ปัจฉิมเขต - ปัจฉิมเขต นิยาย ปัจฉิมเขต : Dek-D.com - Writer

    ปัจฉิมเขต

    เป็นความทรงจำที่เลือนรางราวกับความฝัน ใช่ คล้ายกับว่าผมแค่... ฝันไป

    ผู้เข้าชมรวม

    214

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    214

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.ค. 55 / 08:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     เป็นความทรงจำที่เลือนรางราวกับความฝัน ใช่ คล้ายกับว่าผมแค่... ฝันไป
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ภวังค์

                      เป็นความทรงจำที่เลือนรางราวกับความฝัน สายฝนโปรยปรายที่ร่วงหล่นลงมานั้นไม่ได้ตกหนักมาก มันแค่พรำ ๆ พอที่จะทำให้ผมต้องลืมตาตื่นขึ้นมา ฝนนี้ไม่เปียกแต่เย็น ผมรู้สึกคล้ายกับนอนอยู่ ณ ที่แห่งนี้มานานแล้ว

                      เมื่อผมมองไปรอบ ๆ ที่นี่ให้ความรู้สึกไม่คุ้นเคยและเป็นที่แปลกตา ผมยืนอยู่ระหว่างถนนคอนกรีตสีดำกับพื้นหญ้าสีเทา แสงราง ๆ จากโคมไฟข้างถนน และอาคารสูงไม่สามารถเห็นสีสันได้ชัดเจนนัก ราวกับโลกนี้เป็นสีเทา มีเพียงสีขาวและสีดำ

                      เบื้องหลังผมเป็นป่าใหญ่ ต้นสน หรือต้นไม้ใหญ่อะไรที่คล้ายคลึง ใบไม้เป็นสีเทาเข้ม ข้างในป่านั้นมืดมิด แสงอันน้อยนิดจากเมฆฝนคงไม่อาจส่องเข้าไปถึงได้ สายฝนที่ตกลงมาทำให้เห็นเป็นประกายสีเทาเมื่อกระทบกับใบไม้แล้วกระจายออก ดูแล้วคล้ายกับมีสารอะไรเคลือบอยู่

                      ส่วนเบื้องหน้าผมคือตึกสูงเสียดฟ้าสีดำขนาดใหญ่ และมีตึกสูงอีกมากมายรอบ ๆ ตึกนี้ หากแต่ไม่มีตึกใดสูงเท่าเลย ลวดลายตึกเป็นลายอิเล็กทรอนิกส์ที่เรืองแสงอ่อน ๆ ดูหรูหราแต่คงไว้ซึ่งความเรียบง่าย นอกจากเสียงฝนกระทบพื้นและฟ้าร้องแล้ว ไม่มีเสียงใดอื่นอีก คล้ายกับเมืองนี้มีผมคนเดียว

                      ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินออกมา ผมยาวสีดำขลับตัดกับชุดสูทสีเทาทำให้ผมเดาได้ว่าเธอคงจะเป็นพนักงานระดับสูงของบริษัทนี้ เธอเดินเข้ามา เข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆ แต่ทว่าเธอไม่ได้มองผมเลย เธอเดินเข้าไปในป่าสีดำนั้น แล้วก็หายไปเลย ไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้า เมื่อผมสังเกตดูก็พบว่ามีคนทำเช่นเดียวกับเธอเดินออกมาอยู่เรื่อย ๆ เดินออกมาจากตึกสูง แล้วหายเข้าไปในป่าสีดำ เพียงแต่ยิ่งไกล สายฝนก็ยิ่งทำให้มองได้ลำบาก เห็นแค่เงาราง ๆ

                      เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ทั้งชายและหญิงเดินออกมาคนแล้วคนเล่า จนในที่สุดด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนเดินออกมาจากตึกเสียดฟ้าข้างหน้า ผมก็ไม่รีรออีกต่อไป ผมเรียกเธอให้หยุดไว้

                      คุณ!เสียงนี้ทำลายความเงียบของเมืองออกไปทั้งหมด มันดังก้องกังวาน สะท้อนไปมา บางคนที่อยู่ไกลออกไป หันมามอง แล้วก็เดินต่อไป

                      เธอคนที่เขาเรียกก็หันมามองเช่นกัน เธอหยุดยืนอยู่บนพื้นหญ้าหน้าป่าสีเทาแล้วยิ้มให้กับเขา ใบหน้าเธอนั้นงดงามราวกับเทพธิดา ผิวขาวนวล จนรู้สึกได้แม้ไร้สีสัน

                      “ผมคิดว่าผมกำลังหลงทาง คุณรู้ไหมครับว่าที่นี่คือที่ไหนเสียงของเขาเบาลงหากเทียบกับตอนแรก ราวกับเสียงกระซิบ แต่ก็ยังคงดัง หากเปรียบกับเสียงสายฝนที่โปรยปรายอยู่ ณ ที่แห่งนี้

                      แทนคำตอบ เธอกวักมือ แล้วก้าวเดินเข้าไปในป่า ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพราะว่าไม่มีที่ไป และไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน ผมจึงก้าวเดินตามไป

                      สถานที่แห่งนี้ไม่มีชื่อหรอกค่ะเธอเอ่ยประโยคแรก เมื่อเขาและเธอเดินเข้ามาข้างในเขตป่าสีดำ แต่ผู้คนมักจะเรียกว่าปัจฉิมเขตเมื่อเดินเข้ามาได้สิบกว่าก้าว หนทางก็ดูสว่างไสวขึ้น แม้ยังคงมีเสียงฝนพรำ ๆ อยู่ แต่ไม่มีสายฝนมาโดนเขาอีกต่อไป

                      ดอกไม้ ต้นไม้ดูเปลี่ยนไป มีลักษณะที่ไม่คุ้นตา ดอกกุหลาบที่ดูคล้ายหินแต่งดงามราวกับมีใครตัดแต่ง ด้วยการที่เขาไม่เห็นสีสันของมัน ในสายตาของเขามันจึงเป็นสีเทาเข้ม

                      เธอเดินไป แนะนำไป ว่าดอกไม้ชนิดนั้นคืออะไร ต้นไม้ชนิดนี้คืออะไร รวมถึงเครื่องมือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพียงแต่แทนที่จะเรียกชื่อของสิ่งนั้น เธอกลับแทนมันด้วยตัวเลข บางต้นสูงเสียดฟ้าขึ้นไป ราวกับเป็นกิ่งก้านสาขาของต้นไม้โลก อิกดราซิล ที่เขาไม่เห็นคงเป็นเพราะหมอกสายฝนพรางเอาไว้นี่เอง ราวกับนางฟ้าแนะนำสรวงสวรรค์ให้แก่วิญญาณดวงน้อยผู้หลงทาง แม้ไม่มีอะไรน่าสนใจ เพียงเธอพูดถึงมันก็ดูคล้ายจะดึงดูดเขาให้ตกอยู่ในภวังค์

                      จนกระทั่งผมเห็นแสงสีเทาหม่นลอดออกมา ก้าวพ้นขอบเขตของป่าสีดำไป ไม่รู้ว่าเขาวนมาเมื่อไหร่ แต่เขาก็กลับมาอยู่หน้าตึกเสียดฟ้าอีกครั้ง เธอเดินนำเขาเข้าไปในตึก ข้างในนั้นทุกโต๊ะมีใบเอกสารสีดำกองพะเนิน เอกสารนั้นดูคล้ายกับใบสมัครงานซึ่งมีชื่อและรูปถ่ายอยู่ในช่องเล็ก ๆ มุมขวาบน ทุกคนต่างหยิบเอกสารของตัวเองมา แล้วประทับตราลงไป เขาไม่เห็นว่ามันเป็นตราอะไร เพราะมันอยู่ด้านหลังฉาก เธอเดินนำเขาไปจนกระทั่งถึงหน้าลิฟต์ มีป้ายสีดำพร้อมตัวอักษรเลี่ยมทองสลักเอาไว้ เป็นข้อความสั้น ๆ ว่า

                      ตายยุติธรมเสมอ ครั้งแรกอาจช่วยได้ ครั้งสงสากินแก้

                      ข้อความบางส่วนหายไป อาจด้วยกาลเวลาอันยาวนาน ทำให้มันเลือนรางไป ผมพยายามเดินเข้าไปใกล้เพื่อที่จะอ่านจากร่องที่สลักเอาไว้

                      ติ๊ง เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อน ทำให้ผมไม่ทันอ่าน เธอกดขึ้นไปชั้นบนสุดท่ามกลางปุ่มอันมากมาย ซึ่งภายในลิฟต์เต็มไปด้วยตารางสีดำ ปุ่มทุกปุ่มราวกับเป็นผนังลิฟต์ เพียงแต่ทุกปุ่มนั้นเป็นสีดำ และไม่มีอะไรเขียนกำกับไว้

                      เธอเดินนำผมขึ้นไปที่ชั้นบนสุด พาเดินขึ้นบันไดไปชั้นดาดฟ้า ที่นั่นไม่มีเมฆฝนอีกต่อไป มีเพียงหมอก และเมฆที่ชั้นล่าง ตึกนี้คงสูงไปจนถึงสวรรค์ได้เลยกระมัง ถ้าบอกว่าเธอเป็นนางฟ้าและกำลังจะกลับสรวงสวรรค์ ผมคงจะไม่แปลกใจ

                      เธอพาผมไปที่ริมดาดฟ้า แล้วชี้ลงไปข้างล่าง เธอยิ้มให้ผม เบื้องล่างนั้นเป็นสระน้ำสีดำ และนิ่งสนิทคล้ายกระจกยักษ์ เมฆหมอกต่างแยกออก ไม่ได้ลอยมาปกคลุมสระน้ำนี้ ผมบอกได้แต่ว่าสระน้ำนั้นคงจะใหญ่มาก เพราะขนาดอยู่ที่สูงขนาดนี้ยังเห็นเป็นวงกลมเล็ก ๆ ได้ ทันใดนั้นเธอก็จับมือผม พยักหน้าให้ผม ยิ้มที่ให้ผมนั้นงดงามกว่าครั้งใด ๆ เธอกระโดดลงไปใช้เวลานานกว่า 1 นาที กว่าเธอจะลงไปถึง สระน้ำกระเพื่อมเล็กน้อย แล้วเธอก็จมหายไป ผมไม่เห็นฟองอากาศผุดขึ้นมา เธอไม่ได้ลอยขึ้นมา ราวกับหายไปที่ไหนสักแห่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้สระนั้น

                      ชายหนุ่มผู้หลงทางมองซ้ายมองขวา ไม่มีใครอยู่ ลมพัดปลิวเบา ๆ ทำให้เขาตัดสินใจ กระโดดตามเธอลงไป ห้วงหนึ่งนาทีนั้นยาวนานราวกับห้วงเวลาหยุดไว้ เขาค่อย ๆ ร่วงหล่นมุ่งสู่สระน้ำ เมื่อเขาทะลุผ่านเมฆหมอกลงไป ฝนก็พรำใส่เขาอีกครั้ง เขาพึ่งสังเกตว่าที่เขาไม่เปียกแต่รู้สึกเย็นนั้น ไม่ใช่เพราะมันไม่ได้โดนตัวเขา แต่มันแค่ทะลุผ่านไป

                      เมื่อร่วงหล่นเข้าไปใกล้อีก ข้าง ๆ สระน้ำมีชายคนหนึ่งนอนอยู่ อาจจะเรียกว่านอนไม่ได้ เพราะท่านอนนั้นพิสดารเกินไป คอหันกลับข้าง แขนขาบิดเบี้ยว ตาเบิกกว้าง และท่วมท้นด้วยของเหลวสีดำเข้ม น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าหน้าตาของชายคนนั้นช่างคล้ายเขาเหลือเกิน

                      สระน้ำกระเพื่อม ราวกับจะโอบอุ้ม รับชายหนุ่มไปเป็นส่วนหนึ่ง ที่เขาจาก

                      ข้างในนั้น เขาเห็นใบหน้าของผู้คนมากมายเป็นสีเทาจาง ๆ เลือนราง ไม่ชัดเจน

                      ราง ๆ คล้ายกับว่าเขานั้นกำลังหลับอยู่

                      ใช่.. เพียงแค่ฝันไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×