ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC Parallel of love KYUMIN

    ลำดับตอนที่ #7 : Parallel of love VI

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 101
      0
      9 พ.ย. 57




    Parallel of love



     

    คยูฮยอนพยักหน้ารับกับคำตอบที่ได้ราวกับว่าคนปลายจะได้เห็นมัน สถานการณ์พลิก...คุณหญิงไม่อาจเดินทางกลับตามกำหนดการณ์เดิมได้ ใบหน้าคมสลัดความอ่อนแอที่กำลังเข้ากอบกุมความรู้สึกอันแข็งกระด้างออก ขอโทษ...ขอโทษที่หลงรักอีกคนจนสุดหัวใจ

    น้ำเปล่าสีใสถูกรินใส่แก้วโลหะใบเก่า มือหนากรอกยาระงับความเครียดผ่านลำคอ หากวันข้างหน้ามาถึงจิตใจที่เอนไหวกับหัวใจที่ผูกกันเอาไว้ตั้งแต่เริ่ม...โจวคยูฮยอนจะปล่อยอีซองมินกลับเข้าสู่กรงทองอีกครั้งได้อย่างไร

     

    ร่างสูงสอดตัวบนเตียงนุ่ม สูดความหอมคุ้นเคยให้หายคิดถึง...แม้จะได้อยู่ใกล้ แต่สำหรับเขาแล้วซองมินคือนางฟ้าตัวน้อยที่ซักวันต้องโบยบินไปสู่โลกอันคู่ควร

     

    “อื้ม” ผมเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่พี่คยูเปิดประตูห้องเข้ามา ดวงตาคมที่กำลังจ้องมองผมในเวลานี้เหมือนมีหมอกควันสีจางๆครอบงำมันอยู่ มือเอื้อมมือนวลคลึงคลายความขุ่นมัวเหล่านั้น...พลางจูบซับเบาๆบนหลังมือหนาของพี่เขา

    “ทำไมไม่นอน” พี่เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะเอ่ยถามผมออกมา

    “...............” ผมแค่ยิ้มตอบกลับ เพราะตัวผมเองยังหาคำตอบไม่ได้เลย...

                   “หึ...เด็กดื้อ”

    “...............” ตอนนี้พี่เขาไม่อาจรู้ว่าผมดีใจแค่ไหน ที่ได้ยินเสียงหัวเราะน้อยๆจากพี่เขาในช่วงเวลายากลำบากแบบนี้...ต่อให้หนทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ผมเชื่อว่าความรักของเราจะก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นไปได้ในที่สุด...

     

     

     

                   สถานที่แปลกตา...ผมหมุนสายตารอบๆบริเวณ เด็กนักเรียนช่างกับโกงดังร้างผมรู้ดีมันคือของคู่กัน พี่คยูเดินนำร่างกายอันหนักอึ้งของผมผ่านสายตาผู้คนที่กำลังสาละวนอยู่กับสารเสพติดตรงหน้า ผมห่อไหล่น้อยๆเพราะความไม่คุ้นเคยทำให้ผมเกิดความระแวงภายในจิตใจ ผมลอบมองสีหน้าของพี่เขาเป็นระยะ...หากแต่สุดท้ายผมกลับมองมันไม่ออก...พี่คยูฮยอนกำลังคิดที่จะทำอะไรกันแน่

                   ความเงียบที่ผมสร้างขึ้นถูกพังทลายลง เมื่อกลุ่มนักเรียนช่างพร้อมอาวุธไม้ครบมือส่งเสียงท้าทายมาจากด้านนอก พี่คยูปล่อยมือผมออกก่อนจะลูบข้างแก้มของผมเบาๆพร้อมจูบประโลมมัน ผมไม่เข้าใจ...กับเหตุกาณ์ตรงหน้า จนผู้ชาย2คนยืนบังร่างของผมเอาไว้จากน้ำมือของฝั่งตรงข้าม

                   “อั่ก” พี่คยูฮยอนโดยหมัดเข้าที่ช่องเท้าเต็มๆ! เพียงผมก้าวเท้าออกไปไม่ครึ่งสายตาดุดันกลับสะกัดการกระทำของผมเอาไว้

                   “ไปช่วยพี่คยูเซ่ ไปช่วยพี่เขา!” ผมตะโกนผ่านมวลอากาศพลางพลิกตัวออกจากเกาะกำบัง ฮือ...พี่คยูเลือดอาบไปทั้งตัว แต่ทำไมถึงไม่มีใครเข้าไปช่วย...

                   “ขอร้องล่ะ...ไปช่วยพี่คยู” ร่างทั้งร่างเหมือนถูกลิดรอนพลังกำลัง ผมทิ้งตัวลงพื้นอย่างน่าอดสูให้กับภาพตรงหน้า...พี่คยูถูกรุมเตะโดยอีกฝ่ายแบบไม่ยั้งมือ

                   “อึก..ฮือพี่คยูอึก...ฮือๆ” คีบเหล็กหนาพยุงตัวผมขึ้น...ลูกสมุนของพี่เขาก้มหน้าลงก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆมาให้ ผมไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น!!!

     

     

                   ผู้ชายที่ผมรักที่สุดในชีวิต...กำลังนอนจมกองเลือด ผมสะบัดตัวครั้งสุดท้ายก่อนออกตัววิ่งสวมกอดร่างพี่เขาแน่น ผู้ชายในวันนั้นเบิกตาโตราวกับว่าภาพเหล่านี้หาดูได้ยาก อาวุธไม้ถูกโยนทิ้งเข้าซอกมุมตึก...

                   “ดูแลเด็กคนนี้ดีๆด้วยล่ะ”

     

     

     

                   ประตูห้องปิดลงพร้อมกับความข้องใจในประโยคของผู้ชายคนนั้น ผมเคยคิดว่าหากพี่คยูอยากให้ผมรู้พี่เขาคงพูดมันออกมาเอง...แต่วันนี้ผมกลับทนรอไม่ไหว ผมกับผู้ชายคนนั้นเราเกี่ยวข้องอะไรกันแน่???

                   เสียงกัดฟันดังกรอบ ผมนั่งมองคนที่บอกว่าผมดื้อหนักดื้อหนา เทยาล้างแผลใส่ตัวเอง...คนบ้าทำแบบนี้ไม่รู้รึไงนอกพี่จะเจ็บกับแผลพวกนั้นแล้ว หัวใจของผมนี้แหละที่มันกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

                   “มา...ผมจะทำแผลให้”

                   “ซองมิน”

                   “ไม่ต้องมาเรียก ผมยังไม่หายโกรธพี่” ผมพยายามเบามือที่สุด ยามที่ได้ยินเสียงร้องครางเจ็บปวดจากพี่เขา ทำแบบนี้ทำไม...ยืนนิ่งให้คนอื่นทำร้ายตัวเองพี่คงบ้าไปแล้วจริงๆ

                   “ขอโทษ” ดวงตาที่ถูกโอบล้อมไว้ด้วยมวลน้ำสีใส...สุดท้ายผมก็ใจอ่อนจนได้

                   “อึก...พี่ครับ” ผมปาดน้ำตาอีกคนออก พลางยิ้มออกมาเพราะมืออีกข้างของพี่เขาก็กำลังลูบไล้คราบของเหลวใต้ดวงตาของผมเช่นกัน

                   “ไม่ร้องนะ” ประโยคเรียบง่ายกำลังซ่อมแซมความรู้สึกอ่อนแอ ผมพยักหน้างึกงักก่อนจะหันกลับไปทำแผลให้พี่คยูต่อ

     

     

     

     

                   อาจารย์ที่ปรึกษาชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ใบหน้าที่ปรากฏรอยเหยี่ยวย่นขมวดคิ้วเข้าหากัน...ผมกลืนน้ำไหลเอือก!ผ่านลำคอ ต่างกลับอีกคนที่เชิดฉายออร่าความหล่อให้สาวๆในห้องเรียนผมได้หัวใจวายเล่นๆ คนตัวสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะโค้งศีษะให้อาจารย์ประจำชั้น

                   “ผม...โจวคยูฮยอน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

                   “อะไรนะ” อาจารย์แสดงความข้องใจเข้าไปอีกเมื่อพี่คยูแนะนำตัวไปแบบนั้น

                   “จากนี้ไปผมจะเข้าเรียนพร้อมกับอีซองมินทุกวันครับ” ผมตบหน้าผากดังป๊าด...พี่เขายังไม่เลิกหน้ามึนใส่อาจารย์อีก

                                  “....................”

                  

     

                   คงดูแปลกตาไปสักหน่อย...เสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดถูกแทรกซึมไปด้วยเสื้อเด็กนักเรียนช่าง ตอนแรกผมนึกว่าจะมีแค่พี่เขาที่บ้าบิ่นถึงเพียงนี้ แต่ที่ไหนได้พี่ฮันกับพี่เยซองก็เอากับเขาด้วย...ถ้านับรวมลูกสมุนของพี่คยูแล้วโรงเรียนของผมกำลังถูกคนแปลกหน้าใช้ชีวิตร่วมด้วยเกือบ20คน...

                   “มองอะไร” พี่คยูถามผมทั้งๆที่เม็ดข้าวยังเต็มปากอยู่เลย

                   “มองพี่นั้นแหละ”

                   “เกิดเป็นยัยคุณหนูนี้ดีนะ พวกเราพากันยกขโยงมาบุกโรงเรียนขนาดนี้ยังไม่มีใครกล้าหือใส่เลย”

                                  “...................” ผมล่ะยอมจริงๆ พี่เยซองยิ้มร่าเมื่อพูดจบ

                   “มึงก็ทำเป็นพูดดีไป ความจริงไอ้คยูให้มึงอยู่จำประการที่โกดังไม่ใช่หรอ” เสียงหัวเราะประกอบกับท่าทีลุกลี้ลุกลนของเรียวอุคกับอีกคน ลดบรรยากาศตึงเครียดของพวกเราลงได้เยอะเลย

                   “มันอาจจะทำให้เราอึดอัด...แต่ทุกอย่างที่พี่ทำเพราะความปลอดถัยของเรานะรู้มั้ย”

                                  “....................”       ผมหลับตาซึมซับความอบอุ่นเมื่อริมฝีปากหนากดสัมผัสเบาๆตรงหน้าผาก นิ้วเรียวยาวของพี่เขาเกลี่ยปัดเปาความรู้สึกขยาดกลัวให้กับผม

                   “ถ้าฮีชอลยังอยู่ สาบานเลยกูไม่มีทางมานั่งอิจฉาพวกมึงฝ่ายเดียวแน่ๆ”

                                  “....................” ช้อนข้าวในมือพี่เยซองค้างนิ่งกลางอากาศ ก่อนที่รอยยิ้มจะฝุดขึ้นจากผู้ชายทั้งสามคน ผมกับเรียวอุคมองหน้ากันแบบงงๆ พี่กลุ่มนี้เข้าใจยากจริงๆ

                  

                   “ซองมินจ๊ะ พี่ชายเรามาขอพบ” ทั้งผมพร้อมคนที่เหลือหันมองอาจารย์...พี่ชาย? ผมมีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไรกัน มือหนาฉุดร่างกายของผมเอาไว้ พี่คยูส่ายหน้าน้อยๆเหมือนไม่อยากให้ผมไป แต่แล้วทุกอย่างก็เปิดเผยเมื่ออาจารย์ใหญ่เดินเข้ามาพร้อมกันกับอีกคน...พี่ยุนโฮ

                   “อ่า น้องซองมินอยู่นี้เอง

                   “ครับ”  ผมมองใบหน้าคนไร้ยางอาย ทำเรื่องทุเรศไว้กับผมขนาดนั้นยังกล้ามาให้ผมเห็นหน้าอีกหรอ

                   “พอดีพี่มาคุยเรื่องเข้าค่ายของเราน่ะ” พี่ยุนโฮหันไปยิ้มกับอาจารย์ใหญ่

                   “ค่าย?” ผมกับเรียวอุคอุทานออกมาพร้อมกัน

                   “พอดีคุณยุนโฮเล็งเห็นว่า กลัวเด็กจะเครียดกับเรื่องเรียนมากเกินไปเลยให้เงินสนับสนุนมาจำนวนหนึ่งให้ชั้นของซองมินได้มีเวลาพักผ่อนน่ะ” อาจารย์ใหญ่ร่ายยาวถึงจุดประสงค์ หากแค่ผมก็ยังไม่เข้าใจมันอยู่ดี

                   “เป็นค่ายที่มีแต่นักเรียนในชั้นของซองมินที่ได้ไปน่ะ”

     

                   กลุ่มของพี่คยูฮยอนลุกฮือ เพราะสายตาเหยียดจากพี่ยุนโฮ...แม้แต่เด็กอนุบาลยังเดาออกว่าความจริงแล้วพี่ยุนโฮต้องการอะไรกันแน่ ดูท่าจะเสียงเงินเยอะพอควรอาจารย์ใหญ่ถึงเซ็นอนุมัติผ่านง่ายดายขนาดนี้

                   “เอาสิครับ” ผมเอ่ยรับพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสาเหมือนก่อนเคย ก่อนที่อีกคนจะทิ้งจุดประสงค์เอาไว้...พี่ยุนโฮดึงมือผมเข้าไปจับ

                   “สัดเอ๊ย” พี่ฮันตะโกนไล่หลังผู้ชายหยาบคายคนนั้น

                                  “...................” พี่คยูไม่แม้แต่หันมองหน้าผมในเวลานี้ คนตัวโตลุกขึ้นเดินออกไปให้พ้นสายตานักเรียนคนอื่นๆ...ไม่นานผมก็ออกตัวเดินตามพี่เขาไป

     

                   “สูบบุหรี่อีกแล้ว” ผมทำหน้างอใส่พี่เขา...พลางดึงของในมืออีกคนให้หลุด

                   “ตามมาไม” ผู้ชายห่ามๆกำลังหึงผมแน่ๆ

                   “ก็ตกลงแต่ไม่ใช่ว่าจะไปหนิ” ผมพูดออกมาก่อนจะหันหน้ามองพี่เขา ทุกปัญหามันย่อมมีทางออกอยู่แล้วแหละ...แค่เรารู้ตำแหน่งและเดินตามเกมส์ของมันให้ถูกเวลาเท่านั้นเอง

     

     

     

                   ชีวิตประจำวันของผมได้ถูกเปลี่ยนแปลง ด้านหน้าด้านหลังรวมไปถึงซ้ายขวาถูกประกบจากกลุ่มนักเรียนช่าง ผมถอนหายใจพลางยื่นขนมที่เรียวอุคชอบให้อีกคน บรรยากาศเหมือนกับวันวานเวลาที่ผมขออนุญาตคุณแม่ออกไปไหนมาไหนเลย ต่างกันก็เพียงแต่พวกพี่เขาไม่มีอาวุธร้ายกาจเท่านั้น

                   “พี่คยู ทำไมไม่มา?” ผมเอ่ยถามหนึ่งในบรรดาลูกสมุนของพี่คยู

                   “ลูกไม่ให้บอก” ท่าทางกวนโอ๊ยทำผมอยากซักหมัดหนักๆเข้าให้ ผู้ชายที่ชื่อชางมินตอบก่อนจะหันหน้าไปพ้นควันสีเขม่าสีเทาอีกด้าน

                   “ที่นี้ห้ามสูบหรี่นะ” เรียวอุคกระซิบบอก

                   “ยุ่งยากจริงงง” พี่ชางมินทิ้งของในมือก่อนบดขยี้มันด้วยปลายเท้า ราวกับว่ามันคือสิ่งน่าขยะแขยงซะอย่างนั้น

                   “ผมจะเข้าเรียนแล้ว พวกพี่จะเข้าไปด้วยมั้ย?”

                   “ขอเฝ้าหน้าประตูแล้วกัน รำคาญเด็กผู้หญิงในชั้นนาย” พูดจบอีกคนก็เดินโถ่งๆไปปักหลักอยู่ตำแหน่งที่ว่า ผมกับเรียวอุคเลยทำได้เพียงยิ้มแหย๋ๆตอบกลับ...

     

                   คิคิเสียงหัวเราะน้อยๆจากพวกเราเมื่อยามบริเวญใบหน้าของพวกพี่เขากระตุก ปลายดอกหญ้าถูกเด็ดจากริมระเบียงทางเดิน อุปกรณ์แก้แค้นที่เหล่าสาวๆหมายจะเอาคืนกับประโยคพี่ชางมินเมื่อตอนบ่าย

                   “ฮาดดดดดดชิ้ว!!!” พวกเราสะดุดเฮือก...แย่แล้ว พวกพี่เขาตื่นจนได้

                   “เห้!นี้พวกเธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ” ดูเหมือนพี่ชางมินจะโดนหนักกว่าใครเขานะ เพราะคิ้วพี่เขาดูดกดำขึ้นมาเยอะเลย ไหนจะแก้มสีแดงรูปวงกลมนั้นอีกฮ่าๆตลกเป็นบ้าเลย

                   “พี่ชางมินๆฮ่าๆๆๆ” ลูกสมุนนับ10คน พากันหัวเราะรวนเมื่อพี่ชางมินหันใบหน้ารอบตัวเอง...เอาเป็นว่าตอนนี้ตัวใครตัวมันแล้วกันเนอะพี่ชางมินนนนนน

     

                   ผมล่ะยอมจริงๆคนแก่นี้มันขี้ดุชะมัด พอเดินพ้นเขตโรงเรียนได้ไม่ทันไรพี่คยูฮยอนที่เพิ่งกลับจากโกดังก็เอาแต่บ่นๆผมอยู่นั้นแหละ ก็บอกแล้วว่าไม่ได้ทำๆแค่สมรู้ร่วมคิดเฉยๆไม่ฟังกันบ้างเลย

                   “พี่อ่ะ!” ผมหยุดเดินพลางกระชากแขนอีกคนให้หมุนกลับ

                   “ซองมินอย่าดื้อ”

                   “งื้อ!” ผมกระทืบเท้าใส่พลางสะบัดแขนขึ้นมากอดอกแน่น เอาสิ...ถ้าไม่หยุดบ่นผมก็จะไม่กลับห้องเลยคอยดู

                   “ชอบทำตัวเป็นหัวโจก มันไม่ดีนะรู้มั้ย” มือหนาดึงแก้มผมทั้งสองข้างก่อนจะส่ายมันไปมา

                   “เจ็บบบบบ”

                   “เจ็บก็ดี ทีหลังอย่าไปแกล้งชางมินมันอีกรู้มั้ย”

                   “ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง” ผมถอยหายใจเสียงดังใส่พี่เขาเต็มๆ

                   “เดี๋ยวนี้เถียงหรอหื้ม” พี่คยูดึงข้อมือผมไปทางเข้าซอกมุมตึก สายตาแบบนี้กับบรรยากาศแบบนี้...หึ๊ย!คนแก่ลามกเอ๊ย!

     

                   ผมยกมือขึ้นคล้องคอพี่เขาอย่างรู้งาน ใบหน้าคมบดจูบอันร้องแรงส่งมาให้ มือหนาผลักออกจากใบหน้าผม...ไม่นะพี่คยูตรงนี้มันไม่ใช่...

                

     



    ---อ่านในกลุ่มค่ะ---

     

     

     

    “เห้...ชางมินอย่าบังดิกูมองไม่ถนัด” =..=







    talk...
    มีใครเดาเนื้อเรื่องออกรึยังนะ??
    ความรักพี่คยูกับเด็กดื้อมีแต่เรื่องอย่าว่า555
    "ผู้ชายคนนั้น"
    ไรเตอร์ผู้ในอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆจริงๆ
    หากตรงไหนที่งงบอกเราได้นะคะ เรายินดีปรับจ้า
    เม้น=กำลังใจ

    @pooyfaizera

     

     

     

     

                  

     

     

     

     

                  

     

                                 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×