ม.ปลาย - ม.ปลาย นิยาย ม.ปลาย : Dek-D.com - Writer

    ม.ปลาย

    เกี่ยวกับชีวิตเด็กม.ปลาย

    ผู้เข้าชมรวม

    368

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    368

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 มี.ค. 49 / 23:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                และเมื่อเราได้มาอยู่ ม.ปลาย เพื่อนๆที่อยู่ห้องเดียวกันต้องถูกแยกแม้จะเรียนสายวิทยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน เริ่มต้น ม.4 เราก็เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เพราะแต่ละคนในห้องก็มาจากต่างห้องยังไม่คุ้นเคยกันเสียเท่าไหร่ ตอนแรกๆก็คิดว่าคงเข้ากันไม่ได้ บางคน ก้อแต่งตัวผิดระเบียบ ทาปากทาแป้ง บางคนก็ทำตัวเวอร์ ลอกเก่ง ไม่เกรงใจใคร บางคนก็ดูจะทำอะไรไม่เป็นเลย ซึ่งตอนอยู่ ม.ต้น เราไม่เคยเจอสิ่งเหล่านี้ เราจึงรู้สึกว่า ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้และไม่เคยเจอ  โชคดีที่ห้องใหม่ของเรามีเพื่อนจากห้องเก่า 19 คน เราจึงไม่เป็นกังวลมากนัก ปีแรกเราก็คบกันอยู่แค่กลุ่มเพื่อนเก่า แม้ว่าจะมีบางคนที่เริ่มตีตัวออกห่าง เริ่มมีเสียงติชม จากอาจารย์ว่า ห้องนี้ ไม่ตั้งใจเรียน คุยเก่ง ลอกเก่ง  แย่กว่าห้องอื่นๆ มันทำให้เรารู้สึกว่ามันช่างต่างจากม.ต้นเหลือเกิน เราเริ่มรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาอยู่ห้องที่มีแต่ปัญหาแบบนี้ ด้วย .... แต่เมื่อเราอยู่ม.ปลาย กิจกรรมที่ต้องทำก็มากขึ้น พวกเราต้องจัดค่ายและ ต้องร่วมมือกันในสายชั้น แต่พวกที่ทำงานจริงๆก็มีเพียงพวกสายวิทย และกลุ่มที่เป็นแกนนำก็เป็นเด็กจากห้องของเราตอนม.ต้นจึงทำให้การทำงาน ไม่เป็นปัญหาเท่าที่ควร เราได้มีโอกาสร่วมงานกับเพื่อนๆเก่าอิกครั้ง และได้ร่วมงานกับเพื่อนใหม่ ที่สำคัญเพื่อนที่ไปเรียนที่อื่นก็กลับมาช่วยด้วย เราเริ่มเรียนรู้กับตัวเองแล้วว่า เราไม่ควรตัดสินใคร จากแค่การมองจากภายนอก เราเริ่มมีความรู้สึกดีขึ้น กับเพื่อนๆทั้งเก่าและใหม่ จากความสำเร็จในการร่วมมือกันจัดค่ายของทุกห้อง ตั้งแต่ม.4 กลุ่มของเราเริ่มเปิดกว้าง เด็กสายวิทยเริ่มรู้จักกันและสนิทกันมากขึ้น ในห้องเราเริ่มหันหน้าเข้าหากันมากขึ้น ในขณะที่การเรียนยังคงขึ้นๆลงๆกันตามปกติ   เมื่อมาถึง ม.6 กิจกรรมก็มากขึ้นกว่าเดิมเพราะเราเป็นพี่ใหญ่สุดในโรงเรียน พวกเราม.6 ทั้งสายวิทยและสายศิลป์ เริ่มมีงานที่ต้องทำร่วมกัน พวกเรามีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้นด้วย กิจกรรมต่างๆที่ม.6 ร่วมกันทำ ร่วมกันเหนื่อย ร้อนด้วยกัน กลับบ้านดึกด้วยกัน มันเป็นเหมือนตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเด็กม.6 แม้จะมีการทะเลาะกันบ้าง ระหว่างกลุ่มเดียวกัน ห้องเดียวกัน และต่างห้องกัน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้พวกเราเข้าใจกันมากขึ้น รู้จักตัวตนของกันและกันมากขึ้น ทำให้เรารู้ว่าการทำงานหากมีเรื่องทะเลาะกันถือเป็นเรื่องปกติ เราควรใช้ความเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ดีกว่าและหลายๆเสียงยอมรับ งานที่ออกมาจึงเป็นงานที่มีคุณภาพ จากการที่ได้ร่วมงาน ทำให้เราเห็นความสามรถของเพื่อนหลายคน  จากคนที่ดูว่าไม่เอาเรื่อง กลับสร้างผลงานออกมาให้ใครๆเห็นอย่างไม่น่าเชื่อ  บางกลุ่มบางคนที่ไม่เคยสนใจใส่ใจในกิจกรรมที่ผ่านมา กลับสร้างเสียงฮาให้กับน้องๆได้ อย่างน่าอัศจรรย์ เด็กเก่งที่วันๆถือแต่หนังสือ กลับกลายเป็นผู้นำที่ทำอะไรต่างๆให้ประสบความสำเร็จได้ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการได้ทำกิจกรรมทั้งสิ้น และแม้ว่าพวกเราจะทำกิจกรรมร่วมกันเยอะแยะมากมาย แต่เรื่องของการเรียนก็ไม่ทิ้งกันเลย  เมื่อถึงเวลาสอบรายจุดประสงค์ ก็จะจับกลุ่มติวกัน ใครไม่เข้าใจเรื่องอะไร ก็สามารถเข้าไปถามคนเก่งๆได้ทุกคน  ไม่เพียงแต่ติวกันแต่ในห้อง บางครั้ง ติดขัดอะไร ก็ไปถามจากคนเก่งๆจากห้องอื่น  สังคมม.ปลายจึงเป็นสังคมที่กว้างขึ้น ไม่เหมือนตอนม.ต้น มันทำให้หลายคนเปลี่ยนไปและหลายคนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  ไม่มีใครรู้ว่า เพื่อนระหว่างกลุ่มจะกลายเป็นเพื่อนระหว่างห้องกลายเป็นเพื่อนระหว่างสายการเรียนกลายเป็นเพื่อนระหว่างสายชั้น ทุกอย่างมันเริ่มจากการ เข้ามาเป็นเด็กม.ปลาย จริงๆ

                  วันนี้พวกเราจบม.6 สมุดเฟรนชิพเล่มเดียวไม่พอให้เพื่อนๆเขียน แต่ละคนแจกกระดาษ ให้เพื่อนๆได้เขียนกันอย่างทั่วถึง ไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งจะได้มาเขียนเฟรนชิพให้กับ เด็กสายศิลป์  การจบมัธยมปลายในปีนี้จึง เป็นปีที่น่าใจหายที่สุด ไม่ใช่การจากลาเฉพาะในห้องแต่น่าเศร้าที่ต้องจากเพื่อนร่วมงานดีๆที่เข้ากันได้แบบนี้ แปลกที่ไม่มีน้ำตา แต่กลับมีแต่ความเหงา และความคิดถึง หลายครั้งที่อยากร้องไห้ น้ำตาเริ่มคลอ แต่มีบางสิ่งที่คอยห้ามน้ำตาไว้ นั่นคือรอยยิ้มและคำทักทาย จากรูปถ่ายและ เฟรนชิพที่เพื่อนๆได้เขียนไว้ให้....  

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×