คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : อีเด่นร้านปิด 4
“เด่น...แกเป็นอะไรนะ
ฉันเป็นห่วงนะเว้ย” เธอพึมพำเสียงเบาลากผ้าที่ชุบน้ำหมาดๆ
ไปตามเนื้อตัว บริเวณหน้าท้อง แขนและต้นคอมีรอยแดงจางๆ เป็นวง แวบแรกไม่รู้สึกอะไร
แต่พอคิดอกุศลเท่านั้นละ ตาโตขึ้นมาทันที “หา! อย่าบอกนะว่าคุณยักษ์ทำอะไรแกจน...อื้อๆ
คุณยักษ์รุนแรงกับแกถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!”
เบญจาตาโตตกใจแต่ก็พยายามใช้มือปิดปากเก็บเสียงไม่ให้ดังจนเล็ดลอดไปด้านนอก
“พ่อ...เด่นขอโทษ...เด่นไม่ได้อยากให้พ่อตาย...” คนหมดสติเอ่ยพึมพำ ส่ายหน้าไปมาเหมือนกำลังทรมาน
เบญจาเห็นแล้วต้องรีบเขย่าปลุก
“เด่น...เด่น
ฟื้นสิ แกฝันร้ายเหรอ”
ใช้ผ้าหมาดน้ำเช็ดหน้าให้เพื่อนอีกครั้ง คราวนี้เด่นดวงค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมอง
หางตามีหยดน้ำเกาะทั้งสองข้าง พอปรับสายตาได้และเห็นเบญจา หยดน้ำนั้นก็กลิ้งลงไปบนหมอน
“เด่น...ร้องไห้ทำไม”
เด่นดวงดีดตัวลุกขึ้นนั่งสวมกอดเบญจาพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
ปกติเธอไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันร้ายแรงชวนให้ตกใจและขวัญหนี
ซ้ำร้ายมันยังเป็นเหตุการณ์ที่ตอกย้ำให้เธอนึกถึงความซวยครั้งเลวร้ายที่สุดในชีวิตอีกด้วย
“เบญ...ฉันเกือบทำให้คุณโอฬารตาย
ฉันซวยอีกแล้วแก ฉันซวยอีกแล้ว”
“เดี๋ยวแก
ใจเย็นๆ คิดมากไปหรือเปล่า ฉันเห็นเขาสบายดี ปกติทุกอย่าง ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”
เด่นดวงผละห่างจากเพื่อนแล้วมองอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตา
“เขาไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม
เขาไม่บาดเจ็บหรือ...ตาย ใช่ไหมแก”
“อือๆ
ใช่ เขาไม่ได้เป็นอะไรเลย แกเคยเล่านี่ว่าดวงแกจะหนุนเขา นำโชคให้เขา
แล้วเขาจะเป็นอะไรได้ยังไง อย่าคิดมากนะ”
เด่นดวงยิ้มออกแต่ใบหน้ายังเศร้า
น้ำตายังรินไหลอาบแก้ม เบญจาดึงตัวเพื่อนเข้ามากอดอีกครั้ง
“ทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้” ตอนแรกกำลังอินกับความเศร้าของเพื่อน
แต่พอได้ยินแบบนั้นเบญจาก็อดคิดเรื่องเดิมไม่ได้...นี่คุณยักษ์จัดซะเพื่อนเธอหมดแรงเลยเชียวหรือ?
“งั้นแกนอนพักก่อนแล้วกันนะ
พักแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก...หลับให้สนิทตื่นมาจะได้สดชื่อและมีแรง”
คนที่เกยคางบนไหล่เพื่อนพยักหน้ารับเบาๆ
เบญจาเลยเอาเสื้อผ้าที่พับใส่กระเป๋าออกมาให้เปลี่ยน โชคดีที่เด่นดวงมีเสื้อผ้าเก็บไว้ที่ห้องเธอหลายชุดตอนเบญจาภัทรโทร.ไปบอกจึงไม่ต้องไปเอาที่บ้านเพื่อนให้เสียเวลา
เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ดันร่างอ่อนระโหยโรยแรงลงนอนอีกครั้ง
เด่นดวงมองใบหน้าเบญจากระทั่งสติค่อยๆ ล่วงเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง
เบญจาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จับมือเพื่อนขึ้นลูบเบาๆ
...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันขอให้นับจากนี้แกมีแต่เรื่องดีเถอะนะ เด่นเอ๊ย!
เบญจากลับมายังห้องรับแขกอีกครั้ง
พบว่าสองหนุ่มเจ้านายกับลูกน้องนั่งคุยกันสีหน้าสีตาเคร่งเครียด
พอหันมาเห็นเธอทั้งคู่ก็ลุกพรวดขึ้นยืนพร้อมกัน
หญิงสาวตกใจจนเผลอถอยหลังท่าทางหวาดๆ โอฬารกับเบญจภัทรจึงหันสบตากัน
แววห่วงใยในดวงตาเบญจภัทรดูจะไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้ช่วยคนนี้ห่วงคนอื่นเก่ง
แต่รอยห่วงใยในดวงตาโอฬารภายใต้ท่าทีสงบนิ่งที่คนสนิทรู้ว่าเขากำลังร้อนใจและเป็นกังวลนั่นสิแปลก
เพราะเขาห่วงคนอื่นเก่งแต่แสดงออกไม่เก่ง ฉะนั้นถ้าอาการออกต้องแปลว่าห่วงมากจริงๆ
โอฬารเสมองไปทางอื่นเพื่อนปรับท่าทีตัวเองนิดหนึ่งก่อนหันกลับมาทางเบญจา
“มานั่งนี่สิ”
เบญจามีท่าทีลังเลเล็กน้อย
เบญจภัทรเลยสำทับไปอีกคน
“เชิญครับ” เขาผายมือไปยังที่ว่างบนโซฟาตัวยาวข้างตัวเอง เบญจาพยักหน้าแล้วค่อยๆ
เดินไปทรุดนั่ง มองโอฬารที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยหัวใจเต้นระทึก...คนบ้าอะไรหล่อฉิบหาย!
ท่าทางไม่นาจะใช่พวกชอบความรุนแรงเลยนะ แต่ทำไม...
“เด่นเป็นไงบ้าง”
...แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
ภายนอกอาจจะดูดี แต่รสนยิมแท้จริงอาจจะ...
“คุณ!”
“คะ?
คะ?”
คนกำลังมโนเพลินจนไม่ได้ยินคำถามของโอฬารสะดุ้งเมื่อเบญจภัทรเอ่ยเรียกเสียงดังกว่าเจ้านาย
เบญจาเลยทำหน้าเหลอหราแล้วยิ้มแหย
“เด่นฟื้นหรือเปล่า” โอฬารถามอีกครั้ง
“ฟื้นขึ้นมาแป๊บนึงค่ะ
แต่ท่าทางเพลียๆ ดิฉันเลยให้นอนพักต่อ”
เบญจารายงานด้วยท่าทางเกร็งๆ โอฬารพยักหน้ารับหากสีหน้ายังไม่คลายกังวล
“ทำตัวตามสบายเถอะครับ
คุณยักษ์ไม่เรื่องมากหรอก”
เบญจภัทรเอ่ยบอกหญิงสาวอย่างรู้ใจเจ้านาย “เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้ครับ” ว่าแล้วเบญจภัทรก็ลุกออกไป
“เอ่อ...เกิดอะไรขึ้น...เหรอคะ” เบญจาถามไม่เต็มเสียงนัก เพราะถ้ามันเป็นเรื่องที่เธอมโนจริงๆ
มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าถามหรืออธิบาย แต่เธอก็อยากรู้ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“ผมไปส่งเด่นที่มินิมาร์ท
แล้วเราไปกินโจ๊กกันที่ร้านใกล้ๆ
มีพวกทวงหนี้นอกระบบเดินมาทางด้านหลังผมแล้วยิงพ่อค้ากับแม่ค้าร้านโจ๊กเสียชีวิต
เด่นคงจะตกใจเลยพุ่งเข้ามาเหมือนจะช่วยผม
แต่ผมคิดว่า...มีอะไรมากกว่านั้น...รึเปล่า?”
โอฬารเล่าเหตุการณ์แล้วจบด้วยข้อสันนิษฐานปนคำถามในคราเดียวกันเลย
เขาให้เบญจภัทรไปสืบเหตุการณ์เมื่อเช้า จนได้รู้ว่ามือปืนพวกนั้นเป็นใคร
เบญจาพรูลมออกจากปากด้วยท่าทางโล่งอก
อย่างน้อยคุณโอฬารสุดเพอร์เฟคของเธอก็ยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป
หากพอหันไปสบตาชายหนุ่มที่จ้องมองอยู่เบญจาก็ตกใจ
ยิ้มแหยให้เขารีบเอ่ยเล่าสิ่งที่ตัวเองพอจะจับต้นชนปลายได้ถูกแล้วให้เขาฟัง
เบญจภัทรเดินนำน้ำมาวางให้พอดีตอนเธอเอ่ยเล่า
“วันที่พ่อของเด่นเสีย...เป็นวันฉลองรับปริญญาของเด่นค่ะ
เด่นขึ้นชื่อเรื่องความซวย ไปกินร้านไหนร้านก็มักจะปิด
เลยโดนแม่กับพี่สาวเอือมระอา วันนั้นเด่นก็เลยเลือกร้านข้างทางที่เห็นว่าเปิดอยู่
เพราะไม่อยากให้แม่กับพี่สาวว่าได้ถ้าเกิดเลือกร้านอื่นแล้วปิดอีก” เบญจภัทรทรุดนั่งลงข้างเธอ จ้องหญิงสาวอย่างตั้งใจฟังไม่แพ้เจ้านาย เบญจาสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วผ่อนออกยาว
“วันนั้น...มีรถคันหนึ่งเสียหลักพุ่งมาทางร้าน
ทุกคนลุกหนีแต่เด่นหนีไม่ทัน พ่อก็เลยกลับมาช่วย
แต่...พ่อเสียหลักล้มแล้วก็หนีไม่ทันค่ะ...”
แม้เบญจาจบการเล่าลงเพียงแค่นั้น
แต่อีกสองหนุ่มก็เข้าใจและจินตนาการออกว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
ทั้งสองคนถึงกับนิ่งไปทีเดียว เบญจภัทรหันมองเจ้านาย ท่าทางของโอฬารยังคงสงบนิ่ง
แต่แววตาบอกชัดว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
***********************************************
หนูเบญคะ มโนได้ฉีกอารมณ์มากค่ะลูกกก 55555+
ความคิดเห็น