นักสืบ2หน้า - นิยาย นักสืบ2หน้า : Dek-D.com - Writer
×

    นักสืบ2หน้า

    แลนซ์เด็กหนุ่มผู้เสียพ่อไปในคดีฆาตรกรรมและในเวลาต่อมาเขาได้เสียแม่ไปแลนซ์จึงต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ แลนซ์เด็กหนุ่มม.ปลายผู้ได้ถูกขนานนามว่าอัฉริยะนักสืบม.ปลายเพื่อตามจับคนร้ายที่ฆ่าพ่อของตนและในเวลาต่อมาแลนซ์ได้พบความรับของบ้านตนเองว่า......

    ผู้เข้าชมรวม

    70

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    70

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ธ.ค. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "อลิสพาแลนซ์หนีไป"
    ไฟสีแดงลุกโชนทั่วบ้านถ้ามองใกลมันอาจดูสวยงามแต่ ความจริงแล้วมันคือ ความทุกข์ธรมารวามสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว"เอลเบิร์ด"แลนซ์สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เสื้อของเขาเปียกโซกไปด้วยเหงื่อ และหัวใจของเขาเต้นรัวและ ร่างกายเหมือนได้รับออกซิเจนไม่พียงพอ แลนซ์ยกมือมือขึ้นมากุมขมับและพูดกับตัวเองเบาๆว่า "ฝันแบบนี้อีกแล้วหรอแต่ไม่ว่ายังไงชั้นจะต้องจับแกให้ได้ไอฆาตกร" แลนซ์หันไปมองนาฬิกาที่วางอยู่บนหัวเตียง และลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที หยาดน้ำเย็นที่ออกมาจากฝักบัวค่อยๆกระทบหน้าความเคียดค่อยๆจางหายไป หลังจากที่แลนซ์ออกมาจากห้องน้ำ เขาค่อยๆหยิบเสื้อที่วางอยู่บนตะกร้ามาใส่ หลังจากที่เขาแต่งตัวเสร็จ แลนซ์จึงเดินออกจากบ้าน “ไปแล้วนะครับ”
    แลนซ์พูดทั้งๆที่รู้ว่าที่บ้านไม่มีใครอยู่ หลังจากเหตุการณ์เมื่อ2ปีที่แล้วพ่อของแลนซ์ถูกฆาตกรรมและฆาตกรยังลอยนวลอยู่ แลนซ์อาศัยอยู่กับแม่และ 1ปีต่อมาแม่ของเขาถูกฆ่าแต่คราวนี้ฆาตกรถูกจับได้ แลนซ์จึงถูกญาติฝั่งแม่รับมาเลี้ยง นานครั้งคุณป้าจะกลับมาบ้านและนั้นเองเป็นชวนที่ทำให้แลนซ์เริ่มเป็นนักสืบ จนได้ชื่อว่า’อัจฉริยะนักสืบม.ปลาย’ เขาเดินตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อข่าวมาทาน และตอนนั้นเองแลนซ์สังเกตเห็นหนังสือเล่มหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งมันพาดหัวข้อข่าวเกี่ยวกับ ‘คนยากจนในพื้นที่ทุรกันดาร’ แลนซ์จึงเริ่มคิดหาวิธีช่วยพวกเค้าเขาเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อและเดินไปโรงเรียนที่ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก แลนซ์สังเกตเห็นผู้ชายผมสีเทาเงางามและหน้าตาที่ค่อนข้างหวานราวกับผู้หญิงต้องถูกตัดไปด้วยหางตาที่แหลมคมดุจเหยี่ยว และใบทันบนที่ค่อนข้างหน้ากลัว เพราะไอหมอนี้เป็นคนที่แฮกข้อมูลของโรงเรียน และการทดลองสร้างสิ่งประดิษฐ์ของมันเกือบทำให้โรงเรียนระเบิด เคยถูกพักการเรียนหลายครั้ง ทุกคนรู้จักมันในชื่อเทพแห่งความพินาศ เพราะไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนก็ต้องเกิดความย่อยยับขึ้นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดวง แต่จริงๆแล้วชื่อของมันคือจัสติน จาคอบถัดมากจากหมอนั้นอีกนิดนึงแลนซ์เห็นผู้ชายผมสีทองสายตาดูเป็นประกายน่าหลงไหลในความงดงามนี้มักจะมีความอันตรายซ่อนอยู่เพราะหมอนี้รู้จักกันในชื่อเทพผู้พิชิดไม่ว่าจะเป็นใครรุ่นพี่หรือรุ่นน้องไอหมอนี้ก็พิชิดหัวใจมาแล้วชื่อของมันคือสกลีด เดล แลนซ์เดินมาถึงป้ายเพื่อดูว่าตนเองอยู่ห้องไหน เขาสังเกตเห็นชื่อของตนเองอยู่ตรงกลางของห้องม.5/2 เขาจึงเดินไปที่ห้องของตนเองโดยที่ไม่สังเกตถึงหายนะที่กำลังมาเยือนในห้องของเขา แลนซ์หยุดยืนอยู่หน้าห้องชั่วขณะเนื่องจากสัมผัสได้ถึงความหน้ากลัวของคนในห้องม.5/2 แลนซ์เริ่มทำใจและเปิดประตูแลนซ์ติดสตั้นชั่วขณะเพราะบรรณยากาดมันคล้ายกับสนามรบมากกว่าห้องเรียน เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขามีแต่พวกชื่อดังทั้งสิ้นแต่ดังในด้านลบเป็นส่วนใหญ่ เสียงกระดิงดังขึ้นแสดงถึงการจบคาบโฮมรูม นักเรียนส่วนใหญ่เดินไปนั่งที่ “คลืด”เสียงเปิดประตูดังขึ้นมีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินเข้ามาในห้องและหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง อาจารย์ท่านนี้กวาดสายตามองไปทั่วห้อง
    “อะเออสวิสดีครับนักเรียนทุกคน ผมเจอา คริสต์ติน เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ครับ” หลังจากที่อาจารย์พูดจบตามปกติจะมีเสียงตอบรับจากนักเรียนแต่เพราะห้องนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กพิเศษจึงไม่มีเสียงตอบรับ อาจารย์ดูเหมือนอาจารย์จะเริ่มรู้สึกถึงรังสีอำมหิตของเด็กนักเรียนห้องม5/2 
    “เอ่อนักเรียนทุกคนวันนี้ตอนคาบแรกจะมีปฐมนิเทศนะครับโปรดไปรวมตัวกันที่หอประชุมด้วย”
    นักเรียนเริ่มทยอยกันไปที่หอประชุม ระหว่างพิธีปฐมนิเทศได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากตอนที่อาจารย์คนหนึ่งกำลังกล่าวเปิดงานอาจารย์คนนั้นก็ได้ล้มลงไปกับพื้น เวลาผ่านไปราว3นาที่อาจารย์คนนั้นยังไม่รุกขึ้นมา แลนซ์รู้สึกถึงความผิดปกติจึงรีบวิ่งไปดูอาจารย์คนนั้นเพื่อเช็คว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ดูเหมือนจะช้าไปหลังจากนั้นซักพักตำรวจก็มาถึงสถานที่เกิดเหตุ ตำรวจคิดว่าอาจารย์และคนที่อยู่บนเวทีทุกคนเป็นผู้ต้องสงสัย จึงปล่อยนักเรียนทุกคนขึ้นไปรอบนห้องเรียน 
    “นายคงเป็นอัจฉริยะนักสืบม.ปลายสินะ"
    “ใช่ครับ”ชั้นคือสารวัตของกรมตำรวจแคสตินส่วนคนนี้คือลูกน้องของชั้น ผมจึงเล่าสถานนะการณ์ตั้งแรกให้ฟัง และแล้วก็มีผู้ชายรูปงามเปิดประตูเข้ามาอย่างสง่างานคล้ายกับฉากเปิดตัวในการ์ตูน คนที่เดินผ่านประตูเข้ามา มีผมสีทองยาวเงางาม ที่หน้ามีแผลที่ตาข้างขวา แต่งตัวดูคล้ายมาเฟียแต่ความจริงแล้วผู้ชายคนนี้คือ
    ”ยอดนักสืบแห่งกรมตำรวจแคสติน” 
    มีชื่อว่าเควิน สแตนฟอต 
    “มาพอดีเลยเควิน”
    “คุณคงเป็นยอนนักสืบแห่งกรมตำตำรวจแคสตินใช่มั้ยครับ”
    “ใช่แล้วแล้วเธอรู้ได้ยังไงละ”
    “ผมเห็นเครื่องแบบแตกต่างจากตำรวจทั่วไป และสมุดที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมันเขียนว่า”สังกัดหน่วยสืบสวน และคนที่ตามข้างหลังเป็นคนจากหน่วยพิสูจน์หลักฐาน”
    “สายตาเฉียบคมตามที่ร่ำลือจริงๆคุณยอดอัจฉริยะนักสืบม.ปลาย”
    “แล้วเหตุการณ์ตอนนี้เป็นไวบ้างละ”
    แลนซ์จึงเริ่มเล่าเหตุการณ์จากต้นจนจบ หลังจากที่เล่าจบพวกผมเข้าไปดูศพของอาจารย์คนนั้น และพบว่ามีเศษผงสีขางอยู่บริเวณใกล้ๆกับศพ แลนซ์จึงใช้นิ้วแตะผงนั้นขึ้นมาดมเพื่อตรวจเช็คว่ามันคืออะไร จนกระทั่งรู้ว่ามันคือไซยาไนและที่นิ้วยังมีคลาบเลือดที่คล้ายกับถูกอะไรจิ้ม และที่อยู่ใกล้ๆกับมือมีตัวเลขถูกสลักอยู่ เลขนั้นคือ 13560 ตัวเลขนั้นคือไดอิ้ง เมสเสจ แต่ข้างบนของไดอิ้ง เมสเสจมีลอยถูกลบไปแต่ยังเหลือคราบเลือดที่เหมือนกับอักษรที่เขียนว่าManlส่วนที่เหลือถูกลบจนอ่านไม่ออก แลนซ์สังเกตเห็นอาจารย์ที่หนึ่งกำลังปัดเสื้ออยู่ “เป็นไงบ้างพบอะไรบ้างมั้ย
    ”เควินเดินไปถามหน่วยพิสูจน์หลักฐาน หน่วยพิสูจน์หลักฐานจึงเริ่มรายงานเควินว่า ผู้ตายชื่อลูซี่ เอฟสัน เป็นคนโปตุเกต ทำงานเป็นครูสอนภาษาโปตุเกตและ พบผงยาไซยาไนอยู่บริเวณใกล้ๆกับศพ บตัวเลข13560ที่คาดว่าจะเป็นไดอิ้ง เมสเสจของผู้ตาย และอักษรManlที่เหมือนถูกอะไรลบออกไปส่วนที่เหลือจางจนอ่านไม่ออก แต่ยังไม่พบของที่ใช้เขียน ใกล้ๆกับศพพบขวดน้ำที่สันนิฐานว่าผู้ตายดื่มก่อนขึ้นไปพูดใน.ขวดน้ำเราพบว่ามีไซยาไนผสมอยู่ “โอเคขอบคุณมากชั้นรู้ตัวคนร้ายแล้วละ”
    “จริงหรอครับ”
    “คุณอัจฉริยะนักสืบม.ปลายผมว่างานนี้คุณคงไม่ได้ออกโรงแล้วละครับเพราะผมรู้ตัวคนร้ายแล้ว”
    “งั้นผมขอชมการแก้ไขคดีของคุณหน่อยนะครับคุณนักสืบ”“คนร้ายคือคุณมีฟ มีฟ เมอเนลคุณนั้นแหละ”
    “แกมันบ้าไปแล้วอย่ามากล่าวหาคนอื่นสุมสี่สุ่มห้าสิฟระไหนบอกมาซิทำไมคิดว่าข้าคือคนร้าย”“อย่างแรกตัวเลข13560จริงๆแล้วมันคือเลข 13 5 6 ส่วนเลข0มันไม่มีความหมายถ้าแปลตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวอักษรจะได้เป็นตัวอักษรmefซึ่งอ่านว่ามีฟ“แล้วตัวอักษรmanlละหมายความว่าไงคุณยอดนักสืบ""อ่อถ้าตัวอักษรนั้นจริงแล้วมันคือคำว่าmealที่แปลว่ามืออาหารแล้วรู้สึกว่าคุณจะเป็นครูสอนวิชาทำอาหารละสินะครับ"
    แลนซ์รู้สึกว่าการแก้ไขคดีของคุณนักสืบมันมีอะไรแปลกๆอยู่จนกระทั่งแลนซ์เห็นแขนเสื้อของMr.สตีฟมีผงสีขาวๆติดอยู่"ผิดแล้วละครับคุณยอดนักสืบอาจารย์มีฟไม่ใช่คนร้ายเพราะคนร้ายตัวจริงคือคุณใช่แล้วMr.สตีฟ เอมาริค"
    "แกคงไม่ชอบชั้นละสินะแลนซ์คุงเลยบอกว่าชั้นเป็นคนร้ายนะไหนลองบอกมาซิทำไมคิดว่าชั้นเป็นคนร้าย
    "Mrสตีฟพูดด้วยเสียงเย็นชาราวกับว่าตัวเองไม่ใช่คนร้าย"เริ่มจากตัวเลข13560ก่อนเลยนะครับจริงๆแล้วมันคือ13/5/60หรือพูดง่ายๆวันที่13เดือนพฤษภาคมปี60ซึ่งเป็นวันลองคิดดูซิครับว่านั้นคือวันอะไร”
    “ใช่แล้วมันคือวันคล้ายวันเกิดของจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา ส่วนตัวอักษรmanlจริงๆแล้วมันคMaridoในภาษาโปตุเกตเเปลว่าสามีเพราะว่ามันถูกปาดออกไปเลยทำให้เห็นเป็นmanlแล้วก็มีบางส่วนหายไปใช่มั้ยละครับคณหน่วยพิสูจน์หลังฐาน"
    "ใช่ครับ"
    "หรือพูดง่ายๆผู้ตายพยายามจะบอกว่าสามีของคุณมาเรียและรู้สึกว่าMr.สตีฟคุณได้หมั่นกับMs.มาเรียวีนะครับแล้วก็อีกอย่างถ้าเกิดว่าให้คนไปตรวจร่างกายของคุณคงจะพบเข็มหมุดที่ผู้ตายใช้เจาะเลือดเพราะตอนที่ผู้ตายล้มลงไปคุณวิ่งเข้าไปดูเป็นคนแรกใช่มั้ยละครับตอนนั้นคุณคงจะเก็บเอาเข็มหมุดกับปลาดลอยเลือดออกแล้วอีกอย่าที่เสื้อของคุณคงจะมีผงสีขาวๆติดอยู่ผมคิดว่าผฝนั้นคงจะเป็นผงไซยาไนใช่มั้ยละครับ"
    "ถ้าชั้นเป็นคนร้ายจริงแล้ววิธีที่ชั้นใส่ยาไซยาไนให้ไอหมอนี้กินชั้นทำยังไงละเพราะตอนที่ชั้นเเจกน้ำชั้นให้แต่ละคนหยิบขวดน้ำเอาเองชั้นคงไม่รู้หรองว่าหมอนี้จะหยิบขวดไหนจริงมั้ย"
    "แล้วถ้าผู้ตายนั่งอยู่คนแรกแล้วคุณหยิบขวดน้ำที่มียาไซยาไนผสมอยู่ให้แก่ผู้ตายแล้วโดยที่คุณบอกว่านี้คือน้ำมะนาวละครับ"หลังจากที่แลนซ์พูดจบMr.สตีฟก็ล้มลงไปคุกเข่ากับพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาราวกลับว่าพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดและได้พึงพำออกมาว่า
    "ไอหมอนั้นมันมาจีบมาเรียชั้นจึงฆ่ามันซะก่อนที่มันจะแย้งมาเรียไป"
    Mrสตีฟพูดทั้งๆที่กำลังร้องไห้อยู่แต่ไม่ว่ายังไงคนที่ทำความผิดก็ต้องได้รับโทษตำรวจจึงใส่กุจแจมือและพาMr.สตีฟขึ้นรถรอบๆหอประชุมเต็มไปด้วยนักเรียนที่ออกมาอยู่ข้างนอกถึงแม้บบางส่วนจะกลับขึ้นตึกไปแล้วก็ตาม"เก่งสมชื่อจริงๆคุณอัจฉริยะนักสืบม.ปลายแต่ครางวหน้าชั้นไม่แพ้นายแน่”คำพูดสุดท้ายหลังจากที่นักสืบมาเดินจากไปคำพูดนั้นทำให้แลนซ์รู้สึกสนุกเล็กๆในใจแลนซ์ฉีกยิ้มเล็กและตะโกนคล้อยหลังไป
    “โอเคแต่งั้นผมจะรอให้ถึงวันนั้นละกันนะครับคุณนักสืบ”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น