Huang friend [Mino x Seunghoon]
ผมกำลังหวงเพื่อนใช่ไหม ก็แค่หวงเพื่อนเท่านั้น
ผู้เข้าชมรวม
743
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
‘10:48 PM’
วันนี้เป็นวันปีใหม่ครับ 1 มกราคม ผมมีนัดกับเพื่อนสนิทว่าจะไปฉลองกันในร้านเหล้าที่ไหนสักแห่ง ยืนรอมันมาครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่เห็นโผล่หัวมาสักทีแล้วนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย ถ้ามันจะไม่มาทำไมไม่โทรมาบอก
กำลังคิดว่าต้องโทรไปด่าเพื่อนตัวดีสักหน่อยละ ในขณะที่กำลังจะยกมือถือขึ้นโทรก็โดนชายแปลกหน้าคนหนึ่งมายืนจ้องหน้าผม จ้องจนผมกลัว.. กลัวอะไรละ ? ก็กลัวสิครับจ้องแล้วไม่พูดอะไรสักคำ แถมหน้านี่เหวี่ยงแบบแปลกๆอีก
“เอ่ออออ....”
“แทฮยอน นัมแทฮยอน”
“ครับ ?”
“ชื่อซงมินโฮใช่รึเปล่าเราอะ”
ผมถึงกับอึ้งอ้าปากพะงาบๆเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยชื่อผมออกมา เฮ้ยผมไปมีเสน่ห์กับเพศเดียวกันตอนไหนถึงขั้นรู้จักชื่อผมเลยนะเว้ย มันไม่ธรรมดาแล้วนะเว้ย
“ไม่ต้องตกใจหรอก ซึงฮุนให้มาเรียก”
“อ่ออออออออออ”
ผมถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะเสียเอกราชในวันขึ้นปีใหม่ซะแล้ว ถึงแม้คนตรงหน้าจะสวยมากก็เถอะไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่คือเขาสวยมากจริงๆ สวยกว่าบรรดาผู้หญิงที่ผมเคยควงมาทั้งหมดซะอีก
“แล้วไอ้ซึงฮุนไปไหนครับ”
“รออยู่บนรถ ตามมาสิ”
คนที่ชื่อแทฮยอนบอกพลางชี้ไปทางรถ Audi R10 สีแดงเพลิงที่จอดอยู่ใกล้ๆ พอเดินตามไปผมก็เห็นร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ
“ขึ้นมาดิมึง ยืนมองไร”
อีซึงฮุนเพื่อนเพียงคนเดียวของผมหันมายิ้มตาปิดก่อนจะเรียกผมขึ้นรถ
“รถใหม่มึงหรอ”
ผมถามด้วยความสงสัยนั้นละ ก็รู้ว่าบ้านไอ้ซึงฮุนมันทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โต แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อมันจะใจดีซื้อให้มันขับเล่นหรอกนะ
“รถของพี่แทฮยอนเขาอ่ะ”
“อ่อ”
“ยัง ยังยืนทำหน้าโง่อยู่อีกกูบอกให้ขึ้นรถ”
คือกูก็อยากขึ้นครับเพื่อน แต่รถมันมีเบาะนั่งแค่ 2 ที่ มึงจะให้กูเกาะล้อไปหรืออะไร ?
“แล้วพี่เขาจะนั่งหนะ...”
ยังไม่ทันถามจบก็หันไปเห็นพี่แทฮยอนกำลังเดินไปทางฝั่งคนขับ ร่างขาวค่อยๆเปิดประตูออกแล้วขึ้นไปนั่งบนตักของไอ้ซึงฮุน อึ้งหนักกว่าเดิมไปอีกจ้า ตอนนี้คงไม่ต้องถามความสัมพันธ์แล้วจ้า ไม่กล้าถามเลยว่าไอ้เพื่อนตัวดีไปรู้จักกับหนุ่มหน้าสวยคนนั้นได้ยังไง
“เร็วๆ”
ผมสะบัดเอาความคิดต่างๆนาๆออกจากหัวแล้วรีบก้าวขึ้นรถไปตามคำสั่งของเพื่อนสนิท ทันทีที่เสียงปิดกระตูรถดังขึ้นไอ้ซึงฮุนก็เหยียบคันเร่งให้รถพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศในรถออกจะแปลกๆไปสักหน่อย รถที่มีเบาะ 2 ที่กับผู้ชาย 3 คน คนหนึ่งนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ฝั่งข้างคนขับกับอีกสองคนที่นั่งทับกันอยู่ฝั่งคนขับ แขนขวายาวๆของคนที่ชื่อแทฮยอนที่วางพาดไว้บนไหล่กับมือซ้ายที่ลูบไล้ลำคอขาวของไอ้ซึงฮุน ริมฝีปากถูไปมาอยู่บริเวณใบหูของคนขับ
“ปิดหลังคาไหมกูหนาว”
ตุบ
แทฮยอนโยนเสื้อคลุมสีเทาควันบุหรี่ให้ผม เขายิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะหันไปหอมแก้มไอ้ซึงฮุนฟอดใหญ่ เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก
หลังจากรถแล่นมาร่วมชั่วโมงในที่สุดไอ้ซึงฮุนก็ชะลอความเร็วลงที่บนสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ที่ถอดยาวไปยังด้านหน้า ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่ในเวลาแบบนี้บนสะพานสวยๆแห่งนี้กลับมีรถไม่ค่อยมากนัก แสงไฟสีส้มจากสองข้างทางปฏิเสธไม่ได้ว่ามันโคตรโรแมนติกเลยถ้ามากับคนรัก
ยิ่งรถขับช้าลงเท่าไหร่ กิจกรรมของไอ้ซึงฮุนดูจะยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ คือมึงเกรงใจกูด้วยครับผม กูก็นั่งอยู่ตรงนี้นะเพื่อน ยิ่งหันไปมองยิ่งรู้สึกเหมือนโดนใครสักคนตบหน้าแต่ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้นละ
“อ อื้อออออ”
ผมลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อหันไปเจอฉากจูบร้อนแรงของคนทั้งสองที่ทำเอาขนลุกซู่ เสียงครางแปลกๆดังขึ้นเป็นระยะๆทำให้ผมเริ่มเหงื่อตก กูผิดไหมที่เกิดมาโสด กูผิดไหมที่มาฉลองปีใหม่กับมึง กูผิดอะไรทำไมพระเจ้าทำร้ายกูแบบนี้
“กูขับแทนไหม”
“ไม่ต้องหรอก จะถึงแล้ว”
Seongsan Bridge 성산대교 cr.http://pantip.com/topic/31829047
รถหรูแล่นมาจอดอยู่กลางสะพานสวย
“มึงเคยบอกว่าอยากถ่ายวิวตรงนี้ใช่ม่ะ กูจำได้ ลงไปถ่ายดิเดี๋ยวรออยู่นี้”
พอล้อหยุดแล่นปุ๊บไอ้คนขับตัวแสบก็หันมาไล่ผมลงจากรถทันที คือมึงไม่ว่างก็บอกกูก็ได้ พากูออกมาด้วยทำไม อยากจะทำอะไรกับใครมึงก็ทำไปสิ เอากูมาด้วยทำไม กูเสียใจ ไอ้เพื่อนเวร
“เออ ๆ ขอบใจมากนะมึง !!!”
ผมตอบเพื่อนด้วยน้ำสียงกระแทกเล็กน้อย ดีนะที่วันนี้พกกล้องติดตัวมาด้วย ผมลงมาถ่ายรูปวิวที่แสนจะดึงดูดใจของแม่น้ำแห่งนี้ ลมหนาวอ่อนๆพัดมาปะทะร่างกายเล็กน้อย แสงสว่างจากดวงไฟระยิบระยับเต็มสองฝั่งของแม่น้ำ สายน้ำที่ไหลตามลมไปช้าๆ เรือลำน้อยใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่กับคนสำคัญ ความสวยงามที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก... เพราะไม่ค่อยได้มา ผมปล่อยให้สองคนด้านหลังทำกิจกรรมอะไรกันตามอำเภอใจส่วนตัวเองก็จดจ่ออยู่กับความสวยงามตรงหน้า
พยายามเก็บภาพความทรงจำสวยๆนี่ไว้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขายาวเดินทอดน่องมาเรื่อยๆเพื่อมองหามุมใหม่ๆในการถ่ายภาพ กดชัตเตอร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ดูเหมือนภาพที่ได้ออกมาจะไม่เป็นที่พึงพอใจมากนัก
“เฮ้อ เป็นบ้าไรวะเนี้ย”
ผมยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองแรงๆหลายทีเมื่อพบว่ารูปที่ถ่ายออกมาไม่ได้ดังใจเลยสักรูป หงุดหงิดแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ จู่ๆไอ้เพื่อนซี้ก็ทิ้งผมไปมีแฟนซะอย่างนั้นแถมยังพามานั่งรถสวีทต่อหน้าอีก นึกแล้วก็โมโห เฮ้ยเดี๋ยวผมควรจะดีใช่ไหมที่เพื่อนสละโสด ใช่ผมควรดีใจดิที่เห็นเพื่อนมีแฟนเป็นตัวเป็นตน
แต่มันกำลังทิ้งผมนะเว้ย เออคือจริงๆก็ไม่ได้ทิ้งป้ะวะมันก็แค่มีแฟน แล้วนี้ผมเป็นบ้าไรวะอุส่าได้มาที่สวยๆกลับมาคิดน้อยใจเพื่อนด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้นะ คือผมไม่พอใจไงเข้าใจม่ะว่าผมไม่พอใจ มันนัดผมออกมาเองแท้ๆไง๊พาคนอื่นมาวะ นึกแล้วโมโห
ผมเดินไปเตะกระป๋องเบียร์ที่ตกอยู่ข้างๆทางเดินตรงขอบสะพานให้ตกลงน้ำไป
“พาลนะมึง เสือ.กไปเตะขยะลงน้ำ”
เสียงคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลัง โอ๊ยตามมาทำไมวะ
“ลงมาทำไมวะ ไม่พลอดรักต่อรึไง”
ผมถามไปโดยไม่หันไปมองก้าวเท้าเดินหนีไอ้ซึงฮุนที่เดินใกล้เข้ามาทุกที อย่าเดินเข้ามาใกล้ได้ไหมกูกำลังหงุดหงิด
“หงุดหงิดอะไรของมึงวะ”
“หุบปากไปเลยมึง นัดกูออกมาเสือ.กเอาคนอื่นมาด้วย บอกกูสักคำมั้ยก็ไม่มี”
ผมเดินก้าวเร็วขึ้นเรื่อยๆหวังให้ระยะห่างระหว่างผมกับมันเพิ่มขึ้นอีกนิด แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเลย ก็ขามันยาวกว่าผมนี่ครับ นึกแล้วโมโหในความเตี้ยของตัวเอง เอาจริงๆผมก็ไม่ได้เตี้ยไงแค่ไอ้เพื่อนตัวดีนี่มันสูงผิดปกติไปหน่อย
“มึงว่าไรนะ”
“เอาคนอื่นมาไม่บอกกูสักคำ กูนี่หมาเลย”
“พี่แทฮยอนเขาใช่คนอื่นที่ไหน”
ใช่ซิ๊ พี่เขาแฟนมึงนี่ กูนี่หมาหัวเน่าชัดๆ ด้วยความโมโหผมเลยตอบเพื่อนไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“เรื่องของมึง”
“งอนอะไรของมึงวะ”
เหมือนไอ้ซึงฮุนจะหมดความอดทนกับผมแล้วมันเลยวิ่งมาดึงไหล่ผมให้หันไปเผชิญหน้ากับมัน
“กูไม่รู้”
ผมตอบมันไปเท่านั้น เพราะผมก็ยังไม่รู้เลยว่าแค่เพื่อนแมร่งมีแฟนทำไมผมต้องโมโหขนาดนี้วะ
“หวงกู?”
“ตลกละ กูจะไปหวงมึงทำไม”
“มึงแน่ใจนะว่าไม่หวง”
ไอ้คนสนิทตรงหน้าทำสีหน้ากวนประสาทแล้วยิงคำถามที่ทำให้รู้สึกปวดหนึบๆในหัวมาที่ผม หัวใจเต้นจังหวะแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็น นี่ผมเป็นบ้าไรวะเนี้ย
“กูแค่โมโห ชวนกูออกมาแต่เสือ.กเมินกู”
“แค่นั้น?”
“เออ”
ผมหงุดหงิดพยายามหันซ้ายหันขวามองหาที่ลงแต่ก็ไม่พบอะไรที่พอจะเตะลงแม่น้ำได้เลย ก็เลยเปลี่ยนเป็นหันไปกดชัตเตอร์รัวๆอีกครั้งแทน ไม่ปรับสปีดชัตเตอร์หรือรูรับแสงอะไรทั้งนั้น แน่นอนว่าพอเช็คภาพดูมันก็จะมีแต่ภาพเบลอๆ ภาพมืดๆ แค่นั้น
“แล้ว....”
ผมอ้าปากจะถามอะไรบางอย่างเพื่อนแต่พอหันไปก็ไม่เจอมันซะแล้ว
“แล้วอะไร”
เสียงคุ้นเคยดังมาจากด้านล่างลำบากผมต้องก้มลงไปมอง ไม่รู้ไอ้ซึงฮุนมันลงไปนั่งเอาหลังพิงขอบรั้วเหล็กของสะพานข้างๆตรงที่ผมยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่
“พี่แทฮยอนของมึงไปไหนละ”
“เขาก็กลับบ้านเขาดิ”
“เอ้ามึงไม่ได้ชวนมาฉลองด้วยหรอกหรอ”
ไม่รู้ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา ไอ้บ้าเอ้ยนี้ผมกำลังหวงเพื่อนอยู่ใช่ไหม
“ปีใหม่ทั้งทีก็ต้องฉลองกับคนพิเศษดิวะ”
ห ห๊ะ ไอ้ซึงฮุนมันพูดอะไรของมัน แต่ไอ้ประโยคที่ดูไม่ค่อยเกี่ยวกับคำถามจากไอ้เพื่อนสนิทกลับทำให้หัวใจผมเริ่มเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ ก่อนจะค่อยๆกลับมาเต้นตามปกติเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“ก็ดูมึงดิ ก็เห็นทำหน้าบูดตั้งแต่อยู่บนรถละ”
“สนใจกูด้วยรึไงละ”
ประโยคหลังนี้ผมแค่บ่นเบาๆกับตัวเองเท่านั้นละ
“กูได้ยินนะ!!!”
ผมที่กำลังหันหน้าไปเหล่มองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างล่างก็ต้องรีบหันหน้ากลับทันทีแสร้งทำเป็นถ่ายรูปแม่น้ำต่อไป ก็จู่ๆไอ้ซึงฮุนแมร่งก็เด้งตัวลุกขึ้นมายืนเฉยเลย
“กูก็ต้องสนใจคนสำคัญของกูดิ”
ประโยคแผ่วเบาที่ถูกเอ่ยออกมาจากคนข้างๆกลับดังกังวานอยู่ในโสตประสาทของผม หัวใจกำลังผองโตอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆที่ลมหนาวก็พัดผ่านมาเป็นระยะแต่กลับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วบริเวณใบหน้าจนต้องยกมือขึ้นจับคอเสื้อยืดที่สวมอยู่มาพัดให้เกิดลม หวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการร้อนบนใบหน้าของตัวเองได้บ้าง
“ถ่ายได้สักรูปยังอะ”
ซึงฮุนชะโงกหน้ามาใกล้กับหน้าของผมเพื่อมองดูรูปภาพในกล้อง ผมจึงต้องรีบผลักหน้าบานๆนั้นให้ออกไปไกลๆ
“ก ก็ไม่อ่ะ ม มึงรีบรึไง”
“ก็กูชวนมากินเหล้าเนี้ย”
“ม ไม่กินแล้ว”
แล้วผมก็แสร้งทำเป็นถ่ายรูปต่อ มือนี่ก็สั่นจังครับกูจะถ่ายรูปปปปปป เป็นบ้าไรวะเนี้ยซงมินโฮ
• Seunghoon Story . •
“มึงเคยบอกว่าอยากถ่ายวิวตรงนี้ใช่ม่ะ กูจำได้ ลงไปถ่ายดิเดี๋ยวรออยู่นี้”
ผมหันไปคุยกับเพื่อนสนิทที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ข้างๆ ก่อนที่มันจะพูดจาเหวี่ยงใส่แล้วเดินลงจากรถไป ปล่อยให้ผมกับพี่แทฮยอนนั่งรอกันอยู่บนรถ
“พี่แมร่งแสดงเกินบทบาทไปละ หนอนน้อยผมเกือบตื่นเลยนะเว้ย”
“ตื่นแล้วยังไง พี่แฟนซึงยูนนะ แฟนน้องชายแกนะแกจะกล้าทำรึไง”
ใช่ครับพี่แทฮยอนเป็นแฟนของน้องชายผม พี่เขาค่อนข้างจะใจดีผมก็เลยไปปรึกษาปัญหาหัวใจกับเขา ก็ผมดันไปหลงรักเพื่อนสนิทของตัวเองเข้า เลยอยากรู้ว่ามันพอจะเลื่อนขั้นไปเป็นแฟนได้บ้างรึเปล่า พี่เขาก็เลยช่วยคิดแผนลองใจให้ เย็นวันนี้ผมเลยโทรไปนัดไอ้มินโฮเพื่อนรักให้ออกมาฉลองกัน
“พี่คิดว่าไงบ้างพี่แทฮยอน”
“อืมมมม พูดยากนะ แต่ก็น่าจะพอมีใจบ้างละสายตาที่มองพี่งี้ ลุกขึ้นต่อยได้คงทำไปแล้ว”
ได้ยินแบบนั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มกว้างออกมา
“แต่เราไม่เล่นแรงไปหรอวะพี่”
“แล้วคุ้มไหมละ”
พี่แทฮยอนส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ผมหนึ่งทีก่อนจะออกแรงผลักให้ผมลงไปจากรถแล้วก็เลี้ยวรถย้อนกลับไปยังทางที่ขับผ่านมา
“ผมว่าก็คุ้มนะ”
ผมมองแสงไฟจากรถที่แล่นไกลออกไปยืนยิ้มเป็นบ้าคนเดียวก่อนจะหันมองแผ่นหลังของเพื่อนที่เริ่มเดินออกไปไกลแล้ว ดูเหมือนเพื่อนสนิทของผมกำลังหงุดหงิดอะไรบางอย่างอยู่ แอบคิดว่าหงุดหงิดผมกับพี่แทฮยอนได้รึเปล่านะ
ร่างสูงนั้นเดินขยี้หัวไปมาก่อนที่จะเตะกระป๋องอะไรสักอย่างลงไปในน้ำ
“พาลนะมึง เสือ.กไปเตะขยะลงน้ำ”
“ลงมาทำไมวะ ไม่พลอดรักต่อรึไง”
เหวี่ยงขนาดนี้กำลังหึงกูอยู่ใช่ไหม ? แหย่เล่นอีกหน่อยดีมั้ยนะ
“หงุดหงิดอะไรของมึงวะ”
“หุบปากไปเลยมึง นัดกูออกมาเสือ.กเอาคนอื่นมาด้วย บอกกูสักคำมั้ยก็ไม่มี”
ตอนนี้ถามอะไรไปไอ้มินโฮก็เอาแต่หงุดหงิดตอบแบบเหวี่ยงๆใส่ผมตลอด แถมยังเอาแต่เดินไปข้างหน้า ไม่หันมามองผมเลยสักนิด คิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมละว่ามันกำลังหึงจริงๆ
คนที่กำลังเดินนำหน้าผมอยู่รีบเร่งฝีเท้าขึ้นอีก มึงจะเดินไกลไปไหนเดี๋ยวเลยกลางสะพานไปไกลมันจะไม่โรแมนติกนะเพื่อน คิดแบบนั้นผมเลยไปจับไหล่ของมันไว้ให้หยุดเดินสักที
“งอนอะไรของมึงวะ”
“กูไม่รู้”
“หวงกู?”
หลังจากแหย่มันต่อได้สักพักผมก็เริ่มเมื่อยเลยลงไปนั่งพิงขอบเหล็กของสะพานอยู่ข้างๆเพื่อนสนิทที่ยืนถ่ายรูปอย่างเก้ๆกังๆอยู่ ได้สักรูปไหมละนั้นน่ะ
“พี่แทฮยอนของมึงไปไหนละ”
“เขาก็กลับบ้านเขาดิ”
“เอ้ามึงไม่ได้ชวนมาฉลองด้วยหรอกหรอ”
ผมเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากตอบคำถามนั้น
“ปีใหม่ทั้งทีก็ต้องฉลองกับคนพิเศษดิวะ”
ผมแอบเห็นมินโฮมันอมยิ้มกับประโยคของผมด้วยละ ผมว่าผมคงไม่ได้คิดไม่ซื่อข้างเดียวแล้วละมั่ง จะว่าไงดี แผนของพี่แทฮยอนแมร่งโคตรคุ้มเลย เอาละผมต้องเดินหน้าจีบเพื่อนสนิทดูสักตั้งแล้วละ !!!
Huang friend/End
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผลงานอื่นๆ ของ Jarin94 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Jarin94
ความคิดเห็น