ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chinese Fantasy Story 1.5(ตำนานเซียนเมฆา)

    ลำดับตอนที่ #2 : ปิศาจร้ายในป่าผีหมอก(ตอนที่สอง)

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 55


    ปิศาจร้ายในป่าผีหมอก (ตอนที่สอง)

     

    "ลูกแม่"

    นางหูวิ่งเข้ามารับร่างของบุตรชายจากซูซ่งฟง

    "คุณนายหู ข้าพเจ้ามีธุระกับผู้ใหญ่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณนายจะช่วยพาข้าไปพบผู้ใหญ่บ้านได้หรือไม่" 

     นางหูทำท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย นางนิ่งไปพักหนึ่งก่อนตัดสินใจนำทางซูซ่งฟงไปพบผู้ใหญ่บ้าน "เชิญทางนี้เลยค่ะท่านนักพรต" นางอุ้มบุตรชายแล้วเดินนำหน้าซูซ่งฟงออกไปจากป่า

     พายุฝนสงบลงแล้ว ดวงอาทิตย์ยามเย็นทอแสงอ่อนๆฉาบบนใบไม้ หยดน้ำค้างบนใบไม้สะท้อนแสงแวววับดูงดงามสดใสดุจอัญมณี

     นักพรตหนุ่มหิ้วของพะรุงพะรังสะพายกระบี่หนึ่ง น้ำเต้าหนึ่ง และกระเป๋าหนังที่ใช้เก็บของสำคัญใบโตอีกหนึ่ง เดินในท่าทางที่องอาจตามคุณนายหูที่กำลังจูงลูกน้อยเดินผ่านตลาดในหมู่บ้าน

     ชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นมีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ไม่นึกว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเงื้อมมือของวิญญาณร้ายไปได้จึงออกมาชื่นชมนักพรตหนุ่มเป็นการใหญ่

     "คุณนายหู...ข้าได้ยินว่านักพรตท่านนี้ช่วยลูกชายของเจ้าจากเงื้อมมือของวิญญาณร้ายใช่หรือไม่" ผู้ใหญ่บ้านชราถามทันทีที่ได้พบหน้าคนทั้งสาม

     "ถูกต้องแล้วค่ะ ท่านผู้ใหญ่" นางหูตอบ

     "ประเสริฐยิ่ง!"  ผู้ใหญ่บ้านวัยเจ็ดสิบปีอุทานด้วยน้ำเสียงชื่นชม

     "ไม่ทราบว่าท่านนักพรตกำจัดมันไปแล้วหรือยัง" ชายชราถามขึ้นอีก

     "ข้าพเจ้าผนึกมันไว้ ยังไม่ได้กำจัด" ซูซ่งฟงกล่าวตอบ

     "อุวะ! แล้วทำไมท่านไม่กำจัดมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด" ชายชราเริ่มมีโทสะในน้ำเสียง

     "มันร้องขอความเป็นธรรมกับข้าพเจ้า"

     "เหลวไหล! ความเป็นธรรมอะไร ปิศาจกินคนอย่างนั้น มันจะมีเรื่องร้องเรียนอะไร..."  ผู้ใหญ่บ้านขึ้นเสียงสูง ข่มความรู้สึก หากแต่น้ำเสียงเริ่มตกประหม่าในตอนท้าย

     "ข้าพเจ้าอยากทราบความจริงว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนมีคนวางยาพิษในน้ำและอาหารของนักรบรับจ้างใช่หรือไม่"

     ผู้ใหญ่บ้านสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวว่า  "เป็นเช่นนั้น"

    "แต่ผู้ที่กระทำความผิดนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว มันคือ...บิดาของเทียนจิ้ง"ผู้ใหญ่บ้านกระซิบ

     "เช่นนั้นแล้วพวกท่านต้องไปบอกความจริงนี้กับปิศาจตนนั้น...ลำพังคำพูดของข้าพเจ้าคงไม่สามารถทำให้ปิศาจปลงใจเชื่อได้" ซูซ่งฟงกล่าว

     "ไปทำไมอีกเล่าท่านนักพรต ก็ในเมื่อท่านจัดการมันได้แล้วเรื่องก็จบ"

     "ไม่ได้ ข้าพเจ้าต้องให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย พรุ่งนี้ผนึกจะคลาย ถ้าไปไม่ทันก็ต้องสู้กันใหม่" ซูซ่งฟงกล่าวเช่นนี้เพราะติดใจสงสัยในพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้าน ที่กล่าวว่าพ่อของเทียนจิ้งเป็นคนร้าย ดูเสมือนว่าชายชราตั้งใจโยนความผิดให้บิดาของเทียนจิ้ง

     

    เช้าวันใหม่ดวงอาทิตย์ทอแสงสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้วี่แววว่าจะมีฝนตกลงมา ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเกรงกลัวว่าวิญญาณร้ายจะออกมาอาละวาดในช่วงที่แดดออกเช่นนี้

    คุณนายหูนำทางนักพรตหนุ่ม ผู้ใหญ่บ้าน และชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือมายังถ้ำของปิศาจอีกาอีกครั้ง

     สุนัขป่าขนสีขาวตัวใหญ่ ค่อยๆเดินออกมาจากในถ้ำ นัยน์ตาของมันเป็นสีแดงจ้องมองมายังผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มชายฉกรรจ์ แล้วกัดฟันขู่อยู่เนืองๆ

     "ปิศาจ....มันหลุดจากผนึกแล้วหรือ ท่านนักพรต" ชายชราบ้านถาม

     "มิได้ นี่คือสหายของข้าพเจ้าชื่อวายุพิโรธ ดูท่าทางมันคงไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า" ซูซ่งฟงปรายตามองชายสูงวัยชั่วขณะหนึ่ง

     "...เชอะ" ผู้ใหญ่บ้านชราแค่นเสียงสบถ

     "วายุพิโรธ ผนึกยังไม่ถูกทำลายใช่หรือไม่" ซูซ่งฟงก้มลงลูบศีรษะของสุนัขป่าเพื่อนเกลอ

     วายุพิโรธเลียที่มือของนักพรตหนุ่มหนึ่งครั้งก่อนจะออกเดินนำหน้าเข้าไปในถ้ำอีก นักพรตหนุ่มจึงติดตามสุนัขป่าเข้าไปในถ้ำพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มชายฉกรรจ์ โดยทิ้งให้นางหูรออยู่ด้านนอก

     เมื่อทุกคนมาถึงส่วนในสุดก็พบว่าปิศาจอีกาถูกผนึกอยู่บนกำแพงถ้ำที่มีเพดานเปิดออก เนื้อตัวของมันถูกแดดเผามอดไหม้น่าสยดสยองส่งกลิ่นเหม็นเน่าน่าคลื่นเหียนอาเจียนยิ่งนัก

     "ปิศาจอีกา ผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว" นักพรตหนุ่มเรียก

     ปิศาจอีกาค่อยๆเงยหน้าขึ้น แล้วกล่าวว่า "ช่วยด้วยท่านพ่อ"

     ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นร่างของปิศาจอีกาคือร่างของบุตรชายของผู้ใหญ่บ้านชราที่เสียชีวิตลงในการต่อสู้เมื่อยี่สิบปีก่อน

     "อาเต๋อ! เจ้ายังไม่ตาย!"  ผู้ใหญ่บ้านเรียกชื่อบุตรชายด้วยความดีใจ

     "ท่านนักพรตโปรดช่วยลูกชายข้าด้วย" ชายชราเริ่มร้องไห้น้ำตาคลอเบ้า เข้ายื้อยุดท่อนแขนของซูซ่งฟง

     "ปิศาจใช้ร่างกายของลูกชายท่านที่ตายไป เป็นที่สิงสู่ วิธีเดียวที่จะช่วยบุตรชายท่านได้คือทำให้วิญญาณของเขาไปสู่สุขคติ"

     "ไม่! ลูกชายของข้าต้องยังไม่ตาย จงปลดผนึกเขาซะเจ้านักพรต" ผู้ใหญ่บ้านกล่าว

    พร้อมกันนั้น เสียงร้องอย่างตกใจของนางหูก็ดังขึ้น

    ชายฉกรรจ์สองคนกำลังจับตัวนางหูไว้พร้อมกับลากตัวนางเข้ามาด้านในถ้ำ "มิเช่นนั้นนังนี่ตาย"

    เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว ปิศาจอีกาจึงกล่าวขึ้น

    "ปลดผนึกข้าเถิดนักพรต ข้าจะจบเรื่องราวทั้งหลายเอง"

    "เจ้าจะทำเช่นไร ปิศาจอีกา"ซูซ่งฟงจ้องนัยน์ตาอันหม่นหมองของปิศาจอีกา

    "ปลดผนึกเสีย ข้าจะรับมือคนพวกนี้เอง"ปิศาจอีกากล่าว

     "ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร" นักพรตหนุ่มถาม

     "เจ้าไม่มีทางเลือก นักพรต" มันย้ำ

     ซูซ่งฟงก็คิดเช่นนั้นจึงท่องมนตราห้าพยางค์ ปลดผนึกปิศาจอีกาออก ทันใดนั้นอีกานับพันก็บินลงมาไล่ทำร้ายคนของผู้ใหญ่บ้านจนวิ่งหนีออกจากถ้ำไปหมด เหลือเพียงนางหูและลูก ซูซ่งฟง วายุพิโรธ ผู้ใหญ่บ้าน และปิศาจอีกา

     

    "ท่านพ่อ...ท่านไม่ต้องทำสิ่งใดเพื่อข้าอีกแล้ว ยิ่งยื้อชีวิตข้าไว้ ก็เหมือนสร้างตราบาปให้กับตนเองและตัวข้ามากยิ่งขึ้น"

     "เรื่องราวที่เจ้าบอกว่าผู้ใหญ่บ้านวางยาพิษในอาหารและน้ำของนักรบรับจ้างนั้นเป็นเรื่องความจริงใช่หรือไม่" ซูซ่งฟงถาม

     "เป็นความจริง...ท่านพ่อท่านจงรับสารภาพเถิด" ปีศาจอีกาหันไปกล่าวกับบิดา

    "...อย่าสร้างบาปกรรมต่อผู้อื่นอีกเลย...ท่านพ่อ"

     "ท่านนักพรต...โปรดช่วยลูกชายข้าด้วยเถิด" ผู้ใหญ่บ้านยอมจำนนต่อคำขอร้องของลูกชาย

     "หนทางนั้นข้าได้บอกท่านไปแล้ว ท่านผู้ใหญ่บ้าน" ซูซ่งฟงยืนยันคำกล่าวเดิม

     "ท่านพ่อ...เราคงต้องจากกันแล้ว นับแต่นี้ไปขอให้ท่านพ่อจงทำแต่ความดีเผื่อว่าส่วนกุศลที่ท่านทำจะส่งถึงข้าในนรกบ้าง เพื่อผ่อนโทษหนักเป็นเบา"

     "โฮ...อาเต๋อ..." ท่านผู้เฒ่าโผเข้ากอดร่างอันเน่าเหม็นของปิศาจอีกา

     "ท่านพ่อข้าขอ...อำลา" ปิศาจอีกาดันร่างออกจากอ้อมกอดของบิดาแล้วหันมาทางซูซ่งฟง

     "รบกวนท่านนักพรตด้วย

    ซูซ่งฟงประนมมือแล้วท่องมนตราเจ็ดพยางค์พร้อมกับเปิดม้วนคัมภีร์นรกที่ล้วงออกมาจากในกระเป๋าหนังออก

     "สัจธรรมแจ้งแล้ว...สาธุ"  ซูซ่งฟงกล่าว

     ฉับพลันก็เกิดรูปปิศาจอีกาในคัมภีร์นรก แล้วร่างกายของปิศาจอีกาก็เลือนหายไปในที่สุด

     ผู้ใหญ่บ้านคุกเข่าลง "ท่านนักพรต ข้าพเจ้าผิดต่อท่านจริงๆ"

    ซูซ่งฟงพยุงร่างผู้ใหญ่บ้านชราให้ลุกขึ้น เขาคิดว่าเมื่อผู้ผิดสำนึกแล้ว ก็สมควรแก่การจะเว้นทางเดินให้

      ซูซ่งฟงไม่เอ่ยปากตอบแต่ประการใด ได้แต่พยุงตัวผู้ใหญ่บ้านให้ลุกขึ้น

     "ขออำลา..."ซูฟงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเมตตา แล้วค่อยๆหันหลังเดินจากไป


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×