[ SJ - FicY ]Moonlight ......x HEECHUL , etc - นิยาย [ SJ - FicY ]Moonlight ......x HEECHUL , etc : Dek-D.com - Writer
×

    [ SJ - FicY ]Moonlight ......x HEECHUL , etc

    โดย pockky box

    คิมฮีชอลผู้ไร้รัก... ขอทานผู้ลึกลับ...เขาเป็นใคร ??? หัวใจที่ปิดตาย...ใครกันนะที่พังเข้ามาได้

    ผู้เข้าชมรวม

    2,197

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    2.19K

    ความคิดเห็น


    44

    คนติดตาม


    8
    จำนวนตอน :  10 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 52 / 00:46 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Title ::  Moonlight 

    Couple By ::  .. x HEECHUL

    Rate :::  Normal

    Create By ::  pockkybox


    ....

    Chapter :::   Intro 

    ...

    ความรัก เปรียบเหมือน..พระจันทร์

    มีด้านมืดและด้านสว่าง.....

    พระอาทิตย์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พระจันทร์มีแสงสว่างและมืดมิดได้ในเวลาเดียวกัน

    เหมือนเฉกเช่นชีวิตของฉัน

    ความรักที่ฉาบฉวย จอมปลอม เปราะบาง เสียใจ น้ำตา เจ็บปวด.....สุดท้ายแล้วมันก็ไม่มีอะไรดี

    ความสุข....เหมือนสายลม พัดมาแล้วพัดไป

    ฉะนั้นคนอย่างฉันจะต้องไม่มีความรัก.............ตลอดไป

    2009 . 02 . 14
    คิม ฮีชอล ( 03.17 )



    ...


    มือขาวปิดสมุดไดอารี่เล่มหนาเบาๆ ก่อนจะเอื่อมมือไปปิดไฟดวงเดียวที่เปิดให้แสงสว่างอยู่ในตอนนี้ เขายัดสมุดลงใต้หมอนช้าๆก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเอง ตากลมโตกรอกไปมาในความมืด ปากบางเปร่งสียงออกมาจากลำคอเบาๆ

    1....

    2....

    3....

    4....

    5....

    6....

    7....

    8....

    9............50.........80



    อ่า.....ง่วงนอนจัง เขาต้องนอนนับเลขอย่างนี้ทุกวันก่อนจะหลับตานอนเข้าสู้ฝันที่เขาไม่อยากจะตื่น ความฝันมันดูดีกว่าในชีวิตจริงเยอะ....ชีวิตจริงที่น่าสมเพศ ชีวิตจริงที่เขาไม่มีวันหลีกมันพ้น


    ....


    ....


    13.00


    กริ๊งงงงงงง !!!!!


    ตุบ !!


    อืออออออ.... เสียงแหบครางออกมาจากลำคอขาว ได้เวลาตื่นแล้วหรอ ?? นาฬิกาถึงดังขึ้นมาตากลมหรี่มองไปยังโต๊ะหัวเตียง.....


    ไม่อยากตื่น ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากลุกจากเตียง....สรุปฉันตายไปเลยดีมั้ย ?? ฮีชอลตั้งคำถามขึ้นมาในใจ....คำถามที่มีแต่คำตอบเดิมๆ


    นายต้องมีชีวิตอยู่ต่อสิ.....คิม ฮีชอล ชายหน้าสวยตอบตัวเองเบาๆ พลิกตัวไปมาก่อนจะใช้แขนสองข้างยันตัวเองขึ้นมานั่ง มือขาวขยี้ตากลมจนเกือบแดง ผมที่ยุ่งถูกมัดอย่างลวกๆทันทีที่มือขาวคว้านเจอยางรัดผมที่แอบอยู่ใต้หมอน


    ....


    ....


    16.00


    โปรดทำบุญทำทานด้วยคร๊าบ


    แกร๊ง !


    ขอบคุณคร๊าบบบ


    เสียงแหบเล็กพร่ำพูดประโยคเดิมเป็นระยะๆ ตั้งแต่เช้าจนจดบ่ายอย่างนี้ ตาเล็กที่อยู่ภายใต้หมวกสีตุ๋นมีรอยปะแล้วปะอีกกำลังมองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา....เสียงเหรียญกระทบกับแก้วพลาสติกดังขึ้นสลับกับเสียงบ่นของคนบางกลุ่ม


    ยี้ ~ ขอทานสกปรกจัง


    เอาน๊า...ดูสิ เขาน่าสงสารออกแค่เงินไม่กี่วอนถือว่าทำบุญละกัน
    เสียงเล็กเจื้อยแจ้วพูดขึ้นมาทันทีที่เท้าเล็กทั้งสองคู่หยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่นั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ใต้ตึกใหญ่ ตรงหน้าของเขาเป็นร้านสะดวกซื้อและมีม้านั่งยาวสีแดงสดตั้งเด่นอยู่หน้าร้าน


    ขอบคุณคร๊าบบบบ เสียงแหบเอ่ยออกไป ประโยคเดิมๆที่เขาเปร่งมันออกมาตลอดทั้งวัน สองเดือนแล้วสินะที่เขายึดหลักมานั่งทำอาชีพนี้ ทนตากแดดตากฝน ทนกับคำพูดที่เสียดหู แม้แต่ยามค่ำคืนเขาต้องทนนอนหนาว.....แต่ในความหนาวนั้นกลับมีไออุ่นของใครคนหนึ่งที่มานั่งมองเขาทุกค่ำคืน ใครคนนั้นมักมาเป็นเวลา ชายหนุ่มยกข้อมือเหลือบมองดูนาฬิกาที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อที่สกปรก ใกล้ถึงเวลาแล้วที่ใครคนนั้นกำลังจะมา


    16.30....


    แกร๊ง !!


    ขอทานหนุ่มเงยหน้ามองเจ้าของร่างเล็กตากลมโตที่ยืนอยู่ตรงหน้า แววตาที่ซ่อนทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้...ทั้งอ่อนแอ แข็งแกร่ง ก้าวร้าวและอ่อนโยน คนตรงหน้านั้นมีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด


    ชายหนุ่มร่างเล็กยืนนิ่งก่อนจะยกยิ้มอย่างเคยชินให้ขอทานหนุ่มตรงหน้าแล้วก็เดินจากไป....เหมือนทุกวัน


    ....


    ....


    คาเฟ่....กลางกรุงโซล


    พี่ฮีชอล พี่ฮีชอล...วันนี้พี่ขึ้นไปร้องเพลงคนที่สามนะ เสียงเล็กเอ่ยขึ้นมาด้านหลังชายหนุ่มหน้าสวยที่กำลังแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าขาว


    อืมมม แล้วนายละซองมินขึ้นไปร้องเพลงมั้ยวันนี้ ชายหนุ่มหน้าตาน่ารักพยักหน้าหงึกๆ ตอบรุ่นพี่ทันที มือขาวเอื่อมมาแตะไหล่คนตรงหน้า


    พี่แต่งหน้าสวยแล้วล่ะ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายก็ไม่มีใครรู้นะเนี๊ยะ ซองมินเด็กหนุ่มน่าตาจิ้มลิ้มฉีกยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันกระต่ายส่งผ่านให้ฮีชอลในกระจก เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆรูปร่างอวบเล็กน้อย ตากลมแบ๊วแถมมีผิวขาวอมชมพูจึงทำให้ ลีซองมินเป็นที่สนใจอันดับต้นๆของคาเฟ่แห่งนี้


    นายก็น่ารักนะวันนี้ แต่งสีโอรสเชียว...ซองมินนายกินอะไรรึยัง ?? พี่หิวจังเลย ฮีชอลเอ่ยถามเสียงเบาพลางใช้ลิปสติกทาไปรอบกลีบปากบางสวยที่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของนัก


    ยังเลย...งั้นเราไปหาอะไรกินกันเถอะพี่ เดี๋ยวผมจะไปชวนฮยอกแจมาด้วย เห็นเขาบ่นๆว่าหิวอย่างนั้นอย่างนี้ กลัวจะเป็นลมกลางเวทีซะก่อน...ฮยอกแจร้องเพลงคนแรกด้วยสิ ซองมินพูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องแต่งตัวทันที


    ฮีชอลมองผ่านกระจกแล้วคลายยิ้มออกมา อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงเวลาร้องเพลงแล้ว เขาไม่อยากจะร้องเพลงที่นี้ไปจนวันตายหรอกนะ....มือขาวกำกระโปรงสีเบจแน่น ปากบางเม้มเข้าหากัน


    คาเฟ่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมผู้ชายสีม่วง...ฮีชอลไม่มีทางเลือกเขาต้องมาทำงานที่นี้ ถึงแม้มันจะรายได้ดีแต่เขาก็ฝืนทนทำมันไปตามหน้าที่ หลายครั้งที่เขาต้องเจอแขกถากถ่างต่างๆนาๆเมื่อเขาไม่ยอมออกไปกับแขก...คิม ฮีชอล ไม่ใช่ผู้ชายขายตัว....เขาก็แค่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานตามหน้าที่ไปวันๆหาเงินเลี้ยงตัวเอง เสียงที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงทำให้คิม ฮีชอลเป็นจุดขายของที่นี้


    ฮีชอล เป็นอะไรไปไม่มีความสุขหรอ ?? เสียงนุ่มของผู้จัดการดังขึ้น ปาร์ค จองซู ชายหนุ่มหน้าสวยอีกคน เขามีลักยิ้มคู่ที่มีเสน่ห์...และมีเสียงหัวเราะเป็นเอกลักษณ์ชายหนุ่มอารมณ์ดีแห่งคาเฟ่สีม่วง จองซูชายหนุ่มรุ่นเดียวกับฮีชอล ถึงแม้เขาทั้งคู่จะมีหน้าที่แตกต่างกันแต่ยังไง จองซูและฮีชอลก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานานหลายปีทีเดียว นับตั้งแต่คาเฟ่แห่งนี้เปิดขึ้น....นับดูแล้วก็ปาไปสองปีแล้วที่เขาทำงานที่นี้


    ป่าวหรอกจองซู ฉันแค่...หิว คิม ฮีชอลโกหกหน้าตาย ที่จริงเขาไม่ได้หิวหรอกแค่ไม่อยากมาทำงาน ชีวิตที่เดิมๆ ชีวิตที่น่าเบื่อ ชีวิตที่มีแต่คนดูถูก....จองซูเองก็รู้ดีว่าเพื่อนสนิทตรงหน้าพูดโกหกตอบเขาไปอย่างนั้นแหละ


    อ่า...หิวก็ไปกินสิ ฉันจะไปดูหน้าร้านหน่อย ยิ้มไว้นะฮีชอล


    เออ จองซูฉันจะยิ้ม...ซองมินมาแล้วฉันไปกินข้าวก่อนนะ



    ปาร์ค จองซูยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะผละเดินออกจากห้องแต่งตัวไป ส่วนฮีชอลถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อมองตัวเองผ่านกระจก วันนี้เขาแต่งหน้าโทนสีอ่อนเพื่อให้สมดุลกับชุดสีเบจ เสื้อแขนกุดมีระบายลูกไม้เป็นแขนเสื้อกระโปรงยาวเหนือเข่าเล็กน้อยเผยให้เห็นช่วงขาขาว....เขาชินกับสภาพแบบนี้แล้วหล่ะ คาเฟ่สีม่วงที่มีแต่พนักงานผู้ชาย ส่วนนักร้องแด๊นเซอร์ต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงบ้างชายบ้าง แต่กรณีคิม ฮีชอล , ลี ซองมิน , ลี ฮยอกแจและลีทงเฮ ต้องแต่งตัวเป็นหญิงเท่านั้น เพื่อเป็นจุดขายและเป็นที่ดึงดูดแก่ลูกค้า


    พูดถึงสามหนุ่มตระกูลลีทีไร ฮีชอลมักอมยิ้มทุกที เนื่องด้วยนามสกุลที่เหมือนกันแต่ดันไม่ได้เป็นญาติกัน แถมมีนิสัยที่คล้ายกันอีก เรื่องกินคือที่หนึ่ง หนึ่งในสามหนุ่มลีนั้น ลี ทงเฮเป็นคนกินเก่งกว่าเพื่อน.....แล้ววันนี้ทำไมไม่เห็นหัวทงเฮเลยละ ส่วนใหญ่มักมานั่งหน้าเจ๋ออยู่แถวนี้ นี่หน่า....


    ซองมิน...ทงเฮหล่ะ พี่ไม่เห็นเลยวันนี้


    ไอ่หมวยมันไปนั่งคอยอยู่ที่โต๊ะกินข้าวแล้วละพี่ฮีชอล ฮา ฮาเรื่องกินมันไวจะตาย


    เอ่อวะ พี่ก็ลืมไป...ฮยอกแจละ


    ไปนั่งรออยู่กับไอ่หมวยแล้วละพี่



    ฮีชอลพยักหน้าก่อนจะวางแป้งพับบนโต๊ะ แล้วลุกขึ้นออกจากเก้าอี้เขาเดินตามรุ่นน้องไปยังอีกห้อง.....คืนนี้ต้องเต็มที่กับงานอีกใช่ไหม ???


    คำตอบในหัวของงฮีชอลคือ ใช่ !!!


    ....


    ....


    03.35....


    แกร๊ง !!


    เสียงเหรียญดังก้องไปทั่วพื้นที่โดยรอบเบาๆ ตอนนี้ชายหนุ่มขอทานตื่นจากสัปหงก เขาเงยหน้ามองเจ้าของเหรียญที่เพิ่งหย่อนลงในแก้วพลาสติก


    นั้นเธอ....หรือเขา กันนะ ?? มองทีไรก็บอกไม่ถูกเลย ชายหนุ่มของทานคิดคำถามให้กับตัวเขาเองแบบนี้ทุกคืน ตราบใดที่ไม่เคยคุยกับคนตรงหน้า เขาก็ไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ร่างบางตัวขาวจัดตรงหน้าเป็นเพศไหนกันแน่


    ขอบคุณคร๊าบบบบ....แต่วันนี้คุณมาดึกนะครับ


    ......
    ฮีชอลขมวดคิ้วเข้มทันที ไอ่คนตรงหน้านึกยังไงมาตั้งคำถามเขาอย่างนี้ เลี่ยงที่จะไม่ตอบจะดีกว่าไหม ?? ฮีชอลคิดพลางขมวดคิ้วดังเดิม ร่างเล็กพาตัวเองมานั่งตรงม้านั่งหน้าร้านสะดวกซื้อ ที่นั่งประจำก่อนเขาจะกลับเข้าบ้านไป.....


    ชายหนุ่มขอทานรู้ดีว่าคงไม่มีคำตอบจากคนปากอิ่มสีแดงอ่อนๆ ที่ดูยังไงก็เป็นสีของลิปสติก....แต่ยังไงเขาชวนคนตรงหน้าคุยก็ไม่แปลก เห็นหน้ากันทุกวันแถมเห็นมาได้สองเดือนแล้ว


    คุณไม่รีบกลับบ้านหรอ ?? อากาศเย็นลงแล้วนะ


    ....... ยุ่งจริง!!
    เป็นคำพูดแรกในความคิดของฮีชอล ขอทานตรงหน้าดูเงียบๆ หน้าติ๋มๆ ที่มีแต่หมวกใบเก่าๆปกคลุมหน้าไปครึ่ง แต่ไม่นึกว่าวันนี้จะถามมากแหะ ปกติเห็นเงยหน้ามามองแล้วก็หุบปากยิ้มน้อยๆหนิ แต่นี้อะไรมาชวนคนอย่างฮีชอลคุยเฉยเลย


    ชายหนุ่มขอทานยังคงจ้องเจ้าของร่างบางตรงหน้านิ่ง.....ใบหน้าเรียว ดวงตากลมสีนิล เรียวปากอิ่ม ดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงแต่.....ท่าทางการเดินนี่สิ -*- เหมือนมันจะไม่ใช่


    ไม่ทันที่ชายหนุ่มขอทานจะคิดเสร็จ ร่างบางตรงหน้าลุกขึ้นทันที พลางใช่มือขาวกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นอีก ตากลมสวยเปรยตามองชายหนุ่มขอทานที่นั่งตัวงอๆ ร่างกายห่อหุ่มด้วยเสื้อผ้าสีตุ่น ขาดๆปะๆ ดูแล้วไม่น่าจะเข้าใกล้เลยซักนิด ฮีชอลเห็นแว่บเดียวในความมืดนั้น....สายตาคมที่จับจ้องเขา สายตาที่ฮีชอลไม่เคยสังเกตเห็นจากขอทานคนนี้


    ร่างบางเดินเรื่อยๆลงมาตามถนนที่ลาดชัน ด้วยสภาพภูมิประเทศของกรุงโซลที่มีแต่ภูเขา ทำให้เขาต้องเดินทางลาดอย่างนี้ทุกวัน...ทุกเดือนและทุกปี


    จะว่าไปแล้ววันนี้เขาก็เลิกงานช้ากว่าปกติ...ถ้าไม่มีแขกเจ้าปัญหาอย่างเจ้าสัวใหญ่ของย่านคังนัมป่านนี้เธอก็คงได้กลับมาหลับบนเตียงนุ่มๆแล้วละ


    ไม่กี่นาทีต่อมาร่างบางพาตัวเองเข้าบ้านเรียบร้อย...ไม่สิไม่ใช่บ้าน ห้องเช่ารูหนูราคาถูกต่างหากละ จองซูเคยให้สรรพนามนี้ไว้ตอนที่มาบ้านของเขาครั้งแรก....ตอนนั้นฮีชอลหัวเราะเห็นด้วยกับคำนี้....ห้องเช่ารูหนูของคิมฮีชอล


    วันนี้หยุดเขียนบันทึกสักวันคงไม่เป็นไรใช่มั้ยคิม ฮีชอล ??


    ..

    ..


    TBC ~


    Talk :: หว่า...จบ Intro แล้ว อาจจะดูสั้นไปนะคะ ขอโทษคนอ่านด้วย เราขอบอกตามตรงเลยว่า ฟิควายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราแต่ง ปกติเราจะแต่งฟิคชายหญิง...แต่ก็นะ ความคิดเริ่มบรรเจิดว่า สักวันเราต้องแต่งฟิคชายชายบ้าง..เหอๆ ในที่สุดมันก็ออกมาอย่างที่ทุกคนได้อ่าน

    คือตอนแต่ง จิตนการฮีชอล เป็นผู้หญิงมากไป ( มันชินอ่า....) อิเจ๊เลยดูเหมือนผู้หญิง แต่ก็นะอย่างที่บอกว่าเรื่องแรกในชีวิต กว่าจะลงมือเขียนแต่ง เรื่องนี้ได้ ถามบุคคลเยอะมาก ว่าแต่งดีไหม คู่ไหนดี บลาๆ สรุปออกมาก็อย่างที่เห็น 555 ( คู่ฮันชอล ลงตัวสุด เอิ๊กๆ )

    ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกัน...ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นติชมล่วงหน้านะจ๊ะ ( ยิ้มหวานนนน )


    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น