สำหรับคณะนี้เนี่ยจริงๆแล้วชื่อเต็มๆก็คือ \\\"คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
สาขาวิชาความผิดปรกติของการสื่อความหมาย\\\" นะครับผม
อ๊ะ อ๊ะ !!.....อย่าเพิ่งเข้าใจผิดที่เห็นว่าเป็นคณะแพทยศาสตร์แล้วจบมาจะเป็น
คุณหมอนะคร้าบ...เพราะจริงๆแล้วคณะเราเนี่ยจบมาจะไม่ได้แพทยศาสตรบัณฑิต(พบ.)นะครับ
แต่จะได้เป็นวิทยาศาสตรบัณฑิต(วทบ.)สาขาวิชาความผิดปรกติของการสื่อความหมาย
นั่นคือน้องๆจะจบมาด้วยคุณวุฒิความถนัดเฉพาะทางนั่นเอง
ถึงแม้จะไม่ใช่คุณหมอแต่คณะนี้เนี่ยมีความสำคัญมากนะครับ เพราะว่าในปัจจุบันนี้
การสื่อสารให้เข้าใจเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ
หากการสื่อสารเกิดความบกพร่องเนี่ยเราก้อจะไม่เข้าใจกัน
หรืออาจเกิดความขัดแย้งเนื่องจากความเข้าใจผิดได้
ซึ่งบนโลกนี้ยังมีอีกหลายๆคนนักที่มีความบกพร่องทางการสื่อสาร
จนทำให้คนบางคนหมดโอกาสที่ดีบางอย่างในชีวิตเลยก็ว่าได้
ซึ่งเขาเหล่านั้นต้องการการบำบัดและพัฒนาทักษะ เช่นคนพิการทางสมอง คนที่เป็นโรคออทิสติก
คนพิการ หูหนวก หูตึง เป็นใบ้ ปากแหว่งเพดานโหว่ ลิ้นไก่สั้นเป็นต้น
รู้มั้ยว่าพวกเขาเหล่านี้ต้องการให้มีใครสักคนที่จะมาช่วยพัฒนาให้เขาสามารถสื่อสารได้ดีขึ้น
และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเทียบเท่ากับคนปกติอยู่นะ
ละก็งานของเรานั้นถือว่าเป็นงานคนละส่วนกันกับงานของพวกคุณหมอหรือพยาบาลนะครับ
เพราะว่าเมื่อผู้ป่วยย่างก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลเนี่ย
คุณหมอจะทำหน้าที่รักษาตามความรู้ของคุณหมอ พยาบาลจะช่วยดูแลใส่ใจในสุขภาพ
ส่วนพวกเราจะทำการบำบัดรักษาตามความรู้ทางวิชาชีพของเราล่ะ
ดังนั้นจึงถือได้ว่าวิชาชีพของเรามีความสำคัญเทียบเท่ากับวิชาชีพอื่นเลยนะครับ
เพียงแต่สำคัญคนละมุมเท่านั้นเอง
จะว่าไปแล้วคณะนี้เพิ่งเปิดหลักสูตรปริญญาตรีมาได้รุ่นนึงแล้ว(ปีการศึกษา2547)นั่นก้อคือพวกพี่
และตอนนี้ก็กำลังจะเปิดรับรุ่นที่2อยู่
(ปีการศึกษา2548)ซึ่งคนเหล่านั้นก้อคือพวกน้องๆยังงัยหล่ะ!!!
อ๊ะๆ แต่อย่าตกใจไปว่า โอ้โห...คณะเรามีกันเพียงแค่เรา2รุ่นเองเหรอ?(-_-\\\")
เพราะจริงๆแล้วเนี่ยสาขาวิชาความผิดปรกติของการสื่อความหมายเนี่ยมีในประเทศไทยตั้งนานแล้วเป็น10ๆปีแน่ะ
ซึ่งก่อนหน้าเนี้ยเค้าเปิดมาเป็นหลักสูตรอนุปริญญา กับปริญญาโทครับผม
แต่ว่าเพิ่งมาเริ่มเปิดหลักสูตรปริญญาตรีก้อปีพวกพี่เนี่ยหล่ะ
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีที่เพิ่งเปิดขึ้นมาเนี่ยก็มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนบุคคลากรให้มีจำนวนเพียงพอต่อผู้ป่วยทั่วประเทศอ่ะครับ
เพราะจำนวนบุคคลากรที่จบมาจากปริญาโทหรืออนุปริญญาที่มีอยู่ในตอนนี้คิดเทียบกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเนี่ยถือว่าอยู่ในสภาวะขาดแคลนมากนะครับ
จริงๆแล้วเนี่ยสาขาวิชาความผิดปรกติของการสื่อความหมายนั้นเป็นสาขาวิชาที่ต่างประเทศฝั่งอเมริกา-ยุโรปให้ความสำคัญกันมาเลยรู้มั้ย
มีหลักสูตรการศึกษาจนถึงระดับปริญญาเอกมานานแล้วล่ะ
แต่สำหรับในแถบเอเชียนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก
ซึ่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงนี้จึงเริ่มบุกเบิกในการเปิดหลักสูตรนี้ขึ้นมา
ซึ่งนับว่าเป็นคณะแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์เลยนะครับ
เรื่องของหลักสูตรการเรียนการสอนเนี่ย ในปีที่1
เราจะได้เรียนกับเพื่อนๆทุกคณะในมหิดลที่ศาลายานะครับ
ซึ่งก้อจะได้เรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐานทั่วๆไปอย่าง เลข(แคลคูลัสกับสถิติ) ฟิสิกส์ เคมี
ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเหมือนๆม.ปลายแต่ว่าเรียนในระดับที่ลึกขึ้น
และจะได้เรียนวิชามนุษยศาสตร์บูรณาการ
ที่เนื้อหาวิชาจะสอนให้เราได้เข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์ทั้งความต้องการทางด้านร่างกาย จิตใจ
การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นต้น และในเทอม2
น้องๆก้อจะได้เริ่มเข้าใกล้ความเป็นคณะเรามากขึ้น เพราะน้องๆจะได้เรียนวิชาคณะ
นั่นคือวิชา ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคนพิการซึ่งน้องจะได้รู้จักกับความพิการชนิดต่างๆ
กฏหมายคุ้มครองคนพิการ ซึ่งวิชานี้น้องจะได้รู้จักคนพิการและเห็นใจเข้าใจคนพิการมากขึ้น
นอกจากนี้จะได้รู้จักกับระบบร่างกายพื้นฐานในวิชากายวิภาคศาสตร์หรือANATOMY
ที่เราจะได้ศึกษาจริงจากอาจารย์ใหญ่ที่เป็นผู้มีพระคุณยอมสละร่างกายเพื่อเป็นวิทยาทานให้เราได้เรียนรู้
นอกจากนี้จะมีเรียนวิชาอิเลคโทรนิคส์ด้วยนะครับเพราะสาขาวิชาของเรามีบ้างที่จะต้องเรียนรู้จักอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็น
เช่นเครื่องช่วยฟัง หรือเครื่องวัดระดับการได้ยินอะไรพวกเนี้ย
ส่วนวิชาปี2เนี่ยพี่ก้อยังไม่ค่อยรู้นะครับ เพราะพี่เองก้อกำลังขึ้นชั้นปีที่2อยู่หง่ะ
แต่ที่รู้คร่าวๆก้อคือ เราจะได้เรียนลึกขึ้นเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์
สรีระวิทยาของระบบที่เราใช้ในการสื่อสาร นอกจากนี้ยังเรียนรู้จักการฟัง
การออกเสียงที่ถูกต้องด้วย
และในชั้นปีที่สูงขึ้นน้องจะได้เรียนวิชาภาษามือเบื้องต้นด้วยล่ะ
เอาไว้สำหรับการสื่อสารกับคนหูหนวก ซึ่งเป็นวิชาที่น่าสนใจมากๆเลย
จนถึงตอนนั้นน้องจะเริ่มเห็นความถนัดของตนเองแล้วว่าเราเหมาะจะเลือกเรียนวิชาหลักด้านไหนระหว่าง
แก้ไขการพูด กับ แก้ไขการฟังแล้วน้องก็จะได้เรียนมุ่งเน้นไปทางนั้น
ควบคู่กับการฝึกปฎิบัติการจริงกับผู้ป่วยเลยครับ
เนื่องจากวิชาชีพของเรานั้นเองก็เป็นวิชาชีพที่ทำงานกับมนุษย์ดังนั้นเมื่อเราเรียนจบเราก็ต้องไปสอบเพื่อรับใบประกอบโรคศิลป์ด้วยนะ
หลังจากนั้นก็เป็นทางเลือกของน้องแล้วหล่ะว่าจะเอางัยกะชีวิตต่อไปดี
ระหว่างทำงานเลย,เรียนต่อ,ทำงานไปก่อนค่อยเรียนต่อปริญญาโท-ปริญญาเอกทางสาขาวิชานี้เพื่อจบมาเป็นอาจารย์
หรือไปเรียนต่อสาขาวิชาอื่น เป็นต้น
แต่สิ่งนึงที่อยากจะฝากไว้กับน้องๆนะครับว่า
หลักสูตรวิชาความผิดปรกติของการสื่อความหมายของเราเนี่ย
ถูกเปิดขึ้นมาเพราะว่ามีคนมากมายที่ต้องการการบำบัดช่วยเหลือจากพวกเราจริงๆ
ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าเมื่อน้องจบมาจะไม่มีงานให้น้องทำ
ดังนั้นหากน้องคิดว่าน้องเป็นคนนึงที่มีปณิธานกับชีวิตว่าอยากช่วยเหลือผู้คนแล้วเนี่ย
คณะนี้เป็นทางเลือกที่ดีนะครับน้อง
ที่น้องจะได้ทำงานเพื่อผู้อื่นและมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าเพราะอย่างน้อยน้องก้อได้ยกระดับโอกาสให้แก่ผู้ที่ผิดปกติของการสื่อความหมายได้มีโอกาสทัดเทียมกับคนทั่วไป
ไม่มากก็น้อย
ก็อย่างที่บอกนะครับ การที่มีความผิดปกติของการสื่อความหมายเนี่ย
อาจจะทำให้คนบางคนหมดโอกาสที่ดีบางอย่างเลยนะครับ
เพราะฉะนั้นพี่หวังว่าคณะนี้จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของน้องๆนะครับผม
แล้วเจอกันนะคร้าบ  !!!
น้องๆสามารถถามข้อสงสัยไว้ที่กระทู้นี้ หรือไม่ก็แอดเมลล์มาคุยกันได้นะครับ
พี่ทุย ----> tuibankbuffalo@hotmail.com
พี่ยุ้ย  ----> yui_iuy101228@hotmail.com
พี่ก้อย  ----> kaw_neaw@hotmail.com
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น