SF G-Ri 1 ชอบ vs. รัก - SF G-Ri 1 ชอบ vs. รัก นิยาย SF G-Ri 1 ชอบ vs. รัก : Dek-D.com - Writer

    SF G-Ri 1 ชอบ vs. รัก

    ควอนจียงมักชอบเข้าไปกอด เป็นห่วงเป็นใยหรือบอกรักคนอื่นเสมอๆ กับอีซึงฮยอนก็เช่นกัน.. แล้วแบบนี้ ใครคือคนพิเศษของเขากันหล่ะ?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,110

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.11K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    16
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 มิ.ย. 56 / 23:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีค่ะ
    รู้สึกเหมือนไม่ได้อัพ gri มานาน รู้สึกไม่สบายใจสักเท่าไหร่เลยค่ะ
    แต่ว่า มันยังไม่ปิ๊งตอนใหม่ของเรื่อง me/our feeling/you อ่ะค่ะ
    เลยถือโอกาสเอาเรื่องนี้มาคั่นแก้เซ็งแทนค่ะ
    ______________________________________________________

    ปล.เรื่องนี้แต่งเพื่อผู้ที่รัก gri จากใจจริงค่ะ

    ขอบคุณ คุณ Noiitory มากนะคะ(อ่านข้อความที่คุณโพสต์ทักทายแล้ว)
    ถ้าไม่ได้อ่านข้อความของคุณใน my idแล้ว คงไม่เอาเรื่องนี้ลงจริงๆ
    ดังนั้น
    เรื่องนี้แต่งเพื่อคุณละกันค่ะ


    เอาหล่ะ สาวก gri ทั้งหลาย ถ้าพร้อมแล้วไปฟินกัน!!



    SF G-Ri 1
    ชอบ vs. รัก
    .
    .
    .
    .



     



    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SF GRi 1
      ชอบ vs. รัก

       .............................................................................................

      จียงฮยองชอบเข้ามาเล่นกับผมฮะ

      เขาชอบนอนกอดผมเอามากๆเลย

      แล้วเขาก็มักจะบอกผมว่า 'เขาชอบผม' เสมอๆ

      แต่..

      จียงฮยองก็ชอบเล่นกับฮยองคนอื่นๆเหมือนกัน

      เขาชอบกอด ชอบนั้วเนี้ยฮยองคนอื่นๆมากฮะ

      แล้วเขาก็บอกฮยองคนอื่นเหมือนกันว่า 'ชอบ'

      ดังนั้น..

      สำหรับควอน จียง แล้ว 'ไม่ว่าใครก็เหมือนกัน'

      ไม่มีใครเป็น 'คนพิเศษ'

      โดยเฉพาะผม อี ซึงฮยอนที่เป็นได้แค่น้องชาย.

       

       

      "จียงฮยอง?" ร่างบางที่มองหาใครบางคนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

      "ไม่อยู่นะ เห็นมันออกไปข้างนอกกับพี่ท๊อป"

      ยองเบ ที่เห็นซึงรีมองหาใครบางคนอยู่เอ่ยขึ้น

      "เหรอฮะ.. ขอบคุณนะฮะ" ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆรุ่นพี่ของเขา

      'จียงฮยองไปกับท๊อปฮยองอีกแล้ว..ไหนว่าจะเล่นกับผม..'

      ร่างบางทำหน้าหงอยๆ คิดในใจอย่างอดไม่ได้

      พลางมองรุ่นพี่ที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ

      'เล่นกับแทยังฮยองแทนก็ได้' พอคิดได้ก็เริ่มเข้าไปนั้วเนี้ยแทยังหรือยองเบทันที

      "แทยังฮยองมาเล่นกันเถอะฮะ" เขาเริ่มชวน

      "เล่นอะไรหล่ะ" ยองเบที่เงียบไปพักหนึ่งถาม

      'นั่นดิ เล่นอะไรดีหล่ะ' ร่างเล็กชะงักไป

      ปกติเขาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เพราะจียงฮยองจะเป็นคนชวนหรือเข้ามาหยอกล้อมากกว่า

      "ไม่รู้เหมือนกันฮะ" ตอบด้วยนิสัยที่ตรงสุดๆ

      "....." แทยังไม่ได้ว่าอะไร นั่งดูทีวีต่อไป

      "ผมขอนอนตักได้ป่าวฮะ" 

      "....." เขาตกใจนิดหน่อย หันมาทำหน้าสงสัย

      "ก็มันง่วงๆอ่ะฮะ อยากพิงไหล่ฮยองนะ แต่ผมว่ามันจักจี๋ฮะ เลย.." ซึงรีพยายามให้เหตุผล

      "เอาสิ มักเน่" ยองเบตอบพลางตบตักตัวเอง

      "จริงๆนะ แทยังฮยอง! ขอบคุณฮะ" หลังจากได้ยินคำตอบร่างบางไม่รีรอรีบนอนลงบนตักยองเบอย่างรวดเร็ว

      ไม่นานร่างบางก็เริ่มเคลิ้มและกำลังจะหลับ

      "แทยังฮยองใจดีกว่าจียงฮยองตั้งเยอะ" แล้วสติของร่างบางก็ดับวูบไป.

       

      "งืมๆ อร่อย.." ร่างบางละเมอแล้วเริ่มรู้สึกตัว

      "คิกๆๆ เอาอีกแล้ว นายฝันเรื่องนั้นอีกแล้ว"

      ซึงรีรู้สึกแปลกใจกับเสียงที่เขาได้ยิน

      'นั่นไม่ใช่เสียงแทยังฮยอง..แทยังฮยองไม่รู้เรื่องที่ผมละเมอนี่นา คนที่รู้ก็มีแต่..'

      ร่างบางเบิกตากว้างเริ่มลุกขึ้นพรวด ขยี้ตาแล้วมองเจ้าของตักที่ตัวเองพึ่งลุกหนีขึ้นมา

      "จียงฮยอง!" เขาอุทานด้วยความตกใจ

      "ทำไม? ถึงเป็นฮยอง.." ซึงรีถามอย่างงงๆ

      "..เป็นฉันไม่ได้เหรอ? ห้ะ มักเน่" จียงล้อ

      "ฮยอง ผมไม่เล่นด้วยนะ" ซึงรีพูดอย่างจริงจัง

      "โห่ มักเน่ของฉัน เป็นไรเนี่ย~ งอลเหรอ" 

      จียงยังคงพูดหยอกล้อเขาต่อ

      "ผมไม่ได้งอล! อีกอย่างใครเป็นของฮยองกัน!"

      ร่างบางตะโกนใส่จียงอย่างขุ่นเคือง รีบลุกขึ้นแล้วเดินหนีไป.

       

       

      ตอนเย็น เหล่าสมาชิกกำลังกินข้าว

       

      "แทยังๆ นายได้ดูเกมโชว์ป้ะ ตอนบ่ายๆอ่ะ"

      "อ่อ ไอเกมที่แข่งกันทำอาหารใช่ม้ะ ไอจี"

      "ช่าย ใครชนะอ่ะ"

       

      "พี่ท๊อปครับ พี่ไปไหนกีบพี่จีมาอ่ะ"

      "ไปห้างมาหน่ะ แดซองมีไรป่าว"

      "เปล่าครับ ผมนึกว่าไปบริษัท เลยจะถามว่า ผู้จัดการอยู่หรือเปล่า เฉยๆครับ"

       

      บทสนทนาบนโต๊ะอาหารเริ่มขึ้น นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เหล่าสมาชิกรวมตัวกันพร้อมหน้าและได้แชร์ความสุขร่วมกัน แต่วันนี้เหมือนขาดเสียงหนึ่งไปนะ ทุกคนประหลาดใจมาก

      "ซึงรี วันนี้นายดูเงียบๆ เป็นไรมั้ย"

      "อ่า ไม่มีอะไรหรอกฮะ แดซองฮยอง"

      "......"

      "จะไม่มีได้ยังไง มักเน่ ปกตินายโม้ตลอด"

      "ท๊อปฮยองก็อีกคน ผมไม่ได้มีอะไรจริงๆ"

      "เฮ้ย ไอจี แกรู้มั้ยว่ามักเน่มันเป็นอะไร"

      ยองเบหันมาถามจียงที่เคี้ยวข้าวอยู่

      "...ไม่รู้เหมือนกัน" เขาเงีบบไปพักหนึ่ง กลืนอาหารลงคอแล้วตอบด้วยความใสซื่อ?

      เคร้ง!

      เสียงช้อนส้อมกระทบจานดังสนั่นหลังจากที่จียงตอบคำถามด้วยความไม่สนใจอะไร

      "อิ่มแล้วฮะ" ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ยกจานตรงไปที่ห้องครัว

      "ซึงรี วางไว้ในอ่างก็ได้ เดี๋ยวพี่ล้างให้"

      แดซองพูดอย่างลนลานกับท่าทีของร่างบาง

      "ไม่เป็นไรฮะ ผมล้างเอง" พูดพลางถกแขนเสื้อขึ้นกันไม่ให้เปียกน้ำยาล้างจาน

      "มักเน่ต้องเป็นอะไรแน่ๆ ปกติเกี่ยงล้างจานจะตายไป ไหงวันนี้ดันลุกถือจานไปล้างเองวะ"

      ท๊อปหันไปกระซิบกับแทยังอย่างกังวล

      "ผมว่างอลใครมาชัวร์" แดซองเข้ามาร่วมวง

      "ใครหล่ะ" มันก็ไม่ได้ไปอยู่กับใครหนิ ท๊อปคิด

      "จะมีใครหล่ะ นอกจาก.." แทยังหันหน้าไปยังลีดเดอร์ของเราที่นั่งเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรจริงๆ

      "ไอจี.." เขาพูดพลางถอนหายใจ คู่นี้ทะเลาะกันอีกแล้วเรอะ มักเน่หายงอลง่ายนะ ถ้าจีไม่ไปราดน้ำมันเข้ากองเพลิงซ้ำ

      "มักเน่~ งั้นล้างให้ฉันด้วย" น่าน แทยังคิดยังไม่ทันขาดคำจียงก็เริ่มหาเรื่องใส่ตัวเอง

      "....." ซึงรีรับจานมาอย่างว่าง่ายแล้วล้างมัน

      พอล้างเสร็จก็เดินเข้าห้องนอนไปไม่พูดอะไรเลย

       

      "มักเน่เป็นอะไรไปอ่ะ" จียงที่ยังเหวอๆถามเพื่อนๆที่ล้อมวงกันอยู่

      "พึ่งจะรู้สึกเรอะ ไอจี" ท๊อปถามแบบเอือมๆ

      "เปล่า ก็แบบ ฉันคิดว่ามันก็แค่งอลอะไรมาสักอย่าง ฉันเลยทำเป็นไม่สนใจ คิดว่าเดี๋ยวก็คงดีขึ้นเหมือนทุกทีเอง แต่มันดันเงียบไปเลย" จียงพูดพลางย่นคิ้ว

      "ผมคิดว่าตอนแรกซึงรีคงจะโกรธอะไรมา เพราะว่าเขากระแทกช้อนส้อม แต่หลังจากที่พี่จีเดินเข้าไปฝากให้ล้างจานด้วย ผมเห็นท่่าทีซึงรีเขาเปลี่ยนไปนะครับ" แดซองพูดพลางกวาดสายตามองพี่ๆ

      "ซึงรีเขาดูเศร้าๆครับ" แทยังที่ได้ยินทำตาโตเล็กน้อย เขาเริ่มประติดประต่อเรื่องได้แล้ว

      แต่เขายังไม่มั่นใจเลยเก็บเงียบไว้.

       

      จียงเดินเข้ามาในห้องนอน เห็นร่างบางนั่งอยู่ที่โต็ะทำงาน หน้าตาร่างนั้นดูเหม่อลอย เขาคิดจะแกล้งให้ร่างบางตกใจ

      "มัก-เน่!!" จียงกระโจนเข้าไปกอดร่างบาง

      ปกติแล้ว ซึงรีจะโวยวายและพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ครั้งนี้ร่างบางกลับนิ่งเงียบยอมให้เขากอดแต่โดยดี

      และแน่นอนว่าจียงรู้ตัวดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติของซึงรีแน่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

      'ฉันต้องรู้ให้ได้ว่านายเป็นอะไร' จียงยืนยัน

      แต่เขาก็ยังคงทำตัวตามปกติ เพื่อสังเกตร่างนั้น

       

      "มักเน่กลับบ้านกัน" 

      "จียงฮยอง วันนี้ผมขอกลับคนเดียว" 

       

      "มักเน่ๆ มีเค้กของโปรดนายด้วย"

      "ผมไม่หิวฮะ ฮยองกินไปเถอะ"

       

      "แฮ่!!!"

      "มันเจ็บนะฮะ เลิกแกล้งผมเถอะ"

       

      "เฮ้ย ไอซึงรีเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอว้ะ"

      ท๊อปกระซิบถามจียงที่ทำหน้าหงอยๆหลังจากที่แกล้งมักเน่ไม่สำเร็จ

      "นั่นสิ อาการหนักมากเลยเว้ย"

      "แล้วแกไม่ถามมันไปตรงๆเลยว้ะ ว่ามันเป็นบ้าอะไรของมัน นี่ก็จะเกือบอาทิตย์แล้ว"

      ท๊อปสงสัยจียงมาก ทำไมเขาถึงไม่ยอมถามซึงรี

      ถ้าเขาถามไป เรื่องอาจจะจบไปตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว

      "ฉันคิดว่าถามไปมันก็ไม่บอกหรอก ขนาดพวกนายถามมันยังตอบว่าไม่เป็นไรๆตลอดเลย"

      "งั้นนายจะเมินเรื่องนี้เรอะ"

      "เปล่าๆ ฉันแค่จะสังเกตดูหน่ะ เลยต้องทำตัวให้ปกติเข้าไว้เผื่อมันจะหลุดอะไรออกมา"

       

       

      "ซึงรี! นายเต้นผิดอีกแล้วนะ นี่ก็จะถึงวันถ่ายเอมวีแล้ว กลับไปซ้อมด้วยหล่ะ" แทยังดุใส่ร่างบางที่ยังคงมีอาการเหม่อลอยและเศร้าซึม

      "ผมขอโทษฮะ ผมจะพยายาม" ยังคงตอบด้วยน้ำเสียงซึมๆ จากนั้นพอกลับถึงบ้านก็รีบเข้าห้องนอนไปโดยไม่พูดอะไรสักคำเดียว

      "ไอจี แกแน่ใจนะว่าแกไม่ได้ไปแกล้งอะไรมัน"

      "..ไม่ ฉันว่าฉันไม่ได้แกล้งอะไรจนมันซึมไปขนาดนี้"

      จียงปฏิเสธพลางคิดย้อนดูว่าตนไม่ได้ไปทำอะไรร้ายแรงจริงๆนะ

      "ผมไปดูซึงรีหน่อยดีกว่า" แดซองเสนอตัวหลังจากที่บรรยากาศชวนให้อึดอัดแปลกๆ

       

      ก๊อกๆ 

      "ซึงรี พี่เข้าไปนะ " ผู้เป็นพี่แสดงมารยาทก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

      ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ

      "พี่แดซองมีอะไรเหรอฮะ" น้ำเสียงนั้นฟังแล้วม่นหมองเหลือเกิน ผู้เป็นพี่ถอนหายใจเดินตรงไปหาร่างบางแล้วทิ้งตัวลงข้างๆเขา

      "เราเป็นครอบครัวนะ เพราะงั้น..บอกมาเถอะ"

      "......" ร่างบางเงียบไปพักหนึ่งก่อนตัดสินใจยอมปริปากเล่า

      "..ผมรู้สึกน้อยใจฮะ" สายตาของเขาเหม่อมองไปยังพื้นห้องกว้าง

      "จียงฮยอง.." เอ่ยชื่อผู้ที่ทำเขาน้อยใจออกมา

      "ผมคิดมาสักพักนึงแล้วว่าความสัมพันของผมกับจียงฮยองคืออะไร"

      "....." แดซองไม่ได้พูดอะไร รับฟังร่างบางที่เริ่มเปิดใจระบายความในใจออกมา

      "จียงฮยองบอกผมว่าเขาชอบผม..แล้วเขาก็บอกกับท๊อปฮยอง แทยังฮยองและแดซองฮยองว่าเขาชอบ.." ร่างบางเริ่มลดเสียงลง

      "ผมเคยเชื่อว่าผมสำคัญกับจียงฮยอง..แต่ผมคิดผิด จริงๆแล้วผมไม่สามารถเป็นอะไรให้้เขาได้เลยยกเว้นเสียแต่เป็นแค่น้องชาย"

      "..."

      "ทั้งๆที่เมื่อก่อนผมทำอะไรด้วยตัวคนเดียวเสมอแต่พอจียงฮยองเข้ามา..ผมกลับรู้สึกว่าผมขาดเขาไม่ได้ จนวันหนึ่งความรู้สึกของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป..ผมรู้ว่าเขาไม่มีวันหันมามองผมในรูปแบบอื่น ผมเลยพยายามที่จะปลีกตัวออกห่างเขาและไม่ทำตัวสนิทสนมด้วย..นั่นอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวแต่ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องทำให้ได้ ก่อนที่มันจะมากไปกว่านี้

         แต่ ยิ่งผมห่างเขามากเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้ช่วยผมให้ชินหรือดีขึ้นเลย มันกลับทำให้ผมรู้สึกขาดหายอะไรไปตลอด.."

      คำพูดที่พรั่งพรูผ่านริมฝีปากนั้นสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ร่างบางพยายามเก็บซ่อนมาโดยตลอด

      "นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นายซึมๆและเย็นชากับพี่จี"

      "ฮะ" เขาตอบคำถามของผู้เป็นพี่ทั้งที่ยังคงเหม่อมองพื้นห้อง แดซองเริ่มถามต่อ

      "ทำไมนายถึงคิดว่าพี่จีไม่ให้ความสำคัญกับนายหล่ะ"

      "..ผมงอล แต่เขาก็เมิน ผมเงียบแต่เขาก็ยังคงร่าเริง ผมจะทำอะไรยังไงเขาก็ไม่สนใจ เขากลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องใส่ใจ.."

      "...."

      "วันนั้น วันที่เขาสัญญาจะเล่นกับผม เขากลับไปเดินห้างกับท๊อปฮยอง หายไปแล้วก็กลับมายุ่งวุ่นวายกับผมอีก ทำให้ผมเชื่อแล้วก็หลอกผม

      ที่เขายุ่งวุ่นวายกับผมก็คงเพราะกลัวว่าผมจะทำงานพัง กลัวผมจะทำเขาเสียหน้า.."

      "แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับผมแหละฮะ" 

      "ให้ความสำคัญว่าเป็นน้องชายตัวแสบที่สร้างแต่ปัญหาให้คนเป็นพี่อย่างเขาต้องคอยดูแล"

      ร่างบางพูดเหมือนให้กำลังใจตัวเองแต่แดซองกลับมองว่าเขาพูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ

      "ซึงรี.." แดซองพยายามสันหาคำพูดปลอบ

      "ไม่เป็นไรฮะ ผมโล่งขึ้นเยอะ ขอบคุนนะฮะ"

      โค้งตัวขอบคุณรุ่นพี่แล้วยิ้มอย่างอบอุ่น

      "ผมอาจจะเป็นแบบนี้ไปสักพัก ถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่ผมจะคุยกับจียงฮยองตรงๆเลยฮะ รับรอง"

      กล่าวพร้อมเดินไปส่งแดซองที่หน้าประตูห้อง

      "งั้นก็สู้ๆนะ" แดซองทำได้เพียงให้กำลังใจ สุดท้ายเขาจึงเดินออกจากห้องไป

      "อ้าว พี่จีมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ" พอเปิดประตูมาก็เจอจียงยืนอยู่หน้าห้อง

      ร่างบางที่เห็นเขา รีบเบือนหน้าหนีปิดประตูไป

      "พี่จีไม่เข้าไปหาเหรอครับ" แดซองเดินตามจียงที่เดินหนีลงไปยังห้องนั่งเล่น

      "ฉันต้องคิดก่อนหน่ะ ฉันอยู่หน้าประตูอยู่นานเลยได้ยินทุกอย่าง แต่ฉันกลัวว่าจะพูดพลาดอะไรไปสะกิดเจ้านั่น..ฉันไม่อยากทำมันร้องไห้ เลยขอคิดบทที่ควรจะพูดก่อน"  จียงอธิบายจนเดินมาถึงห้องนั่งเล่น

      "อ่อ แต่อย่าคิดนานนักนะครับ เวลาไม่คอยพี่หรอกนะ" แดซองยิ้มให้เขาก่อนแยกไปห้องนอนของตน.

       

       

      เมื่อสร้างคำพูดสารพัดเพื่อคืนดีกับความมั่นใจใส่อกเรียบร้อย ร่างสูงก็ลุกพรวดออกไป ตรงไปยังห้องนอนของอีกร่างหนึ่งทันที

      เขาหยุดยืนหน้าประตูเว้นระยะห่างประมานสามก้าวกับประตูห้อง ยกมือขึ้นจะเคาะแล้วก้าวเข้าไปอีกก้าวหนึ่งเพื่อพูดขออนุญาตคนในห้อง

      "ฮึก..ฮึก.." ก่อนที่จียงจะเคาะประตูห้องหรือพูดอะไร เสียงสะอื้นจากการร้องไห้ของร่างบางก็ดังลอดมา เขาช็อกไปพักหนึ่ง มือที่ยกขึ้นยังค้างอยู่ที่หน้าประตู ใจเริ่มร้อนขึ้น เขารู้จักร่างบางดี รู้เรื่องของร่างบางเหมือนเป็นเรื่องของตนเอง ร่างนั้นไม่เคยเสียน้ำตาแม้สักหยด หากแต่มันเป็นเรื่องที่คนเข้มแข็งอย่างร่างบางไม่สามารถแบกรับมันไว้จริงๆเท่านั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แต่นั่นอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรสำหรับจียง เพราะสำหรับเขานั้น ไม่ได้สนใจปัญหาหรืออะไรทั้งนั้น ประเด็นสำคัญของเขาคือ น้ำตาของซึงรีมากกว่า..มากที่สุด

      จียงรีบเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว

      "มักเน่!" ทันทีที่เห็นสภาพของร่างบางที่นั่งพิงเตียงอยู่ที่พื้นอย่างระอิดระโอย ใบหน้าที่เปราะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาตกใจที่จู่ๆเขาก็เข้ามา

      จียงรีบพุ่งเข้าไปหาร่างบาง กอดเขาไว้แนบแน่นเหมือนโหยหามานาน เขาไม่สามารถอดทนเห็นร่างบางร้องไห้ได้ เขารู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ร่างนั้นเสียน้ำตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ร่างบางต้องเสียน้ำตาเพราะเขา

      "จียงฮยอง..ฮึก..ปล่อย.." ร่างบางพูดทั้งที่ยังสะอื้นอยู่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร จียงยังคงกอดเขาไว้ไม่สนใจคำพูดของร่างบาง

      "อย่ากอดผมเลยฮะ..ฮึก..มันเจ็บปวดนะ" 

      คำพูดร่างบางสั่นเครือ ยิ่งทำให้จียงปวดใจมากขึ้น คำพูดที่เขาเตรียมตัวมาหายไปจากหัวเขาหมด เขาไม่รู้ว่าตัวเองต้องเริ่มพูดจากตรงไหน

      "มักเน่ มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดสักนิด" ตอนนี้จียงไม่สนใจคำพูดที่เขาเตรียมมาอีกแล้ว เขาจะพูดในสิ่งที่ตอนนี้ใจของเขาสั่ง

      "พอเถอะฮยอง..ฮึก ฮยองก็เห็นๆกันอยู่"

      ร่างบางตัดพ้อเงยหน้าขึ้นมองเพดานกลั้นน้ำตา

      "นายมั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่นายเห็นมันคือความจริง" จียงค่อยๆคลายอ้อมกอด เลื่อนมือมาบีบไหล่ทั้งสองข้างของร่างบางแทน

      "รู้มั้ย วันนั้นที่ฉันผิดสัญญาว่าจะเล่นกับนายหน่ะ เพราะฉันไปห้างกับท๊อป ฉันไม่ได้ไปเที่ยวนะ ใกล้ถึงวันเกิดนายแล้ว ฉันไปหาซื้อของขวัญให้นายนะ" ร่างบางมองหน้าร่างสูงอย่างงงๆ

      "แล้วพอกลับมา เห็นนายนอนตักแทยัง ฉันก็ปรี๊ดขึ้น ฉันเลยขอแทยังสลับให้นายมานอนตักฉันแทน" 

      "..ทำไม" ร่างบางถามทั้งน้ำตาที่ยังคลอเบ้า

      "หึง" จียงตอบสั้นๆ หลบสายตาของร่างบางค่อยๆเอามือออกจากไหล่เขา

      "ที่ฉันบอกคนอื่นๆว่าชอบ ที่จริงโกหกหน่ะ"

      "ห้ะ?"

      "อือ ก็ฉันประหม่านี่ ที่บอกนายคนเดียวว่าชอบ กลัวนายขยะแขยงเลยบอกให้หมดทุกคนจะได้ดูเหมือนไม่ได้คิดอะไร.." จียงยังคงหลบหน้าเขาพูดต่อ

      "ที่ฉันกอดทุกๆคน เพราะจะได้มีเหตุผลมาอ้างว่า ฉันกอดทุกคนไม่ได้กอดนายคนเดียว นายจะได้เข้าใจว่านั่นเป็นนิสัยของฉัน นายจะได้ไม่รังเกียจ.." หน้าของจียงเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ

      "ถ้ามาตราฐานของฉันคือคำว่าชอบ งั้นคำพิเศษที่มากกว่ามาตราฐานก็คงเป็น รัก ละมั้ง"

      จียงค่อยๆหันมาสบตากับร่างบางที่อึ้งๆอยู่

      "ฉันชอบนายที่เป็นน้องชาย" แววตานั้นจริงจังจนร่างบางต้องเงียบ เจ้าของแววตานั้นพูดต่อ

      "แล้วฉันก็รักนายที่เป็นคนพิเศษเหมือนกัน"

      รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าจียง

      "ฉัน'ชอบ'นายนะ 'มักเน่'....นายชอบฉันมั้ย"

      "..ชอบฮะ" ลังเลก่อนจะตอบเหมือนไม่ค่อยเข้าใจที่จียงจะสื่อเท่าไหร่นัก

      "โอเค แล้วก็..ฉัน'รัก'นายนะ 'อี ซึงฮยอน'

      .....นายรัก ฉันมั้ย" ทันทีที่พูดออกมาร่างบางก็เข้าใจสิ่งที่จียงต้องการจะสื่อทันที

       

      ควอน จียง ไม่ได้'ชอบ'ใครเป็นพิเศษ

      เขา'ชอบ'ทุกๆคนที่อยู่กับเขาเหมือนๆกัน

      เขา'ชอบมักเน่'ที่เป็นน้องชายคนสำคัญ

      แต่ เขารักอี ซึงฮยอนที่เป็นคนพิเศษของเขาดังนั้น

      ควอน จียง จึงมีคนที่เขารักเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียวในหัวใจ.

       

      ฮะ ผมก็รักฮยองนะ จียงฮยอง”

       

         จบ.     

       ..................................................................................

      ฮวู่ เป็นการขั้นเวลาที่เรื่อยเปื่อยอย่างแท้จริงเลยค่ะ
      SF อันนี้ไปขุดเอาที่เคยแต่งตอนปีที่แล้วมาค่ะ (ภาษาอาจจะแปล่งๆนะคะ)
      พอดีว่าคุยกับเพื่อนที่บ้าคู่ท๊อปจี เขาบอกว่าจีชอบคนไปทั่วค่ะ
      แล้วก็กอดหรือเล่นกับคนอื่นๆเป็นเรื่องปกติค่ะ
      ฉะนั้น มันเลยปิ๊งขึ้นมาค่ะ SF อันนี้เนี่ย 555
      ก็ถ้ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ถูกใจยังไงก็ต้องขออภัยอย่างเคยค่ะ

      ขอบคุณที่อ่านกันนะค้าาาาาาาา  GRi จงเจริญ!!
       

      CC.                                        

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×