ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Parallel of love KYUMIN

    ลำดับตอนที่ #8 : Parallel of love VII

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 158
      0
      26 พ.ย. 57





    Parallel of love


     
     

                   ผมไม่รู้ว่าตั้งเมื่อไร...ลูกสมุนของพี่คยูมักติดตามผมไปทุกฝีก้าว ตอนแรกผมก็ดูสนุกกับมันแต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้น เมื่อคืนก่อนพี่ชางมินถูกยิงเข้าที่ข้างลำตัวเพราะพี่เขากระโจนเอาร่างถึกๆมาปกป้องผมไว้ และในตอนนี้พี่เยซองเองกำลังเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ผมหันมองเรียวอุคที่วิ่งกรู่เข้าไปหาพี่เยซองด้วยความห่วงใย ทุกอย่างมันเกิดจากผม ผมพร่ำบอกตัวเองไปแบบนั้น แต่เมื่อเจ้าของฝ่ามือหนาที่กอบกุมความอบอุ่นให้กับผมในเวลานี้ พี่คยูฮยอนส่ายหน้าราวกับว่าเรื่องร้ายๆเหล่านั้น...มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...

                   “ยัยคุณหนูเป็นไรมั้ย?” ประโยคแรกถูกปล่อยจากคนที่สภาพย่ำแย่ที่สุด

                                  “.............” ผมปาดหยดน้ำตาออกพลางบอกทุกคนว่าผมปลอดภัยดี

                   “กลับกันเหอะ กูไม่ค่อยถูกกับกลิ่นโรงพยาบาลเท่าไร” พี่เยซองยกมือไล่ให้คนที่เหลือลุกขึ้นก่อนจะเดินนำออกไป ผมรีบพูดขอโทษเรียวอุครัว...เพราะเพื่อนตัวเล็กของผมเอาแต่ร้องไห้

                   “ขอโทษนะเรียวอุค”

                   “มันไม่ใช่ความผิดของซองมิน ไม่เป็นไรเลย” ใบหน้าเหลืองซีดแย้มรอยยิ้มให้กับผมบางๆ ผมพยักหน้าตอบ...ผมรู้ดีเรียวอุคเพียงต้องการให้ผมสบายใจเท่านั้น

     

     

                  

                   ร้อยล้านประโยคผมอยากเอ่ยถามพี่คยูเหลือเกิน ภาพที่พี่เยซองถูกดักทำร้ายกลับกลายเป็นเงื่อนงำใหญ่สำหรับผม เพราะผู้ชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมลูกสมุนอีกนับสิบคน กักตัวผมออกจากบริเวญตรงนั้น...พี่คยูดูตกใจเกินเหตุพี่เขาไม่ใช่คนที่ลนลานง่ายดาย หมัดหนักซัดเข้ามุมปากพี่คยูก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะฝากคำพูดเอาไว้...

    “กูบอกให้มึงดูแลน้องกูดีๆไงไอ้เหี้ยนี้”

     

     

                   “พี่ครับ” ผมนั่งลงข้างลำตัวหนาพลางเอนศีรษะหาตำแหน่งฝากความถวิลหา

                   “ว่าไง” พี่คยูเอ่ยถามพร้อมใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม...ที่ใครๆก็ดูออก...พี่เขากำลังฝืนทำมัน

                   “ผมกับผู้ชายคนนั้น....”

                                  “.................” มือหนายกปิดริมฝีปากบางของผม สายตายากที่จะเดาออกปรากฏขึ้นในแววตาคู่นั้น ผมเอื้อมมือดึงแขนพี่เขาออก

                                  “.................”

                   “พี่มีอะไรจะบอกผมหรือเปล่า?”

                                  “.................” ใบหน้าคมลดต่ำลง ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของพี่เขาชัดเจน พี่คยูลุกขึ้นยืนก่อนจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าผม

                                  “...................” ความเงียบเข้าสะกดมวลอากาศภายในห้องนอน

                   “คนนั้นชื่อซีวอน...”

                                  “..................” ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น

                   “มันเป็นคนดีนะและมันก็เป็น....” ทั้งผมและพี่คยูสะดุ้งตัว ประตูห้องถูกเคาะรัวเหมือนคนภายนอกกำลังมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ ผมนั่งมองร่างสูงที่เดินนำพี่เยซองเข้ามาในห้อง รายนั้นตวัดสายตากวนๆส่งมาให้ คงเพราะยังแอบเคืองเรื่องวุ่นๆเมื่อตอนกลางวัน

                   “กูไม่ได้มาขัดจังหวะห่าอะไรเหมือนคราวก่อนใช่มั้ย?”

                                  “....................” อาการใบหน้าร้อนซ่าแทรกซึม ผมยู้หน้าใส่พี่คยูฮยอนที่กำลังยักไหล่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว...คนทะลึ่ง แทนที่จะห้ามพี่เยซองแต่นี้อะไร กลับเห็นดีเห็นงามไปด้วยซะหมด

                  

     

                   เป็นอีกครั้งที่พวกพี่เขามีเรื่องราวบางอย่างที่จงใจปิดบังผมอยู่ ประตูระเบียงไม้เก่าที่ถูกตกแต่งด้วยกระจกสี่เหลี่ยมเล็กๆ4บาน มือหนาล็อคกลอนจากด้านนอก

                   “มึงบอกยัยคุณหนูนั้นไปยัง?”

                                  “......................” คยูฮยอนส่ายหัวให้เป็นคำตอบ

                   “มึงรักเด็กนั้นเข้าจริงๆหรอว่ะ” เยซองจงใจจี้จุดอ่อนไหวภายในจิตใจเพื่อนรักอย่างจัง ดอกฟ้ากับหมาวัดถ้าไม่ใช่ในนิยายมันก็ไม่มีทางได้ครองคู่กันหรอก

                   “อืม...รัก กูรักซองมินมาก” คยูฮยอนทิ้งตัวลง...แสดงสีหน้าคิดไม่ตก รู้ดีว่าจุดยืนของตัวเองคืออะไร แต่ในเมื่อตอนนี้เขาก้าวข้ามมันมาแล้ว จะให้เขาเดินถอยหลังมันก็คงไม่ใช่

                   “หึ ดีจังโว๊ย!” ร่างสูงตบบ่าเพื่อนอย่างแรงพลางยืดแขนบิดขี้เกียจ เยซองถุ้ยน้ำลายลงพื้นถนนด้านล่าง ความยุ่งยากกำลังจะตามมา...เหมือนคดีที่ฮันคยอง ฮีชอลและซีวอนเคยก่อเอาไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้า      

     

                   “มึงจะทำอะไรพวกกูอยู่ข้างมึงเต็มที่ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้มันมีการสูญเสียอีกก็พอ”

                   “มึง” คยูฮยอนดึงร่างแกร่งของเพื่อนเข้ามากอดแน่น

                   “สัด!” มือหนาผละตัวเพื่อนออก...รู้สึกไม่ชินเอาซะเลยโดนผู้ชายกอดแบบนี้

                                  “.............” คยูฮยอนพยักหน้ารัวซาบซึ้งกับน้ำใจของเพื่อน เพราะเรื่องราวที่จะดำเนินต่อจากวินาทีล้วนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเท่านั้นที่พวกเขาจะต้องเจอ

                   “ตอนนี้มึงก็ทำดีกับยัยคุณหนูนั่นเยอะๆแล้วกัน เผื่อคุณหญิงแม่บ้าบอจะใจอ่อนยอมให้ลูกชายคนเล็กคบหาเศษดินเศษโคลนอย่างมึงฮ่าๆ” น้ำเสียงปะปนกับเสียงหัวเราะคยูฮยอนรู้ดี เยซองกำลังปิดบังความกลัวอยู่ในใจ...ตั้งแต่วันที่ฮีชอลสละลมหายใจลง...ซีวอนกับฮันคยองก็แทบไม่เป็นผู้เป็นคน จนสุดท้ายความสัมพันธ์ก็แตกหักไปตามหัวใจอันบอบช้ำของคนทั้งคู่

     

                   “เฮ้อ แต่ประเด็นมันไม่อยู่ที่ตัวแม่เขาว่ะ ไอ้ยุนโฮ...”

                   “กูรู้”       

                   “เห้ย!!” เพื่อนรักสะดุ้งตัวเมื่อเด็กดื้อยันจังกล้าชูกุญแจขึ้นเหนือหัว มือเรียวหยิบม้วนบุหรี่จากปากหนาก่อนจะสูดความแสบร้อนเข้าปาก

                   “มานี้เลย ส่วนมึงกลับไปห้องเรียวอุคไป” คยูฮยอนดึงแขนคนรักให้นั่งลงเคียงข้าง ก่อนจะออกปากไล่แขกผู้มาเยือน

                   “เอ้อดี! มีเมียแล้วลืมเพื่อน” ก่อนไป...เยซองก็ขอเล่นลิ้นให้คนแถวนี้ได้อายหน้าแดงซะบ้าง

     

     

                   คยูฮยอนลูบไล้มือบางเบาๆพลางสบตาหวานซึ้งเมื่อใบหน้าหวานแย้มรอยยิ้มแสนสดใสมาให้ได้เชยชม ม้วนบุหรี่ถูกทิ้ง อีซองมินไม่ต้องการมันอีกต่อไป...จมูกคมซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนอย่างหลงใหล...จะเป็นไรไปในเมื่อระเบียงแห่งนี้เราเคยแต่งแต้มมันเป็นแดนรักของเรามาแล้ว

     

     

                   ผมหย่อนปลายเท้าสัมผัสอากาศเย็นที่แทรกซึมในแผ่นไม้ยามรุ่งเช้า เปลือกตาบางกระพริบปรับความสมดุลของทัศนียภาพตรงหน้า คนบ้า...เมื่อคืนเล่นเอาผมแทบไม่ได้นอน ระเบียงแห่งรักที่พี่คยูอุตส่าตั้งฉายานามให้ ตอนนี้สภาพมันกลับดูไม่ได้ กระถางต้นไม้ล้มระแนระนานอย่างน่าสงสาร ผมเหมอมองแผ่นหลังที่กำลังสะบัดชุดนักเรียนตัวเก่งของผม ใบหน้าของพี่คยูฮยอนในยามนี้...มันจะจดจำมันเอาไว้ตราบทุกลมหายใจที่ผมมี

                   “พี่รู้นะว่าเราแอบมองพี่”

                   “หื้อ?” ผมสะดุ้งตัว ชอบมาไม่ใช้ซุ้มให้เสียงอยู่เรื่อยเลย

                   “ง่วงจัง” พี่เขาทิ้งตัวให้ศีรษะหนุนเอาความนุ่มจากหน้าตักของผม มือบางเอื้อมลูบผมดำเข้มอย่างรู้งาน สุดท้ายผมก็อดไม่ได้ที่จะลองจรดริมฝีปากประทับความหอมหวานให้อีกคน

     

                   “เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะเราน่ะ” พี่คยูพูดออกมาเมื่อผมถอนจุมพิตในยามเช้าของเราออก

                   “หึ” ผมหัวเราะในลำคอ เพราะตอนนี้ใบหน้าของพี่เขาแดงเทือกไปถึงใบหูแล้ว...น่าขำพี่เขาจริงๆ


     


    50%


     

    การแสดงกิจกรรมรอบกองไฟไม่อาจดึงความสนใจผมกับเรียวอุคได้ สายตาอันน่ารังเกียจบวกกับรอยยิ้มมุมปากแสนอันตราย ร่างภูมิฐานนั่งประกบอาจารย์ใหญ่ฝั่งตรงข้ามผมพลางยกแชมเปญหรูขึ้นจิบ ทำไมพวกพี่คยูยังมาไม่ถึงอีก ความกังวลเอ่อล้นบนความรู้สึกเป็นห่วง เรียวอุคบีบมือผมก่อนจะบอกว่าอย่าคิดมาก

                   ผมคราง...อื้อ...รับในลำคอ แต่สุดท้ายผมกลับทิ้งความกลัวเหล่านั้นลงไม่ได้ ยิ่งร่างสูงที่กำลังเร่งฝีเท้ามาทางผมแล้วมันยิ่งทำให้ผมอยากวิ่งหนีออกจากตรงนี้เสียที

     

                   “สวัสดีน้องซองมิน” พี่ยุนโฮฉลาดพอ...ร่างหนาเว้นระยะห่างระหว่างเราเล็กน้อย ใบหน้าผู้ดีฉายความด้านตาย ผมอยากจับพี่เขากระทืบซ้ำให้จมดิน

                   “ออกไป” ผมกัดฟันพูด

                   “หึ ไอ้พวกเด็กเหลือขอพวกนั้นไปไหนซะล่ะ”

                   “แก...” ผมหันมองใบหน้าที่แสร้งดูการแสดงของเหล่านักเรียนตรงหน้า ริมฝีปากหนากระตุกขึ้นเหมือนเจอสิ่งของถูกใจ

                   “น้องซองมินพูดไม่เพราะเอาซะเลยนะครับ”

                                  “.....................” เรียวอุคดึงลำตัวของผมที่กำลังถูกเอารัดเอาเปรียบจากมือหนา ผมขืนตัวสะบัดลำแขนแกร่งให้หลุดออก...พี่คยูฮยอนอยู่ไหน...ซองมินกลัว

     

     

                  

                   อาหารมื้อค่ำที่เกือบล่วงเลยเวลาจัดขึ้นบริเวญใกล้เคียงกับที่พัก บริกรหนุ่มยกถาดอาหารนานาชนิดเพื่อความอิ่มอร่อยให้เหล่าคุณหนู คิมเรียวอุคหัวเราะคิกคัก อีตาบ้า...นิ้วสั้นแบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนแล้วล่ะ นิ้วเรียวสะกิดเข้าข้างลำตัวเพื่อนรัก ซองมินทำหน้าเหวอ...พวกพี่คยูงั้นหรอ

                   ท่าทางเคอะเขินปรากฏสู่สายตาฮันคยองสถบเสียงเบาๆถ้าไอ้คยูฮยอนไม่ขอร้อง เขาไม่มีทางทำสิ่งน่าอายแบบนี้หรอก หูกระต่ายสร้างความอึดอัดช่วงลำคอไหนจะผ้ากันเปื้อนลูกไม้...มีหวังพวกเขาได้เป็นเสื้อสิ้นลายก็คงคราวนี้จริงๆ

     

                   “ทานให้อร่อยนะครับ” บริกรหนุ่มเอ่ยบอกหวานใจ คยูฮยอนขยิบตาส่งให้พลางเก็บจานใบเก่าตรงหน้าอีกคน

                   “ครับ”

     

     

                   ภายใต้ท้องฟ้าอันมืดมน...ริมฝีปากบางกำลังลิ้มลองรสชาติคุ้นเคย ผมเขย่งข้อเท้าขึ้นรับสัมผัสจวบจาบจากพี่คยูรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น..ผมกลับรู้สึกปราถนาอยากได้มันมาครอบครอง

                   “อื้ม..ไม่กลับเข้าที่พักหรอหื้ม?” พี่คยูถอนจูบออกเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามผมออกมา มือหนากำลังไล้ปลดกระดุมตัวเอง หน้าอกกว้าง...เชิญชวนให้ผมสัมผัสมัน

                  

                   “เชี่ย!บอกแล้วว่าให้เดินเล่นทางอื่นๆเรียวอุคก็ไม่เชื่อพี่”

                   “อ้าวแล้วผมจะรู้หรอว่าจะมีคนมาแอบเล่นจ้ำจี้กันแถวนี้”

     

     

                   ใบหน้าหล่อพ่นลมหายใจ พี่คยูฮยอนก้มลงกำทรายก่อนจะปาใส่เจ้าของเสียง...พี่เยซองออกตัววิ่งพลางดึงแขนเรียวอุคไปด้วย คู่รักสุดแสบหันกลับมาล้อเลียนผมกับพี่คยูให้อายหน้าแดง

                   “สัด!!!โว๊ยยยยยย” พี่คยูตะโกนหัวเสีย...ส่วนผมนะหรอจะทำไรได้นอกจากก้มหน้ายอมรับความอับอาย พรุ่งนี้ผมต้องเข้าหน้าเรียวกับพี่เยซองไม่ติดแน่ๆ

     

     

                  

                   ผมยู้หน้าใส่เรียวอุค ถ้าไม่เพราะนายกับพี่เยซองล่ะก็เมื่อคืนทั้งผมทั้งพี่คยูคงพากันนอนหลับสบายไปแล้ว ผมฝืนข่มตาตัวเองให้หลับแทบตาย ฮือ...เรียวอุคนายเป็นเพื่อนฉันนะ นายคงไม่ล้อฉันหรอกใช่มั้ย

                   “เฮ้อ ทำไมไม่รู้จักเล่นตัวบ้างนะ”

                                  “.......................” ผมรีบเอามือตระครุบริมฝีบางที่กำลังพ้นถ้อยคำหน้าอายออกมาพลางช่ายหน้าช้าๆ

                   “ก็ได้ๆฮ่าๆนายนี้มันอ่อนจริงๆ”

                   “อ๊ะ” ผมเอียงศีรษะหนี...เรียวอุคอ่าฉันขี้เกียจหวีผมใหม่นะรู้มั้ย

                   “เล่นอะไรกันอยู่หรอครับน่าสนุกจัง”

    “...............” ยังไม่ตายอีกหรอ...เรียวอุควาดปากท้าทายคนเข้ามาใหม่

                   “อ่ะๆที่นี้คนเยอะนะครับ” สมแล้วที่นายเป็นเพื่อนรักฉัน เรียวอุคชี้ไม้ชี้มือไปยังเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ถ้าพี่ยุนโฮคิดจะทำอะไรเลวๆล่ะก็...ชื่อเสียงที่พี่ตั้งใจสั่งสมมามีอันต้องย่อยยับแน่!

     

                   พี่ยุนโฮกำมือแน่นหากแต่ริมฝีปากกลับวาดเป็นรอยยักขึ้น ผมกับเรียวอุคแทบอยากกระชากหน้ากากจอมปลอมนั่นให้หลุด

                   “หึ...คุณแม่น้องซองมินกำลังกลับมาแล้วนะครับ”

    เคร้ง!!! บริกรหนุ่มตกใจ รีบพงกหัวเป็นการขอโทษ มือหนาเอื้อมหยิบช้อนขึ้นมาพลางขมวดคิ้วเข้าหากัน...สงครามกำลังเริ่ม...

     

     

    เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือเรียกพวกเราที่เพิ่งเข้านอนวิ่งออกมาดู บังกะโลหลังใกล้เคียงกำลังถูกเปลวไฟมอดไหม้ ผมส่ายหน้าช้าๆเมื่อเจ้าที่ตำรวจกำลังจับคุมผู้ต้องสงสัย ผมบัดมือเรียวอุคก่อนจะเคลื่อนตัวไปหาพี่เขา...ไม่จริง...พี่คยูไม่ใช่คนทำ

    “ซองมิน...ช่วยพี่ด้วย”

    “พี่คะ..คยู” ผมรู้สึกเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีถูกกลืนหายไปกับอากาศ ขาเรียวสั่นไม่เป็นจังหวะ ผมล้มลงในวินาทีสุดท้าย ไม่นะ!ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    “ซองมินๆ ซองมิน!ตื่น! ซองมินตื่นเดี๋ยวนี้นะ”

    “เรียวอุค...พี่คยู...เรากลัว” เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มขมับ ผมซุกใบหน้าเข้าอ้อมแขนของเรียวอุคแน่น หัวใจดวงน้อยไม่อาจควบคุมความรู้สึกได้ ผมปล่อยน้ำตาไหลเป็นทางพลางสะอื้นไห้

    “ไม่เป็นไรแล้วซองมิน ไม่มีใครมาทำอะไรนายได้หรอกนะ” เพื่อนตัวเล็กพยายามปลอบประโลมผม มือบางลูบหัวทุยของผมเบาๆราวกับว่าเรียวอุคกำลังปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากตัวผม

     

                   ผมตื่นเช้ามาพร้อมกับความหมองม่น ไอ้เราก็เป็นห่วงทั้งคืนแทบแย่...แต่ที่ไหนได้อีกคนกลับเมาหัวราน้ำกลับเข้าที่พัก ผมจ้องมองร่างหนาที่กำลังสลัดน้ำเมาที่ยังคงข้างค้างตามร่างกายออก เรียวอุคดึงแขนให้ผมนั่งลงทานอาหาร ชิ...ให้มันได้อย่างนี้สิ

                   “เงยหน้าขึ้น” ผมกระซิบเสียงเบาสั่งพี่เขาที่กำลังก้มใบหน้าคมลง

                                  “......” เงียบ

                   “พี่คยูฮยอน” ผมย้ำความต้องการของผมอีกครั้งกับร่างสูงตรงหน้า

                   “ซองมิน”

                                  “......” ผมเบิกตาโต...รอยช้ำเป็นจ้ำๆปรากฏตามบริเวญใบหน้า ผมรีบดึงแขนพี่คยูให้เดินตาม เสียงร้องตกใจของนักเรียนคนอื่นไม่อาจหยุดรั้งขาเรียวของผมได้

     

                   “ทำไมพี่ถึงมีแผล” น้ำเสียงผมเริ่มสั่น ยิ่งภาพในฝันมันแทรกผ่านเข้ามาในห้วงความคิด...ผมยิ่งรู้สึกอยากร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย มือน้อยๆเอื้อมลูบซับความเจ็บปวดเบาๆ

                   “ไม่อยากให้รู้”

                   “พี่ครับ...อึก..ก็ได้..ไม่อยากให้รู้ ผมก็จะไม่รู้ฮือ”

                   “ซองมินอ่า...เด็กดื้อไม่ร้องไห้นะครับ” เราสองคนปล่อยเสียงหัวเราะกลบความรู้สึกวาบหวิวในใจ ผมหวังว่าเรื่องร้ายๆจะไม่เกิดกับเราอีก...ผมหวังแบบนั้นจริงๆนะครับพี่คยูฮยอน...









    ไม่มีไรแค่เราคิดถึงคนอ่าน...เท่านั้นเอง...

    talk..
    มาถึงตอนนี้มีใครพอเดาอะไรออกมั้ยเอ่ย?
    เรื่องดำเนินมาเกือบๆ70%แล้วนะคะ
    มาเป็นกำลังใจให้พี่คยูกับเด็กดื้อกันเต๊อะ
    ...สงครามกำลังเริ่ม...

    เม้น=กำลังใจ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×