[S.Fic KHR] Please Teach me , What love is? (1896)
ความรัก? แท้จริงแล้วมันคืออะไร ได้โปรดสอนฉันทีเถอะค่ะ...(1896 ♥)
ผู้เข้าชมรวม
2,714
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
[++Talk++]
ไรเตอร์เกิดอาการห่อเหี่ยวขึ้นมาหลังจากที่อ่านรีบอร์นตอนที่ 383 จบ แม่ยก 1896 หลายคนคงเข้าใจนะคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น
โคลมจังพูดอะไรไว้? ในเมื่อเป็นแบบนั้น ตอนนี้ไรเตอร์จึงต้องแต่ง 1896 ขึ้นมาสนองเสี้ยนของตัวเอง
ใครหลงเข้ามาก็เม้นทีนะคะ T^T
อันนี้ห้ามก๊อปนะคะ พี่สาวให้ยืมมา ใครก๊อปมีเฮ! =_=+ (//โดนเสย)
เครดิต :: Ms. Ani Amoeba (พี่สาวสุดที่รักของข้าน้อย)
My.ID ของพี่สาว >> จิ้มค่ะ >>>
เนื้อเรื่อง
ค่าเริ่มต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ท่านมุคุโร่...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นในความเงียบ พลางสาวเท้ายาวๆเพื่อวิ่งตามชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นผู้มอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ และในตอนนี้กำลังเดินห่างไกลออกไปทุกทีๆ
“ลาก่อนนะครับ...โคลม” ร่างสูงหันกลับมาและส่งรอยยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป โดยมีลูกน้องที่เหลืออีกสามคนตามไปด้วย
“ทำไมล่ะคะ ท่านมุคุโร่ รอฉันด้วย!!!” ว่าจบร่างบางก็ออกตัววิ่งทันที มือบางเอื้อมออกไปหวังจะคว้าแผ่นหลังที่กำลังห่างไกลออกไปทุกทีๆ
เพียะ!!!!!
ใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบ เจ้าของเรือนผมสั้นสีแดงหรือเอ็มเอ็มยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้าของเธอและใช้มือจิกผมของร่างบางขึ้นมาพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ไม่เข้าใจรึไงยัยโง่!!! เธอน่ะหมดประโยชน์แล้ว มุคุโร่จังน่ะไม่ต้องการเธออีกแล้ว จำให้หัวสมองโง่ๆของหล่อนไว้ซะด้วย!!!” พูดจบเอ็มเอ็มก็ปล่อยมือออกและตามจิคุสะ เคน กับมุคุโร่ออกไป...
แผ่นหลังของทั้งสามค่อยๆห่างไกลออกไปทุกทีๆ...
จนในที่สุดมันก็หายลับตาไปและไม่มีวันหวนย้อนกลับมาอีก....
หยาดพิรุณสีใสค่อยๆไหลออกมาจากอเมทิสต์คู่งามและอาบไปทั่วแก้มนวล ความเจ็บปวดมากมายค่อยๆไหลพรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาและเสียงสะอื้นไห้...
‘โคลม โดคุโร่’
นั่นคือชื่อของเธอ...
นับจากวันนั้นมา....วันที่ถูกมุคุโร่ทอดทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ตอนนี้ก็ผ่านมาได้หลายวันแล้ว...
ร่างกายของโคลมทรุดลงไปมาก.. เธอนอนไม่หลับมาหลายคืนและไม่ยอมทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะเมื่อใดที่ดวงตาสีอเมทิสต์ถูกปิดลง คำพูดเดิมๆ และใบหน้าของเขาคนนั้นก็จะลอยเข้ามาในหัวสมองทุกครั้งไป...
โคลม...
โคลมที่น่ารักของผม...
ไม่ว่าเมื่อไหร่...ผมก็จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ...
คำคำเดิมยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ริมฝีปากบางเผยยิ้มอย่างเจ็บปวดพร้อมกับพึมพำอยู่คนเดียว “ที่พูดมาทั้งหมดนั่น...โกหกสินะคะ..” ว่าจบน้ำตาก็พาลไหลออกมาอีกจนได้ ร่างบางใช้หลังมือปาดน้ำตาออกไปและสั่นศีรษะเบาๆเพื่อไล่ความคิดบ้าๆออกไปจากหัว
“เพราะอ่อนแอแบบนี้ ถึงได้ถูกเขาทิ้งเอาน่ะสิ ยัยสัตว์กินพืช!!” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นเบื้องหน้า ร่างเล็กรีบเงยหน้าขึ้นไปหาต้นเสียง และพบว่าบุคคลที่มาใหม่คือ...
‘ฮิบาริ เคียวยะ’ เมฆาของวองโกเล่.....แต่เขามาทำอะไรที่โกคุโยแลนด์นี่กันล่ะ!!!!!
“คุณเมฆา...”
“ลุกขึ้นมา” ชายหนุ่มไม่คิดจะตอบคำถามของโคลม แถมยังมีหน้ามาออกคำสั่งกันดื้อๆอีกด้วย
“หา!?”
“ผมบอกให้ลุกขึ้นมาไงล่ะ!!! เร็วเข้า เดี๋ยวเจ้าปลาทูน่าตากแห้งก็บ่นอีก” ที่เขาพูดถึงคงจะเป็น ‘ซาวาดะ สึนะโยชิ’ บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ เขาได้รับข่าวของโคลมจากรีบอร์น(ผู้รู้ไปซะทุกเรื่อง)เลยขอร้องแกมบังคับฮิบาริให้มารับตัวโคลมไปที่คฤหาสน์วองโกเล่
“บอส..น่ะเหรอคะ…?”โคลมเอียงคอถามพร้อมกับพูดอย่างแปลกใจ
“ก็ใช่น่ะสิ จะแปลกใจอะไรล่ะ” พูดจบมือหนาก็คว้าแขนร่างบางให้ไปด้วยกัน และเมื่อทั้งสองขึ้นมาอยู่บนรถของฮิบาริแล้ว คนขับก็มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์วองโกเล่ทันที..
ที่ฉันแปลกใจคือทำไมคุณยอมทำตามคำขอของบอสต่างหากล่ะ...!!
[Special :: Chrome Talk]
ตอนนี้คุณเมฆาพาฉันมาที่คฤหาสน์วองโกเล่แล้ว บอส คุณโกคุเดระ คุณยามาโมโตะ พี่ชายของเคียวโกะจัง แรมโบ้จัง เคียวโกะจัง ฮารุจัง คุณเบียงกี้ แล้วก็อี้ผิงจัง ทุกคนมายืนรวมกันอยู่ที่หน้าคฤหาสน์ และพอฉันลงมาจากรถพวกเคียวโกะจังก็รีบวิ่งเข้ามาหา พวกเธอกุมมือของฉันไว้และพยายามพูดให้ฉันรู้สึกดี....
ว่าแต่ทำไมพวกเธอถึงรู้ได้ล่ะว่าฉันโดนท่านมุคุโร่ทิ้งไปแล้ว...?
“ฮารุรู้เรื่องแล้วนะคะ โคลมจังไม่ต้องไปร้องไห้เพื่อผู้ชายพรรค์นั้นหรอกค่ะ” ฮารุจังพูดพร้อมกับตีสีหน้าเหมือนกับว่าเธอจะไปขย้ำหัวท่านมุคุโร่(?)ถึงที่ข้อหาที่ปล่อยฉันไว้คนเดียว
“นั่นสิจ๊ะ ฮารุจังพูดถูกแล้ว โคลมจังยังมีพวกเราที่รักโคลมจังนะ ^^” เคียวโกะจังพูดพร้อมกับเข้ามากุมมือที่สั่นเทาของฉันไว้
“ใช่แล้วค่ะ อี้ผิงเองก็ชอบโคลมจัง อยากให้โคลมจังมาอยู่ด้วยนะคะ”
“ก็อย่างนั้นแหละ เธอเองก็อย่าทำหน้าเศร้าให้มันมากนักสิ” คุณเบียงกี้ตามมาสมทบพร้อมกับใช้นิ้วดีดหน้าผากฉัน โอ๊ย~!! คุณเบียงกี้ทำไมแรงเยอะแบบนี้นะ เจ็บอ่ะ TxT
โคลมจังไม่ต้องไปร้องไห้เพื่อผู้ชายพรรค์นั้นหรอกค่ะ….
โคลมจังยังมีพวกเราที่รักโคลมจังนะ ^^…
อี้ผิงเองก็ชอบโคลมจัง อยากให้โคลมจังมาอยู่ด้วยนะคะ…
คำพูดแต่ละคำของทุกคน...
มันหมายถึงพวกเธอกำลังบอกฉันว่าพวกเธอรักฉันสินะ...?
พวกเธอ..จะไม่มีวันหลอกฉันเหมือนกับที่ท่านมุคุโร่ทำใช่มั้ย..??
รัก..? แท้จริงแล้วมันคืออะไร....มันสวยงามไหม..??? หรือว่ามันจะจบลงด้วยน้ำตา แบบที่ฉันกำลงเผชิญอยู่หรือเปล่านะ...
“โคลม ต่อไปเธอห้ามกลับไปที่โกคุโยแลนด์อีกนะ เข้าใจมั้ย” เสียงของบอสดึงฉันให้หลุดออกจากภวังค์ ถึงตอนแรกฉันจะเหม่อลอยอยู่ แต่ฉันก็ยังพอจับใจความได้ว่า ‘ห้ามกลับไปที่โกคุโยแลนด์อีก’
“ว่าไงนะคะ แล้วบอสจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหนล่ะ” ฉันโพล่งออกไปเสียงดัง ใช่แล้ว...ถ้าไม่ให้กลับโกคุโยอีก แล้วบอสจะให้ฉันไปนอนในกล่องเป็นแมวข้างถนนหรือไงนะ T_T
“ใจเย็นนะจ๊ะโคลมจัง ปล่อยมือก่อนเถอะนะ ซือคุงจะตายแล้วนั่น ^^;;;” เคียวโกะจังเดินเข้ามาจับมือฉันออกจากคอเสื้อของบอส เอ่อ...ว่าแต่ฉันไปกำคอเสื้อเขาตอนไหนเนี่ย =__=;;;
“คือคนที่โคลมจังต้องไปอยู่ด้วยน่ะ คือคนที่ยืนอยู่ข้างๆโคลมจังนั่นแหละค่ะ ^_^๔” อี้ผิงจังพูดพลางชี้ไปที่คุณเมฆา...
“อะ..หา!!! อย่าพูดเล่นสิคะ อี้ผิงจัง =[]=;;;”
“อี้ผิงไม่ได้ล้อเล่นนะคะ โคลมจังต้องไปอยู่กับคุณฮิบาริจริงๆ ^^”
“เข้าใจแล้วก็ไปเก็บข้าวของซะ ผมจะขับรถไปส่ง = =” พูดจบคุณเมฆำก็ลากฉันกลับไปเอาข้าวของส่วนตัวที่โกคุโยแลนด์ และให้ฉันกลับมาทานอาหารเย็นที่คฤหาสน์วองโกเล่
จากนั้นก็จัดการฉุดกระชากลากถูฉันไปโน่นมานี่ทั้งวัน (สงสัยคุณท่านเขาเห็นฉันเป็นกระเป๋าเดินทางล่ะมั้ง) และสุดท้ายก็มาหยุดลงที่หน้าบ้านสไตล์ญี่ปุ่นของคุณเมฆา
“เข้าไปได้แล้ว ยืนเอ๋ออะไรอยู่ ยัยสัตว์กินพืช” จากนั้นคุณเมฆาก็ลากฉันเข้าไปในตัวบ้าน โดยมีคุณคุซาคาเบะเดินตามหลังมาติดๆ
ไม่เอานะ ฉันยังไม่อยากโดนขย้ำตายตอนนี้!!!!!! =[ ]=!!
[Special :: Hibari Talk]
ตอนนี้ผมจัดการให้ยัยสายหมอกเข้าไปนอนในห้องที่ผมจัดไว้แล้ว ตอนแรกก็กะจะให้นอนในห้องเก็บของนั่นแหละ แต่คุซาคาเบะค้านซะงั้น (ขอบคุณคุณคุซาคาเบะมากค่ะ!! // FC 96) ผมเลยต้องเสียเวลามาจัดห้องให้ยัยบ้านั่นเป็นชั่วโมงๆ
“ถ้าคุณฮิบาริรำคาญที่ต้องมาจัดห้องให้คุณโดคุโร แล้วทำไมไม่ให้แม่บ้านมาทำแทนล่ะครับ =_=^” คุซาคาเบะพูดดักคอผมราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
“หืม..” ผมไม่ตอบอะไร แต่ตวัดสายตาคมกริบใส่คุซาคาเบะแทน ประมาณว่า...ถ้าถามมากกว่านี้แกโดนขย้ำแน่....
“ครับๆ ถ้าข้าวเย็นพร้อมแล้วผมจะมาเรียกนะครับ” คุซาคาเบะรีบออกไปจากห้องของผมอย่างเร็ว ผมชักจะสงสัยแล้วสิว่าเจ้าลูกน้องคนนี้มีญาณทิพย์หรือยังไง ถึงเป็นรู้หมดว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ = =
จากนั้นผมหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องของผมมาอ่านฆ่าเวลาไปพลางๆ แต่ระหว่างที่อ่านๆไปก็เริ่มจะฟุ้งซ่าน เพราะเสียงของยัยสายหมอกดันลอยเข้ามาในหัวซะได้...
ฮึก...ท่านมุคุโร่...
‘เสียงร้องไห้...ใบหน้าเปื้อนน้ำตา...เสียงร้องไห้...ใบหน้าเปื้อนน้ำตา.....’ ระหว่างนั้นสมองผมก็ประมวลผลกับไอ้คำสองคำนี้ไปด้วย และสุดท้ายก็เพิ่งนึกออกว่า...
“ยัยสายหมอก!!!” ชัดเลย ผมไม่ได้คิดไปเองแล้ว นี่มันเสียงของยัยบ้านั่นจริงๆ!!!!!!!!
ผมรีบสาวเท้าไปที่ห้องของยัยสายหมอก และทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ผมก็พบกับร่างบางที่นั่งร้องไห้อยู่ข้างๆเตียง มือบางกำสามง่ามที่เป็นอาวุธของตัวเองไว้แน่น ราวกับว่าสิ่งนี่เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ
“คุณ...เมฆา..!?” โคลมที่เห็นผมเปิดประตูเข้ามาใช้หลังมือปาดน้ำตาก่อนจะพยายามฝืนยิ้มให้ผม
“ร้องไห้ทำไม” ผมเองไม่คิดจะสนใจว่าเธอกำลังเรียกชื่อผมอยู่หรือเปล่า ผมตรงเข้าไปหาเธอ พร้อมกับถามย้ำกับเธออีกครั้ง “ผมถามว่าเธอร้องไห้ทำไม..”
“ฉัน..ไม่ได้ร้อง...”
“แล้วนี่มันอะไร” ผมใช้มือประครองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาของยัยสายหมอก “ผมจะถามเธออีกครั้ง เธอร้องไห้ทำไม”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนเหยียดเป็นเส้นตรง น้ำตาที่ปริ่มๆอยู่ขอบตาก็ค่อยๆไหลลงมาช้าๆ ก่อนที่ร่างบางจะโผเข้ามากอดผมอย่างไร้ที่พึ่งพิง...
“ฉัน...ฮึก...ฉันลืมท่านมุคุโร่ไม่ได้จริงๆ...”
อึก…
เจ็บ...
ทำไมถึงได้เจ็บใจแบบนี้.....
แค่ยัยนั่นพูดถึงเจ้าสัปปะรดนั่น ทำไมผมถึงได้เจ็บใจแบบนี้ อยู่ๆทำไมผมถึงอยากให้เธอเรียกชื่อผมแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น จะเรียกคุณเมฆาก็ได้...
แต่ขอแค่อย่าเรียกชื่อเจ้านั่นออกมา...
“...” ผมไม่พูดอะไร แต่ค่อยๆกอดยัยสายหมอกตอบและปล่อยให้ยัยนั่นร้องไห้ให้พอใจ
ผ่านไปสักพักหนึ่ง.....
“พอใจแล้วใช่มั้ย..” ผมปล่อยตัวยัยสายหมอกออกจากอ้อมกอด ก่อนจะชี้ไปที่สูทของตัวเองแล้วปั้นหน้าขรึมตามเดิม “กว่าจะหยุดได้ เธอทำเสื้อสูทผมเปียกไปหมดเลยนะ!!!”
“หวาๆ ขอโทษค่ะ ไว้ฉันจะซักคืนให้นะคะ”
“ล้อเล่นน่ะ...” ผมพูดพร้อมกันแค่นหัวเราะเบาๆ
“ล้อ..ล้อเล่นเนี่ยนะคะ!?”
“โคลม”
“คะ?”
“คนที่เธอรักเขาน่ะ..ใครกัน” ผมถามออกไปทั้งๆที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ท่านมุคุโร่ล่ะมั้งคะ เขาเป็นผู้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน เขาคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉันแล้วล่ะค่ะ” โคลมพูดพร้อมกับหน้าขึ้นสีแดงจางๆ
“แม้เขาจะหลอกใช้เธอก็ตามน่ะเหรอ...”
“ค่ะ...ฉันรู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่เขาต้องจากฉันไป ^^” ฉันนั่นพูดพร้อมกับยิ้มแห้งๆ เหมือนกับว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตุบ!!!
“อย่าพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดจะได้มั้ย” ผมจัดการกดร่างเล็กลงกับพื้นและคร่อมร่างนั้นไว้
“..มันไม่มีอะไรจริงๆนี่คะ” ดวงตาสีอเมทิสต์ที่สบตากับผมเมื่อสักครู่เบือนสายตาไปทางอื่น... “ฉันไม่รู้ว่าที่จริงฉันรักท่านมุคุโร่เป็นแบบไหน แล้วก็ไม่รู้ว่ารักน่ะ แท้จริงมันเป็นยังไงกันแน่”
“...ยัยบ้าเอ๊ย” ผมหลุบตาต่ำลง จากนั้นก็ค่อยเคลื่อนริมฝีปากหนาเข้าใกล้ริมฝีปากเรียวบาง ก่อนจะค่อยๆประทับจูบลงไปช้าๆ...
ยัยบ้า..เธอไม่รู้จริงๆน่ะเหรอ...
นี่ไงล่ะ..คนที่รักเธอ...คอยมองเธออยู่ตลอด.....
ฉันรักเธอ..โคลม โดคุโร...
ผมค่อยๆถอนริมฝีปากออก “หวังว่าการกระทำเมื่อกี้..เธอคงจะเข้าใจนะ...” พูดจบผมก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องของยัยสายหมอกไป...
และคำที่ลอยออกมาจากปากของยัยนั่น ทำเอาผมยิ้มไม่หุบเลย...
“ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆนะคะ”
“...”
“Kimi ga suki dayo…Hibari-san”
จบแบบซึนๆค่ะ ใครจะจิ้นต่อจากนี้ไปก็ได้นะคะ ฮี่ๆ =w= (//โดนรุมตบ)
ว้า เสียดายจังเลย~ แต่สำหรับตอนนี้คงพูดมากไม่ได้ ขอไปปั่นอีกเรื่องก่อนเน้ออออ T^T (//ฟิ้วววว)
รีวิวจากนักอ่าน
นิยายเรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว
มาเป็นคนแรกที่เขียนรีวิวนิยายให้กับนิยายเรื่องนี้กันรีวิวถึงตอนที่ 0
รีวิวถึงตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ Kaze no ken ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kaze no ken
24ความคิดเห็น