คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปิศาจร้ายในป่าผีหมอก(ตอนที่สอง)
ปิศาจร้ายในป่าผีหมอก (ตอนที่สอง)
"ลูกแม่"
นางหูวิ่งเข้ามารับร่างของบุตรชายจากซูซ่งฟง
"คุณนายหู ข้าพเจ้ามีธุระกับผู้ใหญ่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณนายจะช่วยพาข้าไปพบผู้ใหญ่บ้านได้หรือไม่"
นางหูทำท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย นางนิ่งไปพักหนึ่งก่อนตัดสินใจนำทางซูซ่งฟงไปพบผู้ใหญ่บ้าน "เชิญทางนี้เลยค่ะท่านนักพรต" นางอุ้มบุตรชายแล้วเดินนำหน้าซูซ่งฟงออกไปจากป่า
พายุฝนสงบลงแล้ว ดวงอาทิตย์ยามเย็นทอแสงอ่อนๆฉาบบนใบไม้ หยดน้ำค้างบนใบไม้สะท้อนแสงแวววับดูงดงามสดใสดุจอัญมณี
นักพรตหนุ่มหิ้วของพะรุงพะรังสะพายกระบี่หนึ่ง น้ำเต้าหนึ่ง และกระเป๋าหนังที่ใช้เก็บของสำคัญใบโตอีกหนึ่ง เดินในท่าทางที่องอาจตามคุณนายหูที่กำลังจูงลูกน้อยเดินผ่านตลาดในหมู่บ้าน
ชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นมีท่าทีแปลกใจไม่น้อย ไม่นึกว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเงื้อมมือของวิญญาณร้ายไปได้จึงออกมาชื่นชมนักพรตหนุ่มเป็นการใหญ่
"คุณนายหู...ข้าได้ยินว่านักพรตท่านนี้ช่วยลูกชายของเจ้าจากเงื้อมมือของวิญญาณร้ายใช่หรือไม่" ผู้ใหญ่บ้านชราถามทันทีที่ได้พบหน้าคนทั้งสาม
"ถูกต้องแล้วค่ะ ท่านผู้ใหญ่" นางหูตอบ
"ประเสริฐยิ่ง!" ผู้ใหญ่บ้านวัยเจ็ดสิบปีอุทานด้วยน้ำเสียงชื่นชม
"ไม่ทราบว่าท่านนักพรตกำจัดมันไปแล้วหรือยัง" ชายชราถามขึ้นอีก
"ข้าพเจ้าผนึกมันไว้ ยังไม่ได้กำจัด" ซูซ่งฟงกล่าวตอบ
"อุวะ! แล้วทำไมท่านไม่กำจัดมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด" ชายชราเริ่มมีโทสะในน้ำเสียง
"มันร้องขอความเป็นธรรมกับข้าพเจ้า"
"เหลวไหล! ความเป็นธรรมอะไร ปิศาจกินคนอย่างนั้น มันจะมีเรื่องร้องเรียนอะไร..." ผู้ใหญ่บ้านขึ้นเสียงสูง ข่มความรู้สึก หากแต่น้ำเสียงเริ่มตกประหม่าในตอนท้าย
"ข้าพเจ้าอยากทราบความจริงว่าเมื่อยี่สิบปีก่อนมีคนวางยาพิษในน้ำและอาหารของนักรบรับจ้างใช่หรือไม่"
ผู้ใหญ่บ้านสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวว่า "เป็นเช่นนั้น"
"แต่ผู้ที่กระทำความผิดนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว มันคือ...บิดาของเทียนจิ้ง"ผู้ใหญ่บ้านกระซิบ
"เช่นนั้นแล้วพวกท่านต้องไปบอกความจริงนี้กับปิศาจตนนั้น...ลำพังคำพูดของข้าพเจ้าคงไม่สามารถทำให้ปิศาจปลงใจเชื่อได้" ซูซ่งฟงกล่าว
"ไปทำไมอีกเล่าท่านนักพรต ก็ในเมื่อท่านจัดการมันได้แล้วเรื่องก็จบ"
"ไม่ได้ ข้าพเจ้าต้องให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย พรุ่งนี้ผนึกจะคลาย ถ้าไปไม่ทันก็ต้องสู้กันใหม่" ซูซ่งฟงกล่าวเช่นนี้เพราะติดใจสงสัยในพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้าน ที่กล่าวว่าพ่อของเทียนจิ้งเป็นคนร้าย ดูเสมือนว่าชายชราตั้งใจโยนความผิดให้บิดาของเทียนจิ้ง
เช้าวันใหม่ดวงอาทิตย์ทอแสงสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้วี่แววว่าจะมีฝนตกลงมา ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเกรงกลัวว่าวิญญาณร้ายจะออกมาอาละวาดในช่วงที่แดดออกเช่นนี้
คุณนายหูนำทางนักพรตหนุ่ม ผู้ใหญ่บ้าน และชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือมายังถ้ำของปิศาจอีกาอีกครั้ง
สุนัขป่าขนสีขาวตัวใหญ่ ค่อยๆเดินออกมาจากในถ้ำ นัยน์ตาของมันเป็นสีแดงจ้องมองมายังผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มชายฉกรรจ์ แล้วกัดฟันขู่อยู่เนืองๆ
"ปิศาจ....มันหลุดจากผนึกแล้วหรือ ท่านนักพรต" ชายชราบ้านถาม
"มิได้ นี่คือสหายของข้าพเจ้าชื่อวายุพิโรธ ดูท่าทางมันคงไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า" ซูซ่งฟงปรายตามองชายสูงวัยชั่วขณะหนึ่ง
"...เชอะ" ผู้ใหญ่บ้านชราแค่นเสียงสบถ
"วายุพิโรธ ผนึกยังไม่ถูกทำลายใช่หรือไม่" ซูซ่งฟงก้มลงลูบศีรษะของสุนัขป่าเพื่อนเกลอ
วายุพิโรธเลียที่มือของนักพรตหนุ่มหนึ่งครั้งก่อนจะออกเดินนำหน้าเข้าไปในถ้ำอีก นักพรตหนุ่มจึงติดตามสุนัขป่าเข้าไปในถ้ำพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มชายฉกรรจ์ โดยทิ้งให้นางหูรออยู่ด้านนอก
เมื่อทุกคนมาถึงส่วนในสุดก็พบว่าปิศาจอีกาถูกผนึกอยู่บนกำแพงถ้ำที่มีเพดานเปิดออก เนื้อตัวของมันถูกแดดเผามอดไหม้น่าสยดสยองส่งกลิ่นเหม็นเน่าน่าคลื่นเหียนอาเจียนยิ่งนัก
"ปิศาจอีกา ผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว" นักพรตหนุ่มเรียก
ปิศาจอีกาค่อยๆเงยหน้าขึ้น แล้วกล่าวว่า "ช่วยด้วยท่านพ่อ"
ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นร่างของปิศาจอีกาคือร่างของบุตรชายของผู้ใหญ่บ้านชราที่เสียชีวิตลงในการต่อสู้เมื่อยี่สิบปีก่อน
"อาเต๋อ! เจ้ายังไม่ตาย!" ผู้ใหญ่บ้านเรียกชื่อบุตรชายด้วยความดีใจ
"ท่านนักพรตโปรดช่วยลูกชายข้าด้วย" ชายชราเริ่มร้องไห้น้ำตาคลอเบ้า เข้ายื้อยุดท่อนแขนของซูซ่งฟง
"ปิศาจใช้ร่างกายของลูกชายท่านที่ตายไป เป็นที่สิงสู่ วิธีเดียวที่จะช่วยบุตรชายท่านได้คือทำให้วิญญาณของเขาไปสู่สุขคติ"
"ไม่! ลูกชายของข้าต้องยังไม่ตาย จงปลดผนึกเขาซะเจ้านักพรต" ผู้ใหญ่บ้านกล่าว
พร้อมกันนั้น เสียงร้องอย่างตกใจของนางหูก็ดังขึ้น
ชายฉกรรจ์สองคนกำลังจับตัวนางหูไว้พร้อมกับลากตัวนางเข้ามาด้านในถ้ำ "มิเช่นนั้นนังนี่ตาย"
เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว ปิศาจอีกาจึงกล่าวขึ้น
"ปลดผนึกข้าเถิดนักพรต ข้าจะจบเรื่องราวทั้งหลายเอง"
"เจ้าจะทำเช่นไร ปิศาจอีกา"ซูซ่งฟงจ้องนัยน์ตาอันหม่นหมองของปิศาจอีกา
"ปลดผนึกเสีย ข้าจะรับมือคนพวกนี้เอง"ปิศาจอีกากล่าว
"ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้อย่างไร" นักพรตหนุ่มถาม
"เจ้าไม่มีทางเลือก นักพรต" มันย้ำ
ซูซ่งฟงก็คิดเช่นนั้นจึงท่องมนตราห้าพยางค์ ปลดผนึกปิศาจอีกาออก ทันใดนั้นอีกานับพันก็บินลงมาไล่ทำร้ายคนของผู้ใหญ่บ้านจนวิ่งหนีออกจากถ้ำไปหมด เหลือเพียงนางหูและลูก ซูซ่งฟง วายุพิโรธ ผู้ใหญ่บ้าน และปิศาจอีกา
"ท่านพ่อ...ท่านไม่ต้องทำสิ่งใดเพื่อข้าอีกแล้ว ยิ่งยื้อชีวิตข้าไว้ ก็เหมือนสร้างตราบาปให้กับตนเองและตัวข้ามากยิ่งขึ้น"
"เรื่องราวที่เจ้าบอกว่าผู้ใหญ่บ้านวางยาพิษในอาหารและน้ำของนักรบรับจ้างนั้นเป็นเรื่องความจริงใช่หรือไม่" ซูซ่งฟงถาม
"เป็นความจริง...ท่านพ่อท่านจงรับสารภาพเถิด" ปีศาจอีกาหันไปกล่าวกับบิดา
"...อย่าสร้างบาปกรรมต่อผู้อื่นอีกเลย...ท่านพ่อ"
"ท่านนักพรต...โปรดช่วยลูกชายข้าด้วยเถิด" ผู้ใหญ่บ้านยอมจำนนต่อคำขอร้องของลูกชาย
"หนทางนั้นข้าได้บอกท่านไปแล้ว ท่านผู้ใหญ่บ้าน" ซูซ่งฟงยืนยันคำกล่าวเดิม
"ท่านพ่อ...เราคงต้องจากกันแล้ว นับแต่นี้ไปขอให้ท่านพ่อจงทำแต่ความดีเผื่อว่าส่วนกุศลที่ท่านทำจะส่งถึงข้าในนรกบ้าง เพื่อผ่อนโทษหนักเป็นเบา"
"โฮ...อาเต๋อ..." ท่านผู้เฒ่าโผเข้ากอดร่างอันเน่าเหม็นของปิศาจอีกา
"ท่านพ่อข้าขอ...อำลา" ปิศาจอีกาดันร่างออกจากอ้อมกอดของบิดาแล้วหันมาทางซูซ่งฟง
"รบกวนท่านนักพรตด้วย"
ซูซ่งฟงประนมมือแล้วท่องมนตราเจ็ดพยางค์พร้อมกับเปิดม้วนคัมภีร์นรกที่ล้วงออกมาจากในกระเป๋าหนังออก
"สัจธรรมแจ้งแล้ว...สาธุ" ซูซ่งฟงกล่าว
ฉับพลันก็เกิดรูปปิศาจอีกาในคัมภีร์นรก แล้วร่างกายของปิศาจอีกาก็เลือนหายไปในที่สุด
ผู้ใหญ่บ้านคุกเข่าลง "ท่านนักพรต ข้าพเจ้าผิดต่อท่านจริงๆ"
ซูซ่งฟงพยุงร่างผู้ใหญ่บ้านชราให้ลุกขึ้น เขาคิดว่าเมื่อผู้ผิดสำนึกแล้ว ก็สมควรแก่การจะเว้นทางเดินให้
ซูซ่งฟงไม่เอ่ยปากตอบแต่ประการใด ได้แต่พยุงตัวผู้ใหญ่บ้านให้ลุกขึ้น
"ขออำลา..."ซูฟงกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเมตตา แล้วค่อยๆหันหลังเดินจากไป
ความคิดเห็น