คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : (ตก)ลงใจ 4
“สิ่งที่ฉันต้องการคือความซื่อสัตย์ค่ะ
ต่อให้เรารักหรือไม่รักกันฉันขอแค่ตอนที่เรายังอยู่ด้วยกัน...ในหน้าที่ขอให้เราซื่อสัตย์กันก็พอ
คุณให้ฉันได้ไหมคะ” โอฬารพยักหน้ารับ
ต่อให้ไม่รักเขาก็ไม่คิดจะทรยศอยู่แล้ว “งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
เราแค่ยกน้ำชาอย่างที่คุณบอก แล้วถ้าวันหนึ่งคุณเจอใครที่รักหรือฉันเจอใครที่ถูกใจ
เราจะได้แยกย้ายกันง่ายๆ”
“เธอได้ยินที่ฉันคุยโทรศัพท์กับคุณปู่เหรอ?”
“เอ่อ
ค่ะ ขอโทษด้วย แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แค่ออกมาแล้วได้ยินพอดี”
โอฬารไม่ได้โกรธ
แค่รู้สึกเก้อกระดากแปลกๆ
“แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ
ถ้าจะมีพิธียกน้ำชาเร็วที่สุด...พร้อมหรือเปล่า”
“ค่ะ”
“งั้นจะให้ฉันไปคุยกับที่บ้านเธอวันไหนก็บอกแล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ
ฉันจะคุยกับแม่กับพี่สาวเอง” ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ทั้งสองคนอาจไม่อยากรับรู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง
“ไม่ได้
ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ฉันจะเป็นคนไปคุยกับทางบ้านของเธอด้วยตัวเอง
ถึงนี่จะไม่ใช่การใช้ชีวิตคู่ที่เกิดจากความรัก แต่มันคือเรื่องจริง” เขายืนยันหนักแน่นและแววตาแน่วแน่ว่าจะทำอย่างนั้น
“ก็ได้ค่ะ”
“มีอีกเรื่อง...ฉันอยากให้เธอเลิกทำงานที่มินิมาร์ท”
“ฮื่อ
อันนี้ไม่ได้นะคะ ฉันขอทำงานที่นี่ต่อ”
“ให้เลิกทำงานที่นั่น
ไม่ได้แปลว่าไม่ให้ทำงานอะไรเลย เดี๋ยวจะหางานที่ตรงกับที่เรียนมาให้
อีกอย่างผู้จัดการสาขาจะได้ไม่หาเรื่องไล่เธอออกอีก ไม่ดีรึไง” โอฬารอธิบายโดยไม่บอกสาเหตุที่แท้จริงว่าเขาต้องทำงาน ไม่มีเวลามากพอจะไปเฝ้าเธอเพื่อดูแลความปลอดภัยได้ทุกวันทุกเวลา
“ฉันทราบค่ะ
แต่เพราะคุณหลินอยากให้ฉันออกนั่นแหละฉันถึงอยากทำต่อ”
“อยากแกล้งเขา?”
“เปล่าสักหน่อยค่ะ
ฉันแค่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าฉันสามารถทำงานที่นั่นได้
และมินิมาร์ทสาขานั้นจะได้กลับมารับรางวัลสาขาดีเด่นประจำปีส่วนเขาก็ได้รางวัลผู้จัดการสาขายอดเยี่ยม
จะได้ไม่โทษความซวยของฉันอีก”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว?”
เด่นดวงทำปากยื่นค้อนเขาหน่อยๆ
แต่พูดไม่ออกเพราะไม่มั่นใจเลยสักนิด
“ตอนนี้ฉันมีคุณแล้ว
ดวงฉันอาจจะดีขึ้นก็ได้...” เธอพึมพำเสียงเบา
โอฬารมองคนที่นั่งก้มหน้าพลางครุ่นคิด เขาไม่ได้อยากเปลี่ยนแปลงอะไรในชีวิตเธอ
เพราะสักวันเขาอาจต้องปล่อยให้เธอกลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิม
“ฉันเข้าใจ
แต่ฉันจำเป็นต้องทำงาน ภายในสามเดือนนี้ธุรกิจต้องขยายเพื่อเติบโตให้มากที่สุด
แล้วถ้ามัวตามไปรับไปส่งเธออย่างสองวันนี้ งานคงไม่คืบหน้าไปไหนเลย”
“คุณก็ไม่ต้องไปรับไปส่งสิคะ
ฉันไปเองได้กลับเองได้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นยิ้มจนเห็นรอยบุ๋มบนแก้ม
ถ้าติดปัญหาแค่นั้นเธอก็ว่ามันแก้ได้สบายมาก
“มันใหญ่กว่านั้นน่ะสิ” สีหน้าโอฬารฉายชัดถึงความไม่สบายใจ
เด่นดวงมองแล้วเริ่มคิดว่ามีบางสิ่งที่เขายังไม่เคลียร์
“มีอะไรที่ฉันควรรู้แต่ยังไม่รู้หรือเปล่าคะ”
โอฬารใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนเอ่ย
“คุณปู่ไม่สบายใจเรื่องที่ท่านโดนลอบยิงวันนั้น
กลัวพวกเราจะไม่ปลอดภัย เลยอยากให้ระวังตัวกันไว้”
“พวกเรา?”
“อืมม์
ก็...หมายถึงทุกคนในครอบครัวนั่นแหละ” เขาอธิบายกว้างๆ
ไม่อยากให้เธอเป็นกังวลหรือไม่สบายใจจนเกินไป เด่นดวงพยักหน้ารับ
เหตุผลนี้สินะที่เขาจำเป็นต้องตามรับตามส่งเธอและอยากให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน
แม้จะรู้สึกวูบโหวงในใจคล้ายผิดหวังเล็กๆ
แต่เหตุผลมันก็เข้าใจได้ไม่ยาก
“งั้นก็ได้ค่ะ
ฉันจะลาออกจากมินิมาร์ท” เธอยอมง่ายๆ
เพราะไม่อยากให้เขาลำบากใจ
ตึ๊งดึ่ง!
เสียงไลน์เตือนว่ามีข้อความเข้าจากมือถือเด่นดวง
เธอหันไปหยิบมาเปิดออกดูทั้งที่โอฬารก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้น
ภาพเบญจาเซลฟี่กับเบญจภัทรที่ยืนยิ้มแฉ่งด้านหลังทำเอาหญิงสาวอาปากหวอเหลือบมองนาฬิกามุมบนหน้าจอถึงได้รู้ว่าสี่ทุ่มกว่าแล้ว
Den : แกไปกับเขาได้ยังไง
Ben : เขาแวะมารับ บอกว่าต้องไปซื้อของให้คุณยักษ์และอาจจะต้องใช้เวลารอนาน
ไม่อยากรอคนเดียว
Den : แค่นั้น? แล้วแกก็ใจง่ายไปกับเขาเลยเนี่ยนะ?
Ben : เดี๋ยว อย่าเพิ่งต่อว่าเพื่อน
ที่ฉันยอมมากับเขาเพราะเขาเป็นผู้ช่วยว่าที่สามีแก
อีกอย่างเขาบอกว่านี่อาจจะเป็นแผนของคุณยักษ์ที่อยากอยู่กับแกสองต่อสอง
ฉันเลยเห็นด้วย จึงจำเป็นต้องมาเป็นเพื่อนเขา
Ben : ฉันทำเพื่อแกนะเนี่ย
เด่นดวงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่หน้าจอโทรศัพท์
นึกหมั่นไส้เพื่อนที่ยอมไปกับหนุ่มที่มาจีบง่ายๆ หากแล้วก็เหมือนนึกอะไรออก
จึงเงยขวับขึ้นมอง และมันเป็นจริงอย่างที่คิด...โอฬารอ่านข้อความทั้งหมดอยู่ด้วย!
“เอ่อ...คือ...อย่าถือสายายเบญเลยนะคะ...คือ...”
“ฉันไปทำงานต่อละ
ถ้าเธอง่วงก็นอนได้เลย ที่ห้องนั้นแหละ” ร่างใหญ่ลุกขึ้นยืน
สีหน้ายังคงไม่บ่งบอกอารมณ์เหมือนเคย
“ห้องนั้นเป็นของคุณไม่ใช่เหรอคะ
ถ้าฉันนอนห้องนั้น...แล้วคุณจะนอนที่ไหนคะ?”
“ไม่ใช่ห้องนั้นก็แล้วกัน” พูดจบเขาก็รีบเดินกลับไปยังห้องทำงาน เด่นดวงเลยระบายลมหายใจออกยาว
เสียดาย เอ๊ย! โล่งอกที่เขาตอบแบบนั้น
พอเห็นว่าคนในห้องกรุกระจกตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ
เด่นดวงเลยก้มลงพิมพ์ข้อความกลับไปหาเบญจาอีกครั้ง
Den : แกอย่ามาอ้างเรื่องฉันหน่อยเลย อยากไปกับผู้ชายเองใช่ไหมล่ะ
Ben : ผู้ชายก็มีส่วนอ่ะแหละ แต่ก็ทำเพื่อแกด้วยจริงๆ
อย่าลืมสิแกต้องมีเหลนให้เจ้าสัวนะ ชักช้าไม่ได้ ถ้าคุณยักษ์ไม่ทำอะไรแก
แกก็ปล้ำเขาซะเลย เชื่อฉัน
เบญจาส่งสติ๊กเกอร์หัวเราะตามมาด้วย
เด่นดวงหน้าแดงเผลอยกกำปั้นขึ้นทำท่าเหมือนจะทุบโทรศัพท์แทนตัวเพื่อน
ปากก็ขมุบขมิบต่อว่า
โอฬารมองคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก
ไม่รู้ว่าเธอคุยอะไรกับเพื่อนอีกบ้าง
แต่จากท่าทางเหมือนไม่ได้กำลังโกรธ...คิดแล้วก็เผลอตกใจเมื่อมองเห็นเงาสะท้อนจางๆ
ของตัวเองบนกระจก
...เขากำลังยิ้ม...
กระแอมกระไอแก้เก้อให้ตัวเองแล้วพยายามตั้งใจทำงาน
แต่เหมือนสายตาจะคอยเหลือบมองคนด้านนอกตลอดเวลา
จนต้องหลับตาครู่หนึ่งเพื่อตั้งสติตัวเอง
สรุปว่าเธอจะนำโชคให้เขารุ่งเรืองในเรื่องงาน
หรือจะทำให้เขาไม่ได้งานกันแน่เนี่ย!
*****************************
รู้สึกน้อยๆ ค่อยๆ หลงไปนะคะพี่ยักษ์ ^^
ความคิดเห็น