ท้องฟ้ากับความหวัง
ทุกคนย่อมมีหวัง
ผู้เข้าชมรวม
158
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ท้องฟ้ากับความหวัง
คนเราทุกคนก็ย่อมจะมีความหวังกันทุกคนเพราะความหวังเป็นอะไรที่มีความสุขที่ได้วาดฝันสิ่งที่เราต้องการเอาไว้อย่างมากมาย การหวังอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้กับใครแต่ตรงกันข้ามมันเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับคนที่หวังนั่นเอง มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนติดเกาะคนหนึ่งหวังจะได้กลับบ้านไปหาคนที่เขารักอีกครั้ง ซึ่งก่อนที่เขาจะมาติดที่แห่งนี้ตัวเขาออกเดินทางมากับเรือลำหนึ่งเรือไปเพื่อไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศแต่เกิดพายุระหว่างทางทำให้เรืออับปางและจมลงสู่ก้นมหาสมุทรในที่สุด และเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่รอดตายจากพายุครั้งนั้น โดยคลื่นทะเลได้พัดร่างอันโรยแรงของเขามาเกยตื้นบนเกาะที่เขาไม่รู้จักและไม่มีแม้กระทั่งเสียงนกร้อง เขาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสับสนเป็นอย่างมาก นี่เป็นความโชคดีของเขา หรือเป็นความโชคร้ายที่เขาต้องมาติดเกาะแห่งนี้ เมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็ได้พบว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิต เพียงชีวิตเดียวที่อยู่ในเกาะแห่งนี้ เขาก็พยายามหาอาหารโดยอาหารที่หาได้ก็คือมะพร้าวนั่นเอง และเวลาที่เขานั่งอยู่คนเดียวโดยไม่มีแม้กระทั่งเสียงเสียงนกขับขานมีสิ่งเดียวที่จะรับฟังความรู้สึกที่เขามีอยู่ในใจในตอนนี้เท่าที่มีก็จะมีแค่ท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าเขาเท่านั้น เขาก็แหนมองท้องฟ้าและก็บอกกับท้องฟ้าว่า “ฟ้าข้าอยากให้เจ้ารับรู้เอาไว้นะว่าข้าเหงาจนจับใจแค่ไหน มันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องอยู่เพียงลำพัง โดยไม่มีจุดหมาย”เขานั่งพร่ำบ่นอย่างนี้กับท้องงฟ้าอยู่เป็นประจำ โดยเขาก็รู้ดีว่าไม่มีคำตอบจากฟ้าอย่างแน่นอนและเขาก็หาทางที่จะกลับบ้าน เขาเริ่มมีความคิดที่จะต่อเรือเพื่อจะกลับบ้านโดยเอาต้นมะพร้าวมาต่อเป็นเรือโดยใช้เถาวัลย์มาเป็นวัสดุในการต่อเรือใช้เวลาจากวันเป็นเดือนและเขาก็ต่อเรือจนสำเร็จจนได้โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน เขาดีใจมากที่ต่อเรือเสร็จเขาก็ร้องตะโกนบอกฟ้าว่า “ข้าแต่ฟ้าเห็นหรือยังว่าข้าจะได้กลับบ้านแล้ว” นั่นเป็นความสุขและความดีใจที่ความหวังที่จะกลับบ้านของเขาเริ่มจะเป็นจริงขึ้นมาทุกที และเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ได้เวลาออกเรือออกจากเกาะร้างเสียที เขาออกเรือไปได้ไม่ไกลจากเกาะนักทันใดนั้นพายุก็ก่อตัวขึ้นเรือของเขาช่างเปราะบางยิ่งนัก เรือขอเขาทนพายุและแรงคลื่นไม่ไหวทำให้เรือของเขาอับปางลงเขาต้องกระเสือกกระสนว่ายน้ำกลับมายังเดิมที่เขาเกลียดมันเสียเหลือเกิน เขานานแผ่อยู่ริมชายหาดท่ามกลางพายุและเสียงฟ้าคำรามเขาก็ต่อว่าฟ้า อย่างมีอารมณ์ว่า“ฟ้าทำไมเจ้าช่างใจร้ายอย่างนี้การที่ข้าจะได้ออกจากเกะนี้เพื่อกลับบ้านเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของข้าแต่เจ้า กลับนั่งมองมันอย่างเฉยชา เจ้าเคยรู้สึกบ้างไหมว่าข้าจะรู้สึกอย่างไร กับการผิดหวังครั้งนี้” และเขาก็ค่อยๆหลับลงไปเพราะความเหนื่อยล้า และเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ตื่นขึ้นมากับความผิดหวังที่พังทลาย และช่วงเวลาที่เขาเศร้ากับความผิดหวังอยู่นั้น เขาก็เห็นอะไรบางอย่างลอยอยู่ใกล้ๆเกาะและลอยเข้ามาเรื่อยๆและสิ่งนั้นก็ลอยมาเกยฝั่งเมื่อเขาเห็นดังนั้นเขาก็รีบวิ่งไปดูว่าสิ่งที่ลอยมานั้นมันคืออะไรกันแน่และเมื่อเขาไปถึงสิ่งที่เขาเห็นก็คือ
.หมาตัวน้อยตัวหนึ่งที่กำลังหมดเรี่ยวแรงและกำลังจะตาย เขาเห็นดังนั้นเขาก็เอาหมาตัวนั้นมาเช็ดตัวจนแห้ง และดูแลมันอย่างดีจนหลายวันต่อมาหมาตัวนั้นก็หายดี เขาดีใจมากที่จะได้เพื่อนไว้แก้เหงาเพราะเขาอยู่คนเดียวมานานแล้ว เขาและหมาตัวนั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเขาตั้งแต่วันนั้น เขารู้สึกมีความสุขมากที่เขาไม่ได้อยู่บนเกาะแห่งนี้เพียงลำพัง เขาตะโกนบอกฟ้าด้วยอาการของคนมีความสุขว่า “ขอบคุณฟ้าที่มอบสิ่งที่ทำให้ฉันมี่ความสุข ทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้อยู่เพียงโดดเดี่ยว” และไม่กี่วันต่อมาเขาก็คิดหาวิธีออกจากเกาะแห่งนี้อีกครั้ง โดยการต่อแพด้วยต้นมะพร้าวเหมือนเดิมแต่การต่อแพครั้งนี้กลับมีแต่ความสุขเพราะเขามีเพื่อนหมาอยู่ข้างกายเสมอแม้เหนื่อยล้าเท่าใดเมื่อมีหมาเป็นเพื่อนเขาไม่เคยย่อท้อเลย และเขาก็ขอบคุณท้องฟ้าบ่อยๆที่ทำให้ชีวิตของเขาไม่อยู่เพียงลำพัง เพราะท้องฟ้านี่เองเป็นเพื่อนคนแรกของเขาที่คอยรับฟังทุกความรู้สึกทุกอย่างที่เขามีนับตั้งแต่เขามาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ เมื่อต่อแพได้ขนาดมันเล็กเกินกว่าที่จะรับน้ำหนักของเขาและหมาได้ และต้นมะพร้าวที่มีอยู่บนเกาะก็หมดแล้วเช่นกันมันเป็นอะไรที่ทำให้เขาคิดมาก เพราะเขามีทางที่จะออกไปจากเกาะแล้วแต่ถ้าหากจากเกาะนี้ไปเขาก็ต้องทิ้งหมาเพื่อนที่เขารักไว้ที่นี่ เขากลุ้มคิดอยู่ในใจ ใจหนึ่งก็คิดว่าฟ้าต้องแกล้งเขาแน่เลยที่ทำให้เขาเป็นทุกข์อีกครั้งเขาในตอนนี้ต้องเลือกระหว่าง ได้ออกจากเกาะกับการทิ้งหมาซึ่งเป็นเพื่อนตัวเดียวที่เขามี เขาทุกข์ทรมานกับการตัดสินใจมาก แต่เขาก็อยากกลับบ้านอยู่ดี วันนั้นนี้เอง เขาได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าต้องออกจากเกาะนี้เพื่อกลับบ้านแม้ต้องทิ้งหมาผู้ซื่อสัตว์เพื่อนตัวน้อยของเขาก็ตาม เขาได้ล่ำลาเพื่อนหมาของเขาและเริ่ม นั่งแพออกจากเกาะเรือห่างจากฝั่งเรื่อยๆพร้อมกลับแววตาของหมาน้อยที่มองจ้องเขาภาพนั้นเริ่มเลือนรางทุกทีจนแพของเขาออกมาจากเกาะนั้นจนไกลลิบตา ตอนนี้เขาอยู่บนกลางทะเลที่ว่างเปล่าไม่มีแม้แผ่นดินเพียงน้อยที่จะให้เห็น เขาล่องลอยอยู่กลางทะเลอยู่หลายวันเขาหมดแรงและล้มลง เขากำลังจะสิ้นใจ เขานอนราบลงกับแพแล้วลืมตาขึ้นมองท้องฟ้า แล้วก็ยิ้มออกมาแล้วก็พูดกับท้องฟ้าว่า “นี่เราออกมาจากเกาะเพื่อสิ่งนี้นี่เองหรือ นี่นะหรือสิ่งที่ข้าฝันหาอยู่ตลอดชีวิตที่ข้ามี ” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลยิ่งคิดยิ่งคิดถึงเพื่อนหมาของเขาที่เขาทิ้งไว้เขาถึงวันเก่าๆที่เคยมีความสุขกับมัน ตอนนี้เขาเริ่มรู้แล้วว่า ฟ้าไม่ได้แกล้งเขาสิ่งที่เป็นไปเพราะตัวเขาเอง เขาเคยเหงาบนเกาะร้างอย่างคนสิ้นหวัง แต่ก็เป็นโชคของเขาที่ได้เจอหมาตัวน้อยเป็นเพื่อนยามไม่มีใคร หมาตัวนั้นก็คือโอกาสที่ไม่ได้มีบ่อยนัก แต่มันจะผ่านมาแล้วแต่เขาจะหยิบคว้าไว้หรือไม่ และตอนนั้นเขาก็ทิ้งมันไป โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าโอกาสที่ผ่านมานั้นมันจะไม่หวนกลับมาให้เขาหยิบคว้าได้อีกเลย เขานอนแน่นิ่งกลางทะเลที่เงียบสงัด พร้อมกับคำพูดสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจว่า “ฉันเสียใจ”
ผลงานอื่นๆ ของ คนผ่านทาง777 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ คนผ่านทาง777
ความคิดเห็น