รักวุ่นวาย หัวใจสับสน - นิยาย รักวุ่นวาย หัวใจสับสน : Dek-D.com - Writer
×

    รักวุ่นวาย หัวใจสับสน

    ผู้เข้าชมรวม

    60

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    60

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ส.ค. 56 / 10:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                         “อะไรทำให้คุณพ่อคิดที่จะเอายัยนี่มาเป็นเมียค่ะ”

                       “นี่ลูกไวท์  เรียกนิตาเค้าดีๆหน่อย เค้าจะมาเป็นแม่แกนะ”

    ฉันกับคุณพ่อเถียงกันมาได้เกือบจะเป็นชั่วโมง  หลังจากที่คุณพ่อคิดที่จะยัยนักร้องในผับกลางคืนมาเป็นเมีย

                “คุณพ่อ! หนูไม่ยอมให้มันเข้ามาอยู่ ร่วมหลังคาเดียวกับหนูแน่”

    ฉันรับไม่ได้ที่คุณพ่อจะมีเมียใหม่ทั้งๆที่คุณพ่อก็สามารถอยู่ได้  มาตั้ง10กว่าปี  หลังจากที่แม่ตายไป

        “งั้นแก  ก็ออกไปอยู่ที่อื่นสิ  ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่    ฉันจะอยู่ที่นี่กับนิตาสองคนก็ได้”

                “คุณค่ะ!  คุณพูดแรงไปหรือเปล่าค่ะ”

    ยัยนิตาเอ่ยขึ้นมาเสียงหลง หลักจากหุบปากมาได้เป็นชั่วโมงตั้งแต่ที่ฉันเริ่มเถียงกับคุณพ่อ  มารยาชัดๆมันอยากให้ฉันออกไปจะตาย  ทำมาเป็นตกใจที่แท้เนื้อตัวมันสั่นอยากให้ฉันออกไปเร็วๆนะสิ

       “ได้! งั้นก็เชิญอยู่กับยัยนี่สองคนไปเลย    ฉันจะไปอยู่ข้างนอกเองแล้วอย่ามาตามฉันก็แล้วกัน   สวัสดีค่ะ!

    “เดี๋ยวก่อนสิค่ะหนูไวท์เดี๋ยวแม่ออกไปอยู่ข้างนอกเอง  หนูอยู่กับคุณพ่อนะค่ะ  เดี๋ยวแม่ออกไปเอง”

        ยัยนิตาวิ่งจับแขนฉันไว้ แต่ฉันสะบัดทิ้งทันที

     “ไม่ต้องมาจับตัวฉัน ฉันรังเกียจ  แล้วอีกอย่าง  อย่ามาเรียกตัวเองว่าแม่เพราะแม่ของฉันมีคนคนเดียวแล้วก็ตายไปแล้วด้วยอย่าริอาจมาใช่คำนี่อีก  อย่างแกมันไม่สิทธ์จะใช้คำนี้จำไว้”

      พูดจบฉันก็เดินไปหยิบกระเป๋าใบเก่งทีฉันเขวี้ยงใส่ยัยนั่นในตอนแรกมา 

    “ยัยไวท์  มันจะมากไปแล้วนะ แกอายุน้อยกว่านิตานะ  เคารพกันบ้างสิ  แกนี่ก้าวร้าวมากเกินไปแล้ว  แล้วแกจะออกไปไหน ถ้าแกออกไป แกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก”

    คุณพ่อเริ่มโมโหอย่างแท้จริงหลังจากที่เก็บอารมณ์มานาน  แต่ฉันไม่สนใจเพราะเมื่อกี้คุณพ่อไล่ฉันออกจากบ้านแล้ว  ฉันไม่รอให้รอให้คุณพ่อไล่ฉันเป็นครั้งที่สามแน่  ฉันจึงเปลี่ยนจากที่จะเดินออกไปโรงรถเป็นขึ้นไปบนห้องชั้นสองแทน เพื่อไปหยิบเอาข้าวของและอะไรอื่นๆอีกมากมาย    คุณพ่อก็เงียบไปหลังจากเห็นฉันเดินขึ้นไปบนห้องคงคิดว่าฉันจะยอมแล้วละสิ  แต่คิดผิดฉันไม่ยอมง่ายๆหรอก และฉันก็โดนไล่ออกบ้านไปแล้วมีหรือที่ฉันจะอยู่ที่นี่อีก     

    ฉันเดินมาหยุดที่ชั้นสองซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของฉันทั้งหมดมีแค่ไม่กี่ห้องที่เป็นของห้องพักรับรองของแขกที่มานอนที่นี่  ฉันเดินจนเกือบจะสุดทางซึ่งตลอดทางที่ผ่านมาจะเป็น ห้องสมุดส่วนตัวของฉัน  ห้องแต่งตัว ห้องน้ำขนาดใหญ่  และห้องที่เอาไว้เก็บชุดต่างๆของฉัน  ส่วนห้องนอนของฉันนั้นอยู่เป็นห้องสุดท้ายของทางเดิน  ห้องนอนและห้องทำงานของคุณพ่อจะอยู่ที่ชั้นสามทั้งหมด  ฉันล้วงหยิบกุญแจในกระเป๋าใบโตที่ราคาก็มาตามขนาดของมัน ประตูห้องทั้งหมดของชั้นนี้มีเพียงกุญแจดอกนี้ดอกเดียวเท่านั้นที่เปิดออกได้แล้วแม่บ้านก็ไม่มีกุญแจสำรองเพราะถ้าหากจะมาทำความสะอาดฉันก็จะเปิดประตูทิ้งไว้ให้ แต่ห้องนอนของฉันยังไม่เคยมีใครเข้ามาได้นอกจากฉันส่วนเรื่องทำความสะอาดฉันจะทำความสะอาดเอง

    ฉันหยิบเอาเอาพวงกุญแจออกมา ซึ่งมีลูกกุญแจของประตูต่าง แต่ฉันมองหากุญแจสีขาวลายดอกแก้วซึ่งเป็นกุญแจของชั้นสองทั้งหมด  ฉันหยิบขึ้นมาไขประตูสีขาวลายดอกแก้วเช่นเดียวกับลุกกุญแจ

    กริ๊ก! ฉันเดินไปยังหัวตียงซึ่งเอาไว้เก็บของสำคัญมากมาย  ฉันหยิบบัตรเครดิตของธนาคารและบัญชีเงินฝากต่างๆที่ฉันแอบทำไว้ เผื่อในกรรีฉุกเฉินโดยใช้ชื่อของคนอื่นในการฝาก  และไม่ลืมเอาต่างหูรูปดอกแก้วของคุณแม่ ฉันหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์อย่างดี  แล้วฉันเดินไปยังโต๊ะแป้งที่มีเครื่องสำอางที่แทบจะไม่มีขายในเมืองไทย ฉันเก็บใส่กระเป๋าอย่างรีบเร่งโดยไม่สนใจว่ามันมีระเบียบหรือเปล่า  ดีนะที่กระเป๋าใบนี้มันใหญ่มากจึงสามารถเก็บเครื่องสำอางของบำรุงผิวหน้าผิวกายที่มากมายของฉัน  ได้ก็มันหาซื้อยากมากๆในเมืองไทย หลังจากเก็บเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินไปล็อกประตุห้องจากด้านในแล้วคล้องโซ่อีกสองชั้น ลงกลอนประตูอย่างเรียบร้อยป้องกันคนเข้ามาห้องนอกเพราะถึงแม้ว่าจะมีกุญแจ ที่ไม่สามารถหาอะไรมาไขได้อีก แต่ก็ต้องให้มั่นใจไว้ก่อน   ฉันเดินออกมายังระเบียงแล้วล็อกประตูกระจกเอาไว้ ทำให้ฉันออกมอยู่ข้างนอกฉันเลือกที่ลงจากทางระเบียงบ้าน เพราะไม่อยากเห็นหน้ายัยบ้านั่นแล้วก็คุณพ่อที่เห็นยัยนั่นดีกว่าลูกในไส้ตัวเอง ฉันปีนขึ้นมายืนบนราวของระเบียงอย่างคล่องแคล่ว เพราะฉันมักแอบหนีแม่บ้านไปเที่ยวด้วยทางนี้เป็นประจำ ฉันเดินไปยังเสาบ้านที่ทีลักษณะคล้ายบันไดหมุนวนรอบเสา ซึ่งมีพื้นที่ให้เดินเพียงหนึ่งฝ่ามือเท่านั้นเองเรียกว่าถ้าใครไม่ผอมจริงไม่มีสิทธิ์เลย แล้วตอนนี้ถึงฉันจะผอมแต่เนื่องจากกระเป๋าที่มีน้ำหนักมาก ทำให้ค่อนข้างลำบากมากเลยทีเดียว และถึงแม้ว่านี่จะเป็นชั้นสองก็มันก็สูงมากหากพลาดตกลงไปไม่ต้องเดาเลยว่าจะไปไหนต่อ  ฉันลงมาถึงข้างล่างอย่างปลอดภัยแม้จะทุรักทุเรไปนิดนึงก็ตาม  ฉันเดินมายังโรงเก็บรถที่อยู่ข้างๆ  แล้วเดินไปยังรถสีน้ำเงินคันโปรดของฉัน  ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไรแต่เครื่องยนต์ก็อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ  ฉันถอยรถออกมาอย่างชำนาญตามประสานักแข่งเก่าที่ลาวงการไปแล้วเมื่อขับมาถึงประตูฉันหยิบรีโมทประตูรั้ว 

     ตี๊ดดดดดดดด

    เงียบประตูรั้วไม่ยอมเปิด เหมือนปกติ

    ตี๊ดดดดดดดด

    เงียบเหมือนเดิม    “สงสัยคุณพ่อจะล็อกสัญญาณของประตูรั้วเอาไว้  คิดว่าแค่นี้จะหยุดหนูได้หรอไม่มีทางหรอก”

    ฉันกดหมายเลขบนรีโมทซึ่งเป็นรหัสที่ฉันเคยขู่ยามเฝ้าประตูให้บอกฉัน ฉันกดเลขรหัสทั้งหมด ห้าตัว 

    และ ตี๊ดดดดดดดดด

    ประตูรั้วค่อยๆเปิดกว้างออกมาอย่างสวยงาม   เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันหรอก

    พอฉันมองกระจกมองหลังก็เห็นผู้ชายและผู้หญิงหลายคนกำลังวิ่งมาทางประตูหน้าบ้าน คงรู้ตัวแล้วละสิว่าฉันกำลังจะออกเขตบ้านหลังนี้  แต่ช้าไปแล้ว  ประตูรั้วค่อยๆปิดอย่างช้าๆ และแล้วภาพของบ้านที่ฉันเคยอยู่มันค่อยๆเลือนหายไปตามความเร็วของรถที่  ฉันขับรถไปเรื่อยๆด้วยไม่มีจุดหมาย

     เฮ้อเอาเข้าจริงๆฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปอยู่ไหน   จริงสิยังเหลืออยู่นี่นาที่ๆต้อนรับฉันได้ทุกเวลา เมื่อคิดออกฉันก็รีบขับรถ ไปยังสถานที่ที่ๆฉันพึ่งนึกออก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น