ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ One Piece 'short fanfiction All Luffy [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #44 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Panthera & The rose garden(1) (Part3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      60
      14 มิ.ย. 65

    Title: Candied dream : Panthera & The rose garden (1)
    Pairing: All x Luffy
    Rate: PG-13
    Writer: PINKUHERO
    Part: 3/20

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
















     

    เพียงแค่ความผิดปกติเล็กน้อย... ใช่จะไม่รู้ว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น 

    เวลาแห่งโชคชะตาได้เวียนมาถึง... หลอกตัวเองมาตลอดว่ามันไม่เคยมีจริง 

    แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่สายตาได้บรรจบกันนั้น... 

    ก็ทำให้มั่นใจ... ว่าคำสาปแห่งอสูรผู้นี้ได้กำลังพังทลายลงแล้ว

      

     

     

     

    “ นี่นาย จะพาฉันไปไหนน่ะ!” 

     

    เพราะเหตุผลใด... จึงยอมรับข้อแลกเปลี่ยนอันสุดแสนจะเอาแต่ใจตนของเขาได้ 

     

    บางทีก็นึกขำไปกับอำนาจอันไร้เหตุผลของตน... อะไรๆมันดูง่ายดายจนน่าแปลกใจ 

     

    “ ปล่อยก่อนได้มั๊ย ฉันเจ็บ! ” 

     

    เสียงเล็กยังคงร้องประท้วงออกมาเรื่อยๆ เมื่อข้อมือเล็กที่โดนครอบครองถูกมือของคนตัวสูงกว่าบีบแรงจนเกินไป ใบหน้าหวานแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาอย่างไม่ปกปิด แต่ดูเหมือนชายร่างสูงคนนี้จะไม่ได้ฟังเขาเลยซักนิด 

     

    เสียงนั้นยังคงออกคำสั่งคนตัวสูงไปอย่างไม่รู้ตัว... 

     

    ร่างเล็กถูกลากให้เดินตามไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากนัก รอบข้างเริ่มรายล้อมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิดที่ลูฟี่รู้สึกไม่คุ้นตา ปราสาทหลังใหญ่กับป่ารกทึบ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่น่าจะใช่โลกเดียวกับเมืองก่อนหน้านี้แน่ๆ 

     

    ถึงจะไม่ค่อยอยากเชื่อลางสังหรณ์ตัวเอง... แต่เขาก็ควรจะคิดได้แล้ว ว่าตัวเองได้เผลอหลุดเข้ามาในที่แปลกๆเข้าแล้ว 

     

    จะด้วยวิธีไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน... 

     

    การต้อนรับกับพฤติกรรมแปลกๆของคนที่นี่ ไหนจะผู้ชายตรงหน้าเขาอีก รู้สึกเหมือนกำลังจัดลำดับความคิดไม่ทัน ขายาวๆนั่นเอาแต่มุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ได้สนใจเขาที่แทบจะต้องวิ่งตาม 

     

    ผมสีรัตติกาลหยักศกที่ยาวประบ่าถูกปล่อยสยายลงมา ถูกสวมทับด้วยหมวกทรงสูงหน้าตาประหลาดๆอีกที ใบหน้าคมกับสายตาดุดุจพญาราชสีห์ดูเรียบนิ่ง ไม่แยแสกับสิ่งใด ร่างกายสูงใหญ่สวมทับไปด้วยผ้าคลุมสีน้ำตาลที่มีขนเฟอร์เล็กน้อย ชายที่โดนเรียกว่าอสูรอยู่หลายรอบ ซึ่งลูฟี่ก็เป็นอีกคนที่จะไม่ปฏิเสธคำพูดเหล่านั้น 

     

    ว่าคนๆนี้เหมือนกับเสือหรืออะไรทำนองนั้นในร่างมนุษย์จริงๆ... 

     

    ปลายเท้าของคนตัวสูงได้หยุดลงเมื่อภาพเบื้องหน้าคือพาหนะโดยสารที่มีรูปร่างคล้ายกับกล่องเล็กๆ ส่วนด้านหน้ามีม้าสำหรับลากอีกสองตัว ลูฟี่คิดว่าสิ่งนั้นคงจะเป็นรถม้าแน่ๆ ที่น่าแปลกคือของแบบนั้นมันควรจะมีอยู่แค่ในยุโรปเมื่อประมาณหลายร้อยปีที่แล้วไม่ใช่หรือไง 

     

    แต่เรื่องที่น่าตกใจกว่านั้น... ที่นี่ไม่มีรถยนต์ ไม่มีรถไฟ ไม่มีแม้แต่สิ่งที่เรียกว่าไฟฟ้าอยู่เลย... 

     

    ไม่นานนักข้อมือเล็กก็ถูกคลายพันธนาการออก ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นเป็นเวลาพักหนึ่ง จนลูฟี่เริ่มรู้สึกได้ถึงดวงตาคมของคนนำทางที่จ้องเขม็งมาที่เขา 

     

    “ ขึ้นไปซะ... ” มีเพียงคำพูดสั้นๆที่ออกมาจากริมฝีปากนั้น แถมยังเป็นคำสั่งอีกต่างหาก

      

    ใบหน้าหวานแสดงอาการไม่เข้าใจออกมา แต่ปลายเท้าก็ยอมก้าวไปข้างหน้าอย่างว่าง่าย กระโปรงฟูฟ่องที่รุ่มร่ามทำให้คิ้วเรียวต้องขมวดเข้าหากันอย่างนึกขัดใจ จะพยายามถกขึ้นหรือรวบขึ้นมายังไง ตอนจะก้าวเท้าขึ้นรถม้ามันก็พลอยจะเหยียบชายกระโปรงอยู่ทุกที 

     

    “ ...เหวอ! ” 

     

    อยู่ๆทั้งร่างก็ลอยหวือขึ้นมาจากพื้น เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนออกคำสั่งอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว แขนเรียวรีบหาที่ยึดเกาะด้วยความกลัวตกตามสัญชาตญาณ ก่อนจะได้ทันสังเกตว่าตนเองนั้นอยู่ในสภาพใด สีหน้าของคนตัวเล็กจึงค่อยๆเจื่อนลงอย่างรับไม่ได้ 

     

    ให้ตายเถอะ... เกิดมาเป็นลูกผู้ชายทั้งที แต่กลับโดนอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวแบบนี้นี่มันอะไรกัน... 

     

    ไม่สิ... เขาควรจะคิดได้ตั้งแต่ตอนโดนจับใส่กระโปรงแล้วนะ 

     

    ตุบ

     

    “ อั่ก... ” 

     

    ไม่มีการทะนุถนอมใดๆจากชายคนนี้ จะโชคดีหน่อยก็ตรงที่ดันเอาหน้าลงไปกับเบาะได้อย่างพอดิบพอดี ลูฟี่ชันตัวขึ้นจากพื้นรถม้า ก่อนจะลูบจมูกตัวเองป้อยๆ ใบหน้าน่ารักติดความไม่พอใจไว้เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์หันกลับไปขอบคุณอสูรคนนั้นทั้งปลายจมูกแดงแจ๋... 

     

    “ ...เอ่อ ขอบใจนะ ถึงวิธีพาเข้ามาจะแปลกๆไปหน่อยก็เถอะ...` ” 

     

    และสิ่งนั้นทำให้ชายร่างสูงที่กำลังก้าวมาอีกคนต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจในความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำขอบคุณนั้น ...ทั้งที่เมื่อครู่ยังเอาแต่โวยวายมาตลอดทางอยู่แท้ๆ 

     

    ไม่นานนักบรรยากาศรอบตัวที่สามารถมองผ่านหน้าต่างได้ก็ค่อยๆเคลื่อนผ่านไป เสียงของกลีบเท้าที่กระทบกับพื้นเป็นจังหวะเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าการเดินทางได้เริ่มต้นขึ้น  

     

    โดยที่คนตัวเล็กไม่ได้ทันสังเกตความผิดปกติ อย่างการที่รถม้าขับเคลื่อนไปเองได้โดยไม่มีคนควบคุมแม้แต่น้อย... 

     

    ดวงตากลมโตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ชมทิวทัศน์ภายนอกที่เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆด้วยความสนใจ ...โดยลืมไปเสียสนิทว่าตนไม่รู้ถึงปลายทางที่รถม้าคันนี้จะพาไป... มีเพียงสิ่งเดียวที่ทราบได้โดยสัญชาตญาณ คือที่นี่คงจะไม่ใช่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน 

     

    ดวงตาคมสีอำพันของคนตัวสูงกว่าจ้องมองการกระทำนั้นเพียงเงียบๆโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว เขาที่รู้ดีว่าคนตรงหน้าเป็นเด็กหนุ่มที่สวมชุดฟูฟ่องเท่านั้น รู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าคนอื่นเลยแม้แต่นิด... 

     

    ...แต่ก็ไม่อาจละสายตาออกไปจากร่างนั้นได้เลย 

     

    ถึงจะไม่ได้พิเศษอะไร... แต่กลับมีแรงดึงดูดอย่างน่าประหลาด 

     

    ราวกับว่า... เขารอคอยคนๆนี้มานานเหลือเกิน... 

     

    คงจะถึงเวลาแห่งโชคชะตานั้นแล้ว... จึงได้เข้าใจว่าความรู้สึกห่วงหานั้นเป็นเช่นไร …แต่เพราะทิฐิแห่งอสูรยังคงอยู่สูงกว่าความรู้สึกใดๆทั้งปวง... อสูรเช่นเขาจะมีสิ่งที่เรียกว่า'ความรัก'เช่นคนอื่นได้ด้วยอย่างนั้นหรือ... 

     

    ไม่เลย...มันผิดพลาดตั้งแต่การพาตัวเด็กคนนี้มาทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้ยินดีแล้ว... 

     

    ก่อนที่แรงสั่นสะเทือนของรถม้าจะหยุดลง ภาพที่มองเห็นได้จากหน้าต่างคือปราสาทขนาดใหญ่ยักษ์ที่ล้อมรอบไปด้วยมวลดอกไม้ บรรยากาศแห่งความเงียบเริ่มเข้ามาปกคลุม ก่อนที่ลูฟี่จะต้องตกใจกับสายตาของใครอีกคนในรถม้าคันเดียวกัน 

     

    ...ที่กำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่วางสายตา 

     

    พอรู้ตัว เจ้าของในหน้าคมดุจดั่งพยัคฆ์ก็รีบเบนสายตาออกไปนิ่งๆ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ประตูถูกเปิดออก ร่างนั้นก้าวออกไป และเอื้อมมือมารับร่างเล็กที่กำลังเดินตามออกมาอย่างลืมตัว 

     

    มือบอบบางวางประสานลงบนฝ่ามือใหญ่อย่างเก้อเขินแบบบอกไม่ถูก ปลายเท้าทั้งคู่ลงมาสู่พื้นดินได้อย่างปลอดภัย ก่อนมีแรงดึงเบาๆจากคนตรงหน้า เหมือนบอกเป็นนัยๆว่าให้เดินตามมา 

     

    พอถูกปฏิบัติเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงแบบนี้แล้วก็ไปไม่เป็นเหมือนกันแฮะ... 

     

    ช่วยไม่ได้... จะโทษก็โทษที่ชุดที่แสนรุ่มร่ามของเจ้าคนหน้าโหดหัวหงอนไก่นั่นก็แล้วกัน... 

     

    รีบสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป ดวงตากลมโตสีดำกวาดมองไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้า ก่อนจะร้อง 'ว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากบางกำลังเผยรอยยิ้มกว้าง จ้องมองใบหน้าของชายที่กุมมือเขากับภาพตรงหน้าสลับกันไปมาด้วยความแปลกใจ 

     

    ปราสาทใหญ่ยักษ์เหมือนดั่งในเทพนิยายที่เคยฟังมาสมัยเด็ก ดูเก่าแก่ชวนให้รู้สึกน่ากลัวอยู่บ้าง แต่บริเวณโดยรอบกลับล้อมรอบไปด้วยสวนกุหลาบหลากสี เบ่งบานประชันความงาม สายลมเบาบางที่พัดผ่านใบหน้าทำให้ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบที่แสนอ่อนโยน 

     

    น่าแปลกใจ... คนๆนี้เป็นเจ้าของสถานที่ที่งดงามเช่นนี้งั้นหรือ 

     

    “ สวยชะมัดเลยน้า... นี่บ้านของนายงั้นหรอ ” 

     

    เสียงเล็กพูดสิ่งที่คิดอยู่ออกไปทันที เรียกให้สายตาคมกริบของคนสวมหมวกทรงสูงเลื่อนมามองด้วยแฝงความหมายบางอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีคำตอบใดๆตอบกลับมา 

     

    ตั้งแต่ลงมาจากรถม้าได้ก็เอาแต่พูดจ้อไม่หยุดเหมือนเคย... อยากจะนึกรำคาญแต่ทำไมในใจกลับทำไม่ลง 

     

    ดวงตาคมทอดสายตามองภาพเบื้องหน้า ปราสาทที่น่าขนลุก ปราสาทที่เขาอาศัยอยู่ที่นี่มาโดยตลอด ...ไม่แปลกใจนักกับคำชมเหล่านั้น ผู้คนมักจะพูดชมแต่สิ่งที่ประดับอยู่ภายนอก โดยลืมคำนึงถึงคุณค่าที่แท้จริงของมัน 

     

    สวนกุหลาบแสนงดงามเป็นเพียงสิ่งประดับเท่านั้น... ล้อมรอบปราสาทที่แสนน่าขนลุกให้ดูจืดจางไป ...สถานที่นี้คือที่อยู่ของอสูรที่แสนน่ากลัว... บุคคลที่รู้ความจริงข้อนั้นต่างก็ตีห่าง หวาดกลัวในอำนาจของเขา และไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามาที่นี่ 

     

    ...เป็นเหมือนดั่งคำสาป 

     

    แม้แต่คนที่เดินตามหลังเขามา... ไม่นานนักก็คงต้องรู้ความจริงข้อนั้น 

     

    “ ที่นี่สุดยอดไปเลย... ฉันล่ะชอบชะมัดเลยน้า ” 

     

    เสียงเล็กพูดแทรกขึ้นมาได้อย่างถูกจังหวะ ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มกว้าง ดูเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบตัวดังที่กล่าว

      

    “ โอ๊ย! ” 

     

    ส่งผลให้มือหนาเผลอกำข้อมือบอบบางของลูฟี่แน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว คิ้วเรียวของคนตัวสูงขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ 

     

     ...เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เลย คิดว่าพูดแบบนั้นแล้วเขาจะยอมปล่อยตนเป็นอิสระอย่างนั้นหรือ... 

     

    ไม่ว่าใครก็ต่างรังเกียจที่นี่... รังเกียจไปทั้งตัวเขาด้วย 

     

    แต่รอยยิ้มของเจ้าเด็กนี่มัน... 

     

    “ เจ้าโกหก  

     

    รอยยิ้มนั่นมันดูเหมือนจะแสดงความจริงใจออกมาอย่างไม่ปกปิด.... 

     

    ไม่สบอารมณ์เลย... ทำไมกัน 

     

    ทำไมถึงจับโกหกจากเจ้าเด็กนี่ไม่ได้เลย... 

     

    “ หือ...? ” คนตัวเล็กนิ่วหน้าเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจนัก เขาทำผิดอะไรตรงไหนอีกงั้นหรือ...

     

    ปลายเท้าของทั้งคู่ก้าวผ่านทางเดินยาวที่ทอดสู่ปราสาท อารมณ์ที่พอจะดูออกว่ากำลังครุกครุ่นของอีกฝ่าย ทำให้ลูฟี่ที่รู้สึกเจ็บข้อมือไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกไป ...ปรับอารมณ์ตามไม่ทัน บทจะนิ่งก็นิ่งสนิทไปซะเฉยๆ 

     

    ตุบ!

      

    “ เหวอ! ” 

     

    เป็นรอบที่สองของวัน ที่อยู่ๆก็โดนโยนลงพื้นแบบไม่ได้ทันตั้งตัวแบบนี้... 

     

    พอมาถึงหน้าประตูปราสาทได้ เจ้าของใบหน้าคมก็ผลักตัวเขาลงไปกับพื้น สายตาคมกริบที่ซ่อนความหมายบางอย่าง จ้องมาที่เขาเพียงชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่แขนแกร่งทั้งสองข้างจะผลักประตูไม้ท่าทางแข็งแรงเข้าไป ...แล้วเดินนำเข้าไปทั้งอย่างนั้น โดยไม่มีการกระชากข้อมือให้เดินตามเข้ามาอีก 

     

    “ จงจำเอาไว้... เจ้ามาที่นี่ในฐานะสิ่งชำระหนี้เท่านั้น อย่าได้ทำตัวสนิทสนมกับข้าให้มากนัก ” บทสนทนายาวเหยียดเพิ่งถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเป็นครั้งแรก เสื้อคลุมที่มีขนเฟอร์ถูกสะบัดออก โยนมาอยู่ตรงหน้าของคนที่กำลังนั่งลำดับเหตุการณ์ที่พื้นด้วยความไม่เข้าใจอย่างพอดิบพอดี

     

    ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเด็กนี่... ไม่รู้จักแม้แต่วิธีปฏิบัติที่อ่อนโยนต่อผู้อื่น

     

    เพราะเป็นอสูรที่ไร้หัวใจ...  

     

    “ อีกเดี๋ยวจะได้เวลาอาบน้ำของข้า... เจ้าจงไปเตรียมห้องอาบน้ำให้ข้าให้เรียบร้อยซะ ” ออกคำสั่งอย่างไม่เกรงใจ ก่อนที่ทั้งร่างจะก้าวหายไปในความมืดของปราสาท 

     

    แต่ถึงจะพูดจาโหดร้ายเช่นนั้นไป... ถึงจะออกคำสั่งเช่นนั้นไป... 

     

    ในขณะเดียวกัน หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้นานแสนนาน ...กลับค่อยๆมีจังหวะการเต้นกลับมาอีกครั้ง 

     

    ไม่เข้าใจเลยจริงๆ... 

     

    “ อะไรของหมอนั่นกันนะ... ” 

     

    ลูฟี่มุ่ยหน้าเข้าหากันด้วยความขัดใจ มือเล็กรวบเสื้อคลุมนั้นเข้ามาไว้ในมืออย่างงงๆ ก่อนที่ริมฝีปากบางจะส่งเสียงหัวเราะชิชิออกมา เมื่อเจ้าตัวดันได้ไอเดียใหม่ๆ แขนเล็กวาดเสื้อคลุมขนเฟอร์ขึ้นมาวางบนไหล่ตัวเองก่อนยกยิ้มภูมิใจ 

     

    ...คิดมาซักพักแล้วล่ะว่าเสื้อคลุมนี่มันเท่ห์ชะมัดเลย ทำไมถึงไม่มีใครเอาชุดแบบนี้มาให้เขาใส่บ้างนะ 

     

    เหมือนกับโดนสั่งให้ทำอะไรซักอย่าง... ไปเตรียมน้ำให้คนๆนั้นอาบงั้นหรอ 

     

    คนที่นี่เป็นอะไรกันหมด... ทำไมเขาจะต้องมาโดนออกคำสั่งอย่างนั้นอย่างนี้ตลอดเวลาด้วยนะ 

     

    คิดในใจไปอย่างนั้น แต่ร่างนั้นก็ค่อยๆพยุงตัวเองขึ้น ดวงตากลมโตกวาดมองซ้ายขวา ปราสาทนี้มันกว้างเกินกว่าที่เขาจะรู้ได้ว่าห้องอาบน้ำไปทางไหน... แต่ทันใดนั้น ทั้งร่างก็พลันล้มพับลงไปนั่งในท่าเดิมอีกครั้ง พร้อมๆกับสีหน้าที่พลันเปลี่ยนอารมณ์ไป 

     

    ….อยู่ๆความเจ็บปวดก็แล่นขึ้นมา ไม่มีแรงพอให้ร่างนั้นลุกขึ้นยืนโดยปกติได้เลย 

     

    “ เอ๊ะ...? ”

     

     

    ทำไมกัน...?

      













    อัพแล้วค่าาาาา 
    ลูฟี่โดนแย่งมาแล้ว ยังไงฟี่ก็เป็นของทุกคน จะอยู่กับคนใดคนนึงตลอดไปไม่ได้หรอกเนอะ(?)
    จนแล้วจนรอดก็ยังไม่บอกชื่อพระเอกของตอนกันซะงั้น
    ตอนแรกกะจะแต่งให้คูนี้เค้าSM ซักหน่อย ทำไมมันออกมาง้องแง้งอย่างนี้ก็ไม่รู้ค่ะTuT
    เฮียเสือเอาแต่ใจเกินไปแล้ววว เหมือนเด็กเลยง่อออ

    ลองมาเดาเล่นๆกันดูค่ะว่า เรื่องที่เรายกมาเขียนแต่ละคู่มาจากการ์ตูนเรื่องอะไรบ้าง?


    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×