คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [OS] LGBT
LGBT
*เป็นจินตนาการที่ผู้เขียนแต่งขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณด้วยฮับ เย้ๆ~*
แบคฮยอนไม่ใช่คนที่ชอบความวุ่นวายมากนักหรอก
แต่การที่เขามาอยู่ท่ามกลางการรวมกลุ่ม LGBT หรือกลุ่มคนรักร่วมเพศน่ะเพราะโดนรุ่นพี่เซฮุนบังคับมาทั้งนั้น
พอชวนเขามาได้สำเร็จก็ทิ้งเขาไว้ท่ามกลางกลุ่มคนแล้วตัวเองก็หนีไปหาแฟนเลยทันที
อ่า เขาคิดถึงเตียงนอนกับผ้าห่มอุ่นๆ
ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บนี่จัง ถ้าตอนนี้ยังอยู่บนนั้นคงได้หลับไปได้หลายตื่น
“เอานี่ไปสิ”
อยู่ๆ
ก็มีมือปริศนามาพร้อมกับกาแฟกระป๋องร้อนๆ ยื่นมาตรงหน้าของแบคฮยอน
เขาปฏิเสธมันในทันทีเพราะเขาดื่มกาแฟไม่เป็น ชายคนนั้นทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนมาเป็นขำๆ
ในลำคอ
มันมีอะไรน่าขำกัน?
“มาใหม่ล่ะสิ”
“อ่า… ครับเพิ่งมา”
“นายคงไม่ได้ อืมม.. หลงทางมาใช่ไหมเด็กน้อย”
“เปล่า ถูกชวนมา”
แล้วทำไมแบคฮยอนต้องมาตอบคำถามชายแปลกหน้าคนนี้ด้วย
เขาไม่ได้รังเกียจหากจะมีผู้ชายที่เป็น LGBT มาชวนคุย
แต่เขาแค่ไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าเท่านั้นเอง
และในตอนนี้ที่ไม่มีรุ่นพี่เซฮุนอยู่มันยิ่งทำให้เขาปลีกตัวออกไปยากมากๆ
“งั้น.. แสดงว่านายไม่ใช่ LGBT
น่ะสิ”
“ไม่เชิง เอ่อ..
ขอตัวนะครับ”
แบคฮยอนจะไม่มีทางต่อความยาวสาวความยืดกับชายคนนี้ต่ออีกแน่ๆ
ทางที่ดีคือเขาต้องรีบไปหารุ่นพี่เซฮุนที่ถึงแม้ว่าจะต้องทนมองรุ่นพี่จู๋จี๋กันกับแฟนและยังไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ส่วนไหนของกลุ่มผู้คนอีกด้วย
แต่แบคฮยอนจะไม่อยู่ตรงนี้ต่อเด็ดขาด
“เฮ้ นายจะมาอีกไหม”
“…”
แบคฮยอนเลือกที่จะไม่ตอบและรีบเดินหนีไปให้ไกลที่สุด
ถึงแม้จะได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังว่า ‘ไว้เจอกันนะ’ แต่ใครมันอยากจะไปเจอกันอีกเล่านี่เขาแค่มาร่วมกลุ่มเฉยๆ
ตามคำชักชวนของรุ่นพี่ ไม่ได้ต้องการจะรู้จักใครเพิ่มในชีวิตเลยซักนิด
และคิดว่าพรุ่งนี้เขาจะมาอีกอย่างนั้นเหรอ จ้างให้ก็ไม่มาหรอก
ใครกันนะที่บอกเมื่อวานว่าจ้างให้ก็ไม่มา
แล้วสุดท้ายวันนี้ก็ต้องมายืนท่ามกลางกลุ่ม LGBT อีกแล้ว
ไงล่ะ! แบคฮยอนนายนี่มันเป็นคนยังไงกันเนี่ย
แล้วทำไมผู้ชายที่เข้ามาคุยกับเขาเมื่อวานถึงได้มายืนอยู่ข้างเขากันนะ
“ไง วันนี้นายก็มา”
“…”
“นายดูไม่ค่อยเต็มใจมานะ โดนบังคับมาเหรอ?”
แหงล่ะ
โดนลากมาตั้งแต่ในห้องคงเต็มใจมามากสินะ
“ไม่ยอมคุยด้วยเลยแฮะ”
แล้วเขาก็เร่งฝีเท้ามาหยุดยืนข้างหน้าของแบคฮยอน “ฉันปาร์ค ชานยอล
ยินดีที่ได้รู้จัก”
“…”
“เงียบอีก นายไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันเหรอ?”
แบคฮยอนเบิกตากว้างด้วยความอึ้ง
ยอมรับเลยว่าเขาเจอคำถามของปาร์คชานยอลทำเอาเขาอึ้งไปเลย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ไม่ชอบผู้ชายด้วยกัน เขามันยังไงก็ได้อยู่แล้วจะเพศไหนยังไงความรักก็คือความรัก
แต่มาเจอคนถามโต้งๆ ว่าไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันเหรอ ก็ทำเอาตั้งรับไม่ถูก
“แต่ฉันชอบนายนะ”
จากที่อึ้งอยู่แล้วแปรเปลี่ยนเป็นตกใจไปในทันที
คืออะไร? ยังไง? ไหงแบคฮยอนมาโดนสารภาพท่ามกลางกลุ่มคน LGBT ที่กำลังเรียกร้องสิทธิการรักร่วมเพศล่ะเนี่ย
“นายจะไม่บอกชื่อให้กับคนที่ชอบนายรู้หน่อยเหรอ?”
“ชะ ชื่อ..
บะ บยอน แบคฮยอน”
“เพราะชะมัดเลย
ชื่อมันเข้ากับนายสุดๆ”
“ขะ ขอบใจ”
หลังจากนั้นเราทั้งสองก็เงียบกันมาตลอดทาง
แบคฮยอนเพิ่งสังเกตเห็นว่าชานยอลถือป้ายที่มีตัวอักษรว่า ‘BORN THIS WAY’ ไว้ด้วย แต่เขาก็ไม่ได้ทักถามอะไรออกไป
พวกเราทั้งสองเดินตามสายขบวนตามผู้นำ
LGBT ที่วันนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนเส้นทางใหม่ที่ไม่ใช่ทางเดิมเหมือนกับเมื่อวาน
เห็นได้ยินผ่านๆ มาว่าวันอาทิตย์นี้พวกเรา LGBT ทุกคนจะไปรวมตัวกันที่ศาลากลางเพื่อฟังคำแถลงการณ์ตัดสินเกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศ
แน่นอนว่าพวกเขาต่อสู้กันมายาวนานมาก
ในช่วงแรกๆ
พวกเขาถูกต่อต้านและเป็นที่รังเกียจของสังคม รัฐบาลสั่งการเด็ดขาดให้ทหารออกกองกำลังมาทำลายกลุ่ม
LGBT แน่นอนว่ากลุ่ม LGBT มีคนน้อยกว่ามากทำให้แพ้กำลังของฝ่ายทหารที่มีมากกว่าสิบเท่าตัว
จึงจำเป็นต้องสลายไป แต่ไม่นานพวกเขาก็ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
พวกเขาสู้เพื่อปกป้องสิทธิอิสระของความรัก
ความรักไม่ควรที่จะจำกัดอยู่เพียงแค่ชายหญิงเท่านั้น ไม่ว่าเราจะรักใคร
เพศอะไรก็ตาม ความรักก็คือความรัก พวกเขาแสดงออกให้คนอื่นรู้ว่าการรักร่วมเพศนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด
แม้จะเป็นความรักที่แปลก แต่ได้โปรดมองพวกเขาเป็นคนปกติ ยอมรับพวกเขาให้เหมือนคนทั่วไป
แน่นอนล่ะว่าสิ่งที่พวกเขาทำมาไม่ได้ต้องการเพื่อให้คนยกย่องเชิดชู
หรือแสดงความกล้าหาญเหนือคนอื่น
พวกเขาแค่ต้องการเป็นที่ยอมรับว่าการรักร่วมเพศก็เป็นความรักเหมือนกัน
“ฉันดีใจที่ได้มาเจอนายนะ แบคฮยอน”
“…”
“หวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะได้เจอนายอีก”
“ถ้ามานะ”
“ฮ่าๆๆ
วันอาทิตย์นี้นายต้องมาให้ได้นะ”
แบคฮยอนยังไม่แน่ใจเลยว่าพรุ่งนี้เขาจะมาดีไหม
แต่ถ้าไม่มายังไงไอ้รุ่นพี่โอเซฮุนก็ต้องลากเขามาด้วยแน่ๆ
สรุปยังไงเขาก็ต้องมาสินะ
“อื้ม”
แค่คำๆ เดียว
แบคฮยอนไม่รู้หรอกว่ามันทำให้ปาร์คชานยอลน่ะยกยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจเลยล่ะ
แค่สองวันที่เราได้เจอกันบยอนแบคฮยอนก็มีอิทธิพลต่อหัวใจของปาร์คชานยอลไปซะแล้ว
วันนี้เป็นวันเสาร์
พวกเรากลุ่ม LGBT ก็ยังคงเดินขบวนเพื่อสิทธิการรักร่วมเพศอยู่ไม่มีขาดสาย
เช่นเดียวกับแบคฮยอนและชานยอลพวกเขายังคงเข้าร่วมกลุ่ม LGBT อยู่สม่ำเสมอทุกวัน
จะแปรเปลี่ยนก็ตรงที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ
จากที่ชานยอลชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียวและแบคฮยอนก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง
กลายเป็นว่าพวกเขาพูดคุยกันราวกับว่าหากไม่ได้คุยกันวันนี้พรุ่งนี้อาจจะโลกแตกขึ้นมาก็ได้
และจากที่เดินอยู่ข้างกันเฉยๆ ก็เปลี่ยนมาจับมือกันบ้าง เดินควงแขนกันบ้าง โอบไหล่โอบเอวกันบ้าง
รุ่นพี่เซฮุนที่แบคฮยอนชอบบ่นว่าจู๋จี๋กับแฟนบ่อยๆ
ยังไม่เท่าชานยอลกับแบคฮยอนในตอนนี้เลย
ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไม่ใช่แฟนกัน
แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นคนรักกันไปแล้ว
แบคฮยอนยังแปลกใจกับตัวเองเลยว่าเขาเข้ากับชานยอลได้ดีมากกว่าที่คิดซะอีก
พอมารู้ตัวอีกทีชานยอลก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของแบคฮยอนไปแล้ว
รุ่นพี่เซฮุนที่รู้ว่าเขามีคนรักแล้วก็ล้อเช้า ล้อสาย ล้อบ่าย ล้อเย็น
ล้อยันลูกบวชจนแบคฮยอนเขินอายหน้าแดงไม่หวาดไม่ไหว
“พรุ่งนี้เราต้องมานะ”
“ผมมาแน่นอนอยู่แล้วล่ะ
พรุ่งนี้วันสำคัญเชียวนะ”
แน่นอนล่ะว่าความสัมพันธ์พัฒนาสรรพนามในการเรียกก็ถูกเปลี่ยนไปด้วย
แบคฮยอนแทบไม่เชื่อว่าชานยอลอายุมากกว่าตน 7 ปีแล้ว
เขาคิดมาตลอดว่าชานยอลน่ะอายุเท่ากันอย่างแน่นอน
“สัญญาได้ไหม”
“ครับ?”
แบคฮยอนหยุดเดินเมื่อพี่ชานยอลเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้า
จากมือที่โอบเอวเขาไว้เปลี่ยนมาจับมือของเขามาถือไว้แทน ชานยอลทำหน้าจริงจังซะจนแบคฮยอนนึกเครียดตามไปด้วย
“ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
แบคฮยอนจะยังอยู่ข้างพี่ไม่ไปไหนได้ไหม”
พรุ่งนี้ที่พี่ชานยอลพูดคงหมายถึงคำแถลงการณ์เกี่ยวกับสิทธิ
LGBT สินะ ถ้าหากว่าผลการตัดสินเป็นการไม่ให้สิทธิกับพวกเราก็หมายความว่าถึงแม้พวกเราจะรักกันได้แบบเปิดเผย
แต่มันจะไม่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งนั่นก็คือไม่สามารถจดทะเบียนสมรสกันได้
สีหน้าที่ดูอ้อนวอนแกมขอร้องนั่นแบคฮยอนเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกจากชายตรงหน้าเลยล่ะ
ถ้ายกโทรศัพท์มาถ่ายรูปตอนนี้จะได้ไหมนะ
ปาร์คชานยอลโตกว่าเขาซะเปล่าแต่กลับมาขอร้องอ้อนวอนให้เด็กอย่างเขาอยู่เคียงข้างในวันพรุ่งนี้น่ะเหรอ
ช่างไม่รู้อะไรซะเลยว่าเขาน่ะ
“ได้อยู่แล้วล่ะ ผมสัญญา”
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้
พรุ่งนี้ หรืออีกกี่สิบปีข้างหน้า เขาก็จะอยู่เคียงข้างปาร์คชานยอลไม่ไปไหนเด็ดขาด
ก็รักไปแล้วนี่นะ
การต่อสู้ที่ยาวนานในที่สุดมันก็ได้มาถึงจุดจบแล้ว
พวกเขาได้พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้แสดงให้โลกได้ประจักษ์แล้วว่า
‘ความรักไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ความรักก็คือความรัก’
แบคฮยอนยังจำคำแถลงการณ์ได้อยู่เลยว่า
LGBT ได้รับสิทธิตามที่พวกเขาต้องการและเป็นที่ยอมรับทางกฎหมาย พวกเขาพยายามกันมานานมากและนี่คือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ
เสียงของทุกคนที่มากันที่ศาลากลางต่างกู่ร้องที่เต็มไปด้วยความดีใจ
เสียงปรบมือแสดงความยินดีดังไปทั่วทั้งศาลากลาง พวกเขาทำสำเร็จแล้วและนี่คือผลตอบรับที่คุ้มค่าที่สุด
แบคฮยอนถูกดึงเข้าไปกอดโดยรุ่นพี่เซฮุนที่ดีใจจนร้องไห้ไม่หยุด
เขาจึงต้องผละออกไปให้หน้าที่ปลอบเป็นหน้าที่ของแฟนอย่างรุ่นพี่จงอินก็แล้วกัน
วันนี้แบคฮยอนผูกผ้ารอบหัวเป็นสีรุ้งอย่างที่คนอื่นๆ ทำกัน
แต่ว่าเขาไม่เห็นพี่ชานยอลตั้งแต่ที่เขามารวมตัวกันที่ศาลากลางแล้ว
นั่นทำให้แบคฮยอนใจไม่ดีเลย
คนที่ขอร้องให้เขาอยู่ข้างๆ กัน
แต่กลับไม่อยู่ซะเองนี่มันยังไงกันนะ
“แบคฮยอน”
แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหลังของแบคฮยอน
เขารีบหันหลังกับไปมองแล้วก็ใช่พี่ชานยอลจริงๆ
ที่มีผ้าผูกหัวสีรุ้งและธงสีรุ้งอยู่ในมือข้างขวา “เป็นแฟนกันนะ”
“มันแน่อยู่แล้วไอ้พี่บะ…”
ยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดพร้อมกับจูบหวานๆ
ที่ได้จากแฟนตัวสูงหมาดๆ
ชานยอลยกธงสีรุ้งที่ตัวเองตั้งใจถือมาตั้งแต่แรกขึ้นเหนือหัว
เพื่อประกาศถึงชัยชนะและความยินดีในวันนี้ ชัยชนะที่กลุ่ม LGBT ได้รับสิทธิที่ควรจะได้รับ และยินดีที่แบคฮยอนได้ตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา
ไม่ว่าอุปสรรคต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรปาร์คชานยอลก็จะฝ่าฟันมันไปให้ได้
โดยที่มีคนรักอย่างบยอนแบคฮยอนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกายเขาไปตลอด
“รักบยอนแบคฮยอนครับ”
“รักปาร์คชานยอลเหมือนกันครับ”
ความคิดเห็น