คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ▴[AU Fic Spideypool] DANGEROUSLY (Wade x Peter)-Part1
คำแนะนำก่อนอ่าน
ฟิคเรื่องนี้อ้างอิงจากคอมมิค Spiderman/Deadpool
เป็นเรื่องราวใน Earth-616 ที่ปีเตอร์อยู่ในช่วงวัยทำงานและมีบริษัทของตัวเองค่ะ
เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้เปิดเพลงคลอไปด้วยนะคะ :)
DANGEROUSLY
‘ว่ากันว่าเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเมื่อฟ้าฝนเป็นใจ’
Manhattan, New York City ; 8:19 PM
บรรยากาศครึกครื้นของเมืองแมนฮัตตันกำลังดำเนินไปอย่างเช่นทุกวัน
โดยเฉพาะวันนี้ที่ดูจะมีผู้คนออกมาเดินขวักไขว่กันตามท้องถนนมากกว่าปกติ
หิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่
ปุยสีขาวสะอาดร่วงโรยลงมาจากท้องฟ้าที่ในเวลานี้ฉาบไปด้วยสีดำสนิท
บนตึกรามสูงตระหง่านประดับไปด้วยแสงไฟหลากสี
บ้างก็มีภาพเคลื่อนไหวบนจอLEDบ่งบอกถึงเทศกาลประจำปีที่หลายคนต่างก็รอคอย
เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานบรรเลงคลอตลอดช่วงถนน
ต้นไม้สีเขียวรูปสามเหลี่ยมและผู้คนในชุดขนสัตว์ปุกปุยสีแดง
นั่นคงเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของค่ำคืนนี้
มีผู้คนมากมายกำลังสนุกอยู่กับการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง
แต่นั่นคงไม่ใช่สำหรับเขา ใยสีขาวเส้นเล็กทว่ามีความแข็งแรงโยงลงมาจากยอดตึก
พร้อมร่างหนึ่งที่โฉบผ่านป้ายโฆษณาเครื่องดื่มไปด้วยความรวดเร็ว
มือเรียวยกกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมามองเพียงชั่วครู่
และทำได้เพียงเก็บมันกลับลงสู่กระเป๋ากางเกงผ้าสเปนเด็กซ์
ที่แม้มันจะแนบเนื้อเสียจนไม่มีพื้นที่ให้ใส่สิ่งของใดๆลงไปเพิ่มแล้วก็ตาม
“ เจ้าพวกนั้นไม่เข้าใจความสุขของวันหยุดสุดสัปดาห์บ้างหรือไง
ถึงเลือกวันก่อเหตุได้ห่วยแตกขนาดนี้ ”
เหตุการณ์เป็นดังเช่นทุกวัน
ไม่มีวันหยุดสำหรับสไปเดอร์แมน ทั้งที่ตั้งใจว่าจะใช้เวลาว่างหลังสะสางงานที่บริษัทให้คุ้มค่า
สายตรงจากม็อคกิ้งเบิร์ดก็ดันติดต่อมาว่ามีเหตุโจรกรรมเกิดขึ้นกลางเมือง
และมันคงไม่วุ่นวายขนาดนี้หากเป้าหมายของการขโมยดันไม่ใช่สิ่งของอันตรายอย่างอาวุธสงคราม
และฝ่ายนั้นดันยึดคลังแสงเอาไว้ได้แล้วตามระเบียบ
‘แอบเข้าไปเบาๆอย่าให้ความแตกล่ะ
ฉันจะส่งกำลังเสริมเข้าไปตามทีหลัง’
เสียงจากเครื่องมือสื่อสารบริเวณข้อมือออกคำสั่ง
ปลายสายคือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของชิลด์
ริมฝีปากได้รูปภายใต้หน้ากากสีแดงระบายยิ้มขำ
“ พนันว่าฉันทำมันพังภายใน 5 นาทีแน่
เธอควรรีบมาดีกว่าอาคารนี้มันจะเละเทะไปซะก่อนนะ ”
ขึ้นชื่อว่าสไปเดอร์แมน งานที่ต้องอาศัยความเงียบไม่ค่อยถนัดหรอก
กลัวว่าฝีปากมันจะไปพาลหาเรื่องชาวบ้านเขาเข้าก่อนน่ะสิ
ปีเตอร์
ปาร์คเกอร์จำกัดการเคลื่อนไหวของตัวเองให้ช้าลงจนกลายเป็นเพียงการไต่ผนังไปอย่างเงียบเชียบ
เบื้องหน้าคือโกดังอาวุธที่กำลังจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานของชิลด์
แต่โชคร้ายดันมีคนช่วงชิงไปเสียก่อน
หน้าต่างบานเล็กก็เพียงพอจะทำให้ร่างกายที่มีกล้ามเนื้อสมส่วนแต่ปราดเปรียวสามารถแทรกตัวเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
“ ยั้วเยี้ยะอย่างกับมดแตกรัง ”
ดวงตาภายใต้หน้ากากกวาดมองไปทั่วโกดัง มีห้องมากมายที่ถูกกั้นไว้ด้วยผนังอย่างมิดชิด
มันดูลึกลับมากกว่าภายนอกที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงโกดังเก็บของรูปสี่เหลี่ยมธรรมดาๆ
ที่สำคัญยังมีคนเฝ้าตามจุดต่างๆอยู่ไม่น้อย
ราวกับกำลังรอต้อนรับภัยที่กำลังจะมาถึง
ใยสีขาวถูกพ่นจากปลายข้อมือตรงเข้าสู่กล้องวงจรปิดอย่างรู้งาน
ปลายเท้าทั้งสองข้างลงสัมผัสกับพื้นอย่างเงียบเชียบ
ตรงหน้าคือกลุ่มคนติดอาวุธที่ไม่ได้ทันระวังตัวจากด้านหลัง
ยืนเฝ้ารถขนอาวุธจอดเรียงรายเอาไว้ข้างกับกล่องบรรจุสิ่งของอีกหลายตั้ง
“ เฮ้พวก
ไม่เข้าใจกันหรือไงว่าของพวกนี้มันไม่ใช่ของนายน่ะ ”
ราวกับเป็นคำพูดกล่าวทักทาย
ฝ่ายตรงข้ามรีบคว้าอาวุธหมายจะลั่นไกตอบโต้มนุษย์ในชุดสีแดงที่เพิ่งปรากฏตัว
แต่ก็ช้ากว่าจังหวะที่มนุษย์แมงมุมได้ห้อยพวกเขาไว้กับเพดานในสภาพถูกห่อเป็นดักแด้เสียแล้ว
“ แต่อันที่จริงมันก็ไม่ใช่ของฉันด้วยเหมือนกัน ”
นึกถอนหายใจเบาๆที่ความปากดีของตัวเองยังไม่พาซวยให้คนพวกนี้ยิงปืนเรียกความสนใจจากกลุ่มก่อการร้ายที่เหลือมายิงพรุนเสียก่อน
เป้าหมายคือจับกุมหัวหน้าของกลุ่มก่อการร้ายนี้ให้ได้
หลังจากรายงานสถานการณ์คร่าวๆให้แก่ม็อคกิ้งเบิร์ดไป
บวกกับจัดการลูกกระจ๊อกตามทางที่ผ่านมาก็เข้าใกล้ห้องควบคุมแล้ว
ปีเตอร์รีบแทรกตัวเข้าไปหลังประตูก่อนจัดการคนที่อยู่ในห้องให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ระบบรักษาความปลอดภัยถูกปิดลงโดยคำสั่งจากปลายนิ้ว
เพียงเท่านี้ก็สามารถบุกได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมากังวลกับกล้องวงจรปิดอะไรอีก
อยากชื่นชมตัวเองที่ยังคงรักษาสถานการณ์ลักลอบเข้ามาได้อย่างเงียบเชียบ
ต่อไปจะได้ไม่ต้องโดนตำหนิจากชิลด์ว่าเป็นตัวทำลายสถานที่สาธารณะอีก
แต่ครั้นเมื่อก้าวออกมาจากห้องควบคุมได้
สไปเดอร์เซนส์ของเขากลับแจ้งเตือนอันตรายที่กำลังจะมาถึงในทันที ร่างเพรียวเบี่ยงตัวหลบกระสุนที่เฉี่ยวไปหูไปอย่างฉิวเฉียด
ก่อนที่เสียงปืนจำนวนมากจะไล่ตามหลังมา
สบโอกาสรีบพาตัวเองขึ้นไปหลบบนเพดาน
ปีเตอร์แน่ใจว่าเสียงปืนนั่นไม่ได้มีเป้าหมายมาที่เขา
เพียงแต่กระสุนที่เกือบเอาชีวิตเมื่อครู่เป็นแค่ลูกหลงจากใครบางคน ไม่แน่ว่ากำลังเสริมจากชิลด์อาจจะบุกเข้ามาแล้วก็เป็นได้
แต่ด้วยระยะทางจากศูนย์บัญชาการมาถึงที่นี่คงไม่รวดเร็วขนาดนั้น
“ บ็อบบี้ นั่นใช่เธอหรือเปล่— ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!?
”
ยังไม่ทันได้ติดต่อเพื่อยืนยันกับปลายสายให้แน่ใจ
ร่างของใครคนหนึ่งที่คุ้นตาก็ผ่านไปเสียก่อน ผู้ชายร่างโตในชุดสีแดงสลับดำ
เหน็บดาบไขว้เป็นรูปกากบาทไว้กลางหลังกำลังรัวยิงปืนสั้นในมือใส่คนที่วิ่งตามหลังมาเป็นโขยง
ในขณะที่ลำตัวของเขาเองก็มีกระสุนหลายนัดผ่านทะลุออกไป
และเลือดสีแดงฉานที่หยดไหลไปตามทางที่เคยผ่าน
‘ฮัลโหลพีท มีอะไรหรือเปล่า ฉันห่างจากที่นั่นอีกแค่นาทีเดี—’
“ เดดพูลอยู่ที่นี่!
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำงานให้ใคร ”
“ ไฮ~สไปดี้
บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะ ” เจ้าของชื่อเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หันมาทักทายพร้อมดวงตาบนหน้ากากที่หยีเล็กลง
ปีเตอร์รีบตัดสายหลังได้รับคำสั่งให้จับตาดูคนตรงหน้า
สรุปได้ว่าความพยายามจะลอบเข้ามาอย่างเงียบๆของเขากลับพังลงภายในเวลาอันสั้นเพียงเพราะผู้ชายคนนี้
ไม่รู้ว่าเขามีเป้าหมายอะไร แต่ดูเหมือนภารกิจในครั้งนี้จะยุ่งยากเสียแล้ว
เสียงลั่นไกปืนยังคงดังต่อเนื่องอีกหลายนัด
จนกระทั่งคนที่ไล่ตามผู้ชายร่างโตตรงหน้าจะถูกส่งไปสู่ความตายทั้งหมด
เป็นโอกาสให้ปีเตอร์ได้ถามไถ่ถึงเป้าหมายของอีกฝ่าย
“ ขอล่ะ...อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่โดนจ้างมาเพื่อก่อกวนฉัน
” เจ้าของหน้ากากแมงมุมเอียงคอเล็กน้อย
“ ไม่ใช่ใช่ไหม...? ”
จากประสบการณ์ที่เคยพบเจอทหารรับจ้างคนนี้
หลายต่อหลายครั้งมักถูกจ้างมาเพื่อก่อกวนการทำงานของเขาโดยไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการฆ่าหรือจับเป็นใดๆ
บทสุดท้ายมันจึงลงเอยด้วยการปะทะที่ไร้ประโยชน์
และปีเตอร์ไม่เคยเข้าใจว่าคนๆนี้จะรับงานแบบนี้มาเพื่ออะไร
พิจารณาความเป็นไปได้แล้วคงมีน้อยมาก
อย่างน้อยผู้ก่อการร้ายก็ไม่น่าจะจ้างเดดพูลมาเพื่อฆ่าลูกน้องตัวเองให้เสียเปล่า
“ ก็ไม่ใช่น่ะสิ!
นายคิดว่าฉันจะร้อนเงินขนาดรับงานจิปาถะทุกอย่างในโลกนี้เลยหรือไง? ”
“ ..... ”
“ ตอบเลยว่าใช่!
แต่เป้าหมายคราวนี้คือหัวหน้าของเจ้าพวกบ้านี่ และฉันต้องเจาะรูบนหัวมัน”
“ ถึงฉันจะรู้อยู่แล้วว่านายร้อนเงินตลอดเวลา
แต่นายฆ่าเขาไม่ได้เด็ดขาด ”
“ ฉันเองก็ต้องเลี้ยงปากท้องและน้องๆอีกสิบสองชีวิต
หมาไม่ได้กินข้าวมาแรมเดือน และแมวกำลังจะไตวาย ”
สิบสองชีวิตกับผีน่ะสิ...บ้านเขาเป็นสวนสัตว์เปิดหรือไงถึงได้เลี้ยงอะไรไว้เยอะแยะขนาดนั้น
ไม่ต้องเป็นสไปเดอร์แมนก็มองออกว่าเดดพูลถูกจ้างมาเพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้ชัดๆ
จะรับจ้างมาจากใครก็แล้วแต่ แต่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกฆ่าอย่างไร้เหตุผลทั้งนั้น
สไปเดอร์แมนและเดดพูลมีปณิธาณในการทำงานที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว
แต่โชคชะตามักเล่นตลกให้พวกเขามาพบกันบ่อยๆ
แม้เป้าหมายจะอยู่ที่การกวาดล้างองค์กรนี้เหมือนกัน
แต่วิธีทำงานของคนสองคนกลับไม่สัมพันธ์กัน
“ นายมันใจดำสไปดี้ ยังไงเราก็มีเป้าหมายร่วมกัน
ฉันล่าหัวมันนายก็จับตายมันไป วินๆกันทั้งคู่ไม่ใช่หรือไง? ”
“ ไม่เวด... นายห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด ”
‘ห้ามฆ่าใครเด็ดขาด’ นั่นคงกลายเป็นซิกเนเจอร์ของเขาไปเสียแล้ว
ไม่มีเวลาให้ทั้งคู่ได้มาปะทะฝีปากกับอีก ขายาวของเดดพูลก็วิ่งนำออกไป
ฮีโร่แห่งแมนฮัตตันจึงไม่รอช้ารีบสาวใยสีขาวของตนตามไปไม่ห่าง
มีสองย่อมดีกว่าหนึ่ง
การมีเดดพูลมาช่วยเคลียร์ทางทำให้สไปเดอร์แมนสามารถทำภารกิจได้เร็วขึ้น
แต่ต้องลำบากพยายามห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพลั้งมือฆ่าอย่างไร้เหตุผล
สายตรงจากม็อคกิ้งเบิร์ดติดต่อมาว่าพวกเขามาถึงแล้ว
แต่ต้องอยู่รับมือกับเหล่าลูกกระจ๊อกที่ดูจะยังไม่หมดลงง่ายๆ
เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ทั้งปีเตอร์และเวด วิลสันกำลังปะทะฝ่าเท้ากับผู้ร้ายในห้องบัญชาการใหญ่เสียแล้ว
“ ไม่เอาสิพวก
ลูกน้องนายคงเสียใจแย่ถ้าหัวหน้าไม่อยู่ด้วย ”
ใยแมงมุมสีขาวถูกยิงออกมาจากข้อมือของสไปเดอร์แมนสู่ร่างของชายคนหนึ่งได้ทันท่วงทีก่อนที่เขาจะหลบหนี
เวด
วิลสันเข้าถึงตัวชายคนนั้นได้ก่อน เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋าคาดเอวของตัวเองเพื่อค้นหากระสุนปืน
ก่อนส่งรอยยิ้มผ่านดวงตาแก่เหยื่อตรงหน้า
นั่นทำให้ปีเตอร์รีบสาวเท้าเข้าไปแทรกตัวอยู่หน้าคนตัวสูงกว่าแทบจะทันที
“ หยุดนะเวด ฉันจัดการต่อเอง ”
“ นายทำงานให้ชิลด์อีกแล้วหรือไง ”
“ ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้น ”
คนตัวเล็กกว่ายักไหล่เบาๆ ในเมื่อมันเป็นอันตรายต่อเมืองที่เขารัก
อะไรที่ช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้นเขาก็พร้อมจะเข้าร่วมทั้งนั้น
“ บางทีนายก็พ่อพระซะจนฉันอยากจะร้องไห้เลยล่ะ ”
และใยเหนียวสีขาวก็ถูกห่อหุ้มเข้ากับฝ่ามือของเดดพูลที่เกือบจะลั่นไกไปแล้วอย่างรู้ทัน
ดวงตาแหลมเรียวของหน้ากากแมงมุมยิ่งหรี่ลงกว่าเดิมราวกับกำลังตำหนิผู้ชายตัวโตข้างกาย
“ เอาเลยเว็บ นายจะบรรยายคำคมจรรโลงใจอะไรก็จัดมา
ฉันรอฟังอยู่ ” เดดพูลทำท่ายกสองมือขึ้นมาไว้ในระดับศีรษะราวกับยอมแพ้
ปกติโคลอสซัสก็กล่อมหูเขาด้วยคำพูดยาวๆที่ยากจะจับใจความได้อยู่ทุกครั้งที่เจอกันอยู่แล้ว
“ ฉันไม่มีคำพูดสวยๆพวกนั้นหรอก
แค่ข้อตกลงเดียวนายทำไม่ได้หรือไง ”
ปีเตอร์รู้ดีว่าการจะช่วยทุกคนให้รอดชีวิตมันเป็นไปไม่ได้
จากประสบการณ์ชีวิตเขาสูญเสียครอบครัวและคนรักไปหลายครั้ง จึงได้แต่บอกกับตัวเองไว้ว่าอะไรที่พอช่วยได้ก็ต้องทำอย่างสุดความสามารถ
ปัง!
แต่เวดฉวยโอกาสใช้ความมือไวขณะคนข้างตัวเผลอเพียงชั่วครู่
หยิบปืนอีกกระบอกขึ้นมาเป่าสมองของหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายจนล้มพับไปกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
ส่งชายคนนั้นไปสู่โลกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ Oh, crap! ” สไปเดอร์แมนยกฝ่ามือขึ้นมาบีนวดขมับอย่างหมดคำพูด
ส่งให้ดวงตาสีขาวบนหน้ากากแพนด้าหยีลงอย่างพอใจ
“ นายนี่มันเนิร์ดจริงๆเลยที่รัก ”
New York City ; 10:45 PM
ภายในตัวเมืองยังคงครึกครื้นแม้เวลาจะล่วงเลยมาจวนจะเข้าวันใหม่แล้ว
เจ้าของร่างในชุดผ้าสเปนเด็กซ์ทิ้งตัวลงนั่งลงบนป้ายโฆษณาเครื่องดื่มที่ติดไว้บนยอดตึก
หยิบเอากระดาษแผ่นเดิมออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนทำเพียงนั่งมองมันอย่างเงียบๆ
เบื้องหน้าคือศูนย์บัญชาการใหญ่ของอเวนเจอร์
ซึ่งปัจจุบันมันไม่ได้ยิ่งใหญ่โอ่อ่าเท่าแต่ก่อน
แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคงเป็นบรรยากาศของความอบอุ่นที่ปีเตอร์มองเห็นผ่านบานกระจกขนาดใหญ่
เขาได้รับบัตรเชิญให้เข้าร่วมปาร์ตี้คริสต์มาสอีฟตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
แต่ก็ไม่ได้ติดต่อหรือให้คำตอบกลับไปแก่ผู้เชิญชวน
บวกกับวันนี้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตั้งแต่หัวค่ำ
กว่าจะจัดการธุระเสร็จก็เกือบจะข้ามวันเสียแล้ว
เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งเป็นตัวเรียกให้สไปเดอร์แมนที่กำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเองหันไปมอง
ผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินพร้อมกับกระป๋องเครื่องดื่มในมือทั้งสองข้าง
ลำตัวกำยำสวมใส่เสื้อสเวตเตอร์สีเขียวแดงลายแปลกประหลาดที่ปีเตอร์จำได้ว่ามันเป็นของขวัญคริสต์มาสต์ที่เขาให้แก่ชายคนนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ตอนที่ไปซื้อมาก็คิดว่ามันเฉิ่มแล้วนะ...
พอมาเห็นหมอนี่ใส่อีกทีแล้วยิ่งรู้สึกว่ามันยากที่จะกลั้นขำไว้จริงๆ
มือหนาของอีกฝ่ายยื่นกระป๋องเครื่องดื่มสีแดงที่หน้าตาเหมือนกับรูปในป้ายโฆษณาที่อาศัยนั่งอยู่มาไว้ตรงหน้า
เครื่องหมายการค้า ‘Pool water’ เขียนเอาไว้เด่นหราพร้อมกับรูปพรีเซนเตอร์ที่ยืนทำมือรูปหัวใจอยู่ข้างๆกัน
“ น้ำนี่อีกแล้วหรอ นายยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะผลิตมันอีกหรือไง
” สรรพคุณก็เขียนว่าเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง
แต่หนก่อนที่ได้ลองดื่มเล่นเอาเขาเป็นบ้าไปตั้งนานโข
“ ชู่ว์ อย่าเพิ่งรีบตัดสินกันแค่ภายนอกสิ
คราวก่อนมันแค่รุ่นทดลอง แต่คราวนี้มีแอลกอฮอลล์ด้วยนะ ”
“ ฉันขอเสียมารยาทไม่ดื่มมันได้ไหม ”
สไปเดอร์แมนพยายามปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายก็ยัดมันใส่มือเขาเสียแล้ว
ได้แต่แสดงสีหน้าเหยเกภายใต้หน้ากากที่เดดพูลคงไม่มีวันได้รู้
“ Merry christmas, Mr.Spidey :) ”
คนตัวโตเคลื่อนกระป๋องมาชนกันแบบไม่ให้ทันตั้งตัวจนปีเตอร์อดสะดุ้งขึ้นมาเบาๆไม่ได้
บนหน้ากากแดงดำที่เปิดขึ้นมาถึงสันจมูกแสดงรอยยิ้มผ่านดวงตาหยีๆและริมฝีปากที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นกำลังเหยียดกว้าง
“ ทำไมไม่ไปร่วมงานกับพวกเขาล่ะ
บัตรเชิญของนายคงน้อยใจแย่ ”
เดดพูลเหลือบเห็นบัตรเชิญที่วางไว้ข้างตัวของคนตัวเล็กกว่า
มือเรียวทำเพียงหยิบมันเก็บเข้ากระเป๋าคืนอีกครั้ง
ก่อนยักไหล่ครึ่งหนึ่งแทนการปฏิเสธ
“ ไปตอนนี้คงไม่เหมาะเท่าไร ”
ว่าพลางยกเครื่องดื่มปริศนาขึ้นดื่มอย่างหมดทางเลือก
รสชาติขมปร่าและแสบร้อนไล่ตามมาตั้งแต่ลำคอลงไปถึงกระเพาะ
“ ทุกคนแต่งชุดธรรมดา
ขืนฉันกลับไปเปลี่ยนชุดอีกทีงานคงจบแล้ว ”
ฟังดูเป็นข้ออ้างที่พิลึกและไม่ค่อยมีเหตุผลซักเท่าไร
เอาเป็นว่าเขาเองก็มีเหตุผลในใจที่ไม่อยากบอกใครเหมือนกัน
“ ไม่เห็นเป็นอะไรนี่
ในเมื่อทั้งฉันและนายก็ใส่ชุดสีแดงเหมือนกัน
งานออกจะน่าสนุกและสเวตเตอร์สุดเห่ยนี่มันก็กำลังเรียกร้องด้วย! ”
“ เฮ้เดี๋ยว! นายจะไปไหนน่ะเวด! ”
เพราะเวด
วิลสันเป็นคนที่เอาแน่เอานอนในการใช้ชีวิตไม่ได้
ปีเตอร์ได้แต่กุมขมับพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง
เมื่อผู้ชายร่างโตคนนั้นดันบุกเข้าไปในปาร์ตี้ของเหล่าอเวนเจอร์ผ่านการทำลายประตูของพวกเขาซะพังยับ
ส่งให้เดดพูลตกเป็นเป้าสายตาที่พร้อมจะโดนโจมตีได้ทุกเมื่อ
“ ใจเย็นน่าเพื่อน ฉันแค่อยากจะมาสนุกกับพวกนายด้วย
ถึงจะไม่ได้รับเชิญก็เถอะ ” ร่างสูงรีบยกมือปรามพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ ฉันเดดพูลคนที่โคตรหล่อเหมือนไรอัน เรย์โนลด์
พวกนายไม่รู้จักฉันหรือไง ”
ประโยคนั้นเรียกให้สีหน้าคนในปาร์ตี้เปลี่ยนเป็นหมดคำพูด
บ้างก็ถอนหายใจราวกับชินชาการกระทำอันเอิกเกริกไปเสียแล้ว
“ เฮ้พวก ฉันมาดีนะ
ใส่สเวตเตอร์ที่สไปดี้ให้เป็นของขวัญมาด้วยนี่ไง ”
คนทำประตูพังรีบพุ่งเข้าไปกอดคอวิชั่นที่ยืนอยู่ใกล้มือที่สุดราวกับสนิทสนมกันมานาน
และดูเหมือนว่า ‘สไปดี้’ จะเป็นคำพูดที่เรียกความสนใจจากใครหลายคนได้ไม่น้อย
“ แหงล่ะพวกนายต้องแปลกใจ นอกจากฉันจะใส่เสื้อเขามา
คนให้ก็ยังอยู่ที่นี่ด้วยนะ ”
ปีเตอร์นึกอยากจะตะโกนด่าผู้ชายคนที่กำลังชี้มาทางเขาดังๆ
อุตส่าห์ตามมาและยืนอยู่ข้างนอกเงียบๆเพราะกลัวเดดพูลจะไปทำลายปาร์ตี้ของคนอื่น
เพราะเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มอเวนเจอร์จึงไม่อยากทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจ
และเวดรู้ความจริงข้อนั้นถึงได้ตั้งใจล่อเขามาที่นี่
ขาทั้งสองข้างมันยังคงเก้ๆกังๆที่จะก้าวไปข้างหน้าหรือแม้แต่ถอยกลับ
เมื่อหลายปีมาแล้วปีเตอร์เคยอยู่ในกลุ่มอเวนเจอร์
แต่เขาเลือกที่จะเดินออกมาเองด้วยเหตุผลส่วนตัวและความไม่สงบของแมนฮัตตันที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน
วิชั่นผละตัวเองออกจากวงแขนของเดดพูลก่อนตรงมายังร่างของผู้มาใหม่
ใบหน้านั้นระบายยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้คนมองรู้สึกสบายใจและวางตัวได้ง่ายขึ้น
“ ยินดีต้อนรับกลับมานะครับสไปเดอร์แมน ”
เขาผายมือต้อนรับปีเตอร์เข้าไปในงาน
“ ถึงนายไม่ใช่อเวนเจอร์
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ใช่เพื่อนกันซักหน่อยใช่ไหมล่ะ ”
อเวนเจอร์เป็นบ้านที่อบอุ่น
แม้ในตอนนี้ความจริงข้อนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
อัพตอนแรกแล้วค่าา
เข้ามาแก้ไขนิยายอ่านในแอพไม่ได้เล็กน้อย
ขอให้เพลิดเพลินกับฟิคของเรานะคะ^^
สำหรับอิมเมจเรื่องนี้ ไรเตอร์จะฟิกเดดพูลไว้ที่พี่ Ryan Reynold นะคะ
ในคอมมิคจะผมทองตาฟ้า แต่ในฟิคนี้จะตาสีน้ำตาลตามสีตาพี่อั้นเลยค่ะ
ส่วนอิมเมจของสไปดี้ไม่ได้ฟิคใครเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นปีเตอร์ในวัยทำงานแล้ว
จะจิ้นเป็นน้อง Tom Holland ตอนโต หรือ Andrew Garfield ไรเตอ์ก็สะดวกหมดค่ะ 5555
สนุกไม่สนุกยังไงคอมเม้นท์บอกไรเตอร์หน่อยน้า <3
คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิค
** Spoil Alert!! ** ใครจะตามอ่านคอมมิคแนะนำให้>ข้ามข้อความด้านล่าง<ไปเลยนะคะ
O ฟิคเรื่องนี้อ้างอิงจากคอมมิค Spiderman/Deadpool เป็นเรื่องราวใน Earth-616
ที่ปีเตอร์อยู่ในช่วงวัยทำงานและเปิดบริษัทที่ชื่อว่า 'Parker Industries' ขายสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยค่ะ
O จากคอมมิคอายุของปีเตอร์จะอยู่ที่ 28-31 ปี
ส่วนเดดพูลยังหาข้อมูลที่แน่ชัดไม่ได้ ในฟิคนี้อายุเวดจะอยู่ที่ 34-37ปีนะคะ
O จากเนื้อหาในคอมมิค ปีเตอร์ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับอเวนเจอร์นะคะ เนื่องจากปัญหาส่วนตัวและเขาก็ต้องการอยู่ปกป้องเมืองแมนฮัตตันของตัวเองมากกว่าค่ะ
O เดดพูลเคยผลิตเครื่องดื่มที่ชื่อว่า 'Pool water' มาขายด้วยค่ะ และหนูทดลองคนแรกของเขาก็คือสไปดี้นี่เอง
สภาพหลังดื่มเข้าไปคือกลายเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องไปพักใหญ่เลยค่ะ //น่าสงสารมาก
O เดดพูลและสไปดี้เคยแลกเสื้อสเวตเตอร์ในวันคริสต์มาสกันด้วยค่ะ ทั้งคู่ใจตรงกัน ซื้อเสื้อสีเดียวกัน ลายเดียวกันเป๊ะ เพียงแต่ตัดต่อหน้าตัวเองใส่ลายด้านหน้าต่างกันนิดหน่อยค่ะ
O บ็อบบี้ หรือม็อคกิ้งเบิร์ด : เธอเป็นเอเจนท์สาวสวยผมทองจากชิลด์ค่ะ ในคอมมิคมีบทช่วงหลังๆ แต่ฟิคเรื่องนี้ไรเตอร์จะลากเข้ามามีเอี่ยวบ่อยหน่อยนะคะ;-;
ความคิดเห็น