ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Elexandrite & Emerald รับวิจารณ์นิยายสไตล์อัญมณี

    ลำดับตอนที่ #6 : คุณ มังกรกันต์ : YOLO ปลุกทุกตำนาน พงศาวดารมหาเทพ

    • อัปเดตล่าสุด 1 มิ.ย. 60




    { Winter Dark Theme }


    สวัสดีค่ะ คุณมังกรกันต์

    อัญมณีมาเสิร์ฟบทวิจารณ์ร้อนๆ ที่ขอชี้ชัดว่าเป็นความเรียงยาวบรึ๋ยแบบไม่แบ่งหัวข้ออีกต่อไปแล้ว การตัดสินใจให้คะแนนก็จะรวมทีเดียวเต็มร้อยไปเลยนะคะ

    ขออภัยอีกครั้งที่ดำเนินงานล่าช้า มาเริ่ม'สับ'กันเลยค่ะ//ดันแว่น(?)


    'จะว่าไปพูดถึงอัตตา เรื่องนี้ก็อัตตาตั้งแต่พล็อตแล้วนะคะ ปลุกทุกตำนานเอามาตีความแบบของตัวเองเนี่ย กล้ามากเลยนะ มั่นหน้ามากเลยนะเธอ'

    อย่าไปสนใจค่ะ นั่นมันอีกคนของอัญมณี ฮ่าฮ่า


    ถ้าจะให้จำกัดความเป็นคำพูดใดเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ คงเป็นคำว่า 'ต้นข้าวที่ยังเขียวชอุ่ม ยังไร้รวงผลิช่อ หรือเติบโตเป็นสีเหลืองทอง' เรื่องปรัชญามากมายที่นำเสนอผ่านทางตัวละครเอกเช่นพลิ้ว ชายหนุ่มผู้มีอุปนิสัยลั้ลลา ลื่นเหมือนปลาไหลไหลออกจากกะละมัง และที่สำคัญ...หลงใหลในตัวเองแบบสุดโต่ง แม้ไม่ได้แสดงออกผ่านการบรรยายชัดเจนแต่ทว่า บทพูดและความคิดของเขามันสื่อออกมาเช่นนั้นตั้งแต่เริ่มแรก อารมณ์คล้าย 'ไอ้นี่มันก็เจ๋งดี แต่ข้าเจ๋งกว่าว่ะโทษที' หรือ 'ข้าเก่งว่ะ แต่ไม่ได้อวดนะ!' ความจริงก็คืออวดอยู่จะๆ อันจะเชื่อมโยงไปเป็นความ 'อัตตา' ตามที่ท่านมังกรเสนอมาแต่เริ่ม ใครไม่หมั่นไส้ก็แล้วไป ใครหมั่นขี้หน้านี่อาจจะหนาวได้ 

    นี่คือจุดบอดแรกที่บั่นทอนความสมบูรณ์ พลิ้วซึ่งผู้เขียนให้ภาพลักษณ์เป็นหนุ่มเกรียน ลั้ลลาไปเรื่อย คบคนโน้นม่อคนนี้ กลับเป็นคนเดียวกันกับคนที่ศึกษาตำนาน บุคคลสำคัญ คนฉาวกระฉ่อน ปกรณัมต่างๆ สารพัดสาระเพและหลงใหลในมันอย่างเต็มกำลัง ศรัทธาแรงกล้า พร้อมจะก้มหัวขอเป็นศิษย์กับคนที่นับถือ แถมยังฝักใฝ่ในปรัชญาชีวิตและต้องการหาคำตอบในปัญหาโลกแตกอย่าง สรรพสิ่งเกิดมาทำไม? อะไรเทือกๆ นั้นอยู่ด้วย

    อัญมณีตีความเอาว่า ตัวตนของพลิ้วอย่างแรก ผู้เก่งไปเสียทุกเรื่อง มีโชค อัตตา และหลงใหลในตัวเองไม่ใช่เบา เป็นดั่งตัวแทนที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวคนเขียน คือสิ่งที่ท่านอยากจะเป็น อยากจะมี อยากจะได้ แต่มันกลับไปขัดกับอีกตัวตนหนึ่งที่ไม่น่าจะมาอยู่ในคนๆ เดียวกันได้เลย เคยได้ยินไหมคะ? คนชอบอ่านชอบฟังมักไม่ค่อยพูด ยิ่งโลกส่วนตัวสูงปรี๊ดมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่อยากคบหาสมาคมกับใครเรื่อยเปื่อย อัธยาศัยอาจติดลบ หรือถ้ากรณียกเว้นจะฝอยมากๆ กับเพื่อนสนิทก็ไม่แปลก แต่จะหาที่เฟรนด์ลี่ทุกระเบียด เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์จัดๆ แม้จะแทบไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเลยน่ะ มันไม่มีหรอกค่ะ หรือถ้ามี...คนๆ นั้นต้องเป็นโรคหลายบุคลิกแน่ ขัดแย้งในตัวเองแบบสุดๆ สมองระเบิดตายกันพอดี

    ประเด็นต่อมาที่อยากจะเอ่ยถึงคือ เอกลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัว ว่ากันตามตรงแล้ว...แยกแทบไม่ออกเลยค่ะ ถ้าไม่จั่วหัวขึ้นก่อนว่ามุมมองของใครนี่มีงงแน่ๆ คำพูดคำจา ความคิดที่บรรยายออกมา แทบจะเหมือนกันเป๊ะๆ ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็เป็นผลมาจากการเล่าเรื่องที่เน้นบทพูดเป็นหลัก การอธิบาย บรรยายหรือพรรณนาประกอบแทบไม่มี คลังคำที่ท่านใช้ก็นับว่าไม่มาก แต่ก็คาดการณ์อะไรไม่ได้เยอะเพราะไม่มีบทบรรยายให้คำนวณ...สาเหตุที่สองหนีไม่พ้นการดำเนินเรื่องราวที่ก้าวไปไวเหลือเกิน ความยาวแต่ละตอนจัดว่าสั้น ท่านมังกรกันต์มักเปลี่ยนอารมณ์เรื่องไวเกินจนปรับตามไม่ทัน แน่นอนว่าเป็นเพราะสาเหตุแรกร่วมด้วย พลอยทำให้กลายเป็นขาดการสร้างอารมณ์ร่วมเช่นที่นักเขียนหลายท่านมักประสบพบพานกัน อ่านแล้วจึงยังอินไม่สุด หรือหนักเข้าก็ไม่อิน โดยเฉพาะฉากเศร้าหรือหน่วงหัวใจ เพราะปัญหานี้มันจึงกลายเป็น ฉากที่พยายามทำให้เศร้า หรือ ฉากที่พยายามทำให้หน่วงหัวใจแทน 

    ตัวละครบางตัวดูผิดคาแร็กเตอร์จากความเป็นจริง เช่นพ่อคาสโนว่า ไฉนถึงดูจมจ่อมกับความรัก รู้จักความรักดีมากๆ จนน่าฉงนอย่างกับเป็นหนุ่มรักเดียวใจเดียว อ่านประวัติเขาโดยละเอียดแล้วนะ แต่อัญว่าก็ยังดูผิดคาแร็กเตอร์ไปมากอยู่ดี

    ด้วยเป็นการบรรยายแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง เน้นที่ตัวละครเป็นผู้เล่าเรื่องแต่เพียงผู้เดียว การจะมองบรรยากาศโดยรวมจึงลำบากลำบนพอสมควร คนอ่านต้องอาศัยจินตนาการมโนภาพเอาเองอย่างเกือบจะสูงสุด มองแง่หนึ่งก็เป็นข้อดี มองอีกแง่ก็เป็นข้อเสีย มันอาจจะเป็นการดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเสพนิยายที่ไม่มีคำบรรยายอะไรให้เห็นภาพชัดแจ๋ว แต่จะเป็นผลร้ายต่อผู้อ่านที่ชื่นชอบการจินตนาการภาพตามโดยละเอียด ชื่นชมกับวรรณศิลป์อันสวยงามของวรรณกรรมเรื่องหนึ่ง 

    ยิ่งเห็นภาพ ยิ่งได้ยิน ยิ่งรู้สึกชัดก็ยิ่งมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร ส่งผลให้การอ่านเรื่องราวสนุกสนาน เข้มข้นและเข้าถึงเนื้อหาที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อมากขึ้นไปเป็นลำดับ นี่คือสัจธรรมของนิยายค่ะ

    คำผิดมีไม่มาก ขออภัยที่ไม่ได้จดเอาไว้เหมือนเรื่องก่อนๆ เพราะได้ข้อสรุปแล้วว่าผู้เขียนควรจะตรวจทานและศึกษาคำศัพท์ที่ถูกต้องด้วยตัวเอง พัฒนาตัวเองในส่วนย่อยที่สุดของการเขียนเองจึงจะดีที่สุดเนอะ

    ปรัชญามากมายที่ท่านแทรกผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นั้นถือเป็นเรื่องน่าชื่นชมค่ะ แต่มันจะเท่ จะคูลกว่านี้ถ้าค่อยๆ หยอด...ค่อยๆ แทรก ไม่ใช่ระเบิดตู้มต้ามเป็นระลอกติดต่อกันอย่างกับขีปนาวุธผ่านบทพูดยาวเป็นต่อยหอยหรือบทคิดหางว่าวที่ มันดู 'เยอะ' และ 'ยัดเยียด' ไป บางคราวก็แอบลดทอนอารมณ์เรื่องตอนนั้นที่อาจจะกำลังมันส์ถึงพริกถึงขิงฮวบฮาบลงอย่างน่าเสียดายเหมือนกัน

    อีกประการสำคัญ จดจำไว้ขึ้นใจนะ อย่าอวยตัวละครค่ะ ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป มากเกินก็ไม่ดี น้อยก็แย่ ดั่งเช่นหลักมัชฌิมาปฏิปทาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าย้ำชัดหรือแสดงออกแจ่มแจ้งเกินไปว่าท่านชอบตัวละครตัวนี้ ชอบปราชญ์ท่านนี้ อาจารย์ท่านนี้ ซามูไรท่านนี้แบบโคตรๆ ไม่จำเป็นต้องบอกเยอะค่ะว่า 'สมกับเป็นนู่นสมกับเป็นนี่' 'ขนลุกซู่ไปหมด หายใจไม่ออก หัวใจเต้นระรัว ชื่นชมไม่รู้กี่รอบที่ได้พบ' มากเกินมันก็เหมือนความรักเนอะ คนอื่นอาจจะเลี่ยนได้เหมือนกัน

    เอาล่ะค่ะ ติมาเยอะละ ได้เวลาชื่นชมกันบ้าง ยังไม่สลบไปก่อนใช่มั้ยคะคุณมังกรกันต์ ฮึฮึ//หัวเราะแบบแม่กวางน้อย

    อันดับแรกเลย ขอปรบมือในความกล้าหาญที่กล้าฉีกแนวเอาตำนานของศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาเล่นได้ตามแบบฉบับตัวเอง นึกภาพท่านตอนเขียนออกเลย คงสีหน้าแบบโนสนโนแคร์ ก็ผมจะเขียนของผมอย่างนี้ ใครอ่านก็อ่าน ใครไม่อ่านก็เสียใจด้วยครับคุณพลาดของดีแล้ว! อะไรแบบนั้นเลย มันก็สนุกดีนะที่ได้มองคนๆ หนึ่งเข้าไปเปิดตำนานทุกเรื่องที่อมตะมาจนทุกวันนี้ ขอเป็นศิษย์บ้าง ขอประลองด้วยบ้าง ขอเคล็ดลับจีบหญิงได้ทุกคนบ้าง แต่แน่นอนว่าจะมีอยู่สองขั้วที่ตีกันอยู่ คือขั้วอนุรักษ์กับขั้วสมัยใหม่ ท่านอาจมีสิทธิ์โดนสวดที่เล่นของสูง(แต่เป็นเรื่องดีที่ตำนานเทพหลายๆ อย่างไม่มีใครศรัทธาแล้วในปัจจุบัน) ทว่าการนำเสนอที่ยกย่องกลุ่มบุคคลเหล่านั้นเป็นอย่างดีกลับกระชากหินถล่มปิดทางนั้นเสียมิด 

    ความรู้ที่แทรกมาเป็นรายละเอียดก็ทรงคุณค่า (แต่แน่แท้ว่า มากไปก็ไม่ดีเหมือนเดิม) ประการต่อมาคือรสชาติความกระชับฉับไวและความฮาที่ไม่ทำให้ถึงขั้นหัวเราะแต่อมยิ้มเป็นระยะๆ ตลอดตอนนั่งอ่าน แน่นอนว่าเป็นข้อเสียได้เมื่อมองกลับขึ้นไปด้านบน ฉากต่อสู้ที่ให้อารมณ์รุนแรง ไม่ถึงกับว่า 'อัดกันเลย!! เอาให้ป่าราบ!! มันส์แล้วๆ!' แต่ก็เป็นระดับที่ 'แม่เจ้าโว้ย เท่ว่ะ! ไม่ธรรมดา' โดยเฉพาะส่วนของนายขนมต้มสมัยปลายอยุธยาต้นธนบุรี บทบรรยายมากกำลังดี เห็นภาพชัดและหลงรักท่านปรมาจารย์ไปโดยปริยาย กวางจะเป็นลม เฮ้อ...//ไม่ใช่ละ เห็นมั้ยคะ บทบรรยายมีอิทธิพลต่อหัวใจคนอ่านมากเลยทีเดียว...

    อย่างไรก็ตาม เป็นนิยายที่พล็อตแตกต่างจากเรื่องอื่นที่พบเจอมาในระดับที่หาได้ยาก อัญมณีคิดว่าหากท่านปรับปรุงแก้ไขไปตามที่บอก (บอกเป็นนัยๆ ไปแล้วนะ อัญเชื่อว่าท่านตีความได้) ผลงานเรื่องนี้จะต้องเป็นหนึ่งในนิยายคุณภาพดีๆ มีความรู้ ข้อคิดคติสอนใจแก่ผู้อ่านอย่างล้นปรี่แน่นอน เสียงข่าวว่าอาจจะไม่เขียนต่อแล้ว หากเป็นปัญหาเกี่ยวกับพล็อตที่ยากจะไปต่อก็ขอให้รื้อใหม่ไปเลยค่ะอย่าได้แคร์ หรือไม่มีเวลาเขียนเพราะติดภาระงาน อันนี้อัญเข้าใจเพราะตกที่นั่งลำบากอยู่เหมือนกัน ก็ขอให้เคลียร์งานมาเขียนต่อได้ สานต่อเจตนารมณ์ของตัวเองไปให้ได้จนสุดทางนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ//ยิ้ม


    คะแนนรวม 75/100 



    อัญมณีเป็นนักอ่านคนหนึ่ง นักหัดเขียนคนหนึ่ง และนักอยากเป็นบรรณาธิการคนหนึ่ง หาใช่นักวิจารณ์มืออาชีพไม่  บทวิจารณ์นี้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงข้อบกพร่อง ชื่นชมข้อดีเด่น และอ่านผลงานคุณภาพอีกเรื่องสู่สายตาเล็กๆ คู่นี้ อัญมณีขอเป็นกำลังใจให้ท่านสร้างสรรค์ผลงานนิยายดีๆ นี้ต่อไป เพื่อความสนุกของตัวท่าน ตัวคนอ่าน และตัวนักวิจารณ์เอง หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ 

     

    ขอบคุณที่มาใช้บริการ โอกาสหน้าหวังว่าจะได้พบกันใหม่ค่ะ



    อัญมณี.



    Receive

    ชื่อหรือนามปากกาของท่าน :

    เจ้าของผลงานเรื่อง :

    คิดเห็นอย่างไรกับคำวิจารณ์ :

    อย่าลืมเขียนคำวิจารณ์ให้ร้านอัญด้วยนะ 


     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×