ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    서울

    ลำดับตอนที่ #17 : -STEP 4: ไปสนามบิน (2)-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 372
      0
      27 ก.ค. 57

    -STEP 4: ไปสนามบิน (2)-

           ต้อนรับตอนย่อยนี้ด้วยโค้ดขนนกร่วงเก๋ๆ ถามว่าทำไมถึงต้องมีโค้ดนี้มาตกแต่งด้วย คำตอบคือเรากำลังจะบินแล้วค่ะ ท่านผู้ชม ตื่นเต้นจุงเบย ㅋㅋㅋ


    รอขึ้นเครื่อง

           หลังออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ให้มองหาป้ายบอกไปยัง Gate ที่ระบุเอาไว้ในบอร์ดดิ้งพาส ระหว่างทางหากเห็นหน้าจอที่ระบุตารางเที่ยวบิน และรายละเอียดต่างๆ ของเที่ยวบิน เช่น เวลาเครื่องออก เวลาที่ไปถึง และหมายเลขของ Gate สำหรับรอขึ้นเครื่อง ให้ลองเช็กดูสักนิด เพราะบางครั้งมีโอกาสที่เที่ยวบินของเราจะเปลี่ยนแปลงเวลาหรือหมายเลข Gate สำหรับรอขึ้นเครื่องได้ เคยมีคนตกเครื่องจากเหตุเหล่านี้มานักต่อนักแล้ว



           เมื่อถึงหน้า Gate แล้ว จะมีเคาน์เตอร์ของสายการบินสำหรับตรวจสอบเอกสารอีกครั้ง ให้ยื่นหนังสือเดินทางพร้อมเอกสารทั้งหมด เป็นอันยื่นเอกสารครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง พนักงานจะฉีกบอร์ดดิ้งพาสที่ระบุหมายเลขที่นั่งบนเครื่องคืนมาให้เรา จากนั้นก็ไปนั่งเล่นรอในโซนที่นั่งหน้า Gate ได้เลย รอจนถึงเวลาที่พนักงานสายการบินจะมาประกาศเรียกขึ้นเครื่อง

           สำหรับสนามบินใหญ่อย่างสุวรรณภูมิ โซนที่นั่งรอขึ้นเครื่องของแต่ละเที่ยวบินจะแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ไม่ปะปนกับผู้โดยสารที่มารอขึ้นเที่ยวบินอื่นๆ แต่บางสนามบินก็เป็นที่นั่งแบบนั่งรวมๆ กัน ต้องคอสังเกตพนักงานที่จะมาประกาศเรียกขึ้นเครื่อง อย่านึกว่าผู้โดยสารที่นั่งข้างเราจะขึ้นเครื่องเที่ยวบินเดียวกัน เมื่อไม่เห็น ใครขยับก็นึกว่าพนักงานยังไม่เรียกขึ้นเครื่อง กว่าจะเอะใจก็ตกเครื่องเสียแล้ว!

           ปกติแล้วการเดินขึ้นเครื่อง จะใช้สะพานเชื่อมแบบงวงช้าง หรือทางเดินเชื่อมระหว่างตัวอาคารสนามบินกับตัวเครื่องบินแบบเคลื่อนที่ได้ แต่บางครั้งหากเครื่องบินจอดห่างจากตัวอาคารมาก ทางเชื่อมแบบงวงช้างยาวไม่พอ ผู้โดยสารอาจต้องนั่งรถบัสไปยังเครื่องบินอีกที
     

           TIPS

           เลานจ์

           สายการบินส่วนใหญ่จะมีเลานจ์ หรือห้องโถงที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้บริการ เช่น โซฟา อาหารว่าง เครื่องดื่ม โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต นิตยสาร หรือแม้แต่ห้องอาบน้ำ ใหบริการเฉพาะผู้โดยสารระดับ First Class หรือผู้ใช้บัตรเครดิตที่มีสิทธิพิเศษ ถ้าหากอยากใช้บริการเลานจ์แต่ไม่มีสิทธิ์ต่างๆ ลองไปสมัครใช้เลานจ์ของร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ของ King Power ดูค่ะ สมัครได้ที่บู๊ธในอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ค่าสมัคร 500 บาท พนักงานจะออกบัตรสมาชิกแบบชั่วคราวให้พร้อมคูปองซื้อของในร้านมูลค่า 500 บาท สามารถใช้งานได้ทันที แต่ต้องสมัครไว้ก่อนเข้าไปในด่านตรวจคนเข้าเมืองนะคะ บัตร 1 ใบสามารถพาผู้ติดตามไปด้วย 2 คน รวมเป็น 3 คน โดยยื่นหนังสือเดินทางและบอร์ดดิ้งพาสให้กับพนักงานก็เข้าไปใช้บริการได้ทันที

    ไม่อยากจะบอกว่า Seoul Incheon International Airort (ICN) ติดอันดับ 2 ของโลกจากสนามบินที่น่านอนที่สุดด้วยนะ 

           ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวยส์จะมีเลานจ์ให้บริการผู้โดยสารทุกคนทั้งเส้นทางในและต่างประเทศ เพียงแค่ยื่นบอร์ดดิ้งพาสเท่านั้น

     

    บนเครื่องบิน

           เย้! ในที่สุดก็ได้ขึ้นเครื่องบินเสียที หลังจากก้าวเท้าเข้ามาภายในตัวเครื่องบินแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือเดินหาที่นั่งตามหมายเลขบนบอร์ดดิ้งพาส เหนือศรีษะจะมีชั้นเก็บของซึ่งจะเปิดค้างไว้อยู่แล้ว ให้เอาสัมภาระขึ้นเก็บ แต่ไม่ต้องปิดนะคะ เพราะจะมีพนักงานมาปิดให้เอง

           นั่งประจำที่ แล้วคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาเครื่องบินขึ้น (Take off) ก็จะมีพนักงงานประจำเครื่องมาสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่อง รวมถึงวิธีการเอาตัวรอดหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

           ในระหว่างเครื่องบินขึ้น ผู้โดยสารจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยประจำที่นั่งตลอดเวลา โดยจะมีไฟบนแผงสัญลักษณ์เข็มขัดนิรภัยสว่างขึ้น จะถอดเข็มขัดนิรภัยได้ก็ต่อเมื่อไฟดับลง ซึ่งเป็นระยะที่เครื่องลอยอยู่บนอากาศเรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัยควรนั่งอยู่กับที่และคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ควรลุกเดินไปมาถ้าไม่จำเป็น เพราะหากเครื่องบินตกหลุมอากาศอาจเกิดอันตรายได้ หลังจากนั้นจะมีการแจกเครื่องดื่มและอาหาร แต่หากเป็นสายการบินแบบ Low Cost ก็จะมีพนักงานออกมาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกซื้อตามใจชอบ

     

           วิธีผ่อนคลายอิริยาบถ ระหว่างนั่งเครื่องบินเป็นเวลานานๆ

           เบาะที่นั่งบนเครื่องบินที่ไม่ใช่ชั้น First Class จะเล็กและค่อนข้างแคบ เมื่อนั่งๆปนานๆ ก็จะเกิดความเมื่อยล้า และยิ่งหากนั่งติดกับคนที่ไม่รู้จักกันก็อาจจะเกร็งไปตลอดการเดินทางได้ เจ้าของหนังสือเล่มนี้มีทริคดีมาแนะนำดังนี้ค่ะ

    1.    ทำใจสบายๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องตื่นเต้นหรือกังวลอะไรมากมายนัก

    2.    น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการนั่งเครื่องบิน เพราะความกดอากาศบนเครื่องที่ต่ำและอากาศแห้งๆ จะทำให้กระหายน้ำและไม่สบายตัว ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น

    3.    ควรลุกขึ้นและยืดเส้นบ่อยๆ เพื่อป้องกันเส้นเลือดอุดตัน เมื่อลุกแล้วให้ยืดเส้นยืดสาย ไม่ต้องอายเพราะทุกคนควรทำเช่นกัน หากเมื่อยง่านควรเลือกที่นั่งติดทางเดินเพื่อจะลุกนั่งได้สะดวก ไม่ต้องเกรงใจคนที่นั่งด้านนอก

    4.    แต่งกายแบบสบายๆ ไม่ต้องห่วงสวยห่วงหล่อ ให้ส่ชุดที่นอนสบายที่สุดและถ้าหากมีของใช้ส่วนตัวที่ช่วยให้สดชื่น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาดับกลิ่นกาย ควรพกขึ้นไปด้วย แต่อย่าพกขวดใหญ่เกินไปเพราะจะขึ้นเครื่องไม่ได้

    5.    เตรียมอุปกรณ์การนอน เช่น หมอนเดินทางรูปโค้งเข้ากับรูปคอ แผ่นปิดตาที่ช่วยไม่ให้แสงรบกวน หรือจุกยางอุดหูเพื่อป้องกันเสียงรบกวน

    6.    หากมีที่นั่งเหลือค่อนข้างมาก อาจขอเปลี่ยนที่นั่งไปที่ว่างได้หลังจากเครื่องบินอยู่บนฟ้าเรียบร้อยแล้ว พนักงานต้อนรับมักไม่ว่าอะไร และบางครั้งยังมาบอกให้เราไปนั่งที่ว่างได้ด้วยซ้ำ

     

    เมื่อใกล้ถึงประเทศปลายทาง พนักงานจะแจกเอกสารใบตรวจคนเข้าเมืองขาเข้าซึ่งจะต้องกรอกให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่อง ทั้งขาเข้าและขาออก ในบางประเทศอาจมีแบบสอบถามข้อมูลด้านสุขภาพ หรือแบบสอบถามด้านศุลการกรเพิ่มเติมมาด้วย แล้วแต่นโยบายของแต่ละประเทศ

    TIPS

           ในเว็บไซต์ www.hflight.net จะมีรีวิวการเดินทางด้วยเครื่องบินของสายการบินต่างๆ ตั้งแต่การขึ้นเครื่อง ขณะขึ้นเครื่อง รวมถึงวิธีการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ บนเครื่อง ให้เลือกดูมากมาย เตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนเดินทางจริง

     

           จบแล้วกับ STEP 4 ไปสนามบิน ตอนย่อยหน้าจะเอาเนื้อหาอะไรมาลงอย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ...

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×