าระแวกนี่มีทั้งลำธารช็อคโกแลต สวนสตอว์เบอร์รี่และสวนคุกกี้เต็มไปหมด ข้าถึงได้สร้างบ้านจากของพวกนั้นยังไงล่ะ ” 

     

    “ ว้าว! สุดยอดเลย มีของแบบนั้นอยู่จริงด้วยหรอ ฉันอยากเห็นจัง! ” 

     

                ดวงตากลมโตลุกวาวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น นอกจากบ้านประหลาดๆนี่ ยังมีที่ที่น่าสนใจอีกเยอะแยะไปหมด ถึงโลกนี้จะแปลกเกินความเข้าใจไปหน่อย แต่ราวก็กับว่าเขากำลังโลดแล่นอยู่ในโลกของความฝัน เรื่องราวมันคลับคล้ายคลับคลากับว่าเคยฟังมาจากที่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นก็นึกไม่ออก... 

     

                รอยยิ้มกว้างที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหวานนั้นสะกดให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านชะงักไปทั้งอย่างนั้น เป็นรอยยิ้มสดใสที่เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มันเร่งให้หัวใจที่อยู่ใต้อกเพิ่มจังหวะการเต้นมากขึ้นอย่างน่าประหลาด อยากจะเห็นใบหน้าแบบนั้นอีกหลายๆครั้ง แต่ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตนเองกันแน่ 

     

    โรคร้ายหรือไงกัน หัวใจจึงได้เต้นระส่ำถึงเพียงนี้

     

    “ พรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปเอาน้ำดื่มจากป่าทางเหนือ หากตื่นสายก็อย่าหวังว่าจะได้ไปเลย ” ยกมือขึ้นมากุมอกเสื้อด้านซ้ายของตนด้วยความแปลกใจ ในขณะที่คำพูดราวกับไม่พอใจนั้นกลับแฝงความหมายกลายๆว่าอนุญาตให้อีกฝ่ายพักอยู่ที่นี่ได้โดยไม่มีข้อกังขา 

     

    “ อ่า… แต่ฉันไม่มีที่พักหรอกนะ คงต้องออกไปแล้วล่ะ ” 

     

                แต่ก็ใช่ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะเข้าใจความหมายนั้นโดยง่าย ใบหน้าหวานหม่นลง กระชับผ้าคลุมผืนเดิมให้แน่นขึ้นอย่างท้อใจ …คงต้องกลับไปข้างนอกที่หนาวเหน็บขนาดนั้นอีกครั้ง ทำให้คนๆนี้โกรธ แถมยังไปขโมยขนมของเขาอีก ถ้าขอพักด้วยซักคืนจะเป็นการขออะไรที่น่าเกลียดเกินไปหรือเปล่านะ… 

     

    “ หน้าเตาผิงนั่นไงล่ะ อากาศกลางคืนมันหนาวนัก เดี๋ยวข้าจะไปเอาฟูกมาให้ ” 

     

                ชายหน้าโหดขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างนึกขัดใจ เจ้าหนูนี่ทำให้เขาต้องพูดสิ่งที่ไม่อยากพูดออกไปจนได้ ไม่อยากแสดงความไว้ใจที่มากไปต่อใครคนหนึ่งออกไปให้เห็นนัก สำหรับเขาแล้วมันราวกับกำลังเผยจุดอ่อนออกไปให้เห็น

      

                ลูฟี่แสดงสีหน้าเหรอหราออกมาอย่างคนประมวลผลตามไม่ทัน ส่งเสียงในลำคอก่อนขมวดคิ้วด้วยความสงสัยอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งจับใจความได้ว่าอีกฝ่ายให้เขาพักอยู่ที่นี่ได้แล้วจึงร้องอ๋อขึ้นมา ประโยคขอบคุณถูกกล่าวขึ้นมา ตามหลังด้วยรอยยิ้มกว้างที่แสดงความจริงใจออกมาอย่างไม่ปกปิด

      

                คนผมแดงมองการกระทำแปลกๆของเด็กหนุ่มคนนั้นโดยไม่ได้ละสายตา เป็นอีกครั้งที่เขาได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มที่อยากจะเห็นอีกหลายๆครั้ง

      

    เขายังไม่อาจตอบข้อสงสัยที่เกิดขึ้นกับตนหลายอย่างได้ …แต่ก็มีบางสิ่งที่พอจะยืนยันได้แล้ว

      

    อยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้นเสียจริง

     

      

     

     

     

                แสงแดดที่อบอุ่นยามเช้าไล่ให้ความหนาวที่เคยปกคลุมพื้นที่ป่าหายไป นกน้อยที่ตื่นขึ้นจากนิทราออกมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วต้อนรับวันใหม่ ชายร่างใหญ่วางถังไม้ที่บรรจุน้ำดื่มอยู่เต็มพอดีลงกับพื้น ไม่ห่างออกไปนักมีร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังทำท่าทางสนใจกับลำธารสีทึบตรงหน้า

      

                นิ้วเรียวไล้ไปกับผืนน้ำอย่างแผ่วเบา ยกมันขึ้นมาสัมผัสกับปลายลิ้น ก่อนรสชาติหวานจะเป็นสิ่งแรกที่รู้สึกได้ กลิ่นหอมหวานของโกโก้ เนยและนมผสมกันได้อย่างลงตัว สายน้ำสีน้ำตาลที่เห็นตรงหน้านี่มันเป็นช็อคโกแลตทั้งหมดเลย

      

    “ ยอดเลย! นี่มันช็อคโกแลตจริงๆด้วย! ”  ริมฝีปากได้รูปเผยยิ้มร่า ร่างผอมกระโดดโหยงพร้อมชี้นิ้วให้เพื่อนร่วมทางอีกคนดูด้วยท่าทางตื่นเต้น

      

    อารู้แล้วน่า ของแบบนั้นเคยเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว

      

                ถึงเด็กคนนั้นจะเผยรอยยิ้มแบบนั้นออกมาให้เห็นบ่อยๆ แต่ก็ทำใจให้ชินไม่ได้เสียที จังหวะหัวใจมันพาลเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือใหญ่ข้างหนึ่งยกขึ้นมาเกาท้ายทอยอย่างคนทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้ว่าควรรับมือยังไงดีกับท่าทางเหล่านั้น

      

    หัวใจเต้นระส่ำ ความรู้สึกร้อนๆบนใบหน้ายามที่มองไปยังรอยยิ้มนั้น

      

    ชอบ หรือเปล่านะ..? 

     

    “ เหนือลำธารนั่นมีสวนคุ้กกี้อยู่ จะไปก็รีบตามมา ”

      

                เอ่ยคำพูดแกมออกคำสั่ง ก่อนเดินนำออกไปทั้งอย่างนั้น เพราะว่าไม่เคยเกิดอาการแบบนี้กับใครมาก่อน จึงยากที่จะแน่ใจได้ว่าเป็นไปอย่างที่คิดหรือไม่ ยามที่เห็นใบหน้านั้นมีความสุข เขาก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ยามที่เด็กหนุ่มคนนั้นทำท่าทางตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆนั้น …ทำไมจึงคิดว่ามันน่ามองไปเสียทุกอย่าง

      

    อยากจะเห็นภาพนี้ไปอีกนานๆและไม่อยากให้ใครก็ตามได้เห็นมันด้วย

      

                ชายหนุ่มไม่ได้ทันรู้ตัวว่า ความชอบของเขาได้แปรเปลี่ยนเป็นความหลงใหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดวงตาคู่คมทอดมองร่างเล็กๆนั้นได้อย่างไม่มีเบื่อ อันว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่ควรค่อยๆเรียนรู้และทำความเข้าใจกับมันอย่าได้เร่งสรุปความไปเลยเสียดีกว่า

      

                ลูฟี่ผละตัวออกจากสวนขนมที่แสนจะแปลกเกินจินตนาการนั้นหลังเด็ดเอาคุกกี้ที่งอกออกมาจากต้นไม้ที่มีใบสีสดใส ตรงมายังชายผมแดงที่ในเวลานี้สายตายังคงไม่ละไปจากเขา คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวเตาะแตะเข้าไปหยุดตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

      

    “ ขอบคุณที่พามาวันนี้นะ ฉันสนุกซะจนลืมไปเลยว่าตัวเองมีที่ที่ต้องไปอยู่ ”

      

                ยังไงเสียที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา โลกที่จากมาต่างหากที่กำลังรอคอยให้กลับไป ทั้งเพื่อน ครอบครัว และชีวิตประจำวัน แม้มันจะไม่ได้ราบรื่นไปเสียทุกอย่าง แต่เขาทิ้งสิ่งเหล่านั้นไปไม่ได้หรอกนะ

      

    “ ที่ที่ต้องไป…? ” เสียงทุ้มเอ่ยทวนคำพูดนั้นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก ใบหน้ายิ้มที่เหมือนกับเสียดายของลูฟี่ทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี 

     

    “ อื้อฉันต้องกลับไปที่บ้าน โลกที่ฉันจากมา ”

      

    บ้าน…?

      

    นั่นสินะไม่ว่าใครก็มีที่แบบนั้นอยู่ 

     

                คนตัวสูงไม่ได้กล่าวอะไรอีกจนกลายเป็นความเงียบ ความสุขที่เพิ่งจะตักตวงได้เพียงชั่วครู่กลับกำลังจะหายไปในไม่ช้า ทำไมโชคชะตาจึงโหดร้ายกับเขาถึงเพียงนี้… เพราะถูกกำหนดให้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นนั้นหรือ

      

    ใครจะอยากให้เด็กหนุ่มคนนี้กลับไปกัน… ทั้งที่เขาได้มอบหัวใจทั้งหมดให้แล้ว

      

    “ ก่อนหน้านั้น ข้ามีที่ที่อยากจะให้เจ้าไปอยู่... ” มือใหญ่คว้าเอาเชือกสะพายของถังน้ำพาดผ่านแขนแกร่งทั้งสองข้าง ชันตัวขึ้นพร้อมกับภาชนะที่ถูกยกขึ้นเหนือพื้นดิน

      

    ไม่เอาเด็ดขาด...

      

    ไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน

      

     “ ที่ไหนงั้นหรอ? ”

      

                ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆ แต่ก็ไร้ซึ่งการตอบคำถามจากอีกฝ่าย เขาเพียงเดินนำร่างเล็กกลับไปสู่บ้านขนมหวานหลังเดิม จัดการวางอุปกรณ์ต่างๆให้เข้าที่ ประตูบานใหญ่ที่อยู่ถัดไปจากเตาผิงที่ลูฟี่ใช้ให้ความอบอุ่นเมื่อคืนเป็นเป้าหมายต่อไป 

     

                ทันทีที่ลูกบิดถูกหมุนและบานประตูถูกผลักเข้าไป เบื้องหน้าก็ปรากฏบันไดที่ทอดตัวยาวลงสู่พื้นด้านล่าง ยังมีชั้นที่ลึกลงไปต่อจากที่ที่เด็กหนุ่มยืนอยู่ ความมืดซึ่งแฝงความหนาวเหน็บเอาไว้ บ่งบอกไม่ได้เลยว่าปลายทางของมันจะสิ้นสุดลงที่ใด

      

    ในบ้านหลังเล็กแบบนี้ มีห้องใต้ดินอยู่ด้วยงั้นหรอ…?

      

    “ ที่นี่มันอะไรกันน่ะ…? ”

      

                เสียงเล็กเอ่ยขึ้นถาม หันไปมองยังเจ้าของบ้านที่ตอนนี้กำลังเดินนำตนลงไปสู่เบื้องล่าง ในมือของเขามีสิ่งที่คล้ายกับตะเกียงที่เพิ่งหยิบมาได้จากปากทางเข้า เจ้าของผมสีแดงเพลิงเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร เร่งให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ

      

                ทั้งแคบแล้วก็มืด ไม่มีแม้แต่เสียงของลมที่แทรกเข้ามาเลยแม้แต่นิด เป็นสถานที่แบบไหนกันแน่นะได้แต่ก้าวเท้าตามคนเบื้องหน้าไปอย่างระมัดระวัง อาศัยแสงจากตะเกียงในมือคนหน้าโหดไม่ให้เผลอก้าวลงบันไดพลาดไป 

     

                ไม่นานนักปลายทางก็จบลงที่โถงแคบๆ มันเหมือนจะเป็นทางตันสำหรับเส้นทางนี้ พลันตะเกียงที่อยู่ตามต้นเสาทั้งสองข้างของห้องก็ถูกจุดขึ้น ยามที่แสงสว่างฉาบไปทั่วพื้นที่ ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กต้องประหลาดใจไม่น้อย

      

    นี่มันห้องขังไม่ใช่หรือไงกัน…? 

     

    “ นายพาฉันมาทำอ—!  

     

    ปัง!

      

    “ โฮ่ยทำอะไรของนายน่ะเจ้าหน้าโหดปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ! ” ว่องไวเกินกว่าที่จะได้ทันตั้งตัว ฝ่ามือใหญ่ตะปบเข้าที่แผ่นหลังของลูฟี่เข้าอย่างจัง แรงส่งของมันมากพอจะทำให้ทั้งร่างของเด็กหนุ่มเข้าไปยืนอยู่ภายในห้องขังได้อย่างง่ายดาย ประตูเหล็กนั้นถูกล็อคโดยคนนำทางแทบจะทันที

      

                สับสนไปหมด เรื่องราวต่างๆที่ประดังเข้ามาทำให้ลูฟี่ปรับตัวไม่ทัน มือเล็กทั้งสองข้างจับเหล็กที่เย็นเฉียบของของห้องขังแน่นอย่างไม่เข้าใจ ยามที่สายตาคู่สวยจ้องมองไปยังใบหน้าของคนอีกฟากก็เป็นต้องตกใจ ราวกับสายตาคมคู่นั้นไร้ซึ่งความลังเลใดๆ ราวกับว่าเขากำลังจ้องมองมาด้วยความเย็นชาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

      

    เสียงของเด็กหนุ่มสื่อไปไม่ถึงชายผมแดงคนนี้เสียแล้ว

      

    เด็กคนนี้จะต้องอยู่ที่นี่… เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

      

     

    “ เจ้าจะต้องอยู่กับข้าไปตลอดกาล… 

     













     

    อัพแล้วค่าาา หายไปเป็นแรมปีอีกแล้ว เรากลับมาแล้วววว อย่าเพิ่งลืมกันนะคะ;-;
     
    ลืมเนื้อเรื่องเก่ากันหรือยังคะะะ ฮือออออ ขอโทษที่หายไปนานอีกแล้วT_T
    เรื่องนี้ยังดำเนินไปไม่ถึงไหนเลย แต่ยังไงก็เลยครึ่งทางมาได้แล้วนะคะ 
    เนื้อเรื่องหลังจากนี้จะค่อยๆเข้มข้นขึ้น จะพยายามมาอัพให้บ่อยเท่าที่ทำได้ค่ะ

    พอจะจินตนาการออกมั๊ยคะว่าเมะในตอนนี้เป็นใคร กัปตันคิดคนโฉด(?)ของเรานั่นเองค่ะ เฮ้ 
    ตอนแรกเหมือนจะมาแนวผู้ชายมุ๊งมิ๊งใสๆ ไหงจบที่ยันแตกแบบนี้ เมะเรื่องนี้ยันมันทุกคนเลยค่ะ;-;

    เดาออกมั๊ยคะว่าตอนนี้มีเค้าโครงมาจากนิทานเรื่องอะไร ค่อนข้างบอกไว้ชัดอยู่นา5555
    มาลุ้นกันค่ะว่าชะตากรรมของฟี่จะเป็นยังไงต่อไป แล้วพบกันตอนหน้าจ้าาา^^
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×