ตอนจบของบทละคร - ตอนจบของบทละคร นิยาย ตอนจบของบทละคร : Dek-D.com - Writer

    ตอนจบของบทละคร

    "เราเลิกกันเถอะ"หญิงสาวถอดแหวนเขวี้ยงใส่ชายหนุ่มตรงหน้า ~ ติ๊ด "น้ำเน่า" ฉันโยนรีโมตลงโซฟา ถ้าฉันสามารถเปลี่ยนตอนจบของละครได้มันก็คงดีสินะ

    ผู้เข้าชมรวม

    639

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    639

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ย. 50 / 21:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ฝากอ่านแล้วคอมเม้นต์ด้วยนะคะ  ^^

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "ระวีคุณไม่เคยมีเวลาให้แพรวเลยนะ  นี่มันกี่ครั้งแล้วที่คุณปล่อยให้ฉันต้องรอเก้อ  ระวีฉันถามคุณสักคำเถอะ  ฉันไม่มีค่าอะไรกับคุณเลยใช่มั้ย"  

      หญิงสาวพูดเสียงดัง  โกรธจัดที่ชายหนุ่มตรงหน้าลืมนัดเธอเมื่อวานเย็น  โดยใช้เหตุผลง่ายๆว่างานเยอะ หญิงสาวทำหน้าเสียความรู้สึก  ก่อนจะถอนหายใจ  มือที่สั่นเทาของเธอบอกอารมณ์เสียใจของเจ้าตัวได้อย่างดี  ตรงข้ามกับชายหนุ่ม  ที่ได้แต่ยืนบื้อ  และทำเพียงก้มหน้ามองทางอื่น  อย่างไม่มีคำแก้ตัว  ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้พูดอะไร  

      "เราเลิกกันเถอะ"  

      คำพูดที่อัดอั้นในใจได้เปล่งออกมา  หญิงสาวถอดแหวนก่อนเขวี้ยงใส่ชายหนุ่มสุดแรง  และวิ่งหนีไป  ทำไมนะผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักถึงได้เย็นชากับเธอถึงขนาดนี้  น้ำตาของเธอไหลลู่ลม  แสงไฟนีออนทำให้น้ำตาแห่งความปวดร้าว ส่องเห็นประกายเศร้าหมองได้อย่างดี

      "ก็ผมยุ่งหนิ"  คำๆนี้ที่ดังก้องอยู่ในสมองของเธอยิ่งทำให้น้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตามากขึ้น  มากขึ้น


      ชายหนุ่มค่อยๆก้อมลงหยิบแหวน  และมองมันอย่างเศร้าสร้อย  ~  ติ๊ด  "น้ำเน่า"  ฉันปิดโทรทัศน์ลงพร้อมทำหน้าเบื่อหน่าย  ละครตอนบ่ายมันเน่าอย่างนี้หมดหรือเปล่านะ  

      ธัญรยา หรือกิ๊ฟสาวแรกรุ่น  ชั้นม.4ปลายๆ  โยนรีโมตลงโซฟาใกล้ๆ

      วันนี้เป็นวันปีใหม่อันที่จริงเธอควรจะได้ออกไปเฮฮากับเพื่อนๆ  หรือนั่งกินไอศกรีมกับครอบครัว  แต่มันก็คงเป็นได้เพียงความคิด  เมื่อพ่อกับแม่  ส่งข้อความเลื่อนนัดกระทันหัน  เพราะมีงานด่วน  กิ๊ฟได้แต่นั่งดูโทรศัพท์มือถือของตนอย่างเบื่อหน่าย

      "ทำไมนะอีตาบ้า บุนส์ถึงไม่ส่งข้อความหรืออะไรมาสักที  นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว  ทีเล่นเกมตื่นตี2 ตี3 มาเล่นได้  กับอีแค่ส่งข้อความให้คนรักมันยากเย็นอะไรกันหนักหนานะ

      กิ๊ฟค่อยๆเดินไปยังระเบียงสีขาวด้วยท่าทางหงุดหงิด  ลมเย็นๆที่พัดเข้าปะทะหน้าบางๆ  พลอยทำให้อารมณ์ดีขึ้นนิดนึง  บางทีชีวิตคนเรามันก็คงเน่าพอๆกับละครล่ะนะ  ดีไม่ดีสักวันฉันอาจจะบอกเลิกบุนส์  เหมือนกับที่แพรวทำกับระวีก็ได้  ฉันได้แต่บ่นกับสายลมอยู่ในใจ  พลางหมุนแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเล่น  ยิ่งหมุนยิ่งเศร้า  นึกถึงวันเก่าๆจัง  

      แหวนวงนี้เมื่อเกือบ1ปีที่แล้วตอนฉันและบุนส์อยุ่ม.3ย่างม.4  บุนส์เทคแคร์ฉันดีมาก  พาไปเที่ยวเกือบทุกอาทิตย์  กินข้าวบ้าง  ดูหนังบ้าง  เวลาฉันมีเรื่องทุกข์ใจบุนส์จะอยู่ข้างๆฉันคอยฟังฉันด้วยสายตาอ่อนโยน  และแหวนวงนี้เค้าให้ฉันเมื่อตอนที่เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่น  

      "รักษาดีๆนะกิ๊ฟ  บุนส์รักกิ๊ฟนะครับ"

      ประโยคที่ไม่ยาวมาก  แต่ตราตรึงหัวใจฉันมาถึงทุกวันนี้  แล้วตอนนี้ล่ะ  บุนส์รักกิ๊ฟ  คำๆเดิม  แต่ทำไมมันให้ความรู้สึกต่างกันเหลือเกิน  น้ำตาฉันแทบร่วงอีกแล้ว  โชคดีที่ลมค่อนข้างแรงน้ำตาฉันมันเลยแห้งไปไว  อีตาบ้านั่นมันคงไม่รู้หรอกว่าทำให้ใครต้องเสียใจแค่ไหน

      ไม่สิ  ถึงฉันบอกบุนส์ไป  ตานั่นก็คงกลับมาดีได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก  นี่มันกี่อาทิตย์แล้วที่ฉันรู้สึกแบบนี้  นี่ถ้าฉันไม่รักผู้ชายคนนี้มากขนาดนี้  ฉันคงบอกเลิกผู้ชายบ้าๆคนนี้ไปตั้งนานแล้ว

      ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกนะ  ฉันคิดจะเลิกกับตานั่นตั้งหลายครั้งทำไมฉันถึงไม่บอกเลิกสักที  แล้วนี่ฉันจะต้องทนไปถึงเมื่อไหร่กัน  พอจะปริปากพูดความทรงจำต่างๆก็พากันกรูเข้ามาจนพูดไม่ออก  คำถามมากมายผุดขึ้น    บุนส์ฉันจะอยู่ได้มั้ยนะถ้าไม่มีเธอ  ...  จะมีคนที่คิดจะบอกเลิกสักกี่คนกันนะ  ที่ดันต้องมาเจ็บเองอย่างฉัน  บุนส์เองคงไม่เจ็บหรอก  อย่างมากก็แค่เก็บแหวนที่ฉันปาใส่แล้วไปเล่นเกมต่อ

      นี่สินะที่เค้าว่ากันว่าความรักชายหญิงมันสวนทาง  ในขณะที่เรารักเขามากขึ้นทุกวันๆ  ความทุ่มเทของเขาก็น้อยลงทุกวันๆเช่นกัน  บุนส์ได้แต่ว่าฉันคิดมากไปเอง  แต่สิ่งที่ฉันเห็น  ฉันรู้สึก  มันมากกว่าคำว่าคิดมากอีกนะบุนส์

      ฉันละสายตาจะดอกลั่นทมสีขาว  ที่ร่วงลงจากต้น  ไปมองนาฬิกาสีเขียวๆที่แขวนผนังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้ว   ก่อนที่ฉันจะพาตัวละออกจากสายลมเย็นๆมานั่งที่เตียงนอน  รูปบุนส์กับฉันที่หัวเตียงยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจมากขึ้น  ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ  ไม่ว่าฉันจะหายใจต่อไปได้อีกหรือไม่  มันก็คงจะดีกว่าปล่อยเวลาให้ใจของฉันบอบช้ำ  ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกที  หยาดน้ำตาใสๆเริ่มร่วงจากดวงตาอีกแล้วสินะ  

      "เลิกกันเถอะ"  ฉันพิมพ์มันด้วยน้ำตา  มือสั่นเทาของฉันค่อยๆเลื่อนไปกดปุ่มเขียวๆ  เพื่อบอกลาคนที่ฉันรักสุดหัวใจ  

      ละครเน่าๆที่ฉันไม่ได้ดูมันทำให้ฉันไม่รู้เลยว่า  ระวีตัดสินใจวิ่งตามแพรวไป  เขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตจากเขาไปได้อีกแล้ว  เขาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งใกล้ตัวจะมีค่าที่สุดเมื่อกำลังจะเสียมันไป  ระวีคว้าข้อมือของหญิงสาวได้ทัน  "ผมขอโทษนะแพรว  ผมรักคุณ  ให้โอกาสผมเถอะนะ"  ชายหนุ่มดึงตัวหญิงสาวเข้าสู่อ้อมกอด  น้ำตาใสๆของทั้งสองฝ่ายซึมเข้าเนื้อผ้า  แพรวพยักหน้าเบาๆ  พร้อมให้โอกาสและเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง


      ถ้าเป็นไปได้กิ๊ฟก็คงอย่างเปลี่ยนตอนจบของเธอให้เป็นเหมือนในละคร  แต่สำหรับกิ๊ฟและบุนส์มันคงยากเกินไปที่จะทำให้ทุกอย่างดีดังเดิม


      ---------------จบ-------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×