princess of curse - นิยาย princess of curse : Dek-D.com - Writer
×

    princess of curse

    โดย Blue_bell

    นาฬิกาแห่งอาณาจักรเริ่มเดินแล้ว คำสาปและพันธสัญญากำลังจะกลับมา

    ผู้เข้าชมรวม

    39,325

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    62

    ผู้เข้าชมรวม


    39.32K

    ความคิดเห็น


    293

    คนติดตาม


    980
    จำนวนตอน : 101 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ต.ค. 66 / 22:43 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




    นิทานประจำอาณาจักรถูกขับขานผ่านบทเพลงแห่งกาลเวลา

    เพื่อลบล้างคำผูกสาปที่มีมาแต่อดีต...

    ชาร์มาลีน เลไอน่า เฟส...เด็กปริศนาที่อ้างว่า

    ตนเองเป็นรัชทายาทของราชวงศ์ที่เคยเกือบล่มสลายไปเมื่อสิบปีก่อน

    มาพร้อมกับความลับ พันธะสัญญาและคำสาปของอาณาจักร

    เพื่อทำลายพันธะสัญญาในอดีตและคำสาปแล้ว

    จำต้องแลกกับการที่เธอต้องหายไปจากความทรงจำของทุกคนก็ตาม!!!

     



     



    =:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:

       

     

               : : : := ประกาศอีกเรื่องอย่างเป็นทางการเจ้าค่ะ =: : : :
      หลังจากทำการรีไรท์เสร็จแล้วว =^w^=

    เบลล์จะทำการอัพเรื่องนี้สลับกับเรื่อง Promise Devil 

    และเรื่องนี้จะอัพอย่างน้อยเดือนละตอนค่ะ
    เรื่อง Princess of Curse จะมีทั้งสิ้น 3 ภาคนะคะ
    ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านทุกท่านด้วยน้า ^ ^

                                                                                                         Blue_bell

    คำเตือน!! :: ถ้าอยากอ่านให้ได้อรรถรสอย่าอ่านตอนที่อัพไว้ก่อนนะคะ(อันนั้นก่อนรีไรท์นะ)
                         ตอนนี้เบลล์ปิดตอนของภาคหนึ่งทั้งหมดอยู่นะคะ เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจหากอ่านไม่ได้น้า  >  <


    =:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:

      

    Special Thank :

    Part1 : Special Thank : When I was just a little.
    Memories's Rhoanas Lenastar
     100%
    Part2 : n/a
    Part3 : n/a
    Part4 : n/a
    Part5 : n/a
    Part6 : n/a


     

    =:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:


     

     
     

     
                                                                                                    
        
     

    ฝากไลค์เพจเพื่อตามข่าวสารหรือสอบถามด้วยนะคะ
                               
            


        แบนเนอร์นิยายฮะ
                                                            Create your own banner at mybannermaker.com!

    Create your own banner at mybannermaker.com!
     
                   
                     






    ขอบคุณร้านวิจารณ์นิยายดีๆ ฮะ







    ร้าน Nigh Time' รับวิจารณ์นิยาย แนะนำค่ะ ^ ^b




    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ตัวละครและการดำเนินเรื่อง"

    (แจ้งลบ)

    ไรเตอร์เมื่อไหร่จะเขียนบทหวานให้คารอสกับเฟสซะทีอะ รอนานมากกก ในเรื่องที่ชอบที่สุดเป็นเร็กซ์อ่ะ คนดีเวอร์ กับเฟสที่ความลับเยอะมากก แต่อยากให์เฟสเป็นมากกว่าองครักษ์ชาร์เลน แล้วตอนจบหวังว่าจะ happy ending ขึ้นภาค 2 ขอหวานเยอะๆ(ใครเห็นด้วยช่วยโหวตให้ไรเตอร์รู้ว่าเราwant!!) ส่วนการดำเนินเรื่อง สนุกสุดยอด มีการงงบ้างเป็นบางช่วง แล้วก็มีข้อสงสัยว่า ราที ... อ่านเพิ่มเติม

    ไรเตอร์เมื่อไหร่จะเขียนบทหวานให้คารอสกับเฟสซะทีอะ รอนานมากกก ในเรื่องที่ชอบที่สุดเป็นเร็กซ์อ่ะ คนดีเวอร์ กับเฟสที่ความลับเยอะมากก แต่อยากให์เฟสเป็นมากกว่าองครักษ์ชาร์เลน แล้วตอนจบหวังว่าจะ happy ending ขึ้นภาค 2 ขอหวานเยอะๆ(ใครเห็นด้วยช่วยโหวตให้ไรเตอร์รู้ว่าเราwant!!) ส่วนการดำเนินเรื่อง สนุกสุดยอด มีการงงบ้างเป็นบางช่วง แล้วก็มีข้อสงสัยว่า ราทีเอล อันริเอล เจไนท์เป็นใครอ่า ปล.ขอหวานๆนะไรเตอร์ รออ่านภาค 2 ค่า =^v^=   อ่านน้อยลง

    gray_ray | 6 มิ.ย. 54

    • 3

    • 0

    "จาก Friendly Commentator"

    (แจ้งลบ)

    การเปิดเรื่อง ชอบประโยคเปิดเรื่องที่บอกว่ามีจดหมายเชิญมาส่งค่ะ ทำให้คนอ่านคิดต่อว่า เชิญใคร ใครเชิญ ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่หลังจากประโยคเปิดเรื่องที่เป็นการใช้คำแทนเสียง จากความคิดเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าทำให้ประโยคเปิดเรื่องดูอ่อนลงไปทันที ถ้าลองพิจารณาเปลี่ยนเป็นการบรรยายธรรมดาแทนล่ะคะ? เช่น เสียงนาฬิกาติ๊กตอกดังหลายครั้งทำลายความเงียบหลังปร ... อ่านเพิ่มเติม

    การเปิดเรื่อง ชอบประโยคเปิดเรื่องที่บอกว่ามีจดหมายเชิญมาส่งค่ะ ทำให้คนอ่านคิดต่อว่า เชิญใคร ใครเชิญ ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่หลังจากประโยคเปิดเรื่องที่เป็นการใช้คำแทนเสียง จากความคิดเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าทำให้ประโยคเปิดเรื่องดูอ่อนลงไปทันที ถ้าลองพิจารณาเปลี่ยนเป็นการบรรยายธรรมดาแทนล่ะคะ? เช่น เสียงนาฬิกาติ๊กตอกดังหลายครั้งทำลายความเงียบหลังประโยค แต่ร่างที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ส่งเสียงตอบรับใดๆ จากนั้นก็บรรยายแบบของเดิม จนถึงเสียงนาฬิกาตี โดยไม่ต้องขึ้นบรรทัดใหม่เน้นที่คำแทนเสียง แต่บรรยายว่า เสียงนาฬิกาดังเหง่งหง่างส่งสัญญาณให้เธอตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ เพราะสิ่งที่ผู้เขียนต้องการเน้นจริงๆคือ ตัวละครที่ลุกขึ้นเพื่อทำหรือตัดสินใจอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ คำแทนเสียง ถูกต้องไหมคะ? หลังจากนั้นก็เป็นบทสนทนาที่พาผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรเชิญนั้น ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะว่า จำเป็นจริงๆหรือที่ต้องบอกรายละเอียดของทุกบัตรเชิญเข้ามาในบทเปิดเรื่อง ถ้าต้องการเน้นแค่บัตรเชิญแบบเดียว จะให้ข้อมูลผู้อ่านแค่แบบเดียวก็ได้ค่ะ บทเปิดเรื่อง คนอ่านยังไม่ต้องการข้อมูลอะไรมากมาย แค่ต้องการจะรู้ว่าเรื่องนี้น่าสนใจและกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปมากกว่า โดยที่บทเปิดเรื่อง เป็นจุดสำคัญมากๆที่จะดึงดูดให้คนอ่านเลือกที่จะอ่านต่อ ขออนุญาตยกตัวอย่าง นวนิยายโดยคนไทยที่มีบทเปิดเรื่องได้เจ๋งสุดๆและเป็นตำนานอย่างยากจะโค่นล้ม “หัวขโมยแห่งบารามอส” ค่ะ เปิดเรื่องด้วยประโยคคำพูด พาไปรู้จักตัวละครแค่สองคน กับแผนการยิ่งใหญ่เกินตัว โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลมากมายภายในบทเดียว แค่นั้นก็ทำให้คนที่หลงทางเข้ามาเปิดอ่าน อยากรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อีกนิดเดียวสำหรับบทเปิดเรื่อง ที่บรรทัดสุดท้าย ประโยคคำพูดของชาร์มาลีน อยากให้ลองนึกค่ะว่า คนทั่วไปพูดชื่อเต็มๆของตัวเองแบบนั้นไหมเอ่ย? เช่น “ฉัน หม่อมหลวงการเวก พิพัฒนากิจจาวัตร ณ สงขลา ณ มหาครินทรา (ชื่อสมมติ) จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้เลย!” ถ้าเป็นในละคร หรือพูดเล่นกับเพื่อนให้ขำขันกัน เราอาจจะพูดค่ะ แต่ถ้าอยู่ในจุดที่ตั้งใจทำ เป็นเป้าหมายแรงกล้า จริงจัง คงจะพูดแค่ว่า “ฉันจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้เลย” ซึ่งจะดูสมจริงและจดจำได้ง่ายกว่า การดำเนินเรื่อง งงกับชื่อตัวละครมากค่ะ ฉันต้องอ่านบท จดหมายปิดผนึก ประมาณสามรอบได้จึงจะจำชื่อตัวละครที่อยู่ในบทนั้นได้ทั้งหมด และที่อ่านสามรอบเพื่อหาว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอาง่ายๆว่าแค่ชื่อ ชาร์มาลีน เลไอน่า เฟส ก็จำยากแล้ว พอมาอีกชื่อ ชาร์เลน่า เลไอนาส ไม่แปลกใจเลยที่มีคนงงเป็นเพื่อนฉันเยอะแยะ (ฮ่าฮ่า) ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรน่างง แค่ว่าเฟส (หรือชาร์มาลีน)อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แต่ชาร์เลน่าก็บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเหมือนกัน ตัวละครอย่างเร็กซ์ก็ถูกส่งมาปกป้องชาร์เลน่า ซึ่งทำให้เราเข้าใจได้ว่าชาร์เลน่านั้นอาจจะเป็นตัวจริง แต่เฟสอาจจะเป็นตัวปลอม อย่างไรก็ตาม ชอบปมปัญหาในจุดนี้ค่ะ เหมือนคนเขียนหย่อนเอาไว้ให้ขบคิดเล่นๆ และนำทางไปสู่เนื้อหาต่อไปได้ดี เพียงแต่ จุดที่ต้องระวังก็คือ การบรรยายกับสถานการณ์ที่ใส่เข้ามา จะทำให้ผู้อ่านงงหนักกว่าเก่าหรือไม่? นี่เพิ่งจะบทที่หนึ่งเองนะ แต่แนะนำตัวละครทั้งหมด 4 ตัว ชื่อยาว เรียกยากทั้งสี่คน อย่างที่ฉันบอกตอนต้น ฉันต้องอ่านสามรอบ จึงจะจำได้หมด เพราะฉันไปอ่านในฐานะของ Commentator จึงต้องตั้งใจอ่านมาก แต่คนอ่านทั่วไปที่เข้ามา เขาเปิดแค่ตอนสองตอน หาเป้าหมายของเรื่อง ถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการ เขาก็จากไป (เศร้าค่ะ ฉันก็มีปัญหานี้เหมือนกัน) หรือถ้าตั้งใจจะส่งสำนักพิมพ์ เหล่าบรรณาธิการทั้งหลายมีเรื่องที่ต้องอ่านเยอะมากในแต่ละวัน พวกเขาก็เหมือนคนอ่านทั่วไปค่ะ เปิดอ่านแค่บทสองบท เจออะไรงงๆ สถานการณ์ใส่เข้ามาเยอะแยะในจุดเดียว ไม่ดึงดูดให้ไปต่อ เขาก็จากไป (เศร้า) ทีนี้ เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพื่อให้แต่ละบท อ่านแล้วไม่งง แนะนำว่าตั้ง “ใจความหลัก” ของบทไว้ก่อน เช่น บทจดหมายปิดผนึก ใจความหลักคือ “แนะนำเจ้าหญิงตัวจริงและตัวปลอม” ก็เล่นประเด็นที่จุดนี้อย่างเดียวค่ะ แนะนำของสองตัวละครนี้ โดยอาจมีเร็กซ์เพิ่มเข้ามาด้วยก็ได้ เพราะเขาเป็นคนมาปกป้องชาร์เลน่า และเป็นคนแรกที่สับสนเลยว่า ใครกันแน่คือเจ้าหญิง? ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตัวละครอย่างโร ไปแนะนำบทต่อไปก็ได้ เพราะโรแย่งซีนมากค่ะในช่วงกลางของบท แล้วอยู่ๆเฟสก็โผล่มา ใส่ประเด็นของเฟสเข้าไป แทนที่จะเป็นประเด็นหลัก เป็นใจความหลัก ก็โดนเจ้าโรมันแย่งซีนไปแล้วนี่ บท โลหิตสาบาน นี่ดีขึ้นมากค่ะ เหมือนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง สถานการณ์ บทสนทนา การดำเนินเรื่องภายในบท อ่านแล้วสนุกมาก ไม่มีจุดใดที่รู้สึกว่าควรปรับแก้ค่ะ เนื้อหาเล่นตรงจุด ประเด็นเดียว จากนั้นก็สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ ชอบที่ผู้เขียนทิ้งปมปัญหาให้ขบคิดทุกตอน การบรรยาย เท่าที่อ่านมา ผู้เขียนจะเน้นที่บทสนทนามากกว่าการบรรยายให้เห็นภาพรอบด้าน ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพียงแต่ทำให้ไม่เห็นภาพว่ารอบด้านเป็นอย่างไร เกิดเหตุขึ้นที่ไหน โลกที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเป็นอย่างไร ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ มีแต่บทสนทนาดำเนินเรื่องไป ซึ่งจริงๆแล้ว ในนิยายแนวแฟนตาซี การเล่าถึงบรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญทีเดียวนะคะ ขอยกตัวอย่าง The Lord of the ring ที่ผู้เขียนใส่รายละเอียดทุกอย่าง สร้างให้เห็นโลกของเขาอย่างชัดเจน หรือผลงานนักเขียนไทยอย่าง เซวีน่า การบรรยายให้เห็นภาพ อาจทำให้เนื้อเรื่องไปช้าหน่อย แต่ผู้อ่านจะมีอารมณ์ร่วมไปเยอะกว่าการที่เห็นแต่บทสนทนายาวเป็นพรืดค่ะ สัดส่วนควรจะพอดีกัน ไม่หนักไปทางไหนมากเกิน ถ้าจะให้เปรียบ การบรรยายก็เหมือนทำนองดนตรี บทสนทนาเหมือนเป็นคำร้อง มีสองอย่างควบคู่กันไปแบบพอดี ปรับแต่งให้ไพเราะทั้งสองอย่าง จึงจะสมบูรณ์ สำหรับบทที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น เจ้าชาย vs โจ๊กเกอร์ ได้เห็นอะไรที่มากกว่าบทสนทนาบ้าง คือฉากต่อสู้กัน แต่กระนั้น ผู้เขียนก็ยังไม่วายใส่บทสนทนาระหว่างสู้เข้ามาอยู่ดี ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ทำให้บทอ่อนลงหรอกค่ะ เพียงแต่บางครั้ง ผู้อ่านก็อยากเห็นรายละเอียดมากกว่า การอ่านบทสนทนา การใช้ คำแทนเสียง ซึ่งฉันเกริ่นไว้บ้างแล้วด้านบน มีการใช้คำแทนเสียงเยอะมาก จนบางทีก็ไม่แน่ใจว่ามันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า อย่างเช่นในบท เจ้าชาย vs โจ๊กเกอร์ มีฉากที่ตัวละครเปิดลิ้นชัก เราจะเน้นที่การเปิดลิ้นชัก ถูกไหมคะ? แต่พอเห็นคำว่า ครืด อยู่ด้านบน แถมเป็นตัวหนา ก็เลยไม่รู้ว่าจะเน้นอะไรกันแน่ ทำไมต้องเน้นตรงเสียงด้วย? ฉันเข้าใจว่าอาจเป็นสไตล์การเขียนส่วนตัว (เหมือนอย่างผลงานของ ดร.ป๊อบที่เต็มไปด้วยคำแทนเสียง) แต่ถ้าอยากใส่ลงมาจริงๆ แนะนำว่า ให้ใส่ในฉากสำคัญมากๆค่ะ และใส่แค่พอหอมปากหอมคอ ขออนุญาตยกตัวอย่างอีกครั้ง เรื่อง The Maze Runner ของ James Dashner เป็นนิยายที่มีฉากต่อสู้ ฉากวิ่งหนี เสียงเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย เขาไม่ใส่คำแทนเสียงเลยแม้แต่คำเดียว แต่คนอ่านได้ยินเสียงค่ะ เขาเลือกที่จะบรรยายเกี่ยวกับเสียงนั้นให้เกิดมโนขึ้นในใจของคนอ่านเอง ทั้งเสียงหายใจอย่างระทึกขวัญ เสียงกิ่งไม้หักที่ดังเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ อ่านแล้วระทึกใจมาก โอ๊ย ชอบ การบรรยายเพียงแต่น้อย เลือกใช้คำอย่างฉลาด เปลี่ยนทุกอย่างได้จริงๆ บทสนทนา คงไม่มีอะไรต้องเสริมมาก เรื่องนี้ดำเนินด้วยบทสนทนาอยู่แล้ว มีจุดเล็กๆนิดเดียวค่ะ คือ คำพูดของตัวละคร สามารถบ่งบอกได้ว่าตัวละครนั้นมีนิสัยอย่างไร ซึ่งในนิยายเรื่องนี้ ฉันเห็นการพูดที่ส่งถึงคาแรกเตอร์ของตัวละคร แค่สองตัวเท่านั้นคือ คือ เฟส กับ ชาร์เลน่า อาจเพราะว่าเป็นตัวละครหลัก และมีนิสัยที่แตกต่างกันมาก แต่นอกนั้น บรรดาองครักษ์ และเจ้าชาย ฉันยังไม่เห็นบทสนทนาที่ส่งถึงคาแรกเตอร์ ตัวละคร ตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนตอนนี้มีแค่สองตัวละครค่ะ คือ เฟส กับ ชาร์เลน่า นอกนั้นฉันยังไม่เห็นอะไรที่เด่นชัดออกมา โดยเฉพาะตัวละครฝ่ายชายทั้งหมดเลยค่ะ ฉันแทบจะมองพวกเขาเป็นคนเดียวกันไปเลย ออกฉากบ่อยแต่ก็ยังไม่เด่นนัก ชื่อตัวละครค่อนข้างที่จะจำยาก ยิ่งมีตัวละครเยอะด้วยแล้ว ยิ่งโอ้โห ยากที่จะคุมคาแรกเตอร์ กระจายบท และสร้างจุดเด่น ขออนุญาตยกตัวอย่างอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางค่ะ เรื่อง Game Of Thrones ของ George R.R. Martin ถือว่าเป็นนิยายแฟนตาซีสงครามการเมือง ที่มีตัวละครเยอะที่สุด ชื่อก็ออกแนวแฟนตาซี แต่ผู้เขียนใช้ภาษา Norse ในการตั้งชื่อ ดังนั้น ชื่อตัวละครทุกตัวมีความหมาย และเขาสามารถแนะนำตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจ เป็นที่จดจำ ไม่มีตัวละครใดที่คาแรกเตอร์ซ้ำกันเลย อย่างไรก็ตาม ฉันชอบตัวละคร เฟส มากเลยค่ะ ดูเป็นหญิงแกร่ง เจ้าแผนการ แต่นิดหนึ่งก็ต้องระวังคือ ถ้าเธอเก่งรอบด้านเกินไป อาจกลายเป็นตัวละครแบบแมรี่ ซู ได้นะคะ ธีมของเรื่อง ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถบอกได้คะว่า Theme ของเรื่องคืออะไร (ฮ่าฮ่า) ยังเห็นไม่ชัดเจน หรือว่าฉันหาไม่เจอ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ จะ “มิตรภาพ” ก็ไม่เชิง “การหาความจริง” หรือ “การเสียสละ” ฉันยังไม่แน่ใจ ตรงจุดนี้ต้องขออภัยที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ค่ะ สรุป เป็นเรื่องที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ ชวนติดตามให้อ่านต่อค่ะ ควรเสริมการบรรยายถึงโลกที่ตัวละครอาศัยอยู่ให้ชัดเจน ตัดคำแทนเสียงที่ฟุ่มเฟือยออกไปบ้าง เพิ่มรายละเอียดของคาแรกเตอร์ตัวละครอื่นๆให้เด่นชัดมากขึ้น ระวังแมรี่ ซู ตั้ง “ใจความหลัก” ของแต่ละบทก่อนเขียน นอกนั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว สู้ๆค่ะ และจงเขียนต่อไป เหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน #สตรอง   อ่านน้อยลง

    Silver-Sky | 6 เม.ย. 60

    • 3

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "จาก Friendly Commentator"

    (แจ้งลบ)

    การเปิดเรื่อง ชอบประโยคเปิดเรื่องที่บอกว่ามีจดหมายเชิญมาส่งค่ะ ทำให้คนอ่านคิดต่อว่า เชิญใคร ใครเชิญ ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่หลังจากประโยคเปิดเรื่องที่เป็นการใช้คำแทนเสียง จากความคิดเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าทำให้ประโยคเปิดเรื่องดูอ่อนลงไปทันที ถ้าลองพิจารณาเปลี่ยนเป็นการบรรยายธรรมดาแทนล่ะคะ? เช่น เสียงนาฬิกาติ๊กตอกดังหลายครั้งทำลายความเงียบหลังปร ... อ่านเพิ่มเติม

    การเปิดเรื่อง ชอบประโยคเปิดเรื่องที่บอกว่ามีจดหมายเชิญมาส่งค่ะ ทำให้คนอ่านคิดต่อว่า เชิญใคร ใครเชิญ ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่หลังจากประโยคเปิดเรื่องที่เป็นการใช้คำแทนเสียง จากความคิดเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าทำให้ประโยคเปิดเรื่องดูอ่อนลงไปทันที ถ้าลองพิจารณาเปลี่ยนเป็นการบรรยายธรรมดาแทนล่ะคะ? เช่น เสียงนาฬิกาติ๊กตอกดังหลายครั้งทำลายความเงียบหลังประโยค แต่ร่างที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ส่งเสียงตอบรับใดๆ จากนั้นก็บรรยายแบบของเดิม จนถึงเสียงนาฬิกาตี โดยไม่ต้องขึ้นบรรทัดใหม่เน้นที่คำแทนเสียง แต่บรรยายว่า เสียงนาฬิกาดังเหง่งหง่างส่งสัญญาณให้เธอตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ เพราะสิ่งที่ผู้เขียนต้องการเน้นจริงๆคือ ตัวละครที่ลุกขึ้นเพื่อทำหรือตัดสินใจอะไรบางอย่าง ไม่ใช่ คำแทนเสียง ถูกต้องไหมคะ? หลังจากนั้นก็เป็นบทสนทนาที่พาผู้อ่านไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรเชิญนั้น ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะว่า จำเป็นจริงๆหรือที่ต้องบอกรายละเอียดของทุกบัตรเชิญเข้ามาในบทเปิดเรื่อง ถ้าต้องการเน้นแค่บัตรเชิญแบบเดียว จะให้ข้อมูลผู้อ่านแค่แบบเดียวก็ได้ค่ะ บทเปิดเรื่อง คนอ่านยังไม่ต้องการข้อมูลอะไรมากมาย แค่ต้องการจะรู้ว่าเรื่องนี้น่าสนใจและกำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปมากกว่า โดยที่บทเปิดเรื่อง เป็นจุดสำคัญมากๆที่จะดึงดูดให้คนอ่านเลือกที่จะอ่านต่อ ขออนุญาตยกตัวอย่าง นวนิยายโดยคนไทยที่มีบทเปิดเรื่องได้เจ๋งสุดๆและเป็นตำนานอย่างยากจะโค่นล้ม “หัวขโมยแห่งบารามอส” ค่ะ เปิดเรื่องด้วยประโยคคำพูด พาไปรู้จักตัวละครแค่สองคน กับแผนการยิ่งใหญ่เกินตัว โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ข้อมูลมากมายภายในบทเดียว แค่นั้นก็ทำให้คนที่หลงทางเข้ามาเปิดอ่าน อยากรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป อีกนิดเดียวสำหรับบทเปิดเรื่อง ที่บรรทัดสุดท้าย ประโยคคำพูดของชาร์มาลีน อยากให้ลองนึกค่ะว่า คนทั่วไปพูดชื่อเต็มๆของตัวเองแบบนั้นไหมเอ่ย? เช่น “ฉัน หม่อมหลวงการเวก พิพัฒนากิจจาวัตร ณ สงขลา ณ มหาครินทรา (ชื่อสมมติ) จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้เลย!” ถ้าเป็นในละคร หรือพูดเล่นกับเพื่อนให้ขำขันกัน เราอาจจะพูดค่ะ แต่ถ้าอยู่ในจุดที่ตั้งใจทำ เป็นเป้าหมายแรงกล้า จริงจัง คงจะพูดแค่ว่า “ฉันจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้เลย” ซึ่งจะดูสมจริงและจดจำได้ง่ายกว่า การดำเนินเรื่อง งงกับชื่อตัวละครมากค่ะ ฉันต้องอ่านบท จดหมายปิดผนึก ประมาณสามรอบได้จึงจะจำชื่อตัวละครที่อยู่ในบทนั้นได้ทั้งหมด และที่อ่านสามรอบเพื่อหาว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เอาง่ายๆว่าแค่ชื่อ ชาร์มาลีน เลไอน่า เฟส ก็จำยากแล้ว พอมาอีกชื่อ ชาร์เลน่า เลไอนาส ไม่แปลกใจเลยที่มีคนงงเป็นเพื่อนฉันเยอะแยะ (ฮ่าฮ่า) ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรน่างง แค่ว่าเฟส (หรือชาร์มาลีน)อ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง แต่ชาร์เลน่าก็บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเหมือนกัน ตัวละครอย่างเร็กซ์ก็ถูกส่งมาปกป้องชาร์เลน่า ซึ่งทำให้เราเข้าใจได้ว่าชาร์เลน่านั้นอาจจะเป็นตัวจริง แต่เฟสอาจจะเป็นตัวปลอม อย่างไรก็ตาม ชอบปมปัญหาในจุดนี้ค่ะ เหมือนคนเขียนหย่อนเอาไว้ให้ขบคิดเล่นๆ และนำทางไปสู่เนื้อหาต่อไปได้ดี เพียงแต่ จุดที่ต้องระวังก็คือ การบรรยายกับสถานการณ์ที่ใส่เข้ามา จะทำให้ผู้อ่านงงหนักกว่าเก่าหรือไม่? นี่เพิ่งจะบทที่หนึ่งเองนะ แต่แนะนำตัวละครทั้งหมด 4 ตัว ชื่อยาว เรียกยากทั้งสี่คน อย่างที่ฉันบอกตอนต้น ฉันต้องอ่านสามรอบ จึงจะจำได้หมด เพราะฉันไปอ่านในฐานะของ Commentator จึงต้องตั้งใจอ่านมาก แต่คนอ่านทั่วไปที่เข้ามา เขาเปิดแค่ตอนสองตอน หาเป้าหมายของเรื่อง ถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาต้องการ เขาก็จากไป (เศร้าค่ะ ฉันก็มีปัญหานี้เหมือนกัน) หรือถ้าตั้งใจจะส่งสำนักพิมพ์ เหล่าบรรณาธิการทั้งหลายมีเรื่องที่ต้องอ่านเยอะมากในแต่ละวัน พวกเขาก็เหมือนคนอ่านทั่วไปค่ะ เปิดอ่านแค่บทสองบท เจออะไรงงๆ สถานการณ์ใส่เข้ามาเยอะแยะในจุดเดียว ไม่ดึงดูดให้ไปต่อ เขาก็จากไป (เศร้า) ทีนี้ เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร เพื่อให้แต่ละบท อ่านแล้วไม่งง แนะนำว่าตั้ง “ใจความหลัก” ของบทไว้ก่อน เช่น บทจดหมายปิดผนึก ใจความหลักคือ “แนะนำเจ้าหญิงตัวจริงและตัวปลอม” ก็เล่นประเด็นที่จุดนี้อย่างเดียวค่ะ แนะนำของสองตัวละครนี้ โดยอาจมีเร็กซ์เพิ่มเข้ามาด้วยก็ได้ เพราะเขาเป็นคนมาปกป้องชาร์เลน่า และเป็นคนแรกที่สับสนเลยว่า ใครกันแน่คือเจ้าหญิง? ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตัวละครอย่างโร ไปแนะนำบทต่อไปก็ได้ เพราะโรแย่งซีนมากค่ะในช่วงกลางของบท แล้วอยู่ๆเฟสก็โผล่มา ใส่ประเด็นของเฟสเข้าไป แทนที่จะเป็นประเด็นหลัก เป็นใจความหลัก ก็โดนเจ้าโรมันแย่งซีนไปแล้วนี่ บท โลหิตสาบาน นี่ดีขึ้นมากค่ะ เหมือนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง สถานการณ์ บทสนทนา การดำเนินเรื่องภายในบท อ่านแล้วสนุกมาก ไม่มีจุดใดที่รู้สึกว่าควรปรับแก้ค่ะ เนื้อหาเล่นตรงจุด ประเด็นเดียว จากนั้นก็สนุกมากขึ้นเรื่อยๆ ชอบที่ผู้เขียนทิ้งปมปัญหาให้ขบคิดทุกตอน การบรรยาย เท่าที่อ่านมา ผู้เขียนจะเน้นที่บทสนทนามากกว่าการบรรยายให้เห็นภาพรอบด้าน ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพียงแต่ทำให้ไม่เห็นภาพว่ารอบด้านเป็นอย่างไร เกิดเหตุขึ้นที่ไหน โลกที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเป็นอย่างไร ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ มีแต่บทสนทนาดำเนินเรื่องไป ซึ่งจริงๆแล้ว ในนิยายแนวแฟนตาซี การเล่าถึงบรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญทีเดียวนะคะ ขอยกตัวอย่าง The Lord of the ring ที่ผู้เขียนใส่รายละเอียดทุกอย่าง สร้างให้เห็นโลกของเขาอย่างชัดเจน หรือผลงานนักเขียนไทยอย่าง เซวีน่า การบรรยายให้เห็นภาพ อาจทำให้เนื้อเรื่องไปช้าหน่อย แต่ผู้อ่านจะมีอารมณ์ร่วมไปเยอะกว่าการที่เห็นแต่บทสนทนายาวเป็นพรืดค่ะ สัดส่วนควรจะพอดีกัน ไม่หนักไปทางไหนมากเกิน ถ้าจะให้เปรียบ การบรรยายก็เหมือนทำนองดนตรี บทสนทนาเหมือนเป็นคำร้อง มีสองอย่างควบคู่กันไปแบบพอดี ปรับแต่งให้ไพเราะทั้งสองอย่าง จึงจะสมบูรณ์ สำหรับบทที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็น เจ้าชาย vs โจ๊กเกอร์ ได้เห็นอะไรที่มากกว่าบทสนทนาบ้าง คือฉากต่อสู้กัน แต่กระนั้น ผู้เขียนก็ยังไม่วายใส่บทสนทนาระหว่างสู้เข้ามาอยู่ดี ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้ทำให้บทอ่อนลงหรอกค่ะ เพียงแต่บางครั้ง ผู้อ่านก็อยากเห็นรายละเอียดมากกว่า การอ่านบทสนทนา การใช้ คำแทนเสียง ซึ่งฉันเกริ่นไว้บ้างแล้วด้านบน มีการใช้คำแทนเสียงเยอะมาก จนบางทีก็ไม่แน่ใจว่ามันจำเป็นจริงๆหรือเปล่า อย่างเช่นในบท เจ้าชาย vs โจ๊กเกอร์ มีฉากที่ตัวละครเปิดลิ้นชัก เราจะเน้นที่การเปิดลิ้นชัก ถูกไหมคะ? แต่พอเห็นคำว่า ครืด อยู่ด้านบน แถมเป็นตัวหนา ก็เลยไม่รู้ว่าจะเน้นอะไรกันแน่ ทำไมต้องเน้นตรงเสียงด้วย? ฉันเข้าใจว่าอาจเป็นสไตล์การเขียนส่วนตัว (เหมือนอย่างผลงานของ ดร.ป๊อบที่เต็มไปด้วยคำแทนเสียง) แต่ถ้าอยากใส่ลงมาจริงๆ แนะนำว่า ให้ใส่ในฉากสำคัญมากๆค่ะ และใส่แค่พอหอมปากหอมคอ ขออนุญาตยกตัวอย่างอีกครั้ง เรื่อง The Maze Runner ของ James Dashner เป็นนิยายที่มีฉากต่อสู้ ฉากวิ่งหนี เสียงเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย เขาไม่ใส่คำแทนเสียงเลยแม้แต่คำเดียว แต่คนอ่านได้ยินเสียงค่ะ เขาเลือกที่จะบรรยายเกี่ยวกับเสียงนั้นให้เกิดมโนขึ้นในใจของคนอ่านเอง ทั้งเสียงหายใจอย่างระทึกขวัญ เสียงกิ่งไม้หักที่ดังเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ อ่านแล้วระทึกใจมาก โอ๊ย ชอบ การบรรยายเพียงแต่น้อย เลือกใช้คำอย่างฉลาด เปลี่ยนทุกอย่างได้จริงๆ บทสนทนา คงไม่มีอะไรต้องเสริมมาก เรื่องนี้ดำเนินด้วยบทสนทนาอยู่แล้ว มีจุดเล็กๆนิดเดียวค่ะ คือ คำพูดของตัวละคร สามารถบ่งบอกได้ว่าตัวละครนั้นมีนิสัยอย่างไร ซึ่งในนิยายเรื่องนี้ ฉันเห็นการพูดที่ส่งถึงคาแรกเตอร์ของตัวละคร แค่สองตัวเท่านั้นคือ คือ เฟส กับ ชาร์เลน่า อาจเพราะว่าเป็นตัวละครหลัก และมีนิสัยที่แตกต่างกันมาก แต่นอกนั้น บรรดาองครักษ์ และเจ้าชาย ฉันยังไม่เห็นบทสนทนาที่ส่งถึงคาแรกเตอร์ ตัวละคร ตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนตอนนี้มีแค่สองตัวละครค่ะ คือ เฟส กับ ชาร์เลน่า นอกนั้นฉันยังไม่เห็นอะไรที่เด่นชัดออกมา โดยเฉพาะตัวละครฝ่ายชายทั้งหมดเลยค่ะ ฉันแทบจะมองพวกเขาเป็นคนเดียวกันไปเลย ออกฉากบ่อยแต่ก็ยังไม่เด่นนัก ชื่อตัวละครค่อนข้างที่จะจำยาก ยิ่งมีตัวละครเยอะด้วยแล้ว ยิ่งโอ้โห ยากที่จะคุมคาแรกเตอร์ กระจายบท และสร้างจุดเด่น ขออนุญาตยกตัวอย่างอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางค่ะ เรื่อง Game Of Thrones ของ George R.R. Martin ถือว่าเป็นนิยายแฟนตาซีสงครามการเมือง ที่มีตัวละครเยอะที่สุด ชื่อก็ออกแนวแฟนตาซี แต่ผู้เขียนใช้ภาษา Norse ในการตั้งชื่อ ดังนั้น ชื่อตัวละครทุกตัวมีความหมาย และเขาสามารถแนะนำตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจ เป็นที่จดจำ ไม่มีตัวละครใดที่คาแรกเตอร์ซ้ำกันเลย อย่างไรก็ตาม ฉันชอบตัวละคร เฟส มากเลยค่ะ ดูเป็นหญิงแกร่ง เจ้าแผนการ แต่นิดหนึ่งก็ต้องระวังคือ ถ้าเธอเก่งรอบด้านเกินไป อาจกลายเป็นตัวละครแบบแมรี่ ซู ได้นะคะ ธีมของเรื่อง ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถบอกได้คะว่า Theme ของเรื่องคืออะไร (ฮ่าฮ่า) ยังเห็นไม่ชัดเจน หรือว่าฉันหาไม่เจอ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ จะ “มิตรภาพ” ก็ไม่เชิง “การหาความจริง” หรือ “การเสียสละ” ฉันยังไม่แน่ใจ ตรงจุดนี้ต้องขออภัยที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ค่ะ สรุป เป็นเรื่องที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ ชวนติดตามให้อ่านต่อค่ะ ควรเสริมการบรรยายถึงโลกที่ตัวละครอาศัยอยู่ให้ชัดเจน ตัดคำแทนเสียงที่ฟุ่มเฟือยออกไปบ้าง เพิ่มรายละเอียดของคาแรกเตอร์ตัวละครอื่นๆให้เด่นชัดมากขึ้น ระวังแมรี่ ซู ตั้ง “ใจความหลัก” ของแต่ละบทก่อนเขียน นอกนั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้ว สู้ๆค่ะ และจงเขียนต่อไป เหมือนชีวิตขึ้นอยู่กับมัน #สตรอง   อ่านน้อยลง

    Silver-Sky | 6 เม.ย. 60

    • 3

    • 0

    "ช่วยแก้ให้ทีนะคะอยากอ่านคะ"

    (แจ้งลบ)

    มันขึ้นว่า ผู้แต่งปิดการเข้าถึง. ตั้งเเต่ตอนที่ 4 เลยคะ แก้ให้ทีนะคะอยากอ่านค่ะเนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ ขอบคุณคะ รบกวนแก้ไวๆเลยนะคะเด๋วเปิดเทอมไม่มีเวลามาอ่านอีกอิอิ สู้ๆนะคะแต่งนิยายสนุกๆอีกเยอะๆเลยคะโดยส่วนตัวชอบอ่านเเนวแฟนตาซีอยู่เเล้วแต่หาอ่านเเล้วรู้สึกถูกใจนี่ยากมากกเลยค่ะเพราะรีบๆมาแก้ให้เค้าน้าาาาาาาาตัวเองงง^^ อ่านเพิ่มเติม

    มันขึ้นว่า ผู้แต่งปิดการเข้าถึง. ตั้งเเต่ตอนที่ 4 เลยคะ แก้ให้ทีนะคะอยากอ่านค่ะเนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ ขอบคุณคะ รบกวนแก้ไวๆเลยนะคะเด๋วเปิดเทอมไม่มีเวลามาอ่านอีกอิอิ สู้ๆนะคะแต่งนิยายสนุกๆอีกเยอะๆเลยคะโดยส่วนตัวชอบอ่านเเนวแฟนตาซีอยู่เเล้วแต่หาอ่านเเล้วรู้สึกถูกใจนี่ยากมากกเลยค่ะเพราะรีบๆมาแก้ให้เค้าน้าาาาาาาาตัวเองงง^^  

    ingeng | 18 มิ.ย. 59

    • 0

    • 0

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น