คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : ◣Fanfic◥ [AllxLuffy] Candied dream : Beginning of the tale(2) (Part2)
Rate: PG-13
Writer: PINKUHERO
Part: 2/20
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
" ยินดีต้อนรับกลับขอรับ
องค์หญิง "
" ฮะ...?
"
คนถูกเรียกได้แต่หันมองซ้ายขวาอย่างไม่เข้าใจนัก
ก่อนที่เสียงเล็กๆนั้นจะบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆพอให้ได้ความว่า 'หมายถึงใคร'
ครั้นพอคิดว่าตัวเองอาจจะหลงเข้ามาในที่แปลกๆเข้าแล้ว
ปลายเท้าเล็กๆนั้นก็ยืดส่งร่างที่สูงน้อยกว่าคนตรงหน้าขึ้นมองบริเวณรอบๆ
แต่สถานที่นั้นก็ยังไม่ห่างไกลไปจากคำว่าห้องโถงอยู่ดี
" นี่นาย... " ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองบุคคลนิรนามตรงหน้าหวังถามสิ่งที่กำลังสงสัย
ชายในชุดพ่อบ้านขานรับอย่างรู้หน้าที่
" ขอรับ..? "
"
ทางไปร้านอาหารอยู่ตรงไหนหรอ ...ฉันหิวแล้วล่ะ "
คำถามกับใบหน้าอิดโรยของคนตัวเล็กทำเอาชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง
รอมานานจริงๆ...
เพราะคำสั่งให้รอคอยจนกว่าเจ้าหญิงจะมาถึงทำให้เขาไปไหนไม่ได้
จนบางครั้งนึกท้อใจว่าตนต้องรอไปตลอดกาลหรือเปล่า... มันช่างโดดเดี่ยวและเหน็บหนาวเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจได้
ในที่สุดคนๆนี้ก็มาถึง... จะเรียกว่านี่คือสิ่งที่โชคชะตากำหนดมาให้ได้หรือเปล่า ใบหน้าที่ดูใสซื่อ
ผิวขาวเนียนละเอียดกับดวงตากลมโตสีดำขลับเหมือนลูกกวางที่น่าหลงใหลอย่างน่าประหลาดนั่น
ขนาดตัวเล็กบอบบางอย่างสังเกตได้ ถึงแม้จะกำลังสวมใส่เสื้อที่หลวมโคร่งอยู่ก็ตาม
คนๆนี้... จะต้องเป็นเจ้าหญิงที่เฝ้ารอคอยไม่ผิดแน่
ท่าทางน่ากดแบบนี้ไม่ผิดแน่...
"
หากท่านประสงค์จะเสวยอะไรซักหน่อยล่ะก็... ก่อนอื่นได้โปรดเปลี่ยนชุดก่อนเถิดขอรับ
"
ริมฝีปากของคนตัวสูงกว่ายังคงรอยยิ้มเอาไว้เช่นเดิม
ในขณะที่ดวงตาคมสีน้ำตาลก็ไล่กวาดมองสภาพของเด็กหนุ่มตรงหน้า
ยิ่งทำให้ลูฟี่รู้สึกงงงวยไปมากกว่าเดิม
"
แล้วทำไมฉันจะต้องทำอย่างนั้นด้วย...? "
" แย่จังนะขอรับ...ใครเอาชุดสามัญชนเช่นนี้ให้ท่านใส่กันนะ เจ้าชายกำลังรออยู่ที่ห้องอาหารเสียด้วยสิ ”
ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่มือเรียวจะดันหลังของคนตัวเล็กไปข้างหน้า
ทำเอาใบหน้าหวานนั้นออกอาการเหวอๆขึ้นมาด้วยความตกใจ
มือข้างหนึ่งของคนเป็นพ่อบ้านผายไปยังบานประตูบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าหลังจากเดินมาได้ระยะทางไม่มากนัก
" เอาล่ะ... เรามาเปลี่ยนชุดกันเถอะขอรับ
" ประตูถูกเปิดโดยคนๆนี้อีกครั้ง ลูฟี่ทำท่าทางลังเลอยู่พักหนึ่ง
แต่ก็ยอมก้าวเข้าไปข้างในแม้ยังงุนงงอยู่
"
พูดจาอะไรวุ่นวายชะมัด... ทำไมในร้านอาหารแบบนี้ถึงมีเจ้าชายอยู่ได้นะ
"
มีอะไรที่ไม่เข้าใจตั้งมากมาย
ทำไมถึงต้องเข้าไปเปลี่ยนชุดด้วยนะ... ธรรมเนียมของร้านหรือไงกัน?
ภาพเบื้องหน้าคือห้องขนาดใหญ่ที่มีตู้เสื้อผ้าจัดเรียงอยู่เต็มไปหมด
เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ รองเท้า
ทุกอย่างถูกจัดเอาไว้เป็นหมวดๆอย่างมีระเบียบ
แต่สิ่งที่ทำให้ของเหล่านั้นดูพิเศษขึ้นมา คงเป็นความระยิบระยับและอลังการเกินกว่าจะที่คนทั่วไปจะใส่ออกไปเดินนอกบ้านได้
อย่างเช่นสร้อยเพชรแสนอลังการ กับมงกุฎสีทองที่ประดับไปด้วยเพชรนิลจินดามากมายนั่น...
นี่มันสถานที่แบบไหนกันแน่เนี่ย...?
" ท...ท่าน! ท่านจริงๆด้วย! "
แต่แล้วเสียงทุ้มหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะที่กำลังตื่นตาตื่นใจ
ร่างของชายผู้นั้นแทรกตัวออกมาจากหลืบตู้ด้วยท่าทางตื่นเต้น
ใบหน้าของเขาดูจะโหดร้ายกว่าท่าทางที่แสดงออกมาพอสมควร
ผมสีเขียวสว่างถูกเซ็ตให้เรียบไปด้านหลัง จะเว้นก็แต่ตรงกลางศีรษะที่ตั้งขึ้นจนลูฟี่รู้สึกว่ามันคล้ายกับหงอนไก่
ร่างใหญ่สวมเสื้อคลุมสีม่วงแดงมีขนเฟอร์
กับกางเกงลายตารางสีแปลกๆ ซึ่งรวมๆกันแล้ว
คนๆนี้ดูน่ากลัวมากกว่าน่าทำความรู้จักเสียอีก...
"
ในที่สุดท่านก็มาแล้ว น่ายินดีเหลือเกิน... " น้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาของชายคนนั้นเป็นทางพร้อมๆกับเสียงสะอื้น
ใบหน้าโหดขึ้นสีแดงแจ๋ กับสายตาที่เหมือนจะเปล่งประกายได้อยู่รอมร่อ
กำลังซาบซึ้ง
ตื้นตันอย่างถึงขีดสุด...
"
หมอนั่นเป็นอะไรน่ะ " กลายเป็นลูฟี่ที่ต้องหันไปถามคนผมชมพูข้างๆกันด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ
ผู้ชายผมเขียวบ่นงึมงัมอะไรบางอย่างกับตัวเองซักพัก
แล้วเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่ดูจะใหม่กว่าตู้อื่น มือของเขาคว้าประตูตู้ออก
สิ่งของที่อยู่ข้างในทำเอาดวงตากลมโตของลูฟี่ต้องเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ
กระโปรง... ทำไมมีแต่กระโปรงฟูฟ่องเต็มไปหมดเลย!
"
ดูเหมือนนี่จะใหญ่ไปซักหน่อย " เขาเดินเอากระโปรงแสนอลังการนั้นมาทาบกับร่างบอบบางด้วยใบหน้าติดเขิน น่าเสียดายที่ขนาดมันใหญ่เกินไป
จึงหันกลับไปเลือกชุดอื่นต่อโดยไม่ได้สนใจสีหน้าแตกตื่นของเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
" ด..เดี๋ยวสิ
อะไรของพวกนายเนี่ย! ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารหรือไง
" พอเห็นท่าไม่ดี เสียงเล็กก็เริ่มโวยวายขึ้น หันมองซ้ายขวา
จนกระทั่งสายตาไปหยุดยังที่พึ่งที่ดูจะมีประโยชน์สุดในเวลานี้อย่างพ่อบ้านคนเก่าคนเดิม
ไม่มีร้านอาหารที่ไหนเขาเอาชุดเจ้าหญิงให้ลูกค้าใส่หรอกนะ! ...เขาดันซื่อบื้อเองที่ความรู้สึกช้าเกินไป
และสิ่งที่ตอบกลับมาจากพ่อบ้านคนนั้นก็เป็นเพียงรอยยิ้มพิมพ์ใจ
ซึ่งดูจะพอใจกับท่าทางของคนตัวเล็กไม่น้อย
" ไม่ใช่ขอรับ
"
" ว่าไงนะ! " ใบหน้าหวานแสดงความตกใจออกมาอย่างไม่ปกปิด
ควานหาโทรศัพท์มือถือเพื่อหยิบขึ้นมาดูเวลาอย่างเอาเป็นเอาตาย
มีหวังวันนี้คนชื่อลูฟี่จะได้ชะตาขาดในไม่ช้าแน่
ยิ่งแย่ขึ้นไปอีกเมื่อแบตเตอรี่เจ้ากรรมดันมาหมดเอาในเวลานี้ซะได้
ซวยจริงๆเลย...ลูฟี่
" ฉันจะไปแล้ว
ถ้าผิดนัดฉันต้องแย่แน่ๆ! "
สายตามองไปยังประตูบานเดิมที่เคยผ่านเข้ามา
มีแต่ต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิมเท่านั้น
ปลายเท้าทั้งคู่จึงรีบเร่งความเร็วออกไปโดยไม่ลังเล
แต่แล้วร่างบางก็ลอยหวือกลับมาที่เดิมพร้อมกับใบหน้าเหวอๆ ด้วยแรงกระชากจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
" เดี๋ยวสิขอรับ... ผมคงให้ท่านออกไปในชุดนั้นไม่ได้
"
เสียงนุ่มพูดขึ้นตรงหน้า
แขนที่ไม่ได้มีกล้ามเนื้ออะไรมากมาย
แต่ก็แข็งแรงพอที่จะโอบร่างเล็กๆนั้นเอาไว้ในอ้อมแขนได้ทั้งหมด
ระยะห่างเพียงแสนสั้น
ใบหน้าที่ใกล้กันจนมองเห็นรายละเอียดของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
ใกล้เกินไปแล้ว... แถมคนอย่างเขายังมาโดนผู้ชายด้วยกันกอดอีก...
"
เปลี่ยนชุดก่อนสิขอรับ... แล้วผมจะพาท่านไปยังห้องอาหาร
" ใบหน้าคมติดน่ารักเผยรอยยิ้มกว้าง ทั้งท่ายืนแปลกๆ ทั้งรอยยิ้มนั่น
ต่อให้เป็นคนอย่างลูฟี่ก็ต้องมีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาบ้าง
ในช่วงเวลาที่กำลังป้ำๆเป๋อๆจึงเผลอตอบตกลงไปโดยไม่รู้ตัว
" อ..อื้อ ...ก็ได้ " ก่อนจะใช้มือเล็กทั้งสองข้างผลักอกของคนเป็นพ่อบ้านออกไปเบาๆ
กระโปรงลูกไม้ฟูฟ่องสีม่วงอ่อนสวมใส่ไปบนร่างบอบบางนั้นได้อย่างพอดิบพอดี
แขนทั้งสองข้างพองออกเหมือนชุดตุ๊กตา
บริเวณปกเสื้อและเอวประดับไปด้วยโบว์หลากหลายขนาด ขับให้ใบหน้าและผิวพรรณที่ดูน่ารักอยู่แล้วยิ่งดูหวานมากขึ้นไปกว่าเดิม ...เหมือนกับตุ๊กตาไม่มีผิด
มือของชายหน้าโหดที่กำลังใส่ชุดให้สั่นเป็นเจ้าเข้า
ใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการรูดซิปชุดนั้นขึ้น
ผิวของเด็กหนุ่มที่เนียนนุ่มและขาวขนาดนั้น ทำเอาสติสตางค์ของเขาแทบไม่อยู่กับตัว
" นี่... ฉันไม่ชอบชุดนี้อ่ะ
ไม่ใส่ได้มั๊ย " เสียงเล็กถามขึ้นพร้อมใบหน้าติดขยาด
" ไม่ได้ขอรับ
" เจ้าของทรงผมหงอนไก่ที่ยังคงรูดซิปไม่เสร็จตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
และนั่นก็ทำให้ใบหน้าหวานต้องมู่เข้าหากันด้วยความขุ่นเคือง
" นี่ฉันเป็นผู้ชายนะ! ไอของฟูฟ่องแบบนี้ไม่เอาหรอก! " ว่าพลางจับๆเอาปลายลูกไม้ของกระโปรงขึ้นมามองด้วยใบหน้าถอดสี
เขาไม่ใช่หุ่นลองเสื้อที่อยู่ๆจะจับไปใส่ชุดอะไรก็ได้เสียหน่อยนะ...
ชุดที่รัดแน่นเข้ากับลำตัวแบบนี้ทำให้อึดอัดจนอยากดึงออกไปเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ
"
โปรดยืนนิ่งๆซักพักนะขอรับ "
ท่าทางที่ยุกยิกตลอดเวลาทำให้คนผมเขียวอดที่จะล็อกร่างนั้นไว้กับที่ไม่ได้
สัมผัสจากมือหยาบทั้งสองข้างที่ล็อกเอวบอบบางเอาไว้
ทำให้ลูฟี่ต้องสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ
พอผู้ชายด้วยกันมาสัมผัสตัวแบบนี้แล้ว
มันทำให้รู้สึกแปลกพิกลยังไงก็ไม่รู้...
เจ้าของเสียงใสยอมสงบปากสงบคำลงไปอย่างว่าง่าย
แต่กลับกลายเป็นคนยืนจัดระเบียบชุดที่กำลังหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆจนสังเกตได้
ทั้งการสัมผัสร่างกายนิ่มๆของคนๆนี้โดยตรง ทั้งแผ่นหลังบางๆขาวๆที่อยู่ตรงหน้านี่
ทำเอาอุณหภูมิในร่างกายของเขาสูงขึ้นเรื่อยๆจนแทบระเบิด
" อั่ก ไม่ไหวแล้ว... ดาเมจรุนแรงยิ่งนัก! " ผละออกจากร่างนั้นอย่างรวดเร็ว
ทิ้งไว้เพียงหยดเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นทาง
และเสียงประตูที่ปิดกระทบกันดังจนน่าตกใจ
"
เป็นอะไรของหมอนั่นกัน " ลูฟี่จึงได้แต่มองตามไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
ปลายเท้าทั้งคู่พาร่างบางเดินไปหาคนผมชมพูที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไป
" นี่นาย
ที่บอกว่าจะพาไปร้านอาหารนี่จริงใช่เปล่า ...ฉันอยากออกจากที่นี่แล้วอ่ะ "
พ่อบ้านคนนั้นเพียงเผยรอยยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าก่อนตอบกลับ
"
อย่าเพิ่งรีบร้อนไปสิขอรับ ที่นี่ยังมีอีกหลายสิ่งที่ท่านจะต้องทำ "
หลายอย่างที่ต้องทำ... พูดจาอะไรแปลกๆอีกแล้ว
แค่ไปร้านอาหารทำไมต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมายนักก็ไม่รู้
" ไม่เอาแล้ว! ฉันจะต้องไปหานามิ เธอรอฉันอยู่นะ! "
"
เดินตามผมมาทางนี้เลยขอรับ " ราวกับบทสนทนาก่อนหน้าถูกเมินไปหมด
ประโยคที่แกมออกคำสั่งนั้นถูกกล่าวขึ้นมาโดยไม่ให้ลูฟี่ได้มีตัวเลือก
เมื่อทั้งห้องมีทางออกแค่ประตูเดียวเท่านั้น...
สับสนไปหมด...
คิดไปเองหรือเปล่านะว่าโถงหน้าห้องนี่มันเปลี่ยนไป
แอด...
ไม่นานนักประตูบานใหม่ก็ถูกเปิดขึ้นหลังจากเดินออกมาข้างนอกได้ซักพัก
...ตามคำสัญญา พ่อบ้านคนนั้นดูเหมือนจะพาเขามายังห้องอาหารจริงๆ
เพราะตรงหน้าคือห้องที่ประกอบไปด้วยโต๊ะยาวกับเก้าอี้พนักสูง
ขนาดที่ต่อให้สิบคนนั่งก็ยังเหลือที่อีกเหลือเฟือ ทั้งห้องโอ่อ่าไปด้วยการตกแต่งของเครื่องแก้วตั้งแต่หน้าต่างไปจนถึงโคมไฟติดเพดาน
อดทำเอาคนตัวเล็กอึ้งไปพักหนึ่งไม่ได้ ...กว่าจะรู้ตัวอีกทีพ่อบ้านคนนั้นก็หายไปซะแล้ว
" อา... งดงาม งดงามอะไรเช่นนี้
"
เสียงนุ่มทุ้มที่แว่วขึ้นมาท่ามกลางความเงียบส่งให้ลูฟี่หันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ บางสิ่งผ่านสายตาคู่สวยไปด้วยความเร็วสูง
หมุนควงร่างตัวเองอยู่กับที่จนชลอลงและหยุดนิ่ง
จากนั้นจึงมีกลีบดอกกุหลาบสีแดงจำนวนไม่มากไม่น้อยถูกโปรยลงกับพื้น
ราวกับฉากเปิดตัวพระเอกในการ์ตูนตาหวาน
ถ้ามองไม่ผิด... มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังหมุนตัวอยู่ตรงหน้าเขา
แล้วก็โยนกลีบกุหลาบขึ้นฟ้าเองอยู่หรือเปล่านะ..?
จุ๊บ...
" ข้าคือคาเวนดิช
เจ้าชายที่เฝ้ารอท่านมานานแสนนาน... "
หลังมือของคนตัวเล็กถูกช่วงชิงไปด้วยสัมผัสจากริมฝีปากของชายที่เพิ่งเดินมาหยุดตรงหน้า
ลูฟี่ได้เพียงแค่คิดในใจว่าคนอะไรชื่อเรียกยากขนาดนี้
ผมยาวบลอนด์สีทองที่ถูกจัดทรงให้ทับกันเป็นเกลียวๆกับปกคอเสื้อทรงสูงแบบนั้น
แวบแรก คำที่เข้ามาในสมองของของเขาเลยก็คือ...
" กะหล่ำปลี ฉันจะออกจากที่นี่ได้ยังไง " ถามออกไปด้วยใบหน้าที่แสนจะใสซื่อ
ในขณะเดียวกันก็ตั้งใจเมินคำพูดแปลกๆที่อีกฝ่ายส่งมาให้ไปทั้งอย่างนั้น
(**Cavendishในภาษาญี่ปุ่น
สองคำแรกจะอ่านออกเสียงคล้ายๆคำว่า Cabbage ซึ่งแปลว่ากะหล่ำปลีนั่นเองค่ะ)
" ชู่ว์... คาเวนดิชสิ
ท่านเพิ่งมาถึงที่นี่เองนะ จะรีบร้อนไปไหนกันเล่าเจ้าหญิง? " นิ้วเรียวยกขึ้นมาสัมผัสกลีบปากสีชมพูอ่อนของคนตัวเล็กเบาๆ
ก่อนที่ใบหน้าคมคายที่ยื่นเข้ามาใกล้จะเผยรอยยิ้มเล็กน้อย
ทั้งยังไม่ลืมแก้ชื่อตัวเองให้เรียบร้อย
ลูฟี่หดหน้าตัวเองไปด้านหลังให้ระยะห่างระหว่างคนสองคนมีมากขึ้น
ในขณะที่คิ้วเรียวทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันด้วยความโมโหน้อยๆ
นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายของเขาเลยนะ...
" นี่กะหล่ำปลี
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงนะ! แล้วฉันก็ต้องรีบไปหาเพื่อนแล้วด้วย
"
" คาเวนดิชขอรับ... พูดเหมือนท่านกำลังทำเมินข้าอยู่เลยนะ
" อดไม่ได้ที่จะทำใบหน้าเจ็บปวด มือเรียวเนียนโอบไหล่บอบบางของคนตัวเล็ก
ก่อนออกแรงส่งเบาๆให้เดินตรงไปยังเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้า
" มาเถอะ... อีกเดี๋ยวอาหารก็จะถูกนำมาให้ท่านแล้ว
"
พอมีคำว่า 'อาหารใกล้จะมาถึงแล้ว' เข้ามาเกี่ยวข้อง
กลับกลายเป็นการทำให้คนตัวเล็กยอมเดินมานั่งโดยง่ายดายซะแบบนั้น
อาหารมากมายที่มีพ่อบ้านยกมาเสิร์ฟให้ถึงที่
ล้วนเป็นอาหารหน้าตาอลังการที่ลูฟี่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่หน้าตาของมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับคนแบบเขานักหรอก...
กินเข้าไปแล้วอร่อยก็เป็นพอ...
ไอท่าทางที่แสดงว่าอยากจะออกไปจากที่นี่แบบเมื่อกี๊หายไปไหนแล้วนะ...
" ท่านนี่เสวยได้มากมายผิดกับขนาดตัวที่บอบบางนั้นนัก
" อดไม่ได้ที่คนเป็นเจ้าชายจะแสดงอาการแปลกใจออกมา
แต่ริมฝีปากได้รูปกลับค่อยๆปรากฏรอยยิ้มมีความสุข
และสายตาที่ทำให้ขนมหวานในจานจืดเป็นน้ำเปล่าได้ทันตา...
"
ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังน่ารัก ...เหมาะสมกับคนงดงามเช่นข้าจริงๆ "
มือไม้เริ่มวาดลวดลาย
ประดับไปด้วยฉากหลังที่เจ้าตัวแอบโยนกลีบกุหลาบขึ้นไปอีกครั้ง
งดงาม... น่ารัก... จะหาคำใดมาเปรียบคนตรงหน้าได้กัน
ปัง!
แต่แล้วเสียงของของแข็งที่กระทบเข้าหากันอย่างจังก็ดังขึ้นขัดจังหวะได้อย่างประจวบเหมาะ
ทำเอาคนในห้องอาหารต้องสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ
ไม่นานนักก็ตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ไกลเกินกว่าจะฟังได้ศัพท์
ลูฟี่เริ่มจูนสติกลับมาที่เดิมได้อีกครั้ง... โดนอาหารล่อตาล่อใจซะจนลืมไปสนิทเลยว่า เขานัดกับเพื่อนผมส้มเอาไว้
พอลองคำนวณเวลาที่ตัวเองเลทไปแล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลายเอื้อก
ต้องรีบออกจากที่นี่แล้ว... มัวทำอะไรอยู่กันเนี่ยเรา
" นี่ กะหล่ำป—... "
" คาเวนดิชขอรับ ..ไม่มีอะไรที่ท่านต้องกังวล
ความวุ่นวายเหล่านั้นข้าจะเป็นคนจัดการเอง " คนผมทองตอบกลับมา
ใบหน้าคมคายนั้นดูจริงจังกว่าทุกครั้ง เสียงที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงโวยวายนั่น
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร
แม้เหตุการณ์เหล่านั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นตรงหน้าก็เถอะ...
สิ่งที่กังวลใจกำลังเข้าใกล้มาเรื่อยๆเสียแล้วสิ...
ลูฟี่เพียงขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจนัก
ดูเหมือนคนตรงหน้าจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อผิดไปหน่อย
มันจะเกี่ยวกันกับเสียงดังเมื่อกี๊ที่ได้ยินหรือเปล่านะ...
เวลาแห่งความสุขของคนเรามักไม่ยืด
เมื่อเสียงปลายเท้าหนักๆก้าวเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ประตูห้องอาหารถูกกระชากออกจนกระทบกับผนัง
ร่างใหญ่ของผู้มาใหม่เดินเข้ามาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นัก
การแต่งกายด้วยผ้าโทนดำแต่ก็เป็นผ้าเนื้อดี บ่งบอกฐานะของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี...
รอบข้างคือพ่อบ้านผมชมพูและคนผมเขียวสว่างที่พยายามห้ามปรามอย่างเต็มที่
แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้อารมณ์ที่ครุกครุ่นของคนๆนั้นสงบลงได้แม้แต่น้อย
" หุบปาก "
เสียงทุ้มของผู้มาใหม่ดังก้องไปทั่วห้องกว้าง
เรียบสนิทแต่กลับมีอำนาจให้ทุกคนเงียบไปโดยฉับพลัน
ดวงตาคมกริบดุจสัตว์ร้ายกวาดมองไปรอบๆห้อง
" คาเวนดิช
ข้ามาเพื่อตรวจสอบความผิดปกติที่นี่ " ก่อนที่สายตาคู่เดิมจะย้ายมาหยุดยังใบหน้าของคนที่เรียกตัวเองว่าเจ้าชาย
"
เจ้าเปิดรับคนนอกเข้ามาที่นี่ ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎได้อย่างไร "
สายตาคู่คม
ใบหน้าและท่าทางเคร่งขรึมทำให้คนๆนั้นดูมีอำนาจอย่างล้นหลาม
ทั้งลวดลายแปลกๆที่ปรากฏขึ้นบนแขนแกร่งซึ่งดูจะผ่านการฝึกฝนมาพอสมควร
ทำให้ลูฟี่รู้สึกราวกับว่า เขาคนนั้นเหมือนกับอสูรในร่างมนุษย์ไม่มีผิด...
" หึ...ยังเป็นอสูรที่ไร้จิตใจเช่นเคยนะ เจ้าก็รู้ว่าพวกเรารอคอยเจ้าหญิงมานานเพียงใด " ร่างโปร่งของคาเวนดิชยันตัวขึ้นยืนเต็มความสูง
เดินออกมาประจันหน้ากับผู้มาใหม่โดยไร้ความเกรงกลัวพร้อมรอยยิ้มหยัน
" เหอะ
ไร้สาระสิ้นดี ...หากคนที่เดินเข้ามาที่นี่นั้นเป็นเจ้าหญิงจริง
ถ้าเช่นนั้นจะเป็นใครก็ได้งั้นหรือ? "
" ท่านก็เป็นเช่นนี้... ยังเป็นคนที่ไม่เชื่อในพรหมลิขิตเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
"
การสนทนาที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใครได้ดำเนินต่อไป... ชายผู้มาใหม่พยายามข่มอารมณ์ครุกครุ่นของตัวเองเอาไว้
เจ้าคนผมทองตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรผิดไปเลยแม้แต่นิด... เพราะว่าไม่เชื่อ เขาจึงต้องมาเพื่อยืนยันความจริงด้วยสายตาของตัวเองเท่านั้น
เพราะเมื่อความจริงแห่งปาฏิหาริย์ได้ปรากฏขึ้นแล้ว...
เหตุผลที่เขามาที่นี่มันจึงได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น...
"
ข้ายังไม่ชำระบัญชีที่คราวที่แล้วเจ้าบังอาจรุกล้ำเข้าไปในสวนดอกไม้ของข้า... "
มาในฐานะของผู้ดูแลความถูกต้อง... เหตุผลมากมายที่ยกขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้าง
" โอ๊ะ จริงสิ... ข้าต้องขออภัยอย่างยิ่ง
" คนผมบลอนด์โค้งตัวลงขอโทษตามมารยาท
ต่อหน้าผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการกีดกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้ปราสาทของตน
...เพราะเผลอเหยียบย่างเข้าไปในปราสาทของอสูร
นับว่าโชคดีนักที่ยังกลับมานั่งสบายใจในปราสาทของตัวเองได้
"
ข้าคงมิกล้ารุกล้ำเข้าไปเป็นครั้งที่สอง ถ้าหากท่านไม่รังเกียจก็เชิญ... "
" ของในห้องนี้... ท่านอยากได้อะไรกันล่ะ
" คนเป็นเจ้าชายผายมือไปรอบๆห้อง
แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากชายในชุดสีมืดมีเพียงความเงียบ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบตัว
ก่อนจะสะดุดเข้ากับบุคคลที่ไม่คุ้นหน้า
" ว่ายังไงล่ะ
หรือว่าท่านจะไม่เอาอย่างนั้นหรือ..."
คนมาใหม่กระหยิ่มยิ้มภายในใจ...
เหตุผลอันแยบยลที่เขาสามารถยกขึ้นมาเพื่อหลอกลวงคนๆนี้ได้
...เข้าทางพอดีราวกับจับวาง
เพื่อค่าตอบแทนอันคุ้มค่า...
ค่าตอบแทนที่บังอาจบุกรุกไปยังที่ส่วนตัวของเขา... มันร้ายแรงกว่าที่คนตรงหน้าคิดนัก
ริมฝีปากได้รูปเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่ง
ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะยกขึ้นชี้ไปยังตำแหน่งของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
...ผู้ชายคนนี้พลาดท่าเข้าเสียแล้วที่นำเสนอข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้ขึ้นมา
ค่าตอบแทน... เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ
" ข้าอยากได้... เด็กคนนั้น "
การรอคอยนั้นทรมานและนานแสนนาน...
จนไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงเมื่อใด...
ทุกคนต่างก็เฝ้าคอย... เวลาแห่งโชคชะตานั้น
และเขาคนนั้น... ก็มาถึงแล้ว
แลดูเรื่องมันค่อนข้างวุ่นวายจัง งงตรงไหนก็มาถามไรเตอร์ได้นะคะ-.,-
หลังจากนี้ฟี่ต้องเจอศึกหนักอีกมากมายแน่นอน
จะอะไรนักหนากับคนที่กำลังจะไปกินข้าวที่ร้านอาหารเนี่ย จะว่าซวยหรือโชคดีดี?
ถ้าเป็นไรเตอร์จะยอมหลุดเข้าไปแต่โดยดีเลยค่ะ-.,-
ป่านนี้นามิก็คงรอจนเก้อไปแล้วแน่ๆ...
แล้วเจอกันพาร์ทหน้านะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่า
ความคิดเห็น