ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันไม่ใช่นางเอก

    ลำดับตอนที่ #10 : เหตุผลเดียวที่ทำให้เรารักกัน ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 49



    เหตุผลที่ทำให้เรารักกัน ตอนที่ 1   

    โฮะโฮะโฮะโฮะ……

                    จำเสียงหัวเราะนี้ได้หรือไม่ ท่านผู้อ่านที่รักทั้งหลาย  ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากฉันติก๊ะ  หรือที่เหล่าขบวนการปูลมเรียกกันว่าท่านขงเบ้งนั่นเอง !

                    อะ ! จำได้แล้วเหรอ ?

                    ไม่แปลกที่ทุกท่านจะใช้เวลานึกไม่นานก็จำฉันได้  เพราะฉันทั้งเด่น ทั้งดัง  เข้าตำราสวย เลิศ เชิดหยิ่ง ดูดีมีชาติตระกูล สรุปง่ายๆ คือ เฟอร์เฟก! โฮะๆๆๆ

                    อุ๊ยตายว้ายกรี๊ด  มัวแต่หัวเราะเพลินจนลืมดูเวลาว่าตอนนี้ฉันควรไปโรงเรียนได้แล้วนี่นา  มัวแต่ส่องกระจกดูความสวย(น้อย)ของฉันอยู่เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี

                    " คุณหนู  ตื่นรึยังคะ ? "  ฮั่นแน่ไม่ทันขาดคำเสียงเรียกของคุณป้าแม่บ้านก็ดังมาปลุกคุณหนูแสนสวยอย่างฉันพอดี

                    "  ตื่นแล้วจ้าป้า  รอเดี๋ยวนะเดี๋ยวจะออกไป " ฉันรีบส่งน้ำเสียงหวานจ๋อยให้คุณป้าแม่บ้านรู้ทันที   แล้วไม่นานฉันก็พาร่างอวบอ้วนสมบูรณ์เดินผ่านประตูห้องอย่างยากลำบากไปหาคุณป้าที่กำลังมองร่างฉันอย่างชื่นชมผสมสมเพชพอควร

                    "  นี่คะคุณหนู  แว่น  เดี๋ยวลืมนะคะ  "

                    " เออใช่  แหมป้าจ๋ารู้ดีจัง นี่ถ้าไม่มีแว่นอันนี้นะ ติก๊ะเห็นทีจะต้องกลายสภาพเป็นสาวน้อยตาบอดแน่ๆเลย "

                    "  ก็พูดเกินไปแล้วค่ะ  แต่ถึงแม้คุณหนูจะตาบอด แต่ป้าก็เชื่อว่าคนน่ารักอย่างคุณหนูเนี่ย  ถึงจะตาบอดอย่างไรก็ต้องมาคนช่วยเหลืออยู่ดีละคะ "

                    ไม่อยากจะบอกเลยว่าป้านะรู้ดีแถมยังปากหวานอีกด้วย  ชมฉันไม่ขาดปากว่าน่ารักอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้ฉันแทบจะตัวลอยอยู่แล้ว  ติดแต่เกรงใจน้ำหนักที่เกินพิกัดไปสักเล็กน้อย ส่งผลให้วิชาตัวเบาไม่สามารถทำงานได้  แต่ถ้าคิดอีกแง่คือป้ากำลังแอบเหน็บฉันหรือเปล่านะว่า  คนอย่างฉันเนี่ยใครๆก็ไม่อยากให้หลุดไปอยู่ข้างนอก กลัวจะไปกัดชาวบ้านชาวช่องเขา  ก็เพราะอะไรเหรอ ก็เพราะฟันที่เรียงตัวกันสวยงามยื่นเหยินออกมาทางด้านหน้า(ไม่)เล็กน้อย จนบางครั้งคนสวยยังเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจอบถากหญ้าไปเสียทุกครั้ง เชอะ ! คิดแล้วก็ให้เจ็บใจ  มองฟันสวยๆของฉันยังไงนะถึงได้เห็นเป็นจอบถากหญ้าซะอย่างนั้น เดี๋ยวปั๊ด งับหัวเลย!!

                    ฉันก้าวลงจากรถBMอย่างมาดมั่นและเฉิดฉาย  ใครๆต่างก็พากันมองการมาถึงของฉันด้วยสายตาที่รู้ว่าอิจฉากันเป็นแถวๆ  ก็ทำไงได้ล่ะ คนมันสวย รวย ช่วยไม่ได้ !  และทันทีที่ฉันก้าวลงจากรถบีเอ็มแล้ว  ฉันก็ค่อยๆจูงรถคันหรูของฉันไปจอดไว้ที่โรงจอดรถจักรยาน  เอะ! งงอะไรกันคะ  อ้อ คงงงละสิว่าทำไมรถBMของฉันถึงจูงมาไว้ที่โรงจอดรถจักรยานได้  ก็เพราะBMที่ฉันบอกมันคือBMX นะสิ โฮะๆๆๆๆ

                    " ทำการบ้านมารึยังติก๊ะ ?"  เสียงอันน่ารำคาญของเพื่อนๆทำให้ฉันที่กำลังนั่งแต่งสวยแคะฟันอยู่หน้ากระจกพกต้องเงยหน้าขึ้นไปตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

                    " ยัง "

    " แล้วจะทำมั้ย ?"

    " ทำสิยะ ไม่ทำแล้วฉันจะเอาอะไรส่งละแม่คู๊ณณณณณ"  ฉันย้อนเพื่อนไปทันควันอย่างไม่แยแสอีกฝ่ายแม้แต่น้อยอยู่ในใจ  ใช่….ฉันย้อนอยู่แต่ในใจเพราะคำพูดที่ออกมาจากปากนั้นคือ

    " ทำสิ ขอลอกหน่อยนะจ๊ะ " ฉันพูดเสียงหวานประแล่มๆ เป็นการประจบประแจงเพื่อนเพื่อขอลอกการบ้าน  ขืนพูดอย่างที่ใจคิดมีหวังอดลอกกันพอดี   นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าจะไม่มีการบ้านส่งอาจารย์นะ ฉันไม่ยอมพูดดีๆด้วยหร๊อกกกกก ….. โธ่!!!

    เมื่อเสร็จสิ้นการลอกการบ้านแล้วก็ได้เวลาเสริมความงามต่อ ซึ่งการเสริมความงามของฉันนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม๊ทำไมพวกผู้หญิงหน้าตาเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ในห้องถึงชอบมองมาอยู่เรื่อย  มองเปล่านะไม่ว่าหรอก  แต่นี่เล่นมองแล้วทำหน้าหัวเราะเยาะเข้าให้อีกแล้วจะให้ฉันเข้าใจว่าไง ( ยังไม่รู้ตัวอีกนะว่าเขามองอย่างสมเพชในความงามของหล่อนตะหากย่ะ )

    " เห็นเสริมสวยอยู่ทุกวี่ทุกวัน  ไม่เห็นจะมีวันไหนดูสวยขึ้นมาซักวันเลย " น้ำเสียงของยัยกุ้งแห้งที่ชอบอวดตัวว่าเอวบางร่างน้อยเหมือนนางแบบดังขึ้นให้พอยิน ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงรูปร่างของยัยนี้แล้วละก็ ทั้งแบนทั้งบางเหมือนกุ้งแห้งค้างปีค้างชาติ สู้ฉันก็ไม่ได้มีทั้งเนื้อทั้งน้ำอวบอิ่มกลมกลึง  โฮะ โฮะ โฮะ  และเมื่อฉันหันไปมองหน้าเจ้าตัวก็เงียบ   รู้หรอกยะว่ากำลังชมฉัน !

    " ไม่รู้จะแต่งสวยไปให้ลิงที่ป่าไหนดูก็ไม่รู้  แต่ลิงก็ตาดีนะที่ไม่มองว่ายัยเหยินสวยจนหลงกลติดกับ" อีกแล้ว ฉันได้ยินนะเฟ้ย ! ขันติเข้าไว้ติก๊ะ อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเด็ดขาด  

    นั่งฟังยัยพวกปากนางร้ายนินทานางเอกอย่างฉันอยู่สักพักใหญ่   เนื้อหาคำต่อว่านั้นก็เริ่มซึมเข้าหูซ้ายเข้ามาทีละน้อยๆ  แม้ตั้งใจจะให้มันทะลุหูขวาดังภาษิต  แต่สมองอันมีรอยยักไม่ต่างกับไอร์ไสตร์อย่างฉันก็เริ่มได้คิดอะไรขึ้นมาบางอย่าง

    ไม่เข้าใจว่าทำไมคนน่ารักน่าตาดีอย่างฉันถึงได้มีแต่คนไม่ชอบหน้านะ   เป็นไปได้หรือเปล่าที่พวกนั้นอิจฉาในความสวยอันไร้ขีดจำกัด ( จนตะเลิดเปิดเปิง )ของฉัน เลยพาลไม่ชอบหน้า  แต่เอแล้วทำไมไอ้พวกผู้ชายมันก็ถึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าฉันด้วยนะ  จะว่าอิจฉาก็ไม่ใช่ …. แล้วอะไรล่ะ ?

               พักกลางวันของวันนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม  ฉันยังคงเดินฉายเดี่ยวเปรี้ยวซ่าไปยังโรงอาหารโดยที่ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าเทียบรัศมีเดินไปด้วย  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของฉันไปเสียแล้วที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว  ร้านค้าที่โรงอาหารนี่ก็ไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ สะอาดก็ไม่สะอาด  ราคาก็ถูก กินแล้วรู้สึกคันคอแต่ก็ต้องจำใจกิน  เอาเถอะน่า! กินเข้าไปเถอะติก๊ะเอ๋ย

                    " ดูสิ ยัยแว่นจืดกินข้าวคนเดียวอีกแล้ว" นั่นไง ฉันเจอมลพิษทางเสียงเข้าอีกแล้ว

                    " ก็ทำหยิ่งจองหองจนไม่มีคนคบนะสิ  สมน้ำหน้า " เชอะ หาว่าฉันหยิ่งจองหองงั้นเหรอ  หนอยยัยพวกชั้นต่ำ ขันติไว้ขันติไว้          เอาล่ะ  อย่าสนใจคนพวกนั้นเลย จะพูดจาถากถางฉันยังไงก็ช่าง ยังไงซะฉันก็ไม่ ได้ไปขอยัยพวกนั้นกิน

                    ฉันเดินเชิดหน้าไปยังร้านประจำที่ฉันคิดว่าสด สะอาด และปลอดสารพิษที่สุดในบรรดาร้านอาหารเหล่านั้น  คุณป้าแม่ค้าเจ้าของร้านยิ้มร่าทักทายเมื่อเห็นคนสวยอย่างฉันเดินเข้าไปหา

                    "  ป้า  วันนี้เอาเหมือนเดิมนะคะ"  ฉันสั่งอาหารเสร็จก็ยืนรอสักครู่  อาหารที่สั่งก็ถูกวางลงตรงหน้า  ฉันจ่ายเงินและเดินถือจานอาหารฉันเข้ามายังบริเวณโต๊ะอาหาร  ใช้สายตาสั้นเสน่ห์สอดส่ายมองหาที่ว่าง  แต่มันกลับเต็มไปหมด

                    แล้วฉันจะไปนั่งไหนหว่า ?

    " นั่งด้วยกันก็ได้นะ ติก๊ะ" เสียงทุ้มๆไม่ค่อยจะคุ้นหูของฉันดังขึ้น จะว่าไปมันก็มีแรงดึงดูดนิดหน่อย ( สาบานได้ว่านิดหน่อยจริงๆนะ) ให้ฉันต้องหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น….แล้ว…. พระเจ้าช่วย !!!!!!

    ถ้าแว่นฉันไม่มัว หรือสายตาฉันไม่สั้นผิดปกติทันทีทันใดแล้วละก็  ฉันก็สามารถฟัน! เอ้ย ! ฟันธงได้เลยว่า  เจ้าของเสียงทุ้มที่เรียกฉันเมื่อครู่นี้นั้น ช่างเหมือนเทพบุตรสุดหล่อจำแรงแปลงกายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว โอะ  ไม่สิ ไม่ๆๆๆๆ  คำว่าเทพบุตรมันดูโบราณเกินไป   ต้องใช้คำว่าหล่อเหมือนพระเอกฮอลลี่วูดเลยล่ะ

    โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ โฮะ…..

    ในที่สุดฉันก็เจอพระเอกตัวจริงแล้วเหรอเนี่ย  ชายในฝันที่เฝ้ารอมานานแสนนาน  วันนี้การรอคอยได้สิ้นสุดลงแล้ว

    " เชอะ  นายเป็นใครมิทราบยะ " อ้าว เจ้าปากนี้ก็ไม่รู้จักกาลเทศะแล้วไงล่ะ  ในตอนนี้ฉันควรพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวานสิ ถึงจะถูก

    " เราก็เพื่อนร่วมห้องเดียวกับเธอไง  จำไม่ได้เหรอ ? "

    เพื่อนร่วมห้อง !? เอทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยล่ะ  เป็นไปได้อย่างไรที่คนหน้าตาดีอย่างหมอนี้จะรอดพ้นตาทั้ง 4 ของฉันไปได้

    " ชื่ออ๊อฟไง " เขายังพยายามไม่เลิก  แหมตื้อดีจริงแฮะ  แต่…. ฉันจำไม่ได้จริงๆนะ

    " จำไม่ได้เหรอ ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน  ไปนั่งก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะไม่มีที่นั่งเอานะ " พูดเสร็จสรรพก็จับแขนฉันลากไปนั่งยังที่นั่งว่างข้างๆเขาทันที  ทำเอาฉันหน้าแดงเหมือนแตงโม (ตำลึงสุกมันเก่าไป  ต้องใช้มุกใหม่ๆให้เข้าสมัยสมกับเป็นฉันหน่อย โฮะ โฮะ โฮะ)  ก็แหม  เกิดมาไม่เคยมีใครถูกเนื้อต้องตัวฉันมาก่อนนี่ ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยแล้ว…..เขินวุ้ย (กรุณาเช็ดน้ำลายซะ ติก๊ะ !)

    หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็รีบลุกจากที่นั้นทันทีด้วยรู้สึกได้ว่าตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครอีกแล้ว  เบื่อจริงเลย...เป็นคนเด่นคนดังก็วางตัวลำบากอย่างนี้ล่ะ เฮ้อ!

    "  ไม่รอกันเลยนะ " เสียงของนายหน้าหล่อดังเข้ามาใกล้ๆ พอหันไปก็เห็นเขากำลังวิ่งตามฉันอยู่  ฉันหยุดยืนมองเขานิดหนึ่งจนเห็นว่าเขาเข้ามาใกล้แล้วฉันก็เริ่มหันไปเดินต่อ

    " จะไปไหน  ไปด้วยคนสิ "

    " ไม่ต้อง " ฉันปฎิเสธไปทันทีตามฉบับคนปากไว ทั้งๆที่ในใจนั้นอยากจะให้เขาไปด้วยเหลือเกิน

    " อืม  ก็ได้  "  อ้าว  นี่ก็ยอมกันง่ายๆเลยแฮะ  ไม่ตื้อหน่อยล่ะยะ ตื้อหน่อยเซ่ !.......

    " ว่าแต่จะไปไหนเหรอ ? " ดีมาก  ถามต่อทำเหมือนจะสนใจฉันอย่างนี้ล่ะดีแล้ว โฮะๆๆ

    " ธุระอะไรของนาย " ฉันจะทำยังไงกับปากฉันดีเนี่ย   ใจก็นึกจะพูดอย่าง  แต่ปากดันพูดอีกอย่าง เริ่มหมั่นไส้ตัวเองตะหงิดๆแล้วสิ  พอพูดจบฉันก็เห็นเขาสลดลงทันที  ใจฉันกระตุกวูบอย่างคนสำนึกผิด  นี่ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ ( ยัง... ยัง... เธอยังไม่รู้ตัวครับท่าน !)

    " เธอคงรำคาญเราสินะ ที่วุ่นวายกับเธอมากไป " โอ้พระเจ้า... ได้โปรดอย่าให้เขาใช้น้ำเสียงบาดหูเชือดเฉือนหัวใจลูกอย่างนี้เลย  ไม่นะ ไม่ๆๆๆๆ

    " อืม  เข้าใจแล้ว  เราไม่กวนเธอก็ได้  ไปล่ะ " เขาพูดจบก็ทำท่าจะหันหลังเดินจากไป

    " เดี๋ยว !" มาถึงตอนนี้ก็เพิ่งรู้สึกว่าชอบตัวเองขึ้นมาอีกนิด  เพราะนอกจากปากจะไวแล้ว มือยังไวอีกตะหาก เพราะทั้งปากทั้งมือฉันทำงานพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย (เว่อร์) คว้าแขนเขาทันทีที่เห็นเขากำลังจะเดินจากไป เขาหันมามองฉันอย่างช้าๆ หลับตานึกภาพสโลโมชั่นของมิวสิควิดิโอที่พระเอกกำลังหันมาหานางเอกช้าๆ  โอ้วววววววววว.... หล่ออะไรอย่างนี้ !

    " มาเป็นเพื่อนกันก็ดี " พูดจบก็หันหลังเดินนำเขาไปทันที  เลยไม่ทันได้เห็นสีหน้าเขาตอนนั้นว่าเขาจะทำหน้ายังไง

    ทั้งฉันและเขาเดินมานั่งที่ม้านั่งในสวนที่เขาจัดให้นักเรียนนั่ง  ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมองมายังพวกเรา โดยเฉพาะฉันที่รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตริษยาของบรรดาพวกผู้หญิงทั้งหลายที่มักจะคอยจ้องมองฉัน  ไม่รู้มองอะไรกันนักกันหนา  คอยดูเถอะสักวันถ้ามองกันมากๆจนความสวยฉันจืดไปละก็  จะไล่เก็บตังค์ให้หมดทุกคนเอาไปซื้อครีมบำรุงผิวแต่งหน้าให้งามเหมือนเดิมคอยดู!

    กำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงของนายอ๊อฟก็ดังขึ้นมา  และมันก็ทำให้ฉันหันไปให้ความสนใจได้เป็นอย่างดีด้วยสิ

    " จริงๆแล้วเราก็อยากรู้นะว่าเธอมานั่งทำอะไรแถวนี้  แต่ก็รู้ว่าถ้าถามแล้วเธอจะรำคาญก็เลย..." 

    " อยากรู้นักเหรอ ?"

    "  อืม... แต่ไม่ต้องบอกก็ได้นะถ้าลำบากใจ "  ดูดิ น้ำเสียงอ๊อน...อ้อน...อ้อนจนฉันใจสั่น

    " ฉันมานั่งนี่คนเดียวทุกวันล่ะ  มาทำการบ้านอ่านหนังสือ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย "

    "  คนเดียว ?"  ถามกลับอย่างไม่ค่อยจะเชื่อแฮะ

    "อืม... คนเดียว "  ตอบไปแล้วก็เริ่มรู้สึกตัวว่าปากมันอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา  ว่าแล้วก็จัดการรั่วซะ

    "  ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนหรอก " พูดได้แค่นั้นฉันก็เงียบลง กำลังคิดอยู่ว่าจะพูดต่อไปดีหรือเปล่า  พอหันไปเห็นหน้าหล่อเหลาราวพระเอกฮอลลีวูดก็ทำให้กำแพงหัวใจของฉันเริ่มอ่อนยวบลงและคิดจะบอกอะไรบางอย่างที่อัดอั้นอยู่ในใจมานานให้เขาได้ฟัง แต่พอกำลังจะอ้าปากสวยๆเผยให้เห็นฟันที่เรียงตัวกันคล้ายจอบเพื่อบอกเล่าความเป็นมานั้น สวรรค์ก็ดันกลั่นแกล้งส่งเสียงกริ่งเข้าเรียนมาขัดจังหวะซะนี่ ... ปัดโธ่เว้ยยยยยยยย!!

    " เดินไปด้วยกันนะ "

    " จะดีเหรอ ?"

    " ไม่เห็นเป็นอะไรเลย  เพื่อนกันน่า " พูดแค่นั้นนายหน้าหล่อก็ฉวยโอกาสคว้าข้อมือเรียวเล็กของฉันไปจับแล้วจูงเดินพาไปยังห้องเรียน

    อ๊ายยยยยยย....อีตาคนฉวยโอกาส...กล้าดียังไงมาจับมือฉันเนี่ย...อ๊ายยย...อย่าปล่อยน๊า...!!!

    ............................................................................................

     เอามาลงกันเต็มๆ ก่อนที่ตอนที่ 2 จะทยอยเอามาเผาเรื่อยๆ หุหุหุหุหุหุ

    แอบสะใจ ตอนแต่ง แต่เริ่มเสียวสันหลังวาบ เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนมั่ง

    คนแต่ง (สวย)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×